เดินชมทุ่งดอกไม้ สายธาร ท่ามกลางหุบเขาน้ำแข็ง
28 กค.54 วันนี้ที่รอคอยก็มาถึง วันที่จะได้เข้าไปยลโฉมงาม The Valley of Flowers ด้วยตาตัวเอง ตื่นกันแต่เช้ามืด รับอาหารเช้าที่สั่งเตรียมไว้ั้ตั้งแต่เมื่อวาน โด๊บกันสุดฤทธิ์ ด้วยไข่ดาวคนละ 2 ฟอง ซุป 1 ถ้วย ส่วนมื้อกลางวันที่เตรียมไปกินระหว่างเดิน ไข่ต้มคนละ 2 ฟอง + ข้าวผัดคนละนิดหน่อย ครอเลสเตอรอลไม่ต้องคิดถึงเอาแรงไว้ก่อน การเดินเข้า The Valley of Flowers หรือขึ้น Hemkund Sahib จะเริ่มต้นที่แกงกาเรีย (ความสูง 3,048 เมตร) เดินออกจากหมู่บ้านไปได้หน่อยก็จะเจอทางแยก ด้านซ้ายเข้า VoF ด้านขวาขึ้น Hemkund Sahib ก่อนถึงทางแยกจะมีจุดขึ้นม้าที่ชุลมุนวุ่นวายและอบอวลไปด้วยกลิ่นขี้ม้า สำหรับคนที่จะขึ้นเฮมกุนสามารถเช่าม้าได้ตรงนี้ VoF ไม่อนุญาตให้ม้าเข้า ถ้าใครคิดว่าเดินไม่ไหวจะนั่งตะกร้าหรือเสลี่ยงเข้าไปได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเดินเข้ากันมากกว่า 95% ของคนที่มาเส้นทางนี้ขึ้น Hemkund Sahip เพราะเป็นที่แสวงบุญใหญ่ของชาวซิกส์และฮินดู เมื่อแยกเข้าเส้นทาง VoF แล้ว ก็จะเจอกับด่านที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชม ตอนนี้ไม่รู้รายละเอียดเลย เพราะก้มหน้าก้มตาเดินจนเลยเข้าไปไกล โดยไม่รู้ว่าข้างหลังเขาป่ะพ๊ะบู๊กับเจ้าหน้าที่เรื่องค่าเข้ากัน โดยมีปลาเป็นแกนนำ เราเดินไปเรื่อยๆช้าๆ (เพราะแค่เริ่มต้นก็เหนื่อยแล้ว) หยุดถ่ายรูปบ้าง แรกๆก็เห็นมีหมอต่วน นก เปิ้ล เดินอยู่ข้างหน้าเห็นหลังไวๆ แต่เดินๆสักพักก็พบว่าเดินอยู่คนเดียว ข้างหน้าไม่เห็นใคร ข้างหลังก็ไม่เห็นใคร บางช่วงจะพบกับชายสูงอายุชาวอินเดียที่ดูท่าทางจะเป็นนักพฤกษศาสตร์ ผลัดกันนำ ผลัดกันตามอยู่พักหนึ่ง ทักทายกันนิดหน่อย บางทีแกก็ชี้ชวนให้ดูดอกไม้ทีแกถ่ายรูปอยู่ แกหยุดตรงไหนก็หยุดถ่ายรูปตามแก 555 อาศัยคนมีความรู้ แต่ถ่ายอย่างเดียวไม่ได้ถามชื่อหรอก เพราะรู้ว่าถามไปก็จำไม่ได้ ใครหว่ากำลังยืนหอบแฮ่กๆ (ภาพอภินันทนาการจากน้องฝน) เส้นทางเดินเข้า VoF แรกๆจะเดินง่าย ปูด้วยหินมีรั้วกั้นด้านที่เป็นผา แต่บางช่วงรั้วก็พังไปแล้ว เดินๆไปทางเดินก็จะเริ่มยากขึ้น เป็นดินบ้าง เป็นหินตะปุ่มตะป่ำบ้าง บางช่วงทางกว้างๆเดินสบาย บางช่วงแคบมากชนิดที่ห้ามเซเด็ดขาด ถ้าเซมีหวังได้หล่นลงไปข้างล่างแน่ๆ และมีทั้งขึ้นและลงสลับกันไป ระหว่างทางจะพบกับธารน้ำตกหลายแห่ง แต่ไม่มั่นใจว่าคือสายเดียวกันหรือคนละสาย เดินได้ไม่นานก็เหนื่อยหอบแล้ว เนื่องจากอากาศเบาบางมาก และอาจจะเพราะว่าเราเลือดค่อนข้างจางด้วย ยิ่งทำให้เหนื่อยง่ายกว่าคนอื่น แรกๆเดินก็เิดินได้ระยะไกลๆถึงจะหยุดพัก ยังไม่ถึง 3 กิโล ระยะการเดินกับหยุดพักก็เริ่มสลับกันถี่ขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งเหนื่อยจนหัวใจเต้นแรงมาก เหมือนจะหลุดออกมานอกอก ปวดหน้าอกไปหมด แม้จะพยายามเดินช้าๆ หายใจลึกๆแล้วก็ตาม เดินๆอยู่พอเหนื่อยมากๆก็นึกว่า “มาทำไมว๊าตรู หาเรื่องแท้ๆ อยู่บ้านสบายๆไม่ชอบ” (แต่หาได้เข็ดไม่ 555) ยัยเป้แดง เดินไปหอบไป เมื่อเิดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ เส้นทางเริ่มสวยขึ้น น่าแปลกที่ว่าแม้เดินอยู่คนเดียวมองไม่เห็นใครเลยก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร แค่มีบ้างที่แว่บขึ้นมาว่า ถ้าเป็นลมหล่นลงไปข้างล่างนั่นจะมีใครรู้มั้ยนะ? เมื่อเดินถึงจุดธารหิมะใหญ่ๆ ตรงนี้วิวสวยมาก อากาศเย็นฉ่ำลมแรง และได้มาเจอเข้ากับพี่น้อย ตาล ฝน ได้ถ่ายรูปกันและพักเหนื่อยไปในตัว จากนั้นก็เริ่มเดินต่อไป ตรงนี้ทางเดินเริ่มแคบเข้าเรื่อยๆ ผ่านจุดที่มองแล้วรู้ว่าเคยมีหินถล่มลงมา ต้องรีบๆเดินกลัวว่าจะหล่นลงมาอีก บางช่วงต้องเดินผ่านหิมะผืนใหญ่ที่ทับกันแน่น แต่ข้างล่างละลายเป็นธารน้ำ น่ากลัวว่าหิมะมันจะถล่มลงไปเหมือนกันนะ ดอกไม้สองข้างทางเริ่มหนาตาขึ้น ทำให้อุ่นใจว่าน่าจะเข้าใกล้ VoF แล้ว เมื่อเดินพ้นเนินสูงไป ก็เห็นหินก้อนใหญ่ตะหง่านอยู่ข้างหน้านั่น เกือบแล้วอีกนิดเดียวจะเข้าเขต VoF แล้วเรา จากด่านเก็บเงินถึงปากทางเข้าระยะทาง 3 กม. และจากปากทางเข้าจนถึง ธารน้ำแข็งข้างในสุด ระยะทาง 4 กม. นั่นหมายความว่า วันนี้เราจะต้องเดินไปและกลับ 14 กม. แต่คนพื้นเมืองบอกว่า จากธารน้ำแข็งเดินต่อเข้าไปอีก 5 กม. จะยิ่งสวยมากกว่านี้ (เฮ้อ แล้วจะมีปัญญาเดินเหรอ แค่นี้ก็เดี้ยงแล้ว) หินก้อนใหญ่ปากทางเข้าเขต VoF ทางเดินใน VoF ช่วงนี้สบาย The Valley of Flowers Nation Park เป็นหุบเขาที่ทอดตัวจากทิศตะวันออก ไปทิศตะวันตก ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงที่ระดับความสูงตั้งแต่ 3,400 – 6,700 เมตร ทางทิศเหนือ ชื่อ Nilgiri Parvat ( 6,479 เมตร) ทิศตะวันออก Rataban Parvat ( 6,126 เมตร) และ Gauri Parvat ( 6,708 เมตร ) ทิศตะวันตก Kunt Khal (4,430 เมตร) ทิศใต้ Saptashinga (5,038 เมตร) ซึ่งกั้น VoF กับ Hemkund ที่ปลายสุดทางตะวันออกซึ่งก็คือกิโลที่ 4 ภายใน VoF จะมีธารน้ำแข็ง (Garcier) ใหญ่ ชื่อ Tipra ซึ่งละลายมาเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่าน VoF ชื่อว่า แม่น้ำบุปผาวตี Pushpawati แปลว่า River of Flowers รายละเอียดอื่นๆของ VoF อ่านได้จากที่นี่ นับถอยหลังสู่ Valley of Flowers ดินแดนในฝัน Blue Poppy ที่ได้ชื่อว่า Queen of The Himalayan ทางเดินภายใน VoF ค่อนข้างราบ ไม่สูงมาก พื้นปูด้วยหินก้อนใหญ่น้อยสลับกันไป บางช่วงก็เรียบๆเดินง่าย บางช่วงก็เกือบทำข้อเท้าพลิก ขอแนะนำว่าใครที่จะมาควรใส่รองเท้าพื้นที่หนาและแข็งพอสมควร และหุ้มข้อด้วยก็น่าจะเซฟกว่า VoF มีลักษณะเป็นหุบเขา มองไปรอบตัวมีภูเขาอยู่ล้อมรอบ หมอกหนาบางสลับกันไต่อยู่บนยอดเขาบ้าง ต่ำลงมาบ้าง ไกลออกไปเป็นภูเขาสูงภายใต้หมวกหิมะขาวโพลน อากาศเย็นสบาย สดชื่น บางช่วงฟ้าก็เปิดให้พอได้ดีใจเริงร่าถ่ายรูปกัน ความสวย สงบ ของหุบเขาดอกไม้ ทำพวกเราหายเหนื่อยจากการเดิน น่าเสียดายอยู่นิดตรงที่ว่า พวกเราไปเร็วไปนิดเดียว ถ้ามาช้ากว่านี้สัก 1 อาทิตย์ ดอกไม้จะบานเต็มหุบเขากว่านี้ แต่ธรรมชาติก็ยากที่จะคาดเดาได้ บางทีมาช้าเจอฝนมากดอกไม้ก็โรยรา หลายคนหลุดปากออกมาว่า คุ้มๆ คุ้มแล้วที่เดินทางมา สวยมากๆ พวกเราเดินไปหยุดถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ เราอดทนเดินจนถึงสุดทางกิโลที่ 4 ซึ่งเป็นไฮไลท์ของหุบเขาดอกไม้ เมื่อไปถึงก็บ่ายโมงกว่ายังไม่ได้กินข้าวกลางวันกัน กะว่านั่งพักกินข้าวอิ่มก็จะเริ่มบรรเลงกดชัตเตอร์ให้หน่ำใจ แต่โชคไม่เข้าข้างเรา กินข้าวยังไม่ทันเสร็จ ฝนก็เริ่มลงและหนาเม็ดขึ้นเรื่อยๆ จนต้องรีบเก็บข้าวของ เจ้าตาลก็เริ่มเตือนให้เดินออกได้แล้ว พวกเรานัดแนะกันไว้ว่าควรจะเริ่มเดินออกประมาณบ่าย 2 โมง เพราะคนที่เดินช้าจะได้มีเวลาเดินและไม่มืดกลางทาง เมื่อเราเดินกลับออกมาจวนเกือบจะถึงปากทางเข้าตรงหินก้อนใหญ่นั้น ฝนก็หยุด ฟ้าเปิด แดดออก ภาพข้างหน้าสวยงามในอีกแบบหนึ่ง ใจเราแทบอยากจะวิ่งกลับไปที่กิโลสุดท้ายเพื่อถ่ายรูปธารน้ำและดอกไม้ ซึ่งเป็นที่ที่เรามุ่งมั่นอยากมาเห็นที่สุด ถ้าแข็งแรงเดินเร็วคงเดินกลับไปแล้ว แต่เพื่อนๆกลุ่มที่เดินเข้าไปถึงทีหลัง ได้มีโอกาสถ่ายรูปตอนแดดออกพอดี โชคดีจริงๆ ตอนเดินกลับออกมาด้วยความที่เดินช้า ก็โดนรั้งท้ายอยู่คนเดียวอีกตามเคย (กลุ่มหลังยังไม่ตามออกมา) แต่สุดท้ายก็ไปเจอฝน ตาลและม่าน นั่งพักกันอยู่ตรงธารหิมะ คราวนี้เลยมีเพื่อนเดินลง เพราะทุกคนเห็นสภาพเราแล้วคงไม่กล้าทิ้งไว้คนเดียว ตาลกับฝนคอยช่วยผลัดกันโด๊ปกลูโคสเป็นการใหญ่ ส่วนม่านก็คอยให้กำลังใจอยู่ตลอด หลังๆเจ้าตาลคงดูท่าเราแย่มากๆแล้ว ก็เลยเอา daypack ของเราไปถือให้ เอาไม้เท้าของตัวเองมาให้เราอีกข้าง ซึ้งใจน้ำใจน้องๆและเพื่อนจริงๆ ไปเที่ยวคราวนี้เราได้พบน้ำใจ ความเอื้ออารีย์ของทุกๆคน ทั้งๆที่แต่ละคนรู้จักกันมาน้อยมาก บางคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แต่มีน้ำใจเื้อื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือกัน ประทับใจทุกคนมาก (ตอนนี้คิดถึงทุกคนมากค่ะ) เราเดินกลับออกมาถึง รร. ราว 5 โมงเย็น(ถ้าจำไม่ผิด) พอถึง รร. เปิ้ล แหม่มที่ถึงก่อนแล้ว เห็นหน้าก็ทักว่า หน้าซีดมากกกกก พวกเรานั่งพัก สั่งชามากิน เพื่อนั่งรอพวกที่เหลือ กะว่ากินอาหารเย็นให้เรียบร้อย ค่อยขึ้นไปอาบน้ำนอนเลยทีเดียว ไม่มีแรงขึ้นๆลงๆอีกแล้ว ประมาณ 1 ชม.หลังจากนั้น กลุ่มหลังก็กลับมลงมาครบทุกคน คืนนั้นก่อนนอน สารพัดยาแก้ปวดเมื่อย แก้ไข้ ทั้งทาและกิน อัดกันสุดๆ ตอนหน้า Hemkund Sahib : The Paradise on earth ติดตามการเดินทางสู่ The Valley of Flowers ได้ตามนี้ เกริ่นนำ นับถอยหลังสู่ Valley of Flowers ดินแดนในฝัน ตอนที่ 1 จาก Delhi ถึง Haridwar เส้นทางเริ่มต้นสู่ The Valley of Flowers ตอนที่ 2 Joshimath ถึง Ghangaria เมืองสุดท้ายก่อนถึง Valley of Flowers ตอนที่ 3 เดินชมทุ่งดอกไม้ สายธาร ท่ามกลางหุบเขาน้ำแข็ง ตอนที่ 4 Hemkund Sahib : The Paradise on Earth ตอนที่ 5 (จบ) สุดท้ายของการเดินทาง ใครที่ไม่เห็นรูป ลองรีเฟรชหลายๆครั้งนะคะ
Create Date : 09 สิงหาคม 2554
Last Update : 1 กันยายน 2554 8:29:50 น.
7 comments
Counter : 3764 Pageviews.
โดย: Jolly Joey วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:18:06:01 น.
โดย: Cookie Nim วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:18:07:41 น.
โดย: Gunpung วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:19:12:20 น.
โดย: พี่อ๋อย IP: 118.173.17.247 วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:19:28:51 น.
โดย: Cookie Nim วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:20:07:18 น.
โดย: นภาวรรณ ชื่นชม IP: 125.27.18.30 วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:4:37:48 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 71 คน [? ]
ขอสงวนสิทธิ์ภาพถ่ายทุกภาพในบล็อคนี้ มีหลายๆคนสงสัยว่าทำไมต้อง Cookie Nim (คุกกี้นิ่ม) ที่มาของชื่อนี้มาจากชอบกิน soft cookie มาก หัดทำขนมใหม่ๆก็เริ่มจากเจ้านี่แหละ พอมาเล่นเนทนึกชื่อไม่ออก ก็เลยใช้ คุกกี้นิ่ม ตั้งแต่นั้น หลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำให้มีเวลาว่างทำอะไรๆที่ชอบมากขึ้น ทำขนม ทำสบู่ และทำงานฝีมือ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ชอบนั้นจะไม่ก่อให้เกิดรายได้เท่ากับเงินเดือนที่เคยได้ แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณคนเดียวของเรา ซึ่งก็คือ"คุณพ่อบ้าน" นั่นเอง สำหรับเพื่อนๆที่อยากได้ภาพ หรือบทความในบล็อกนี้ไปใช้ในทางบริสุทธิ์ใจ เช่น อยากนำไปตกแต่งบล็อคของคุณ หรือสูตรขนมไปทำแล้วเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้หาผลประโยชน์ส่วนตน จขบ.ยินดีค่ะ รบกวนแค่อ้างอิงแหล่งที่มาสักหน่อยเท่านั้น
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
พี่ตุ๊กเก่งจริงๆ