พี่-น้อง จูงมือกันเดินไปในทางของพระเจ้า (3)


น้อง : พี่ค่ะเหนื่อยใจท้อแท้ใจกับแฟนเหลือเกิน.. วันนี้ก่อนนอน จอยก็บอกให้เค้ามาอธิษฐานก่อนนอน เค้าก็บอกว่าอยากอธิษฐานภาษาเค้าเองภาษาไทยเค้าก็ไม่เข้าใจ จอยเลยอ่านพระคัมภีร์ให้ลูกฟัง พอขึ้นต้นพระเยโฮวาห์เค้าก็เดี๋ยวๆทำไมเรียกพระเยโฮวาห์จอยก็บอกว่านี่คือพระเจ้านั่นล่ะ... เค้าบอกว่าเค้ามีเพื่อนคนหนึ่งนับถือพระเยโฮวาห์เหมือนกัน แล้วก็จะไม่ชอบวันคริสมาส วันอีสเตอร์ เค้าบอกว่าเข้าใจที่จอยบอกเค้าแล้วว่า อันที่จริงวันพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวกับพระเจ้าเลยเพราะจอยนับถือพระเยโฮวาห์นี่เอง คนที่นี่จะไม่นับถือพระเยโฮวาห์พวกที่นับถือก็เหมือนพวกที่ตั้งเป็นลัทธิ เหมือนโดนหลอกลวง จอยเลยบอกว่าแน่นอนเพราะที่นี่พวกคาทอลิกมันเยอะ ในไบเบิลที่ฉบับไหนก็มีชื่อพระเยโฮวาห์ทั้งนั้นล่ะ เราก็ไม่ได้เป็นลัทธินี่คือคริสเตียนที่นับถือพระเจ้าและปฏิบัติตามพระบัญญัติอย่างถูกไม่บิดเบือน.. เค้าบอกว่าเค้าจะถามเพื่อนคนสวิสก่อน แล้วห้ามจอยสอนอะไรลูกอีกจนกว่าจะเค้าจะแน่ใจ.. จอยเลยบอกว่าจอยไม่ได้โดนหลอก และถ้าอย่าดูว่าทำไมถึงไม่นมัสการพวกวันต่างๆก็จะเอาให้ดู.. จอยไม่สบายใจเลยค่ะ แล้วเค้าไปถามเพื่อนคนนี้ ซึ่งเค้าไม่ได้นับถืออะไรเลย.. เค้าตอบที่ได้มาคงเดาได้ไม่ยากเลย.. พี่ค่ะ แล้วทำไมเค้าถึงเรียกพระเจ้าว่าพระเยโฮวาห์ค่ะ.. เฮ้อ คิดว่าจะสบายใจแล้วเพราะเต็มใจรับเชื่อเอง ยังมีพวกวิญญาณชั่วดึงไว้อีก.. พี่ค่ะแล้วเพราะอะไรพี่โจ ถึงได้เชื่อในพระองค์ละค่ะ นานไหมค่ะกว่าจะเชื่ออย่างสนิทใจ.. แล้วถ้าแฟนจอยเค้าไม่นับถือพระองค์ชีวิตครอบครัวจอยจะเป็นอย่างไงบ้างจากประสบการณ์พี่ที่ผ่านมา จะไปกันรอดไหมค่ะ

พี่ : พี่โจใช้เวลาประมาณเกือบ 3 ปี เขาจึงเชื่อมากขึ้น แต่ยังไม่สนิทใจ พี่ต้องอธิษฐานคร่ำครวญกับพระเจ้าเยอะมากค่ะ พี่ถูกต่อต้านอย่างหนักจากญาติๆของเขาด้วยขณะอยู่ที่อเมริกา ทั้งๆที่อยู่กันคนละบ้าน ถูกเขาดูถูกสารพัด แต่พระเจ้าเมตตาพี่ตลอด และเมื่อกลับมาอยู่เมืองไทย พี่โจก็ไม่ยอมแยกตัวออกมาอยู่ต่างหาก เขาพาพี่ไปอยู่กับพ่อแม่ของเขา ซึ่งมีรูปเคารพเต็มบ้านยังกะศาลเจ้าแน่ะ เขาถูกวิญญาณชั่วครอบงำเป็นระยะๆ มีปัญหากับพี่ตลอด เกือบจะเลิกกันก็หลายครั้ง แต่พี่ก็อธิษฐานกับพระเจ้า พระองค์บอกพี่ไม่ให้เลิก พี่จึงอดทนต่อสู้ต่อไป อธิษฐานขอพระเจ้าเปิดตาเขาให้เขาเห็นความจริงต่างๆในพระองค์ ขอพระองค์ทำงานในใจเขา และที่เห็นผลมากที่สุดคือการอธิษฐานขับไล่วิญญาณให้เขาค่ะ...เพราะพี่ก็ไม่ยอมให้กับสิ่งชั่วร้ายอยู่แล้ว พี่อดอาหารอธิษฐานบ่อยมาก เพราะการอดอาหารอธิษฐานทำให้เราเข้าถึงพระองค์ได้ดียิ่งขึ้น และพระองค์เห็นความตั้งใจและการต่อสู้ที่เรามีในความเชื่อพระองค์ค่ะ

ส่วนเรื่องคุณสามีของจอย....เขามีพระคัมภีร์ของเขาหรือยังคะ? ถ้ายังไม่มี จอยก็หาซื้อใน online ให้เขาเลยค่ะ พระเจ้ามีชื่อที่ออกเสียงเป็นภาษาฮีบรู ว่า ยาเวย์ (Yahweh), ภาษาอังกฤษว่า เยโฮวาห์ (Jahovah)

บอกสามีของจอยว่าให้เขาจะอธิษฐานเป็นภาษาเขาเองก็ได้ บอกให้เขาอธิษฐานถึงพระบิดา (Father God) แล้วลงท้ายว่า อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์ เอเมน (In the name of Jesus Christ, amen)
(พี่ได้ส่ง link ข้อมูลพระคัมภีร์ภาษาเยอรมันให้น้อง)


---->("ถ้าแฟนจอยเค้าไม่นับถือพระองค์ชีวิตครอบครัวจอยจะเป็นอย่างไงบ้างจากประสบการณ์พี่ที่ผ่านมา จะไปกันรอดไหมค่ะ")

***จอยใจเย็นๆนะคะ ขอให้วางใจในพระเจ้า (พระเจ้าไม่มีนโยบายให้หย่ากัน นอกจากจะมีใครผิดประเวณีไปมีคนอื่น)...ไม่ต้องไปบังคับเขาใดๆทั้งสิ้นค่ะ เอาข้อมูลที่พี่ส่งมานี้ให้เขาค่ะ... แล้วจอยก็อธิษฐานขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่มันมาคอยทำให้เขาเขวไป; วิญญาณสับสน วิญญาณไม่เชื่อ วิญญาณดื้อดึง วิญญาณต่อต้านพระคริสต์ วิญญาณโง่เขลา วิญญาณยโส วิญญาณหลงผิด วิญญาณมืดบอด วิญญาณขี้เกียจ วิญญาณศาสนาเทียมเท็จ วิญญาณล่อลวง วิญญาณทำลายล้าง วิญญาณทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว.....วิญญาณหงุดหงิด วิญญาณโมโห วิญญาณฉุนเฉียว ฯลฯ หรือแล้วแต่ที่จอยจะนึกออกค่ะ.... และอธิษฐานตัดสัมพันธ์ของวิญญาณชั่ว (บทนี้ค่ะ....ข้าสั่งผูกมัด สั่งรื้อถอน สั่งทำลายหลักฐาน...จำได้มั๊ยคะ?...แล้วใส่ชื่อเพื่อนของเขาคนนั้นที่เขาสนิทกันน่ะค่ะ.. อีกหน่อยเขาก็จะค่อยๆห่างกันไปเอง...) อธิษฐานบ่อยๆค่ะ


ส่วนการพาลูกอธิษฐาน จอยก็สามารถทำได้ เมื่อเขาไปทำงานใช่มั๊ยคะ?

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับจอย (หรือที่พี่เจอมา....หรือผู้เชื่อในพระองค์อย่างจริงจังทั่วๆไป ก็เจอสิ่งเหล่านี้ทุกคน)....เป็นภาพสะท้อนที่พระเยซูถูกด่า ถูกตบหน้า ถูกถ่มน้ำลายรด และถูกตรึงที่กางเขน... พระเยซูบอกว่า ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู....

ลูกา 6 / Luke 6

6:40 ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู แต่ศิษย์ทุกคนที่ได้รับการฝึกสอนครบแล้วก็จะเป็นเหมือนครูของตน

6:40 The disciple is not above his master: but every one that is perfect shall be as his master.


1 เปโตร 1 / 1 Peter 1

1:6 ในความรอดนั้นท่านทั้งหลายชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง...
...*** ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้จำเป็นที่ท่านจะต้องเป็นทุกข์ใจชั่วขณะหนึ่ง ....
...**ด้วยการถูกทดลองต่างๆ


1:7 เพื่อการลองดูความเชื่อของท่าน... อันประเสริฐยิ่งกว่าทองคำซึ่งพินาศไปได้... ถึงแม้ว่าความเชื่อนั้นถูกลองด้วยไฟ....
...*** จะได้เป็นเหตุให้เกิดความสรรเสริญ เกิดเกียรติและสง่าราศี ในเวลาที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จมาปรากฏ

1:8 พระองค์ผู้ที่ท่านทั้งหลายยังไม่ได้เห็น แต่ท่านยังรักพระองค์อยู่ แม้ว่าขณะนี้ท่านไม่เห็นพระองค์ แต่ท่านยังเชื่อและชื่นชม ด้วยความปีติยินดีเป็นล้นพ้นเหลือที่จะกล่าวได้ และเต็มเปี่ยมด้วยสง่าราศี
1:9….. แล้วจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายจึงได้รับความรอดเป็นผลสุดท้ายแห่งความเชื่อ !!!!

1:6 Wherein ye greatly rejoice, though now for a season, if need be, ye are in heaviness through manifold temptations:
1:7 That the trial of your faith, being much more precious than of gold that perisheth, though it be tried with fire, might be found unto praise and honour and glory at the appearing of Jesus Christ:
1:8 Whom having not seen, ye love; in whom, though now ye see him not, yet believing, ye rejoice with joy unspeakable and full of glory:
1:9 Receiving the end of your faith, even the salvation of your souls.

...*** ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้จำเป็นที่ท่านจะต้องเป็นทุกข์ใจชั่วขณะหนึ่ง .......**ด้วยการถูกทดลองต่างๆ

ขณะนี้จอยกำลังถูกซาตานทดสอบความเชื่อค่ะ มันจะพยายามทำทุกอย่างที่มันจะทำได้ เพื่อรบกวนจอยในเรื่องการติดตามพระเยซูคริสต์ จอยไม่ต้องกลัวมันค่ะ อธิษฐานต่อไป ต่อสู่กับมันด้วยความเชื่อในพระเจ้า ต่อสู้อย่างที่พี่เคยบอกไว้ทุกอย่าง เดี๋ยวมันเบื่อมันก็จะไปเอง (จงต่อสู้กับพญามาร และมันจะหนีไปจากท่าน
...ยากอบ 4 :7) ทุกคนที่ตั้งใจดำเนินในทางของพระเจ้าเจอสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้นค่ะ แต่เรารู้ว่าเราต่อสู้เพื่อรางวัลที่ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้ คือชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์

อย่าลืมค่ะจอย...สิ่งที่จะทำให้จอยและครอบครัวได้รับอิสระจากการรบกวนของสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้เร็วที่สุด คือการใช้สิทธิอำนาจที่พระเจ้าให้เรามาในการอธิษฐานขับไล่วิญญาณชั่ว ขอให้จอยอดทน และมั่นคงในความเชื่อ

1 เปโตร 4 / 1 Peter 4

ผู้เชื่อจงอย่าท้อใจ
4:12 ท่านที่รัก อย่าประหลาดใจที่ท่านต้องได้รับความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสเป็นการลองใจ เหมือนหนึ่งว่าเหตุการณ์อันประหลาดได้เกิดขึ้นกับท่าน

4:13 ...***แต่ว่าท่านทั้งหลายจงชื่นชมยินดีในการที่ท่านได้มีส่วนร่วมในความทุกข์ยากของพระคริสต์ !!!
…..*** เพื่อว่าเมื่อสง่าราศีของพระองค์ปรากฏขึ้น ท่านทั้งหลายก็จะได้ชื่นชมยินดีเป็นอันมากด้วย!!!


4:14 ถ้าท่านถูกด่าว่าเพราะพระนามของพระคริสต์ ท่านก็เป็นสุข ด้วยว่าพระวิญญาณแห่งสง่าราศีและของพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับท่าน ฝ่ายเขาก็กล่าวร้ายพระองค์ แต่ฝ่ายท่านก็ถวายเกียรติยศแด่พระองค์


Believers Not to Be Discouraged
4:12 Beloved, think it not strange concerning the fiery trial which is to try you, as though some strange thing happened unto you:

4:13 But rejoice, inasmuch as ye are partakers of Christ's sufferings; that, when his glory shall be revealed, ye may be glad also with exceeding joy.

4:14 If ye be reproached for the name of Christ, happy are ye; for the spirit of glory and of God resteth upon you: on their part he is evil spoken of, but on your part he is glorified.


น้อง : แล้วอดอาหารอธิฐานต้องทำยังไงบ้างเหรอค่ะพี่..
จอยจะอธิษฐานสู้กับพวกมันค่ะ.. แล้วก็จะบอกพวกมันตลอดว่ามันไม่มีทางชนะจอยและครอบครัว พระเจ้าประทานพรและพลังอำนาจมาให้กับจอยแล้ว จอยจะอธิษฐานไล่พวกมันทั้งวันทั้งคืนไปเลย ถ้ามันคิดจะชนะพระเจ้าก็ลองดู จอยสัญญาค่ะพี่ จอยจะไม่ห่างจากพระองค์ ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตาม จอยจะอดทนรอวันนั้นแล้วพวกเค้าจะได้เห็นว่าพวกเค้าคิดผิด


พี่ : ค่ะจอย ขอบคุณพระเจ้าในความเชื่อและอดทนที่พระองค์กระทำในจอยค่ะ

การอดอาหารอธิษฐาน จอยอาจจะเริ่มอดเฉพาะอาหาร 1 วัน (24 ชม.)ก่อน ดื่มน้ำได้...คือเริ่มจากหลังอาหารมื้อเย็น ซึ่งมื้อเย็นก่อนที่จะอดอาหารนั้น จอยอาจทานเยอะหน่อยค่ะ หลังจากนั้นก็คุกเข่าลงอธิษฐานขอการทรงนำจากพระเจ้าประมาณนี้ค่ะ....

"พระบิดาเจ้าข้า..ลูกขอการทรงนำจากพระองค์ให้ลูกได้อดอาหารอธิษฐานเพื่อแสวงหาพระองค์ ขอพระองค์โปรดสถิตอยู่ด้วยกับลูกตลอดเลา โปรดขับไล่ความหิวโหยให้ออกไปจากลูก...ขอพระองค์ประทานกำลังและสติปัญญาให้แก่ลูก ขอทรงให้ลูกได้พบพระองค์ ให้ลูกได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ ลูกปกคลุมสถานที่แห่งนี้ และปกคลุมตนเองและลูกๆ ทั้งสามีไว้ทั้งร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ ความคิด ความปรารถนา ลูกปกคลุมไว้ด้วยพระโลหิตองพระเยซูคริสต์ และล้อมเราไว้ด้วยกำแพงเพลิงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ลูกอธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์จ้า เอเมน"

ในระหว่างเวลา 24 ชั่วโมง จอยก็พยายามใช้เวลาอ่านพระคัมภีร์ และอธิษฐานให้มากที่สุด พูดระบายความในใจทุกอย่างที่จอยอยากจะทูลพระองค์ สิ่งที่อยากให้พระองค์ช่วยเหลือ(โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อของสามีในช่วงนี้).....ถ้าในระหว่างที่อดอาหารนั้น มีอาการหิวขึ้นมาอย่างทรมาน(วิญญาณหิวมันจะมาแกล้ง) ก็อธิษฐานว่า...มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า... “ มนุษย์ไม่ได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว..แต่ด้วยพระวจนะทุกคำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า” ...ในพระนามพระเยซูคริสต์ เจ้าวิญญาณหิวโหยจงถูกผูกมัด และออกไปจากข้าเดี๋ยวนี้!!!

มัทธิว 4 / Matthew 4

4:4 ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า "มีเขียนไว้แล้วว่า `มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า'"

4:4 But he answered and said, It is written, Man shall not live by bread alone, but by every word that proceedeth out of the mouth of God.

ถ้ายังไม่หายหิวก็ท่องข้อนี้จนกว่าจะรู้สึกว่ามันไปแล้ว.... “มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า”

แล้วก็รับประทานอาหารมื้อเย็นในวันถัดมาค่ะ....(ช่วงอดอาหารอธิษฐาน ก็ควรงดนอนร่วมกับสามีด้วยค่ะ)

ช่วงแรกเราอาจอดอาหารสัปดาห์ละ 1 วัน เมื่อทำได้ดีแล้ว ก็ลอง อด 3 วัน....หากพระองค์จะทรงนำให้อดได้นาน ถึง 40 วันก็จะเป็นการดีมาก...เพราะจะได้รับผลดีมากทางวิญญาณ จะรู้สึกว่าพระองค์ตอบคำอธิษฐานเร็วขึ้น พระองค์เปิดเผยสิ่งต่างๆให้เรารู้มากขึ้น คือพระองค์ประทานสติปัญญามาให้มากขึ้นน่ะค่ะ และก็ให้เรามองเห็นและเข้าใจสถานการณ์และสิ่งต่างๆมากขึ้นด้วย แยกแยะวิญญาณ ช่างสังเกตมากขึ้นค่ะ และต่อสู้ฝ่ายวิญญาณได้ดีมากขึ้น พระองค์ใช้เรามากขึ้นด้วยค่ะ มีเรื่องขอบคุณพระเจ้าตลอดค่ะ

และการอดอาหารอธิษฐานก็ยังเป็นการช่วยปลดปล่อยเราจากวิญญาณชั่วร้ายมากมายค่ะ


มัทธิว 17 / Matthew 17

17:21 แต่ผีชนิดนี้จะไม่ยอมออก เว้นไว้โดยการอธิษฐานและการอดอาหาร"

17:21 Howbeit this kind goeth not out but by prayer and fasting.



น้อง : เดี๋ยวเจอสงครามครอบครัวให้ไปทำบุญให้ย่าแน่นอนเลยค่ะ.. พี่ค่ะในพระคำภีร์บอกไหมค่ะว่าตายแล้วไปไหนสำหรับคนที่ไม่นับถือพระเจ้า.. จะมีการกลับมาเกิดใหม่อีกไหมค่ะ

พี่ : คุณย่าไหว้รูปเคารพด้วยใช่มั๊ยคะ .....มีวีดีโอหนึ่งที่มีพระชาวพม่าตายไป(เมื่อปี 1983)แล้วไปที่นรก เห็นจอมพลอองซาน(พ่อของอองซานซูจี)อยู่ในบึงไฟนรก และเห็นศาสดาของศาสนาพุทธนุ่งห่มผ้าเหลืองอยู่บึงไฟนรกด้วย วีดีโอนี้ พี่ดึงภาษาอังกฤษออกมาเตรียมจะแปล แต่เสี่ยงต่อ blog ของพี่โดนปิด จึงยังไม่ได้แปล ใส่ไว้แต่วีดีโอ....และสคริปบางส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=20-02-2012&group=1&gblog=178

พระพม่ารูปนี้ได้มีโอกาสไปที่สวรรค์ด้วย มีอัครฑูตเปโตรพาไปดูโน่นดูนี่ในสวรรค์ แล้วส่งกลับมาบนโลกอีก เขาฟื้นขึ้นมาในวันที่เขากำลังจะถูกเผา ขณะนั้นพ่อแม่ของเขาขอให้เปิดโลงศพดูหน้าลูกก่อนเผา และเขาก็ฟื้นขึ้นมาตอนนั้น ขณะฟื้นขึ้นมาก็เหม็นมาก เพราะมีน้ำเมือกของศพนองอยู่ที่ผ้ารองศพ ผู้คนกลัววิ่งแตกตื่น พ่อดม่ก็ตกใจ แต่ดีใจที่ลูกไม่ตาย หลังจากนั้นเขาก็กลับใจมาเชื่อพระเจ้าแล้วประกาศข่าวประเสริฐไปทั่วพม่า บันทึกเทปเล่าเรื่องราวที่เขาไปพบมา เขาถูกตำรวจจับขังคุกหลายครั้ง และสั่งห้ามพูดเรื่องนี้อีก และริบเอาเทปไปทำลาย

(พี่ส่งข้อมูลที่แปลแล้วให้น้องอ่าน)

ฮีบรู 9:27... มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะต้องตายหนหนึ่ง และหลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษา

จากพระคัมภีร์ข้อนี้บอกเราว่า ไม่มีการกลับมาเกิดใหม่ค่ะ คนที่ไม่ได้บังเกิดใหม่ในพระเจ้าก็ตายจากพระเจ้าแล้ว การตายจากพระเจ้าก็คือไปที่นรก ไม่ได้ไปสวรรค์ค่ะ

พี่ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของพี่ค่ะ แม่ของพี่เสียชีวิตไปเกือบ 20 ปีแล้ว ขณะนั้นพี่กำลังเรียนปี 3 พี่เสียใจมาก เพราะพี่รักแม่มากที่สุด นึกถึงแม่ที่ไรน้ำตาไหลทุกที มีอาการเช่นนี้มานาน 10 กว่าปี เศร้าใจทุกครั้งที่นึกถึงแม่ คิดว่าแม่ไม่น่าต้องเสียชีวิตเร็วเกินไป พี่ยังเรียนไม่จบ จึงยังไม่ได้มีโอกาสดูแลท่านเพื่อตอบแทนบุญคุณ(หลายปีที่เรียนทั้งมัธยมและป.ตรี ก็ไม่ได้อยู่กับท่าน).....และเมื่อพี่รับเชื่อในพระเจ้าแล้ว...ในปีแรกนั้น...คืนหนึ่งพี่กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่สอนเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในพระเจ้า ในหนังสือนั้นก็มีรูปภาพของชาวอิสราเอลเป็นภาพประกอบด้วย(เป็นหนังสือที่ผู้เชื่อรุ่นพี่ให้มายืมอ่าน) แล้วพี่ก็อ่านไปแล้วเจอภาพๆหนึ่งเป็นของหญิงวัยกลางคนซึ่งมันทำให้พี่คิดถึงแม่ขึ้นมาจับจิตจับใจ พี่จึงคุกเข่าลง (อ้อ...พี่ลืมบอกไปว่า เท่าที่พี่รู้นั้น...แม่ไม่เคยได้รับรู้เรื่องการไถ่บาปของพระเยซูคริสต์มาก่อน เพราะเราอยู่ต่างจังหวัด สมัยที่พี่ยังเด็ก แม่จะพาพี่ไปวัดทำบุญตลอด) พี่คุกเข่าลงอธิษฐานขอพระเยซูช่วยกอบกู้จิตวิญญาณของแม่ ไม่ว่าวิญญาณแม่จะอยู่ที่ไหน พี่สารภาพบาปแทนแม่ทั้งหมด ขอพระองค์ทรงเมตตา อภัยความบาปให้แม่ด้วย...พี่ร้องไห้ไป อธิษฐานไป นานพอสมควร น้ำตานองพื้น....(เป็นความรู้สึกว่าพระองค์ทรงนำให้พี่อธิษฐานเผื่อแม่...ด้วยความเชื่อใสบริสุทธิ์ของผู้เชื่อใหม่ ที่เชื่อว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานทุกอย่าง)....หลังจากอธิษฐานก็มาเปิดพระคัมภีร์....จำไม่ได้ว่าเจอบทไหนข้อไหน...แต่จำได้ว่า พระองค์ตอบประมาณว่า . “เราให้เจ้าตามที่เจ้าขอแล้ว”....และหลังจากนั้น พี่ก็มีสันติสุขเหมือนยกภูเขาออกจากอก เมื่อนึกถึงแม่ก็ไม่เศร้าใจอีก หวังไว้เสมอว่าจะเจอแม่อีกในสวรรค์ค่ะ

1 เปโตร 4 / 1 Peter 4

4:6 ด้วยเหตุนี้เอง ข่าวประเสริฐจึงได้ประกาศแม้แก่คนที่ตายไปแล้ว เพื่อเขาจะได้ถูกพิพากษาตามอย่างมนุษย์ในเนื้อหนัง แต่มีชีวิตอยู่ตามอย่างพระเจ้าฝ่ายจิตวิญญาณ

4:6 For for this cause was the gospel preached also to them that are dead, that they might be judged according to men in the flesh, but live according to God in the spirit.

"เดี๋ยวเจอสงครามครอบครัวให้ไปทำบุญให้ย่าแน่นอนเลยค่ะ"....
....
ประเด็นนี้สำคัญมากค่ะ เพราะเมื่อไปที่วัด พวกเขาก็จะพากันพนมมือไหว้พระ แต่เราไม่ไหว้ เราก็จะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด ไม่มีสัมมาคารวะ (สิ่งเหล่านี้พี่ก็เจอมาแล้วเช่นกัน ในงานศพแม่ของสามี)...แต่พี่ยอมให้คนดูถูกดูหมิ่น เพื่อพระเจ้าจะพอพระทัยในการเชื่อฟังพระองค์ของเรามากกว่าค่ะ ในเมื่อเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ต้องไปในงานสวดทุกวัน นาน 7 วัน พี่เลือกไปนั่งด้านหลัง..นั่งสงบอธิษฐานกับพระเจ้าในขณะที่เขาสวดทำพิธีต่างๆกัน....มีสายตามองเราแปลกๆ แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร....ในช่วงเวลานั้นต้องต่อสู้ทั้งสิ่งที่มองเห็น(มนุษย์)และสิ่งที่มองไม่เห็น(วิญญาณชั่ว)...

พี่แนะนำจอยก่อนว่า หากต้องไปในงานศพ หรือไปที่วัด ให้จอยอธิษฐานปกคลุมตนเอง สามี และลูกๆด้วยพระโลหิตพระเยซูคริสต์ และล้อมทุกคนไว้ด้วยกำแพงเพลิงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระนามพระเยซูคริสต์....และสั่งผูกมัดวิญญาณชั่วทั้งหมดในสถานที่แห่งนั้นด้วยพระนามพระเยซูคริสต์ และสั่งปกคุมสถานที่แห่งนั้นด้วยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ในพระนามพระเยซูคริสต์ ก่อนเข้าไปในนั้นทุกครั้งค่ะ

ส่วนการไหว้ศพ ก็ให้ยกมือไหว้ธรรมดา ไม่ต้องจุดธูป (จอยและลูกๆและสามีห้ามจุดธูปเทียนเด็ดขาดค่ะ!! เพราะการจุดธูปเทียนแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเราบูชาอย่างอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้าของเรา)


น้อง : จอยก็อธิษฐานกับพระองค์ให้พระองค์รับย่าไปด้วย ตอนย่าไม่สบายมาก จอยเคยบอกให้ย่าอธิษฐานขอกับพระเจ้า จอยก็จะเน้นว่าพระเจ้าของคริสนะย่า.. แต่ไม่ได้บอกให้ย่าสารภาพบาปก่อน.. บอกแต่ว่าให้ย่าบอกพระองค์ว่าย่าเชื่อในพระองค์แล้วขอให้พระองค์อย่าให้ย่าต้องเจ็บปวดขอให้ย่าหาย.. จอยโทรไปถาม ย่าก็จะบอกว่าย่าอธิษฐานบอกแล้ว จอยบอกให้ย่าอธิษฐานไว้ตลอดเวลา..จอยคิดว่าพอย่าค่อยยังชั่วแล้วจะให้ย่าสารภาพบาป.. พอย่าไปรพ. จอยติตต่อย่าไม่ได้เลยจนย่าเสียค่ะ จอยต้องสารภาพบาปทั้งหมดให้ย่าด้วยใช่ไหมค่ะ พ่อจอยก็เสียเป็น10ปีแล้ว..จอยคิดว่าจอยไม่รู้ทุกบาปของพ่อกับย่าค่ะ เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน.. จอยไม่อยากให้ทุกคนต้องตกนรกเลย จริงๆแล้วพวกเค้าไม่มีทางเลือกเลยนะค่ะพี่ดา บรรพบุรุษสืบทอดกันมานานมาก และพวกเค้าไม่มีโอกาสได้รู้จักกับพระองค์เลยด้วยซ้ำเราเกิดมาก็เจอพระแล้ว.. ถ้าอย่างพวกยุโรปเค้ายังได้รู้จักพระองค์เพียงแต่เค้าจะเลือกเชื่อพระองค์หรือไม่.. อย่างจอยจะไปบอกกับยาย ยายไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ ยายไม่รู้จักเพราะอยู่ต่างจังหวัด.. พระองค์จะทรงช่วยพวกเค้าไหมค่ะ พวกเค้าที่ยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อพระองค์ ไม่รู้จักว่าตัวเค้ามาจากไหน..เค้าไม่มีโอกาสที่จะเรียกร้องหาพระองค์ด้วยซ้ำ.. พวกเค้าต้องผิดพระบัญญัติโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทำผิด ขนาดคนรุ่นใหม่เหมือนจอย เค้ารู้จักพระองค์ เชื่อว่าพระองค์สร้างโลก แต่เค้าศรัทธาในคำสอนของพุทธมากเพราะมีเหตุมีผล.. คนพวกนี้ถ้าจะตกนรกก็ดูสมควรอยู่ แต่คนที่ไม่รู้อะไรเลยนี่สิน่าสงสาร.. จอยคงทำได้แต่อธิษฐานเพื่อเค้าใช่ไหมค่ะ..

"จอยคงทำได้แต่อธิฐานเพื่อเค้าใช่ไหมค่ะ...."

พี่ : ใช่ค่ะ สำหรับผู้ที่จากเราไปแล้วโดยไม่มีโอกาสรับรู้เรื่องราวของพระผู้ไถ่ เราทำได้เพียงมายืนต่อเบื้องพระพักตร์พระเยซูคริสต์แทนพวกเขา แล้วสารภาพบาปแทนพวกเขา อ้อนวอนของพระองค์ทรงเมตตาอภัยในความบาป แล้วเรามอบทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ ด้วยความเชื่อว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานด้วยความรักที่เรามีต่อพวกเขาและด้วยความเชื่อและศรัทธาที่เรามีในพระองค์ค่ะ

เลวีนิติ 26 / Leviticus 26

พระเจ้าจะทรงรักษาพันธสัญญาของพระองค์ต่ออับราฮัม

26:40 ...***แต่ถ้าเขาทั้งหลายสารภาพความชั่วช้าของเขา... และความชั่วช้าของบรรพบุรุษ !!!
….*** ซึ่งเขาทั้งหลายกระทำการละเมิดต่อเรา ด้วยการละเมิดของเขานั้น และที่ได้ดำเนินการขัดแย้งเราด้วย

26:41 และเราจึงดำเนินการขัดแย้งเขาทั้งหลายด้วย และได้นำเขาเข้าแผ่นดินแห่งศัตรูของเขา ถ้าเมื่อนั้นจิตใจอันนอกรีตของเขาถ่อมลงแล้ว และเขายอมรับโทษเพราะความชั่วช้าของเขาแล้ว

26:42….*** เราจึงจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่อยาโคบ… และพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่ออิสอัค และพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่ออับราฮัม และเราจะระลึกถึงแผ่นดินนั้น…

God Will not Forsake Abrahamic Covenant
26:40 If they shall confess their iniquity, and the iniquity of their fathers, with their trespass which they trespassed against me, and that also they have walked contrary unto me;
26:41 And that I also have walked contrary unto them, and have brought them into the land of their enemies; if then their uncircumcised hearts be humbled, and they then accept of the punishment of their iniquity:
26:42 Then will I remember my covenant with Jacob, and also my covenant with Isaac, and also my covenant with Abraham will I remember; and I will remember the land.

# พระคัมภีร์ข้อนี้บอกเราว่าถ้าเราสารภาพบาปของบรรพบุรุษของเราที่กระทำผิดต่อพระองค์ พระองค์ก็จะทรงฟัง และระลึกถึงพระพันธสัญญาที่พระองค์เคยกระทำไว้กับ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ...

อพยพ 2 / Exodus 2

2:24 ....และพระเจ้าทรงสดับฟังเสียงคร่ำครวญของเขา...
... พระเจ้าจึงทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ

2:25.... พระเจ้าจึงทอดพระเนตรชนชาติอิสราเอล....*** แล้วพระเจ้าทรงเอาใจใส่พวกเขา !!!

2:24 And God heard their groaning, and God remembered his covenant with Abraham, with Isaac, and with Jacob.
2:25 And God looked upon the children of Israel, and God had respect unto them.

ความหมายหนึ่งของคำว่า Respect ในพระธรรมอพยพ บทที่ 2 ข้อ 25 คือ ตอบ( answer) หรือตอบคำอธิษฐานของเรานั่นเองค่ะ

Respect : H3045 yâda‛, yaw-dah' : A primitive root; to know (properly to ascertain by seeing); used in a great variety of senses, figuratively, literally, euphemistically and inferentially (including observation, care, recognition; and causatively instruction, designation, punishment, etc.): - acknowledge, acquaintance (-ted with), advise, answer, appoint, assuredly, be aware, [un-] awares, can [-not], certainly, for a certainty, comprehend, consider, X could they, cunning, declare, be diligent, (can, cause to) discern, discover, endued with, familiar friend, famous, feel, can have, be [ig-] norant, instruct, kinsfolk, kinsman, (cause to, let, make) know, (come to give, have, take) knowledge, have [knowledge], (be, make, make to be, make self) known, + be learned, + lie by man, mark, perceive, privy to, X prognosticator, regard, have respect, skilful, shew, can (man of) skill, be sure, of a surety, teach, (can) tell, understand, have [understanding], X will be, wist, wit, wot.


(1) : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=04-08-2012&group=1&gblog=208

(2) : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=04-08-2012&group=1&gblog=209



Create Date : 04 สิงหาคม 2555
Last Update : 4 สิงหาคม 2555 21:14:43 น.
Counter : 3193 Pageviews.

0 comments

Narno7
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



โยบ 38 / Job 38


38:4 เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนั้น เจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้ามีความเข้าใจก็บอกเรามา

38:4 Where wast thou when I laid the foundations of the earth? declare, if thou hast understanding.

38:7 ในเมื่อดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน

38:7 When the morning stars sang together, and all the sons of God shouted for joy


"I am a spirit that live in a body and communicate and perceive the exterior world through my soul."

"This world is not my home. I am here on a mission. Not all of children of God have or will come on this earth but I was chosen. Not all who come fulfill their mission and purpose for being here. Through the Cross of Jesus, I enter into the Kingdom of God. And as a daughter of God, my mission is to bring Heaven to earth."

New Comments
All Blog