Converting to NZ Driver Licence การแปลงใบขับขี่จากไทยเป็นใบขับขี่ที่นิวซีแลนด์
สวัสดีค่ะไม่ได้เขียนนานมากๆ ตอนนี้ชีวิตหักเห ไม่ได้อยู่ที่เซี่ยงไฮ้แล้วนะคะส่วนพวกเรื่องเกี่ยวกับที่เที่ยวในเซี่ยงไฮ้ก็ดองเค็มไว้จนหารูปไม่เจอแล้วเอาไว้ค้นเจอแล้วจะกลับมาเขียนให้อ่านกันอีกนะคะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะ วันนี้จะมาพูดถึงขั้นตอนการแปลงใบขับขี่ไทยมาเป็นใบขับขี่ของที่นิวซีแลนด์ค่ะ
การแปลงใบอนุญาตขับรถจากที่ไทย จะลดเวลาในการที่เราต้องสอบ Learner และ Restricted ไปนะคะ แต่ถึงอย่างไร เราก็ต้องทำการสอบข้อเขียน (Theory text)และสอบปฎิบัติ(Practical test) ของที่นิวซีแลนด์อยู่ดีค่ะ เนื่องจากใบอนุญาตจากบ้านเรายังไม่ได้รับข้อยกเว้นที่ไม่ต้องสอบทั้งสองอย่างค่ะ เวลาที่เราสอบข้อเขียนแล้ว เราจะได้รับใบขับขี่นิวซีแลนด์แบบ Full licence แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีคนที่มีใบขับขี่แบบFull licence คนอื่นนั่งใบรถไปพร้อมกับเราด้วยค่ะ ใบขับขี่ที่นำมาจากไทยจะใช้ในนิวซีแลนด์ไม่ได้แล้วนะคะ จากนั้นเราต้องสมัครสอบปฎิบัติอีกครั้งก่อนที่จะได้ใบขับขี่แบบFull licence ที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆค่ะ ใครอยากอ่านรายละเอียดแบบเนื้อๆไม่มีน้ำก็ข้ามลงไปอ่านขั้นตอนการสมัครเป็นข้อๆได้เลยนะคะ
ขอเล่าเรื่องคร่าวๆนิดนึงว่าตอนเราไปสมัครสอบข้อเขียนที่ AA คิวยาวมากๆ พนักงานคนที่รับเรื่องเหมือนจะไม่เคยเจอใบขับขี่แบบตลอดชีพ(บ่งบอกอายุมากๆ) ก็เลยต้องโทรไปเช็คกับศูนย์ว่าต้องกรอกข้อมูลยังไง ก็เลยรอค่อนข้างนาน แต่พอทำเรื่องเสร็จเรียบร้อย ก็ให้นัดวันสอบข้อเขียนค่ะ รอบที่แล้วที่มาขอใบสมัครเรามาซื้อRoad Code ไปอ่านแล้ว ก็เลยนัดสอบวันศุกร์ที่จะถึงนี้เลย พอถึงวันศุกร์ที่เรามาเตรียมสอบ เอาใบนัดที่เขาprint ให้ไว้ตั้งแต่วันก่อนมาด้วย คนเยอะ คิวยาวแต่พนักงานน่ารักมากเลยค่ะ ตรวจสายตาและเอกสารเรียบร้อยก็ไปนั่งที่เครื่องคอม แล้วเขาก็บอกว่าโชคดี พอสอบเสร็จเดินกลับไปหาเขาที่counter เครื่องมันก็พิมพ์ผลมาให้ พนักงานก็บอกว่ายินดีด้วย แล้วก็ให้เอกสารสำหรับการนัดสอบขับรถมาให้ เราก็ถามว่ามีระยะเวลากำหนดไหมว่าต้องสอบเท่าไร เขาก็บอกว่าแล้วแต่เราเลย แต่ต้องรอให้ได้ใบขับขี่ที่จะส่งไปตามที่อยู่ทางไปรษณีย์ก่อนนะ เพราะว่าต้องใช้ตอนสอบ
เรารออยู่ประมาณ 5 วันก็ได้ใบขับขี่ค่ะ แต่กว่าจะว่างไปสอบขับนั้นใช้เวลาหลายเดือนอยู่เลย พอตัดสินใจได้ว่าต้องไปสอบเสียที ก็เอาเอกสารตัวเดิมที่เขาให้กลับไปยื่นสมัครสอบที่ AA แล้วเขาก็จะให้เลือกสถานที่สอบค่ะ เนื่องจากว่ามันเปลี่ยนระบบจากเดิมที่มาที่AA แล้วเจ้าหน้าที่จะมารับไปขับสอบ เป็นว่าAA ไม่รับเป็นศูนย์สอบแล้ว เราเลยต้องไปสอบที่VTNZ แถวบ้านแทน ซึ่งเราก็ให้เจ้าหน้าที่ช่วยเลือกให้ว่าสาขาไหนอยู่ใกล้บ้านที่สุด แล้วก็ดูว่าที่ใกล้ที่สุดค่ะ สอบเลย เดี๋ยวเปลี่ยนใจอีก 555 พอก่อนวันสอบเราก็ลองไปขับรถดูสถานที่สอบ ดูความเร็ว ดูสภาพถนน แล้วก็ช่วงเวลาที่เราสอบว่ามีรถมากน้อยแค่ไหน มีรถบรรทุกรึเปล่า จากนั้นก็เช็คสภาพอากาศก่อนไปสอบว่าฝนตกไหม แดดส่องตาขนาดไหน
พอถึงวันสอบจริง เราไปถึงก่อนเวลา 30 นาที เพราะรถไม่ติดเลย เขาก็เลยให้เราสอบเลย มารู้ทีหลังว่ามีคนมาสาย ก็เลยโดนเจ้าหน้าที่ตำหนิไปค่ะ เจ้าหน้าทีก็เช็คสภาพไฟเบรค ไฟเลี้ยวต่างๆ แล้วก็อธิบายว่าให้เราฟังเขาอย่างเดียวไม่ต้องพูด ไม่ต้องถามอะไร จากนั้นก็เริ่มขับ พอขับเสร็จเขาก็บอกทางให้เรากลับมาที่VTNZ แล้วก็เซ็นต์ใบแทนใบขับขี่ (ส่วนใบขับขี่เราใบนั้น เขาจะยึดไปเลยนะคะ) จากนั้นก็กลับบ้านได้ค่ะ
สิ่งแรกที่ต้องมีคือ 1. ใบอนุญาตขับรถ หรือใบขับขี่นั่นเอง แนะนำให้ทำรุ่นใหม่แบบมีภาษาอังกฤษด้วยไปเลย ไม่อย่างนั้นต้องเอาไปแปล จะเสียค่าแปลไม่คุ้มกันเน้อ หรือจะทำใบขับขี่สากลไปเผื่อก็ได้ค่า พร้อมสำเนา ถ้ามีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ก็สมัครไปพร้อมกันได้เลยนะคะ
2. หนังสือเดินทางเล่มที่ยังไม่หมดอายุพร้อมสำเนา
จากนั้นก็เช็คว่าใกล้บ้านหรือที่พักมี ศูนย์รับแปลงใบขับขี่ที่ไหนบ้างคะ ของเราอยู่ใกล้ศูนย์AA เลยไปติดต่อAA ค่ะ
ขั้นตอนการสมัคร 1. หยิบใบ Application for conversion of anoverseas driver licence (DL5) จากที่ศูนย์ หรือถ้าใครกลัวกรอกผิด กลัวจะไม่รู้ว่าจะกรอกอะไร ดาวโหลดมาดูเขียนก่อนได้นะคะ กดที่นี่เลย2. ต่อคิวเพื่อรอรับบริการจากพนักงานค่ะ พนักงานจะถามว่าจะมาทำอะไร เพราะปกติที่ศูนย์AA จะให้บริการหลายเรื่องค่ะ เราก็บอกเขา พร้อมยื่นเอกสารตัวจริงและสำเนาให้ เตรียมค่าสมัครไป 52.10 NZD ด้วยนะคะ จะจ่ายด้วยeftpos ก็ได้ค่ะ
3. พนักงานจะถามว่าจะพร้อมสอบข้อเขียนเมื่อไร เราก็นัดวันกันค่ะ แนะนำว่าเตรียมตัวให้ดีก่อนไปสอบจะดีที่สุดค่ะ เราใช้วิธีอ่านจากหนังสือคู่มือ Road Code มีขายที่ AA ค่ะ (จะอ่าน ออนไลน์ก็ได้ ฟรี) เพราะถ้าสอบตกต้องเสียค่าสอบใหม่ตั้ง 45.7 NZD นอกจากนี้ยังมีการตรวจสายตาและถ่ายรูปของเราด้วยนะคะ
4. ถ้าเราสอบผ่านแล้ว ก็จะให้ใบสมัครสอบปฏิบัติค่ะ เราต้องทำการสำรองที่นั่งออนไลน์ เราต้องรอให้ได้รับใบขับขี่ที่จะส่งให้ทางจดหมายก่อนนะคะ
5. พอจองแล้วก็ไปตามวันเวลาที่นัดไว้ ไปให้ถึง 30 นาทีก่อนเวลานัดนะคะ ห้ามลืมใบขับขี่ตัวที่ได้รับทางจดหมายเด็ดขาด พอไปถึงก็แจ้งชื่อว่าเป็นใคร ถ้าเจ้าหน้าที่ หรือ Tesing Office (ขอเรียกสั้นๆว่า TO) ของเรามาแล้วก็จะขอดูใบขับขี่แล้วก็ใบนัดค่ะ จากนั้นก็ให้เรากรอกอีเมลให้เขาในiPad ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นระบบออนไลน์เลย คือเขาจะกดตัดสินว่าให้ผ่านหรือไม่ผ่านทางแอพนี้เลย
6. TO จะทำการตรวจสอบสภาพของรถ ตั้งแต่ล้อ เบรค และ ไฟเลี้ยวว่าใช้งานได้รึเปล่า โดยให้เราอยู่ในรถแล้วเป็นคนเหยียบเบรค และตบไฟเลี้ยวตามที่TO ให้สัญญาณ รวมถึงเขาจะตรวจ warrant of fitness (WoF) หรือ certificate of fitness (CoF) และเช็คว่าป้ายทะเบียนรถไม่หมดอายุ อาจจะตรวจ road user charges (RUC) licence ถ้าจำเป็นค่ะ ถ้ารถไม่พร้อมต้องเสียเงินจองสอบใหม่นะคะ ดูรายละเอียดตามนี้ได้เลย7. ถ้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ สามารถให้ล่ามหรือผู้ติดตามขึ้นนั่งไปด้วยได้นะคะ แต่ข้อสำคัญคือผู้ที่นั่งไปด้วยห้ามพูดอะไรนอกเหนือจากที่ TO บอก ไม่เช่นนั้น ตกสถานเดียวจ้า
8. พอสอบเสร็จ เจ้าหน้าที่ที่นั่งไปกับเราจะบอกผล และให้เราเซ็นต์ชื่อที่ใบขับขี่ชั่วคราว เขาจะส่งรายละเอียดเรื่องการสอบไปที่อีเมล์ที่เราให้ค่ะ ถ้าไม่ผ่านก็เสียค่าสอบใหม่อีกครั้ง 59.90 NZD ถ้าผ่านก็กลับบ้านแล้วรอรับใบขับขี่แบบตัวเต็มที่ส่งไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่เคยให้ไว้ได้เลยค่ะ ของเราสอบวัันพุธ วันจันทร์ก็ได้ใบขับขี่แล้วค่ะ
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ที่เราพยายามใส่ลิ้งค์ไว้ เพราะในบางครั้งรายละเอียดบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามข้อกำหนดใหม่ๆ ลองกดลิ้งค์เข้าไปอ่านอีกทีเพื่อความแน่ใจนะคะ
สรุปค่าเสียหาย: 1. ค่าสมัคร $52.10 2. ค่าสอบข้อเขียน $45.70 3. ค่าสอบปฎิบัติ $59.90 รวมทั้งสิ้น $157.70
ข้อมูลเพิ่มเติม:
อ้างอิง: 1. https://www.nzta.govt.nz/driver-licences/new-residents-and-visitors/converting-to-nz-driver-licence/
| Create Date : 22 พฤษภาคม 2561 |
| Last Update : 6 กันยายน 2561 11:10:43 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 3345 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [