แม่โพสพช่วยด้วย
เรื่อง/ภาพเดชา เวชชพิพัฒน์
คนเดินดินกินข้าวแกงอย่างผมหลังแหกขี้ตาตื่นขึ้นมา ถ้าข้าวอย่างน้อยหนึ่งจานไม่ตกถึงท้องภายในหนึ่งชั่วโมงอาจตายได้ครับ ขอบอก
แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่ตายหรอกอิอิ
ว่าแต่ ไปเอาเข้าจริงๆที่ไหนล่ะ... ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อในดินแดนที่ประชาชนกินข้าวและปลูกข้าวขายแข่งกับเรานี่แหละ
ทมิฬนาฑูดินแดนตอนใต้ของอินเดีย
ปกติกินข้าววันละสามมื้องานนี้แบกเป้เที่ยวไปสิบเจ็ดวัน ก็น่าจะได้กินข้าวห้าสิบเอ็ดจาน (เป็นอย่างน้อย) ใช่ป่ะเอาเข้าจริงครึ่งหนึ่งยังไม่ถึงเลย จำได้ว่ากินไปไม่ถึงสิบจานมั้ง
บอกตรงนะ ที่นี่หาร้านขายข้าวยากกว่าหานายห้างฯปล่อยกู้คิดดอกเบี้ยร้อยละสิบ
บางร้านขายข้าวก็จริงแต่ขายเป็นเวลาอีกต่างหาก ถ้าไปผิดเวลาก็อด ต้องกินซาโมซากินโน่นกินไอ้โน่นทอดไอ้นี่นึ่งล้วนแล้วแต่ไม่อยู่ท้อง
หิวข้าวครับหิวจนบางครั้งแขนขาชาขณะเที่ยวเพราะเลือดไม่เดิน ท้องว่างจนหัวใจไร้แรงปั๊ม ทำให้ต้องถึงขนาดเดินเที่ยวไปหิวไป หาร้านข้าวไป ภาวนาไป
แม่โพสพช่วยลูกด้วยลูกอยากกินข้าว
ข้าวหมกไก่ก็ดี
ข้าวผัดก็ได้
ข้าวคลุกเกลือก็เอา
ข้าวจานแรกนั้นกว่าจะได้กินก็หลังจากเหยียบแผ่นดินแห่งทมิฬนาฑูนานสิบกว่าชั่วโมงเชียวนะครับ(ก่อนหน้านี้รอดตายมาได้ด้วยของว่าง)อยู่ใกล้ๆท่ารถประจำทางที่ผมจะนั่งต่อไปมมัลลปุรัม แถมยังต้องไปนั่งรอให้ข้าวสุกอีกด้วยนะเพราะยังไม่ถึงเวลาขายข้าว แต่ก็คุ้มที่รอเพราะได้กินข้าวหมกไก่สีแปลกตา(สีส้ม)ที่แสนอร่อย
บอกตรงนะเวลานั้นยังไม่คิดถึงแม่โพสพหรอกคิดว่าข้าวหมกไก่ในทมิฬฯคงหากินง่ายเหมือนที่อื่นๆในอินเดีย
จนกระทั่งเหมือนโดนแกล้งให้เล่นเกมหาข้าวกินนั่นแหละจึงสำนึก
มาดูกันครับว่าข้าวแต่ละจานที่ผมโชคดีมหาศาลได้กินมีหน้าตาอย่างไร
ข้าวหมกไก่จานแรกในทมิฬฯใช้ข้าว Basmati ตามสูตรรสชาติอมเปรี้ยวกว่าในบ้านเรา คงเพราะสีส้มนี่แหละ
ร้านข้าวหมกไก่สีส้มร้านหน้าตาแบบนี้แหละที่ผมเห็นแล้วมั่นใจว่าอร่อย
ข้าวจานที่สองกินที่ร้านหรูเลิศในมมัลปุรัม ...กว่าจะได้กินก็ผ่านไปหลายมื้อ รอดมาได้เพราะบรรดาของทอดทั้งหลายอีกนั่นแหละรู้จักอยู่อย่างเดียวคือซาโมซา กินจนหน้าเป็นรูปสามเหลี่ยมกลัวกลับเมืองไทยแม่ไม่ให้เข้าบ้านเพราะจำหน้าไม่ได้
ข้าวหมกไก่บนใบตองสีเหลืองแบบที่อยากกิน ให้มาเยอะมากแต่ก็กินหมดร้านนี้เจ้าของสามล้อที่จ้างพาเที่ยวเป็นคนพาไป บอกว่าอร่อยระดับ อาบังชวนชิม
เพื่อนร่วมร้านข้าวหมกไก่บนใบตอง
ข้าวผัดไก่ทอดอร่อยจนอยากกลับไปกินอีก รสชาติกลมกล่อม ใช้ข้าว Basmati ที่นุ่มนิดๆเหนียวหน่อยๆไก่ทอดก็ทั้งกรอบทั้งหอม ดูรูปอาจไม่รู้ว่าจานใหญ่เท่าถาด แต่ก็กินหมดนะครับ
พ่อครัวผู้ทำข้าวผัดไก่ทอดคือชายในเสื้อสีส้มดูพุงก็รู้ว่าทำกับข้าวอร่อย อิอิ
ข้าวผัดจานนี้มีบุญคุณกับผมอย่างยิ่งเพราะทำให้รอดตายมาได้ เนื่องจากไปเที่ยวตอนที่เขามีประท้วง(มุสลิมกับฮินดูทะเลาะกัน) ในเมืองไมเซอร์ ร้านค้าร้านอาหารปิดกันหมดเปิดแต่ร้านขายของชำ วันๆได้แต่กินขนมปัง จนกระทั่งไปที่สถานีรถประจำทางจึงได้กินข้าวจานนี้ เสิร์ฟแบบเอาช้อนปักลงในข้าวอย่างที่เห็นแถมไม่ใช่ช้อนกับส้อมนะครับ เป็นช้อนกับช้อน ทั้งๆที่ผมไปคนเดียว งงอ่ะ
ข้าวผัดจานนี้กินในกาญจีปุรัมเมืองที่ผมตั้งฉายาว่า มหาสมุทรโคปุรัม แต่หาข้าวกินยากพอๆกับหานายกฯดีๆสักคน(อุ๊ปส์ พูดอารายยยย) เป็นข้าวจานสุดท้ายที่ผมได้กินในทริปนี้ทั้งๆที่ยังเหลืออีกหลายวัน (ต้องไปเที่ยวต่อในเมืองเชนไนอีก)จึงไม่แปลกที่เพื่อนๆเห็นรูปถ่ายผมแล้วสมเพช ไปเที่ยวหรือไปเข้าคอร์สฝึกจิตทรมานตนเองมาล่ะนั่นผอมแต่ยังหล่อ ราวกับนายแบบเอธิโอเปีย ผมลองชั่งน้ำหนักดู ก็ลดไปไม่เยอะนะครับแค่สามโลเอง
บางท่านอาจสงสัยว่าไม่กินข้าวแล้วกินอะไรดูรูปต่อไปนี้ได้เลยครับ แต่ไม่บรรยายแล้ว หิวข้าวอ่ะ บ๊ายบาย