|
|
|
| | 1 |
| 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
| 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
| 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
| 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
| 30 | 31 | |
|
 |
|
|
การเลือกประเภท hosting ให้เหมาะกับ website ของเรา |
|
เชื่อว่าหลายๆ คนอยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง บริษัทอยากมีเว็บเพื่อโปรโหมตและแนะนำบริษัท ร้านค้าอยากมีเว็บเพื่อเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ค่ายเพลงอยากมีเว็บเพื่อรับสมัครศิลปินและเปิดให้ดาวน์โหลดอัลบั๊มเพลงต่างๆ ส่วนบุคคลธรรมดาอยากมีบล๊อกเกี่ยวกับสิ่งที่สนใจเช่นการทำอาหาร และการท่องเที่ยว เป็นต้น จะเห็นว่าคนในทุกวงการล้วนอยากได้ website เพื่อใช้งานกันทั้งนั้น
หากคุณอยากจะมีเว็บไซต์นอกจากการเขียนเว็บแล้วคุณต้องหาที่อยู่ให้เว็บเพื่อให้ website ของคุณสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่และทุกเวลา บริการให้เช่าพื้นที่สำหรับทำเว็บไซต์บน server นี้ถูกเรียกว่า hosting โดยทั่วไปเมื่อคุณเช่า host นอกจากการฝากข้อมูลเว็บไซต์แล้ว คุณยังสามารถฝากไฟล์รูป ไฟล์อื่นๆ ฐานข้อมูล และอีเมลได้อีกด้วย
หากคุณทำ dynamic website ซึ่งคือเว็บที่มีการอัพเดทข้อมูลต่างๆ ตลอดเวลาผ่านระบบหลังบ้าน ซึ่งต่างจาก static website ที่แสดงข้อมูลแบบเดิมซ้ำๆ ตลอดเวลา คุณจำเป็นต้องเลือกใช้บริการ web hosting ที่มี database มาให้ เพื่อที่จะได้จัดเก็บข้อมูลใหม่ๆ ในฐานข้อมูลและดึงข้อมูลมาแสดงผล ส่วนจะเลือก Linux hosting หรือ Windows hosting ขึ้นกับภาษาที่เลือกใช้เป็นหลัก หากพัฒนาเว็บด้วย PHP คุณควรใช้ Linux แต่หากพัฒนาเว็บไซต์ด้วย ASP.NET คุณจำเป็นต้องเลือกใช้ระบบ Windows เพื่อรองรับกับภาษาที่พัฒนา
นอกจากระบบ OS ของโฮสติ้งแล้วยังมีประเภทของ hosting ที่คุณต้องเลือกให้เหมาะสมกับเว็บของคุณอีกด้วย เพราะหากเลือกไม่เหมาะสมเว็บของคุณจะใช้งานได้ไม่ราบรื่น คนเข้าเว็บของคุณจะไม่ประทับใจ หลักการเลือกเว็บโฮสติ้งมีดังนี้
1. หากคุณพึ่งทำเว็บได้ไม่นาน คนคงยังไม่เข้าเยอะ ลักษณะเช่นนี้คุณควรเลือกใช้ shared hosting ซึ่งเป็นประเภทโฮสติ้งที่แบ่งการใช้งานกับลูกค้าคนอื่นใน server เดียวกัน ที่ให้เลือกประเภทนี้เพราะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว และยังเป็นประเภทของ hosting ที่ประหยัดที่สุดอีกด้วย
2. หากเว็บของคุณเป็นเว็บพิเศษที่ shared hosting ไม่รองรับเนื่องจากติดข้อจำกัด ตัวอย่าง เช่นเว็บฝากไฟล์ เว็บฝากรูป เว็บดูหนังออนไลน์ เว็บสอนพิเศษออนไลน์ เว็บให้บริการสร้างบล๊อกฟรี เป็นต้น เว็บไซต์เหล่านี้คุณจำเป็นต้องเช่า VPS เพื่อใช้งาน วีพีเอส หรือ Virtual Private Server เป็น server เสมือนที่ถูกแบ่งจาก server จริง (physical server) ด้วยเทคโนโลยี virtualization ด้วยความที่เป็น virtual server ทำให้ VPS ไร้ข้อจำกัดในการพัฒนาเว็บไซต์ อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าการเช่า server ทั้งเครื่องอีกด้วย
3. เมื่อเว็บคุณดังมากๆ มีคนเข้าใช้งานเยอะมากๆ เช่นหลักหมื่นคนต่อวัน หรือมีคนเข้าใช้งานพร้อมกันเยอะๆ โฮสติ้งประเภทอื่นๆ คงไม่รองรับความต้องการของเว็บของคุณอีกแล้ว ในกรณีนี้คุณต้องเช่า server ทั้งเครื่อง ซึ่งเรียกบริการแบบนี้ว่า dedicated hosting หรือ private hosting จริงๆ เมื่อคนเข้าใช้งานเว็บเยอะๆ คุณอาจจะลองใช้บริการ VPS ดูก่อนว่ารับไหวไหม ถ้าไม่ไหวค่อยขยับมาใช้ dedicated server เผื่อจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้บ้าง dedicated เป็นประเภท hosting ที่เสถียรที่สุด แรงที่สุด แต่ก็แพงที่สุดเช่นกัน ใช้บริการนี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
จริงๆ แล้วนอกจากการเช่า web hosting และเขียน script สำหรับ website แล้วคุณต้องจดโดเมนด้วยซึ่งการจดโดเมนจะทำให้คุณมีชื่อเว็บที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกับใคร และยังทำให้ผู้ใช้งานยังสามารถเปิดและค้นหาเว็บของคุณได้ง่ายผ่านชื่อเว็บไซต์ ไม่ต้องจำเลข IP ซึ่งจำยากกว่า คุณควรตั้งชื่อโดเมนให้จำง่าย อ่านง่าย และสอดคล้องกับธุรกิจหรือบริการของคุณ
สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณจะเลือก hosting ระบบใดและประเภทใดก็ตาม คุณต้องเลือกใช้ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเปิดใช้งานได้ราบรื่นตลอดเวลา บริการหลังการขายก็สำคัญไม่แพ้กันคุณต้องเลือกผู้ให้บริการ web hosting ที่ติดต่อง่ายและชำนาญในการแก้ไขปัญหา หากบริการตลอด 24 ชั่วโมงยิ่งดี จะได้แก้ไขปัญหาได้ทันเวลากรณีที่เว็บของคุณมีปัญหาเช่นโหลดช้าหรือเข้าไม่ได้
| Create Date : 18 สิงหาคม 2563 |
| Last Update : 18 สิงหาคม 2563 21:38:51 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 774 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
