
 |
|
|
 |
 |
|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
| 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
| 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
| 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
| 27 | 28 | |
|
|
| |
|
 |
 |
|
|
[J-Movie] Taiyou No Uta: แม้ดึกสงัดก็ยังเห็นแสงอาทิตย์
ช่วงนี้รู้สึกตัวเองว่างๆ (ทั้งที่ว่างจริงๆ และที่พยายามทำตัวเองให้ว่าง) ก็เลยมีเวลามาดูพวกซีรี่ส์และหนังอีกครั้งหนึ่ง ล่าสุดก็หยิบเอาหนังญี่ปุ่นเรื่อง Taiyou No Uta มาดูอีกครั้งหนึ่ง อันที่จริงเรื่องนี้เคยดูไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปีก่อน และก็เป็นหนึ่งในหนังญี่ปุ่นที่ประทับใจมาก พอมาดูอีกรอบก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมคือ ชอบเรื่องนี้มากจริงๆ จนอยากแนะนำให้ทุกคนได้ดูกัน

Taiyou No Uta เป็นหนังญี่ปุ่นที่ออกฉายเมื่อปี 2006 ชื่อเรื่องแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Song of the Sun แต่ชื่อทางการที่ใช้เวลาฉายนอกญี่ปุ่นก็คือ Midnight Sun ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเป็นชื่อที่สื่อถึงตัวหนังได้ดีที่สุด เรื่องนี้ได้ฉายที่ไทยด้วยนะในชื่อ 24 ชม.ขอรักเธอทุกวัน แต่ฉายเฉพาะที่ลิโด้เลยอาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่ เราเองกว่าจะได้ดูก็ปีที่แล้ว ตอนบังเอิญเปิดไปเจอในช่องเคเบิลที่หอ
หนัง เรื่องนี้เปิดเรื่องด้วยฉากยามเช้าของเมืองชายทะเลแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น สำหรับใครหลายคนแสงอาทิตย์เป็นเสมือนสัญญาณที่บอกว่าเช้าวันใหม่ได้เริ่ม ขึ้นแล้ว และนั่นหมายถึงการต้องลุกขึ้นมาเรียน มาทำงาน พบปะผู้คน ดำเนินชีวิตอย่างที่คนทั่วไปทำกันอีกวัน แต่สำหรับอามาเนะ คาโอรุ (แสดงโดยยูอิ) ยามเช้ากลับมีความหมายที่ต่างออกไป
ด้วยสาเหตุจากโรค XP (ที่ไม่ใช่ Window XP) ซึ่งคาโอรุเป็นอยู่ อันเป็นโรคที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการแพ้แสง UV ทำให้ไม่สามารถออกไปสัมผัสกับแสงอาทิตย์ได้ (เป็นโรคที่ประหลาดดีแท้) ที่สำคัญคือโรคนี้ยังไม่มีทางรักษาได้ ดังนั้นแสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่ของคาโอรุจึงไม่ใช่อะไรมากไปกว่า สิ่งที่บอกว่า เธอไม่เหมือนคนอื่น
อย่างไรก็ตาม ถึงจะรู้เกี่ยวกับโรคของตัวเองดี แต่คาโอรุก็ยังเป็นเด็กที่สดใสและมีความฝัน ซึ่งการคือการเล่นดนตรี ทุกๆ คืนคาโอรุจะหยิบเอากีต้าร์ของเธอไปเล่นดนตรีเปิดหมวก ด้วยเพลงที่เธอแต่งออก ร้องเองที่สถานีรถไฟ แม้จะไม่มีคนดูสักคนเดียว ยกเว้นบางคืนที่เพื่อนสนิทของเธอ มิซากิ (แสดงโดย ไอริ โทยามะ) อาจจะมาดูเป็นเพื่อนบ้าง แต่คาโอรุก็ยังมาเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพราะนั่นเป็นไม่กี่สิ่งที่ทำให้คาโอรุว่าชีวิตยังมีความหมาย และนั่นรวมถึงการได้เฝ้ามองฟูจิชิโร โคจิ (แสดงโดยทาเคชิ สึคาโมโตะ) จากหน้าต่างห้องนอนติดม่านกัน UV ในทุกเช้าก่อนเข้านอนด้วย
ตัวโคจินั้นก็ไม่ต่างอะไรจากวัยรุ่นทั่วไปที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ สิ่งหนึ่งที่ดูจะเป็นความฝันของเขาคือการเล่นเซิร์ฟ แม้ว่าฝีมือการเล่นเซิร์ฟจะยังจัดอยู่ในประเภท ไม่เอาอ่าว ก็ตาม โคจิไม่เคยรู้เลยว่า ทุกๆ เช้าเมื่อเขามานั่งรอเพื่อนอยู่ที่ป้ายรถเมล์นั้น การกระทำของเขาล้วนทุกเฝ้าดูจากคาโอรุอยู่ทุกวัน สำหรับคาโอรุการได้ดูโคจิทำท่าเซ่อซ่า บ้าๆ บอๆ จากห้องนอนเป็นความสุขใจนั่นแหละ แต่คาโอรุก็รู้ว่าโอกาสที่จะได้พูดคุยกับโคจินั้นยากเหลือเกิน เพราะมีแสงอาทิตย์เป็นอุปสรรคกั้นพวกเขาไว้
แต่ก็นั่นแหละ ถ้าทั้งเรื่องพระเอกนางเอกไม่ได้เจอกัน ไม่ได้คุยกัน ก็คงจะแปลกๆ อยู่ ดังนั้นคืนหนึ่งขณะที่คาโอรุกำลังเล่นกีตาร์ที่สถานีรถไฟตามปกตินั้น โคจิก็เดินผ่านมาและกำลังจะผ่านไป แต่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ ด้วยเหตุที่คิดว่าอาจไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก คาโอรุจึงวิ่งตามโคจิไป และผลักเขาล้มลงอย่างแรง พร้อมด้วยคำแนะนำตัวที่โคจิได้แต่อึ้งและงงๆ
คาโอรุ: ฉันชื่ออามาเนะ คาโอรุ นะ โคจิ: อะไรน่ะ! คาโอรุ: ฉันชื่ออามาเนะ คาโอรุ โคจิ: เอ๋... คาโอรุ: ฉันชื่ออามาเนะ คาโอรุ โคจิ: เรื่องไรเนี่ย คาโอรุ: ฉันอายุ 16 อยู่กับพ่อแม่ งานอดิเรกคือเล่นดนตรี นิสัยโมโหง่ายนิดหน่อย ที่สำคัญยังไม่มีแฟน โคจิ: หา.. คาโอรุ: ฉันเฝ้าดูคุณอยู่ตลอด ตลอดเวลาเลย ฉันยังไม่มีแฟน โคจิ: เดี๋ยวๆ รอเดี๋ยว คาโอรุ: ฉันยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย... สัตว์ที่ฉันชอบคือเสือชีต้า ส่วนอาหารฉันชอบกล้วย นักดนตรีที่ชอบ มีหลายคนเลย ควรเริ่มจากคนไหนก่อนดี...
เป็นใครอยู่ๆ มีผู้หญิงมาบอกว่าตัวเองยังไม่มีแฟน ก็คงตกใจไม่น้อย (ส่วนตัวก็อยากให้มีคนมากบอกแบบนี้กับตัวเองมั่งนะ เหอะๆ) แม้จะยังงงๆ โคจิก็เช่นกัน แต่ก็นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งสองรู้จักกัน หลายคนคงจะคิดว่าเนื้อเรื่องต่อจากนี้คงจะเป็นรักเศร้าเคล้าน้ำตา แบบพระเอกนางเอกรักกัน แต่มีโรคร้ายเป็นอุปสรรค ก็อาจจริงส่วนหนึ่ง แต่ดูเหมือนสิ่งที่หนังเรื่องนี้ต้องการเน้นมากกว่าก็คือ ความฝัน

ความสัมพันธ์ของโคจิและคาโอรุนั้น ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องของความรักเท่านั้น แต่ทั้งสองเป็นเสมือนส่วนเติมเต็มให้กันและกัน โคจิทำให้คาโอรุได้สัมผัสกับชีวิตอีกแบบที่ไม่เหงาโดดเดี่ยวเหมือนเคย ขณะที่คาโอรุเองก็แสดงให้เห็นว่าถ้าเรามีฝัน อะไรก็ทำได้ การได้รู้จักกับคาโอรุ ทำให้โคจิรู้สึกว่าที่ผ่านมาตัวเองทำตัวไร้สาระมาโดยตลอด เมื่อเทียบกับคาโอรุที่แม้จะเผชิญกับโรคร้าย แต่ก็ไม่เคยละทิ้งความฝันที่จะร้องเพลงให้คนอื่นฟัง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โคจิค่อยๆ เปลี่ยนตัวเอง
ถ้าเที่ยงคืนคือช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุด Midnight Sun ก็คงหมายความ แม้ในช่วงเวลาหรือสภาพที่แย่ที่สุด เราก็ยังมีแสงแห่งความหวังจากพระอาทิตย์ตอนเที่ยงคืนที่คอยผลักดันให้ชีวิต เราก้าวไปเสมอ คาโอรุเองแม้จะไม่สามารถเจอแสงอาทิตย์ได้ แต่ก็มีโคจิ พ่อแม่ เพื่อน รวมถึงการได้ร้องเพลง เป็นเสมือนแสงอาทิตย์ในชีวิต ซึ่งทำให้ชีวิตเธอมีความสุข และไม่รู้สึกว่าเธอ ต่าง จากคนอื่น
เอา เป็นว่าช่วงนี้ใครว่างๆ ก็แนะนำหนังเรื่องนี้แล้วกัน หนังอาจไม่ได้สาระจ๋า ดูแล้วต้องขบคิดหลายตลบ หรือเศร้าน้ำตาไหลพรากๆ แต่เป็นหนังดูแล้วมีความสุข แถมยังน่ารักและ ซึ้ง ชะมัด ทั้งยังอาจเสริมกำลังใจตัวเองได้ด้วยอีกต่างหาก ใครอยากดูก็หาในเน็ตพวก Mthai ก็เห็นมีอยู่ หรือจะแบบแผ่นก็ไม่น่าจะหายาก เพราะเคยเข้าฉายในไทยมาแล้ว
ป.ล. ยูอิ (YUI) ที่เล่นเป็นคาโอรุ ตัวจริงเป็นนักร้องด้วยนะ และเป็นนักร้องที่เติบโตมาจากการเล่นดนตรีข้างถนน แถมยังแต่งเพลงเอง เหมือนคาโอรุอีกด้วย เพลงประกอบเรื่องนี้ยูอิก็แต่งเอง เพราะด้วย ที่สำคัญน่ารักมาก (เพื่อนนางเอกก็น่ารักเช่นกัน)
ป.ล.2 หนังเรื่องนี้มีเป็นเวอร์ชั่นซีรี่ส์ด้วย ชื่อเดียวกันเลย แต่ยังไม่ได้ดูเลย เลยไม่รู้ว่าสนุกหรือเปล่า
| Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2554 |
| Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2554 20:03:01 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 3627 Pageviews. |
|
 |
|
|
| โดย: Ame IP: 219.127.90.115 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:8:42:36 น. |
|
| |
|
| เซียวเล้ง |
 |
|
|
 |
|
อาจเป็นเพราะมีเวลาแสดงได้นานกว่า
โครงเรื่องคล้ายกัน แต่ในรายละเอียดต่างกันค่ะ
อย่าลืมหาแบบซีรีย์มาดูให้ได้นะคะ แล้วจะติดใจค่ะ ประทับใจมากๆค่ะ