► ►► ..เ ป็ ด ส ว ร ร ค์ อิ น มั น ไก่ ม า ก ต อ น ที่ 1 " . . ◄ ◄ ◄
มาจะกล่าวบทไปถึง “ มัน ไก่ มาก” เทศกาลดนตรีฤดูฝนที่นำผู้คนจำนวน 22,000 คน
มาตากแดดตากฝนที่เขาชนไก่ จ.กาญจนบุรี การที่คณะชาวตะลอนทัวร์เรา
อันประกอบไปด้วย พี่หนุ่ย,พี่โจน,เว็มมี่,อุ๊,และตัวผม หอบสังขารมางานนี้
ก็ได้ทำการเตรียมการณ์ล่วงหน้าเป็นเดือนๆ เว็มมี่ ถึงกับลงทุนเดินทางมาจากเชียงใหม่กันเลยทีเดียว
ออกตัวไว้ก่อนว่า เนื่องจากข้อจำกัดบางประการ ทำให้ทริปนี้ ภาพน้อยมากนะครับ
ข้อจำกัดที่ว่าก็คือ ถ่ายภาพไม่ได้ครับ ฝนมันตก สงสารกล้อง
นัดเว็มมี่ที่จุดลงรถเวลาเจ็ดโมงเช้า พอหกโมงครึ่ง เว็มมี่โทรมาบอกว่าถึงแล้ว
ส่วนผมนั่งดูการ์ตูนอยู่ห้องด้วยความชะล่าใจ ก็เลยตกลงใจว่า ไปเจอกันที่จามจุรีสแควร์
ตรงโรงแรมที่พี่หนุ่ยกับพี่โจนพักเลยละกัน
ราวเกือบแปดโมง เห็นน้องเดินอยู่ในตึก หาทางออกมาไม่ได้ ทางออกโดนกั้นเชือก
เลยแนะนำชักชวนน้องในทางที่ผิด ให้มุดเชือกออกมาเลย สุดท้าย ก็ออกมาจนได้
เดินหาโรงแรม เห็นป้าคนนึงถามเราว่าจะไปไหน เราบอกไปโรงแรมชื่อนี้ ป้าบอกให้นั่งวินลูกชายแกไปดิ
แต่ลูกชายค้าบอกว่า โรงแรมที่ว่า มันอยู่ซอยข้างหน้านี่เอง เดินไปไม่ถึงสิบเก้า
เราปล่อยให้สองแม่ลูกถกเถียงกันต่อไป เดินไปหาสองพี่หนุ่ยและพีโจนที่ โรงแรม
.
.
.
.
เจอพี่หนุ่ยกำลังทำงานหงึกๆ และพี่โจนที่ชักชวนให้เรากินแจ่วบอง
ซึ่งได้รับการยืนยันมาแล้วโดยตัวพี่โจนเอง ว่าอร่อยมาก และที่มากอีกอย่างก็คือกลิ่นของมัน
เป็นที่น่าฉงนให้แขกที่จะเข้ามาพักคนต่อไป ว่ามีศพใต้เตียงหรือไรหนอ?
หวังว่า คงจะมีระบบกำจัดกลิ่นที่ดีกันนะครับ โรงแรมครับ
รออุ๊ อุ๊จะมา ตอนสิบโมง
พี่หนุ่ยบอกข่าวดี พาหนะที่จะนำเราไปยังกาญจนบุรี ขณะนี้ แอร์เสีย
ฉะนั้น เราทั้งหลาย จะต้องพากันโอเพ่นแอร์ไปถึงนู้นกันเลยทีเดียว
เราต่างเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันว่า นั่นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
เรามันขาลุยกันอยู่แล้ว
ซื้อเสื้อที่ใช้ใส่ในงานมา พี่โจนใส่ไม่ได้ ตัวมันเล็กเกิน
เป็นเสื้อขนาดใหญ่ที่สุดที่เขาผลิตที่เล็กเกินไปสำหรับพี่ผม
อุ๊มาแล้ว
อุ๊ที่หัวเราะร่วนได้ทุกๆสามนาที
.
.
.
.
ออกเดินทาง ฟ้าดูจะเป็นใจสำหรับทริปนี้ แต่คาวมชื้นสัมพัทธ์สูงพอสมควร
เป็นที่คาดเดาได้ว่า ฝนจะตกแน่ๆ
สตาร์ทรถ เปิดแอร์
เฮ่ย แอร์เย็นเชียว แสดงว่าใช้ได้แล้ว
วิ่งต่อไปถึงแถวศาลายา แอร์ดับ นั่นไง โอเพ่นแอร์ทำงานทันที
วิ่งไป ผมปลิวไป เป็นที่สุนทรีย์แก่ผู้พบเห็นมากเลยทีเดียว
ถึงนครปฐม ไฟอะไรไม่รู้ ขึ้นมาเตือนเยอะแยะไปหมด เลยต้องพากันแวะปั้ม
คาดว่าพาหนะของเรา มันคงจะกระทำกาลกิริยาเสียแล้วกระมัง
.
.
.
.
.
.
.
ระหว่างที่รอ ผู้คนมากมายแต่งกายคล้ายทหาร ก็ผ่านหน้าผ่านตาเราไป บ้างมาเป็นคู่
บ้างก็มาเป็นกลุ่มก้อนท่าทางปรองดอง หลังจากเติมน้ำมันเครื่องไปสองกระป๋อง
เราทั้งหลายก็ตกลงใจกันว่า จะขับไปให้ถึงบ้านโป่งและไปหาเฮียเม้งกัน
เฮียเม้งในที่นี้ คือใครคนหนึ่งที่ท่าทางจะเป็นที่พึ่งพิงให้เราได้มากที่สุดหลังจากอุ๊ได้พยายาม
โทรไปให้ทางบ้านเตรียมรถไว้ให้เรายืม แต่รถที่บ้านอุ๊ก็กำลังอาการโคม่าอยู่เหมือนกัน
พี่หนุ่ยโทรฯหาเฮียเม้งจำนวนหลายรอบ แต่เฮียเม้งไม่รับ
ไม่เป็นไร เฮียเม้งไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวพวกเราจะบุกจู่โจมไปถึงบ้านเฮียเม้งแบบ
ไม่ให้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว
นั่งรอ
.
.
.
.
ระหว่างที่ขับรถไปบ้านเฮียเม้ง ก็มีควันเข้ามาในรถ
ควันครับพี่น้อง ควันจริงๆด้วย พวกเราพากันตื่นเต้นกับควันที่เข้ามาในรถมาก
ไฟจะลุกพรึ่บแบบในข่าวไหมหวา ฮ่าๆๆ
ไปถึงบ้านโป่ง ถึงบ้านเฮียเม้ง เราพยายามตะโกนเรียกหาเฮียเม้ง
เฮียเม้งหาย!
ไม่มีใครอยู่บ้านเฮียเม้งเลย
ซักครู่ เฮียเม้งก็โทรมาฯ แกคงจะดูลาดเลาอยู่แถวๆนั้นล่ะมั้ง
เปล่าหรอก แกไปหาข้าวกิน เพราะเราไปถึงแถวนั้น ก็เที่ยงๆเข้าไปแล้ว
เฮียเม้งใจดีสมเป็นเฮียเม้ง ทีแรกตั้งใจจะมาฝากรถ แล้วก็เช่ารถขับไปกาญจน์
แต่เฮียบอกไม่ต้อง เดี๋ยวให้ยืมรถ เราทั้งหมด อยากจะกระโดดกอดเฮียเม้งมากๆ
แต่ก็เกรงใจว่าแกมีเมียแล้ว เราก็เลยได้ซีวิคสามประตูขับไปกาญจนบุรีกันในวันนั้น
แต่ในขณะที่เราพากันดีใจอยู่นั่นเอง เหมือนพายุงวงช้างเข้าโจมตี
รถคันนี้ มันเล็กกว่าพาหนะคันเก่าของเรามากโขและแต่ละคนก็ขนของมากับตัว
ไม่ใช่น้อย
ราวกับจะไปโจมตีเมืองพระเจ้าอังวะยังไงยังงั้น
ต้องจำใจ ทิ้งสัมภาระบางส่วนไว้ในรถคันเดิม ขนไปเฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้น
.
.
.
.
รถคันเล็ก แต่คนตัวใหญ่ พาเรามุงหน้าไปยังกาญจนบุรี
ในที่สุด ก็ถึงจุดที่เขาแจกแผนที่สำหรับเข้างาน เป็นจุดที่มีหลักกิโลอันใหญ่ๆ
ก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึกใจตามสะดวก
ข้างในมีน้ำนั่นนี่หลากหลายชนิดขาย
พี่หนุ่ยแวะซื้อน้ำเห็ดสามอย่าง ซึ่งไม่บอกว่าเห็นอะไรบ้างมาด้วย
คนขายหยิบให้โดยเข้าใจว่าเป็นน้ำเสาวรส
น้ำเห็ดสามอย่าง มีคุณสมบัติคือ ทำให้อุ๊ปากชา จนต้องกินยาแก้แพ้
ที่สำคัญคือเราไม่รู้ว่าอุ๊แพ้เห็ดอะไรในสามอย่างนั้น
เพราะเราไม่รู้ ว่าเห็ดสามอย่างนั้น มันคือเห็ดอะไรบ้าง?
แต่ที่แน่ๆคือ ต่อไป อุ๊ต้องหลีกเลี่ยงการกินเห็ดสามอย่างพร้อมๆกัน
.
.
.
.
ขณะที่เราเข้าใกล้เขาชนไก่เข้าไปทุกขณะ ฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี เมฆฝนตั้งเค้า
เราทั้งหลายก็มิได้นำพา ต่างก็สนทนากันเรื่องที่มาของชื่อเขาชนไก่บ้าง
ซึ่งผมเสนอว่า ที่นี่อาจจะเป็นที่ซึ่งพระนเรศวรมาชนไก่กับพระมหาอุปราช
เพื่อนๆก็พากันค้านว่า เขาชนไก่กันที่พม่าไม่ใช่หรือไง?
มันก็ไม่แน่นะที่นี่อาจจะเคยเป็นพม่ามาก่อน ประวัติศาสตร์อาจจะคลาดเคลื่อน
ใครจะไปรู้
เราคุยกันเรื่องป่าละเมาะแถวนั้นด้วยนะ
ผมเสนอว่า ป่าละเมาะข้างทางแบบนี้ น่ามาฟิจเจอรริ่งกันมากๆ
คงจะตื่นเต้นน่าดู สร้างความฮือฮาให้กับมวลชนในรถยนต์คันน้อยคันนั้นพอสมควร
.
.
.
.
.
ฝนเทกระหน่ำขณะรถติดเป็นแถวยาวเข้าเขาชนไก่
ไปถึงที่จอดรถราวๆห้าโมงเย็นกว่าๆ นั่งหงออยู่ในรถเพราะฝนตก
โชคดีที่รถเฮียเม้ง เป็นรถที่มีร่มจำนวนมากจนน่าแปลกใจ
จนป่านนี้ เราก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่รถเฮียเม้งมีร่มเยอะแยะป่านนั้น
ฝนตกหนัก ก็ถ่ายเม็ดฝนไว้เป็นที่ระลึก
.
.
.
. ผิด ตก ยกเว้น วานบอก
โปรดติดตามตอนจบ ในวันพรุ่งนี้
ลงนาม
เป็ดสวรรค์
ชายผู้คลั่งไคล้ป่าละเมาะ
Create Date : 02 กันยายน 2554 |
Last Update : 2 กันยายน 2554 16:44:45 น. |
|
30 comments
|
Counter : 1879 Pageviews. |
|
|
|
รูปประกอบ ช่วยได้มาก
แบบนี้ ก็ต้องเกาะจอ รอภาคต่อ
ฝากสะกิดพี่ด้วยนะ ตอนอัพบล็อกใหม่