Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2561
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 พฤษภาคม 2561
 
All Blogs
 
มาขยายพันธุ์ต้นไม้กัน



สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะเล่าเรื่องราวการขายพันธุ์ต้นไม้ที่เราไปซื้อมาจากจตุจักรและอื่นๆกันนะคะ เราว่ามันเป็นความท้าทาย ความภูมิใจ และความสุขอย่างมากในชีวิตเราเลย มันท้าทายตรงที่เราจะปลูกมันรอดจนสามารถเอามาเพาะได้ไหม และหลังจากที่เพาะแล้วมันจะรอดไหม ถ้าต้นไม้เหล่านั้นรอดมาได้และเติบโตเราก็สุดแสนจะภูมิใจ เราสามารถไปนั่งชมเชยความงามของต้นไม้ได้นานเป็นชั่วโมงเลยนะ ดูรายละเอียดทุกๆต้น และความสุขก็มาจากการได้เห็นต้นไม้ที่เราไปตากแดด แบก ขน เติบโตงดงามและสามารถขยายพันธุ์ไปให้กับคนอื่นได้อีก

เริ่มกันที่ ต้นบีโกเนียใบขน



เริ่มจากเด็ดใบมาให้ติดก้าน แล้วนำกรรไกรมาตัดขอบใบออกเป็นวงกลมหรือจะทรงอะไรก็ได้นะคะ เพื่อลดการคายน้ำของใบ



จากนั้นก็นำใบไปปักในดิน จะเอาไม้ลูกชิ้นจิ้มไปก่อนให้เป็นรูก็ดีค่ะเผื่อดินแน่นหรือแข็งแล้วก้านหัก ในภาพจะเห็นว่ามีต้นอ่อนกำลังงอกออกมาในกระถางแรก ส่วนภาพที่สองใบที่ใหม่ที่สุดคือที่เราทำให้ดูนั่นเอง ส่วนพวกใบพลูด่างคือหนูมากินแล้วใบเราหักหมดเอามาปักๆไว้เผื่อน้องจะขึ้นSmiley ภาพที่สามคือต้นที่เราแยกออกมาปลูกในกระถางได้สองต้น อัตราการรอดตายก็สัก 80 เปอร์เซ็นต์ มีเน่าบ้างอะไรบ้าง บางทีต้นอ่อนก็อ่อนเกินไปเราดันเอามาแยกกระถางแล้วน้องตายก็มี ดังนั้นใจเย็นๆนะทุกคนให้โตได้ที่ก่อนละกัน ส่วนสภาพต้นแม่เราไม่อาจให้ดูได้ เนื่องจากหนอนกินเกือบหมดต้น!!! แทบจะไม่เหลืออะไรให้เลย โดนทั้งหนูทั้งหนอน อะไรก็ไม่รู้พอเพลี้ยไปไอ้สองอย่างนี่ก็มารังควาน

*เรื่องดิน เราใช้ดินถุงธรรมดาทั่วไป ผสมกับมะพร้าวสับ คลุกเคล้าให้เข้ากันใส่ปุ๋ยออสโมคอสนิดหน่อย เอาขุยมะพร้าวที่เก็บไว้จากตอนย้ายกระถางต้นไม้ที่ซื้อจากจตุจักรมาโรยหน้าดินแล้วเอาผงอบเชยโปรยๆ (เคยดูรายการเขาบอกว่าผงอบเชยจะช่วยฆ่าเชื้อรา เราก็ไปซื้อที่เป็นขวดตรามือมาโรยเลย)

ต่อกันที่ ต้นบีโกเนีย



บีโกเนียของเราใหญ่โตขึ้นเยอะ จนต้องเปลี่ยนกระถาง แล้วเอาต้นอ่อนที่เราเพาะไปปลูกรวมด้วยรอบๆกระถาง กะว่าถ้าโตมากๆก็จะแยกออกไปแจกเพื่อนๆอีกที ต้นนี้ให้ดอกได้ชื่นชมตลอด จนคิดว่าจะไปหาบีโกเนียพันธุ์อื่นๆมาปลูกอีก วิธีขยายพันธุ์เราเอามาจากที่อื่นอีกทีหาง่ายไม่เหมือนพันธุ์ใบขนหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเราเลยเอาตามวิธีเดียวกับต้นนี้ แต่ว่าต้นนี้มีสองวิธีที่เราเจอ วิธีแรกทำเหมือนแบบต้นข้างบน วิธีที่สองคือตัดไปตามเส้นหลังของใบ (เราก็เรียกไม่ถูกเอาใบบีโกเนียขนๆมาให้เป็นตัวอย่างในการดูนะ) เพราะว่าเรามีพันธุ์นี้เยอะแล้วและกระถางก็ไม่ว่างให้ลงด้วยสิ


เราเด็ดใบออกมาไม่ต้องเอาก้านมาก็ได้นะเพราะเราไม่ใช้ถ้าทำแบบวิธีที่สอง สังเกตุใบไหมว่ามีเส้นที่ต่อจากก้านอยู่ 6 เส้น เราก็ตัดให้ได้หกชิ้นโดยมีเส้นหลักติดมาด้วย (ให้เส้นหลักอยู่กลาง) จากนั้นก็ตัดช่วงปลายใบนิดหน่อย เราก็จะได้ทรงสามเหลี่ยมมาหกชิ้น จากนั้นก็เอาส่วนแหลมปักลงในดินแล้วรอเวลางอก วิธีนี้ทำให้เราได้ต้นอ่อนเยอะกว่าวิธีแรกเพราะแยกย่อยออกมาได้ตั้ง 6 ชิ้น อัตราการรอด 95 เปอร์เซ็นต์เพราะว่าไม่ค่อยตายเลยขึ้นมาเกือบหมด

ต่อไป เปปเปอร์โรเมีย และกุหลาบหิน



ในรูปเราเพาะรวมๆกันทั้งเปปเปอร์โรเมียใบด่าง ใบธรรมดา, กุหลาบหินใบด่าง ใบธรรมดา ส่วนที่งอกออกมารูปซ้ายคือเปปเปอร์โรเมีย ขวาคือกุหลาบหินใบด่างค่ะ วิธีเพาะก็ง่ายมากๆ เด็ดใบออกมาสัก 3-4 ใบเลือกเอาใบที่แข็งแรงแล้วเอาก้านใบปักในดินแล้วก็รอเวลา แต่ว่าพวกนี้เราใช้เวลานานหลายเดือนอยู่นะ วิธีที่ดีในการดูแลคือดูบ้างลืมๆบ้างพอเห็นน้องๆโตแล้วแบบโอ้โหโตเร็วจัง ถ้าหมั่นดูบ่อยๆมันรู้สึกไม่เห็นจะงอกสักที แต่ว่าก็อย่างหายไปนานนะ ไม่งั้นจะเหมือนเราไอ้ที่โตก็ดี แต่ที่หนอนกิน หนูแทะนี่โอ้ยลมจะจับ มาดูอีกทีแทบไม่เหลือSmiley


อันนี้เอารูปดอกมาให้ดู ทั้งใบด่าง ใบธรรมดาเราเพาะดอกสีนี้หมดเลย เพราะว่าสีอื่นๆที่อยากเพาะมันตายเกือบหมดแล้วแค่จะประคองต้นให้รอดก็ยากแล้ว


ส่วนพวกนี้คือ กุหลาบหินดอกสีส้ม  ซึ่งแต่แรกเรามีแค่กระถางเดียว ส่วนตอนนี้....




จากการขยายพันธุ์ไปตามทฤษฎีและการมั่วไปเรื่อยตอนนี้เรามีต้นนี้เยอะมากในขณะที่พันธุ์สีอื่นๆแพงๆที่ซื้อทยอยตายเกือบหมดSmiley มาดูกันว่าเราทำแบบไหนบ้าง


ภาพแรกเราใช้วิธีการปักชำด้วยใบ เด็ดใบที่สมบูรณ์มา 1 ใบ แล้วปักไปในดิน (เราเลือกเอาใบล่างๆ) ตัวนี้เราปักไปครึ่งปีได้กว่าจะออกยอดแทงต้นมาได้Smileyแค่เห็นว่าใบมันไม่เน่าไม่เหี่ยวเราก็สบายใจ อยากงอกตอนไหนก็ตามใจ ส่วนภาพที่สอง เราเด็ดกิ่งที่ยื่นออกมาจากต้นที่มันเก้งก้าง แล้วปักดินลงไปเลย (จริงๆแล้วภาพบนที่มีสองกระถาง อันที่มีดอกคือกระถางที่เราปักชำมาอีกที) 
ภาพที่สามคือหนู!! มันมารังความสวนเราแล้วทำกิ่งทำใบหักระเนระนาด เราเลยเอามาปักๆดินให้หมด แล้วมันก็ขึ้นกันอย่างร่าเริง คือถ้าตั้งใจนี่ครึ่งปีงอก ไอ้ที่ปักๆไปเรื่อยนี่เดือนสองเดือนขึ้น


ภาพแรกเราหักกิ่งออกมาจากกระถางใหญ่ที่เห็นในภาพแรกสุดหักเอากิ่งที่มีดอกมันเอนเอียง จากนั้นก็ปักลงไปในกระถางที่ยังว่าง เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย เราสามารถใช้ทุกส่วนมาปักชำได้จริงๆ



ภาพแรกคือที่หนูมันทำหัก เราก็เอาไปปักได้ไม่ทิ้งนะจ๊ะ ภาพที่สองจะเห็นว่าใบจะหักตรงไหน เอามาปักก็ขึ้นต้นอ่อนได้นะ ส่วนภาพสุดท้ายจะเห็นว่าใบเล็กจิ๋วก็ยังงอกราก ใบนี้มันหักแล้วร่วงบนดินก็งอกรากออกมาเอง ด้วยความที่จะหักมากมายยับเยินแค่ไหนก็รอดเราเลยมีต้นนี้เยอะจนเอาไปแจกเพื่อนได้แล้ว

ต่อไปคือ พลูงาช้าง



สองกระถางนี้คือตัวอย่างที่เราเพาะออกมาได้ เราไปซื้อมาจากอิเกีย แล้วดูวิธีเพาะในยูทูปฝรั่ง เราชอบวิธีของเขาเพราะว่ามันทำให้ทุกต้นตั้งตรงสวยงาม ตอนแรกก็เกือบตายเหลืออยู่ไม่กี่ใบเพราะว่าเราปลูกในห้อง เราว่าต้นไม้ที่ลงดินทุกชนิดไม่ควรปลูกในห้องตลอดเวลา มันจะค่อยๆเฉาไม่ก็ไม่โตเท่าไหร่ พอเอาออกไปรับแสง รับอากาศข้างนอกก็ค่อยฟื้นสภาพ เราเลยรีบขยายพันธุ์จนตอนนี้เอาไปให้เพื่อนได้อีกแล้ว
แต่ถ้าจะปลูกในห้องแนะนำให้ปลูกพลูด่างในน้ำ โตดี๊ดี ให้ได้รับแสงบ้างเท่านั้น ย้ำว่าแสงนะ เราเพิ่งเอาน้องไปรับแสง แต่ดันลืมไว้ตรงระเบียงสองวัน แดดเผาเหลืองไปเกือบหมดSmiley



ภาพแรกเริ่มจากตัดกิ่งที่มันยาวๆออกมา อันนี้หนูกัดขาดSmiley เราไปเจอพอดี ก็ตัดเพิ่มมาอีกกิ่ง ภาพสองก็เอากรรไกรหรือมีดตัดให้เหลือสั้นๆประมาณนีี้ ท่อนละ 1 ใบ (ตามที่สอนเขาให้เอาไปแช่ในน้ำก่อน 1 อาทิตย์ เราเคยทำตอนครั้งแรกแต่หลังๆมาตัดได้ก็ปักดินเลย ก็โตดีไม่มีตาย สะดวกมากกว่าด้วย มันต่างกันตรงที่แช่น้ำก่อนจะมีรากฝอยๆออกมาเพิ่ม) ภาพที่สามเราก็แค่ปลูกในดินตามปกติ พยายามจับให้ใบตั้งตรงสวยงามทีนี้ต้นไม้น้อยๆของเราก็พร้อมจะเติบโตแล้ว

สุดท้ายคือ ลิ้นมังกรแคระ ฮานิอายกรีน


ภาพแรกคือต้นที่เราปลูกมานานแล้ว ภาพที่สองคือที่เราดึงมาให้ดูตัวอย่าง อันนี้คือเราใช้ครึ่งใบที่หักมาปัก วิธีปักชำมีสองแบบ คือใช้ทั้งใบหรือตัดครึ่งสองส่วน บน/ล่างแล้วลงดิน เราเลือกใช้แบบแรกคือทั้งใบเพราะว่าใบต้นนี้มันเยอะแยะ อีกอย่างคือตามภาพที่สามเลยหนึ่งใบออกมาได้สองต้นแถมพอโตแล้วมันก็แตกหน่อออกมาอีก ตอนแรกเราปักเต็มไปหมด ตอนนี้เลิกแล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาไปให้ใครแล้วล้นบ้าน แนะนำว่าให้โดนแดดเยอะๆลายจะสวยมาก




สุดท้ายสองต้นนี้คือไม่รู้จะให้ใครเลยยังอยู่ที่บ้านต่อไป น้องขึ้นชื่อเรื่องความอึด โตไว ใครที่ปลูกอะไรก็ตายอย่างเพื่อนที่ทำงานยังต้องหากระถางมาเปลี่ยนแล้วเพราะน้องโตดีมาก 

หมดแล้วนะคะสำหรับวันนี้ใครมีวิธีกำจัดเพลี้ย หนู หนอนก็มาบอกกันบ้างนะ หรือว่าใครมีต้นไม้แนะนำให้เราปลูกก็มาบอกกันนะจ๊ะ









Create Date : 25 พฤษภาคม 2561
Last Update : 25 พฤษภาคม 2561 21:20:40 น. 0 comments
Counter : 7401 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อารมณ์ติสท์ติดตัว
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3651244's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.