Group Blog
กรกฏาคม 2562

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ทนายอ้วนพาเที่ยว - ตามรอยละคร "กรงกรรม" - ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
สถานที่ท่องเที่ยว : ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์, นครสวรรค์ Thailand
พิกัด GPS : 15° 53' 57.26" N 100° 18' 31.93" E






 
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งต่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว  “รองบ๊วย”  ที่ได้ไปตามรอยละคร  “กรงกรรม”  มาครับ 
 
 




ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง  อ.ชุมแสง  จ.นครสวรรค์
 



 

ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง  ตั้งอยู่ที่ปากคลองจระเข้เผือกทางต้านทิศใต้  บริเวณสุดเขตตลาดชุมแสงทางที่จะไปตำบลฆะมังครับ
 
 
ได้เล่าให้ฟังในบล็อก 
“ตลาดเก่าชุมแสง”  แล้วนะครับว่าชุมแสงเริ่มเป็นชุนชนริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตกที่คึกคักมาตั้งแต่ปี  2446   มีคลองจระเข้เผือกกับคลองระนงเชื่อมต่อถึงกัน แล้วยังมีน้ำยมไหลมาบรรจบแม่น้ำน่านที่ตำบลเกยไชยทางใต้ตัวอำเภอเลยทำให้อำเภอชุมแสงได้ชื่อว่าแหล่ง   “น้ำไหลทรายมูล”  จนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวเปลือกจากปากน้ำโพ  พิจิตร ไล่เรื่อยลงไปยังชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง กระทั่งถึงกรุงเทพฯ  มีเรือยนต์โดยสารเขียว-แดง ขึ้นล่องกรุงเทพ – ชุมแสง  ใช้เวลาเดินทาง  2 วัน 1 คืน  นอกจากการค้าขายข้าวเปลือก  ชุมแสงยังมีเรือยนต์ลากซุงจากภาคเหนือตอนบนเพื่อนำมาเข้าโรงเลื่อยในกรุงเทพ  ดังนั้นเหล่าพ่อค้าจึงมักเลือกพักแรมกันที่ชุมแสงเพราะมีทั้งโรงแรมเรือนไม้  ร้านค้าขาย  หรือแม้กระทั่งโรงหนังให้ความบันเทิง

 
และเมื่อมีการตัดเส้นทางรถไฟสายเหนือและสถานีรถไฟชุมแสงเมื่อปี  พ.ศ. 2458  ทำให้มีคนจีนจำนวนมากเข้ามารับจ้างทำงานเป็นกุลีกันมากขึ้น  เมื่องานแล้วเสร็จก็คงปักหลักค้าขายอยู่รอบๆสถานีรถไฟ กลายเป็นต้นกำเนิดของคนแซ่จึง แซ่เอี้ย ที่ขายของกินของใช้ แซ่แต้ แซ่ฉั่ว แซ่เอง ขายทองกับเสื้อผ้า แซ่กัวขายกาแฟ คนแซ่โง้วขายยาในชุมแสง

 
ชาวจีนมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่พิ่งทางใจให้สักการะบูชาโดยเฉพาะศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ (บ๊นเถ่ากง-ม่า) จะมีปรากฎทุกแห่งที่ชาวจีนทำมาค้าขายอยู่ทุกถิ่นฐาน ชาวจีนที่อยู่ในตลาดชุมแสงจึงได้สร้างศาลเจ้าเล็กๆด้วยไม้ไผ่อยู่ในบริเวณกอไม้ไผ่มีงูชุมติดกับปากคลองจระเข้เผือกด้านใต้ ชาวชุมแสงเรียกขานกันว่า "ศาลเจ้าพ่อคลองจระเข้เผือก"  โดยศาลแห่งนี้เป็นเพียงศาลาโล่งริมน้ำ  ไม่มีรูปเคารพ  มีเพียงซากหัวจระเข้ที่ชาวเรือนำมาเซ่นบูชา
 
 
ปี  พ.ศ.  2469 ได้มีการเรี่ยไรเงินเพื่อทำการบูรณะซ่อมแซมศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสงเดิม ที่ชำรุดทรุดโทรมและคับแคบ
 
“ศาลหลังใหม่เป็นอาคารโบกอิฐถือปูนแบบจีน ที่ซินแสเป็นผู้ออกแบบตามคติจีน และตั้งอยู่ถัดจากศาลหลังเดิมเล็กน้อยอย่างที่เห็นทุกวันนี้ สร้างเสร็จปีเดียวกันด้วยเงิน 1,800 บาท”






 
 




ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสงได้รับการบูรณะซ่อมแซมตลอดมา  เช่น  ในปี  พ.ศ. 2507  ได้บูรณะและขยายศาลให้มีขนาดใหญ่ขึ้น  ในปี  พ.ศ.  2522  ได้เปลี่ยนหลังคาใหม่และเทคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อสร้างความมั่นคงแข็งแรง  และในปี  พ.ศ.  2548  ได้มีการจัดสร้างเสามังกรเทพยดาฟ้า  -  ดิน  ขึ้น  โดยมีพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาธินัดดามาตุ  (พระยศในขณะนั้น)  เสด็จเป็นองค์ประธานในการเบิกเนตรมังกรเสาเทพยดาฟ้า – ดิน และสักการะเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง  ในวันศุกร์ที่  30  มีนาคม  พ.ศ.  2550








ศาลนี้มีตำนานเล่าขานกันว่า " มีขอนไม้ลอยตามลำน้ำน่าน วนเวียนทวนน้ำอยู่หน้าศาล เจ้าพ่อได้ประทับฝันให้ชาวบ้านนำขอนไม้นี้ขึ้นมาและนำไปแกะสลักเป็นองค์เจ้าพ่อ และเจ้าพ่อจะประทับในไม้แกะสลักนี้ เพื่อปกป้องภัยพิบัติให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรืองในอาชีพค้าขาย และการเดินทางด้วยความปลอดภัย "








 


ยังมีเรื่องเล่าต่อไปว่า "เจ้าพ่อได้เกิดมีความรักกับเจ้าแม่เกยไชย (เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์) เจ้าพ่อประทับทรงให้ชาวบ้านชุมแสง ไปสู่ขอเจ้าแม่เกยไชย ให้ได้แต่งงานกับเจ้าแม่เกยไชย โดยเจ้าพ่อได้ยกขันหมากทางเรือไปสู่ขอและแต่งงานกับเจ้าแม่เกยไชย และเจ้าพ่อได้รับเจ้าแม่เกยไชยเป็นเจ้าแม่ชุมแสง และชาวบ้านก็อัญเชิญเจ้าแม่เกยไชยกลับมาประทับอยู่ที่ชุมแสงกับเจ้าพ่อ และได้แกะสลักไม้เป็นองค์เจ้าแม่ขึ้นมาใหม่ คู่กับองค์เจ้าพ่อ ศาลเจ้าพ่อคลองจระเข้เผือกจึงเปลี่ยนมาเรียกขานว่า "ศาลเจ้าพ่อ - เจ้าแม่ชุมแสง" มาจนถึงทุกวันนี้
 







สำหรับอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาร นั้นที่ชาวชุมแสงประจักษ์ดีและเคารพเลื่อมใสนับถือมากๆเห็นจะเป็นเรื่อง ไฟไหม้  ครั้งหนึ่งเกิดไฟไหม้แพปั๊มน้ำมัน  "สุนทรภัณฑ์"   ขณะที่ทุกคนตกใจและชลมุลวุ่นวายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีคนเห็นว่ามีคนแก่ชาวจีนชาย - หญิงใส่ชุดขาวช่วยกันผลักดันแพที่ไฟไหม้อยู่นั้นออกไปให้อยู่กลางแม่น้ำ และใช้มือจับไฟที่ไหม้จนไฟนั้นดับลง ทำให้คืนนั้นไฟไม่ลุกลามไหม้แพชาวบ้านอื่นๆ หลังจากไฟดับลงชาย - หญิงแก่ก็ได้หายไปอย่างที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครมาจากไหน ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าเป็นองค์เจ้าพ่อเจ้าแม่ มาช่วยดับไฟให้ พอรุ่งขึ้นชาวบ้านจึงได้นำเครื่องเซ่นไหว้ไปถวายเจ้าพ่อเจ้าแม่อย่างมากมาย ยังเล่าอีกต่อว่า เจ้าแม่ชุมแสงนั้น เดิมทีเป็นเจ้าแม่ทางคนไทย เจ้าแม่เกยไชยก่อนจะมาแต่งงานอยู่กับเจ้าพ่อชุมแสงนั้นเป็นเจ้าแม่คนไทยมาก่อน ทุกๆวันชาวบ้านจะนำของเซ่นไหว้บ้าง หรือที่นำมาถวายแก้บนบ้าง ทุกๆวัน ทำให้เจ้าแม่นั้นไม่ค่อยชอบเรื่องการรับของเซ่นไหว้ แบบทางคนจีนเท่าไร แต่เจ้าแม่ชุมแสงก็ไม่ได้รับผลบุญจากการทำบุญเลย เจ้าแม่ชุมแสงจึงได้ประทับทรงบอกให้ชาวบ้าน และคณะกรรมการจัดงานเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง ช่วยทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายให้เจ้าแม่ชุมแสงบ้าง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทางคณะกรรมการจัดงานฯ จะร่วมกับชาวชุมแสง จัดงานทำบุญใหญ่ๆ ถวายให้เจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง 2 ครั้ง คือ ในวันเกิดเจ้าพ่อเจ้าแม่ ประมาณหลังตรุษจีน 15 วัน และงานวันสงกรานต์ ประมาณวันที่ 14 เมษายน ของทุกปีโดยจะมีการนิมนต์พระสงฆ์มาทำบุญที่ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง และด้วยความสามัคคีพร้อมเพรียงกันของชาวชุมแสงเป็นสำคัญ จึงทำให้ชุมแสงยังคงเป็นตลาดเก่าแก่ของภาคเหนือมาจนถึงทุกวันนี้








ในแต่ละปีชาวชุมแสงจะจัดงานสมโภชเจ้าพ่อ - เจ้าแม่ชุมแสง เป็นการจัดงานประจำปีที่ใหญ่ยิ่งของชาวชุมแสง  มีมหรสพหลายชนิดมาแสดงบริเวณงาน  การแสดงอย่างหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของการแสดงในงานสมโภชเจ้าพ่อ – เจ้าแม่ชุมแสงก็คือ 
เอ็งกอ 
 







เอ็งกอ  เป็นการแสดงที่อิงกับตำนาน "ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน" ใช้เค้าโครงจากวรรณคดีจีนเรื่อง"ซ้องกั๋ง" ซึ่งเป็นวรรณคดีร้อยแก้ว   การละเล่นเอ็งกอเป็นตอนที่ขบวนนักรบ 108 คน ที่ต่างมีวิชาความสามารถเก่งกาจกันคนละอย่าง สองอย่าง ทั้งการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ไม้พลอง มีด การดำน้ำ การเดินป่าทางไกล การรักษาโรค ฯลฯ แต่งหน้าอำพรางตนเป็นนักแสดงขี่ม้าเข้าเมือง เพื่อไปช่วยซ้องกั๋งหัวหน้าของพวกตนการเขียน หน้าเพื่อปกปิดหน้าตาและทำให้ดูน่า เกรงขามของ เอ็งกอมีการเขียนลวดลายเฉพาะคนเหมือนการสวม หน้ากากทั้ง108คนเหมือนกับการสวมหัวโขนของคน ไทยในการแสดงไม่ว่าขบวนแห่เอ็งกอจะผ่านไปทาง ไหนจะสร้างความตื่นเต้นและความประทับใจในการ แสดงนี้ไปทั่วอันเกิดจากความเร้าใจจากเสียงตีไม้ คู่ของขบวน ผู้แสดงที่วิ่ง ผ่าน ไปอย่างรวดเร็ว ส่วน "พ๊ะบู๊" เป็นการแสดงการต่อสู้ด้วยอาวุธจีนโบราณ มักจะเป็นขบวนคู่แฝดของเอ็งกอในการแห่เจ้า






 
ในละคร 
“กรงกรรม”  มีฉากที่ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสงครั้งเดียวครับ  ตั้งแต่ตอนต้นๆเรื่องเรย  เมื่ออาซาเริ่มสนใจในตัวจันตา  ทั้งสองเผอิญเจอกันที่หน้าศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง  อาซาเอาใบปลิวโฆษณาหนังที่จะฉายที่โรงหนังเรื่องใหม่ให้จันตาก่อนที่แม่ย้อยจะมาเจอก็เลยวงแตก ....
 









ในเรื่องไม่ได้พูดตรงๆว่าเป็นศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสงนะครับ  แต่ในชุมแสงก็มีศาลเจ้าแห่งนี้แห่งเดียวที่เป็นศาลใหญ่  แต่ในฉากก็ดูเหมือนว่าอะไรๆจะผิดที่ผิดทางไปซะหมด  ที่ตั้งจริงๆของศาลอยู่สุดตัวตลาดชุมแสงออกมาทางไปตำบลฆะมัง  รอบๆศาลจะมีแต่บ้านเรือนที่อยู่อาศัย  แต่ในฉากถ้ามองดีๆจะเห็นป้ายโรงแรม  ร้านขายยา  ทำให้รู้สึกว่าศาลเจ้าอยู่กลางตลาด   ถ้าไม่ได้มาเที่ยวชุมแสงก่อนดูละครคงไม่ทันสังเกต  แต่พอมาเที่ยวชุมแสงแล้วกลับไปดูละครอีกรอบเลยรู้สึกแปลกๆอ่ะครับ  คริๆๆ
 
 












 
140139138



Create Date : 22 กรกฎาคม 2562
Last Update : 22 กรกฎาคม 2562 20:39:17 น.
Counter : 1980 Pageviews.

15 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสองแผ่นดิน, คุณKavanich96, คุณอุ้มสี, คุณเนินน้ำ, คุณnewyorknurse, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณkae+aoe, คุณตะลีกีปัส, คุณSweet_pills, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณJinnyTent

  
ตามเที่ยวต่อจ้า จันตาหน้าหวานสวยน่ารักค่ะ ชอบน้องค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:53:55 น.
  
ตามรอยมาเที่ยวต่อครับ
ถ้าดูสถานที่ประกอบฉากตอนขึ้นท้ายเรื่อง ไม่มีสถานที่ที่นครสวรรค์
ส่วนใหญ่เป็นสุพรรณ นครปฐม
จากบล็อกบ้านเรือนไทย ไปพักหลายที่ก็หลับสนิทตลอดคืนครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:50:11 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:4:25:34 น.
  
แวะมาเที่ยวด้วยค่ะ
ขอบคุรนะคะ
โดย: maistyle วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:15:10:12 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
haiku Fanclub Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog

ตามน้องบอลมาเที่ยวจ๊ะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:08:47 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยคนนะคะ
แต่ไม่ได้ติดตามละครเรื่องนี้เลยค่ะ
โดย: เนินน้ำ วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:58:09 น.
  

มาเที่ยวด้วยค่ะ

******
ที่บล็อก
ตอนใหม่ไปดูก็ตื่นเต้นดี อาทิตย์ละสองวัน
พอโอเค ถ้าไปทุกวันก็เบื้อรอเหมือนกัน แต่เรียนแค่ครี่งชม. หลานสองคน บางที่เวลาไม่ตรงก้นก็ต้องรอ รวมๆก็เป็นชม.กว่าๆค่ะ
ดูไปลุ้นไปว่าทำได้แค่ไหน
โดย: newyorknurse วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:3:41:09 น.
  
มาอ่านประวัติศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสงค่ะ
ขอบคุณนะคะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:52:43 น.
  
ขอบคุณที่นำมาให้ดูกันนะคะ
โดย: kae+aoe วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:9:26:03 น.
  
สวัสดีมีสุขค่ะ

ขอบคุณกำลังใจให้เที่ยวตามใจลูก2ด้วยค่ะ

คุณทนายอ้วน ดูละครละเอียดเลยนะคะ
จึงสังเกตุเห็นว่า ศาลเจ้าอยู่ผิดที่ผิดทาง
ชอบตัวมังกรบนศาลเจ้าจัง อ่อนช้อยสวยงาม

เคยได้ยินแต่ชื่อ ไอ้ด่างเกยไชยค่ะ เมื่อนานมาแล้ว
นครสวรรค์เป็นจังหวัดที่ยังไม่เคยได้ไปเที่ยวเลย
คงต้องหาเวลาไปพักบ้างแล้วค่ะ
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:14:47:41 น.
  
เป็นแฟนละครกรงกรรมค่ะคุณบอล
ขอตามรอยคุณบอลเที่ยวด้วยคนนะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:17:14:02 น.
  
ยังไม่มีโอกาสไปเที่ยวชุมแสง ตามคุณบอลเที่ยวผ่านบล็อกไปก่อนค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:18:52:24 น.
  
ตามมาเที่ยวชุมแสงต่อค่า
เป็นไฮไลท์ของชุมแสงถ้าไปเที่ยวต้องแวะที่ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่เนอะ
โดย: JinnyTent วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:49:18 น.
  
แอบแฟนเล่นมา5ปีแล้ว
แฟนเสียใจมากจบได้แต่ก็แอบทำมาตลอง
ชื่อเฟสเเฟน Kriebgsak
โดย: bIog IP: 182.232.184.39 วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:11:43:44 น.
  
เงิน 1800 บาทสมัยโน้น ถือว่าเยอะอยู่เนาะ

ดีจัง รอบนี้มีคลิปด้วยอ้ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 กรกฎาคม 2562 เวลา:17:51:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]