กลพยาบาท จันทร์ซ่อนเงา ตอนที่ ๒ การมาของเจ้าหนุ่มกะทิง
ตอนที่ ๒การมาของเจ้าหนุ่มกะทิง

เปรี้ยง! เสียงก้องกัมปนาทของสายฟ้าฟาดทำให้หญิงสาวผวาตื่นเธอพรวดพราดลุกขึ้นนั่งหายใจหอบสั่น รีบกวาดมองออกไปนอกมุ้ง ก่อนประจักษ์แจ้งว่าเสียงลั่นสนั่นแผ่นดินนั้นเป็นเพียงความฝันที่แสนเสมือนจริง มือบางยกขึ้นเช็ดเหงื่อที่ซึมไหลตามไรผมแล้วลดมือลงแนบที่หน้าอกซ้าย หลับตาผ่อนลมหายใจช้า ๆเพื่อปรับระดับการเต้นของหัวใจที่ถูกกระตุ้นให้เต้นถี่รัวเพราะภาพฝันแสนสะพรึงจนความตื่นกลัวทุเลาลงแล้ว จึงลืมตามองเข็มนาฬิกา แล้วเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่ต้องตื่นมาทำกิจวัตรประจำวัน แต่เพราะไม่อาจหลับตาลงต่อด้วยเกรงว่าจะกลับไปพบกับดวงตาถลนโปนน่ากลัวคู่นั้นในฝันจึงมุดออกจากมุ้งแล้วจุดตะเกียงให้ห้องนอนสี่เหลี่ยมเล็กของเรือนไม้ยกใต้ถุนสว่างพอก่อนจัดเก็บที่หนอนหมอนมุ้งเข้าที่ กางโต๊ะพับขนาดเล็ก แล้วเปิดสมุดเล่มหนากับหยิบจับดินสอเพื่อทำงานที่คั่งค้างต่อ เธอเติมเต็มหน้ากระดาษเปล่าด้วยรูปวาดพันธุ์สมุนไพรเลียนแบบจากต้นฉบับจริงที่ชาวบ้านเก็บมาขายและเขียนคำอธิบายสรรพคุณทางการรักษาโรคไว้อย่างละเอียดตั้งใจใช้สมาธิทั้งหมดกับงานเพื่อดึงตัวเองให้หลุดพ้นจากความทรงจำในอดีต กระทั่งได้ยินเสียงเท้าย่ำขึ้นบันได ไหมแก้วเอ๊ยตื่นแล้วใช่ไหม ข้าเห็นแสงไฟตะเกียงวับ ๆ แวม ๆ อยู่ ยายก่าพอ เรียกหาเธอจากนอกบานประตู หญิงสาวจึงลุกขึ้นจากโต๊ะเขียนหนังสือเดินไปเลื่อนสลักไม้ประตูต้อนรับหญิงชราชาวชนเผ่าให้ก้าวเท้าเข้ามาในเรือน ครั้งต่อไป ฉันจะหาอะไรบังแสงตะเกียงไว้ยายจะได้ไม่พะวงมาคอยดูฉัน เจ้าของเรือนสาวว่าพลางเลื่อนสลักปิดประตูตามเดิม พูดอย่างกับรำคาญที่ข้ามาคอยดูเอ็งเสียอย่างนั้นหญิงชราว่าเสียงขุ่น ย่อเข่าลงนั่งขัดสมาธิ วางเชี่ยนหมากบนพื้นกระดาน ใครจะไปรำคาญยายกันฉันอุ่นใจเสียอีกที่มียายคอยเป็นห่วง คนอ่อนวัยรีบออดอ้อนเสียงหวานแล้วทำไมวันนี้ยายตื่นเช้าจังล่ะจ๊ะ ก็พวกที่พักอยู่เพิงสังกะสีมาเคาะเรียกขอยืมผ้าห่มเขาบอกว่าฝาผนังของเพิงเริ่มมีรูรั่วแล้ว พอเช้ามืดอากาศเย็น เลยกลัวลูกหลานจะเป็นไข้เอา คนฟังถอนหายใจนึกสภาพของเพิงพักอาศัยที่ชาวบ้านปลูกอยู่กันเองชั่วคราวที่เริ่มชำรุดทรุดโทรมตามเวลาและสภาพอากาศ แล้วไอ้เจ้าคนที่จะมาสร้างเรือนใหม่ให้พวกเขานั่นน่ะตกลงว่ามันจะมาหรือจริงเปล่าวะหรือว่ามันจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยที่หมู่บ้านเสียหายเพราะน้องสาวของมัน เราก็ต้องคอยดูกันจ้ะยายแต่ถ้าเพิงชั่วคราวทรุดโทรมไปมากกว่านี้ ฉันจะเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ในเมืองขอให้เขาส่งคนมาช่วย ช่วงนี้มันเป็นฤดูเลือกตั้งจะมีใครมาใส่ใจปัญหาของเรา หญิงอาวุโสบ่นกะปอดกะแปด แล้วป้อนหมากคำใหม่เข้าปากเคี้ยวหนุบหนับไม่งั้นก็ต้องให้ไปนอนตามเรือนที่ยังพอมีที่ว่าง ช่วย ๆ กันไปก่อน ก็เพราะเรือนไม้ที่สมบูรณ์อย่างเรือนของเธอและเรือนผู้ใหญ่บ้านนั้นเหลือไม่กี่เรือนนอกนั้นถูกไฟเผาทำลายในตอนที่นายพนาหัวหน้าโจรป่าส่งลูกน้องชั่วของมันมาลักพาหญิงสาวชาวเมืองที่เดินทางมาพร้อมกับค่ายอาสาของมหาวิทยาลัยหลายเดือนก่อนซึ่งก็คือน้องสาวของ คน ที่ยายก่าพอกำลังกล่าวถึง ยายก่าพอบ้วนน้ำหมากทิ้งลงกระโถนหันมาพูดเสียงขึงขังราวกับกำลังถกเรื่องปัญหาสังคม จริง ๆก็ไม่ได้อยากให้คนนอกมาช่วยเหลืออะไรหรอกนะแต่จะให้รอทางการส่งความช่วยเหลือมาก็ช้าเกินไปลำพังผู้ใหญ่บ้านของเราคงไม่มีปากไม่มีเสียงไปเร่งรัดกับใครเขา ไหมแก้วเห็นด้วยทีเดียวในเรื่องที่ไม่ได้ต้องการให้พวกเขามารับผิดชอบฟื้นฟูหมู่บ้านช้างโดยไม่เรียกเก็บค่าใช่จ่ายใดๆ ยิ่งคิดถึงแบบแปลนที่เขียนขึ้นโดยไม่ศึกษาพื้นเพความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็เกิดอาการขุ่นใจขึ้นมาในบัดดล แต่หากคิดถึงความลำบากของชาวบ้านแล้ว ก็ต้องลดอคติที่มีต่อคนคนนั้นที่เป็นถึงผู้ดำรงตำเหน่งรองประธานบริษัทชลธารคอนสตรัคชั่น เสียงโซ่ตรวนช้างดังแกร๊งกร๊างจากด้านนอกบอกให้เธอรู้ว่าเช้าวันใหม่ของหมู่บ้านช้างได้เริ่มต้นขึ้นอีกวันแล้ว และถึงเวลาที่เรือนคุณหมอแห่งนี้จะต้องเปิดให้การรักษาชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วยแต่ไม่สามารถเดินทางไปหาหมอได้ถึงตัวจังหวัดเช่นกัน ซึ่งในทันทีเธอเปิดบานประตูเรือนคนไข้หลายคนก็มานั่งต่อแถวรอกันบนขั้นบันไดกันแล้วเหตุเพราะบางคนอยู่ไกลจึงต้องเดินทางมาแต่เช้ามืดเพื่อรับการรักษา ไหมแก้วเคยเสนอความคิดเรื่องโครงการแปลงเพาะพันธุ์สมุนไพรกินเองกับนายกอ.บ.จ ท่านปัจจุบัน ทว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งเปลี่ยนสมัยโครงการของของเธอจึงถูกชะลอไว้ เพื่อรอให้รู้ว่าใครจะเข้ามารับตำแหน่งนายก อ.บ.จคนใหม่ ซึ่งคนที่ดูจะมีคะแนนเสียงไล่เลี่ยกันมากับคนปัจจุบันก็คือ เอกรัตน์อดีตชายคนรักที่เธอยกเลิกความสัมพันธ์ก่อนเข้าพิธีวิวาห์ก่อนไม่กี่วัน เหตุการณ์ช้ำรักในอดีตทำให้ไหมแก้วคิดได้ว่าอย่าได้คาดหวังกับหัวใจคนเธอจึงทุ่มเทเวลาไปกับงานดูแลรักษาผู้ป่วยและสะสมความรู้เพื่อบันทึกใส่ตำราสมุนไพรพื้นบ้านฉะนั้นการที่มีคนไข้มารอตั้งแต่เช้าจรดหัวค่ำจึงเป็นเรื่องน่ายินดี แต่สำหรับยายก่าพอนั้นไม่ได้ยินดีไปด้วยถ้าต้องเห็นเธอเปิดเรือนรับคนไข้จนดึกจนดื่น ทายาหลอดนี้หลังอาบน้ำทุกครั้งนะตาแล้วก็ต่อไปนี้ หลังฉีดยาฆ่าแมลงเสร็จ ตาต้องอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดรู้ไหม ถ้าไม่ทำอาการแบบนี้ก็จะกลับมาพอถึงตอนนั้นฉันคงต้องดุตาแน่นอน เสียงเข้มงวดขัดกับใบหน้าหวานของคุณหมอสาวแห่งหมู่บ้านช้างคงพอทำให้ชายชราที่เข้ามาขอรับการรักษาผื่นแพ้จากสารเคมีในยาฆ่าแมลงเข็ดขยาดไปได้บ้างแต่ไหมแก้วก็มิได้คาดว่าชายชราผู้นี้จะทำตามเธอได้อย่างที่กำชับเหตุเพราะชาวบ้านถิ่นนี้ยังไม่รู้จักการดูแลรักษาอนามัยของตัวเองเท่าที่ควร ปิดเรือนพักผ่อนได้แล้วมั้งวะไหมแก้วนี่มันก็ใกล้อาทิตย์ตกดินแล้ว ยายก่าพอร้องบอกพลางจัดเก็บตะกร้าหมากจนเรียบร้อย ฉันว่าจะออกไปเก็บสมุนไพรในป่าสักหน่อยอยากได้เถาย่านางสักมัดสองมัด ไหมแก้วบอกกับยาก่าพอแบบนั้น แต่ความจริงแล้วเถาหญ้านางยังมีพอให้เธอต้มน้ำไปได้อีกหลายแกลอนทว่าการหยิบยกเรื่องเก็บสมุนไพรจะช่วยให้เธอเข้าไปในเขตป่าชายหมู่บ้านเซ็งดูได้โดยไม่ต้องหาเหตุผลอื่นมากล่าวอ้าง ใกล้มืดใกล้ค่ำก็อย่าออกไปไหนไกลนักเลยพักนี้มันมีไอ้พวกนักเลงเพ่นพ่านเยอะ ถึงพวกมันจะรู้จักเอ็ง ก็อย่าไว้ใจเชียวถ้าเกิดอะไรขึ้นมันจะไม่คุ้มเสีย ฉันจะระวังจ้ะพูดแล้วก็รีบก้าวขาออกจากเรือน ลงบันไดไปสตาร์ทเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์คู่ชีพ คำว่า จะระวัง ของเธอทำให้ยายก่อพอส่ายหน้าก็ถ้าเป็นเรื่องของคนป่วยล่ะก็ คุณหมอไหมแก้วคนนี้จะเข้มงวดนักแต่ลงเรื่องของตัวเองล่ะ มักไม่คิดอะไรมากมายสักเท่าไหร่ แต่เธอก็ต้องระวังตัวตามคำเตือนด้วยเช่นกันเพราะในดินแดนตะวันตกนั้นเป็นถิ่นที่ผู้ร้ายชุกชุมเป็นทุนเดิมและดูเหมือนจะหนักขึ้นหลังจากหมดอำนาจของนายพนา ที่ฝากผลงานความเลวร้ายให้ผู้คนสาปแช่งไม่เว้นวันอย่างเช่นชาวบ้านหมู่บ้านช้างที่เดือดร้อนเพราะเรือนพักอาศัยถูกไฟเผาวอดวายเพียงแค่นายพนาต้องการชีวิตของธิดาคนเดียว ดังนั้น ชลธารคอนสตรักชั่น จึงต้องการบรรเทากรรมที่ชาวบ้านกล่าวว่ามีต้นเหตุจากธิดา นายรองประธานคนนั้นจึงได้เริ่มทำความรู้จักเธอด้วยการส่งแปลนเรือนมาให้เธอพิจารณาก่อนดำเนินการ แต่พอเธอดูแปลนแล้วก็ต้องรีบโทรศัพท์สายด่วนไปฝากข้อความให้เลขานุการของรองประธานว่าขอให้เขาเปลี่ยนแปลงแก้ไขแต่คำตอบที่ได้นั้นเป็นแค่คำพูดง่าย ๆ ว่าจะพิจารณา ซึ่งเธอก็ประกาศชัดแล้วว่าขอยืนกระต่ายขาเดียวจนกว่าเขาจะทำตามความต้องการของเธอก่อนหน้ามรสุมมาเยือน ไหมแก้วคิดเรื่องในหัวพลางขับเจ้าแก่เข้าเขตหมู่บ้านชนเผ่าแวะเด็ดช่อดอกราตรีสองสามช่อจากเรือนไม้ร้างหลังที่ปลูกอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้านจากนั้นขับตาไปจนถึงลานดินกว้างกลางป่าอันเป็นที่ตั้งอนุสรณ์สถานที่มีร่างไร้วิญญาณของหญิงชนเผ่าสองคนหลับไหลใต้ผืนปฐพี ไหมแก้วแบ่งช่อดอกราตรีออกเป็นสองช่อช่อหนึ่งวางใกล้ป้ายไม้สลักชื่อว่า นางลาโพ ทะหมุคูส่วนอีกช่อวางใกล้กับป้ายสลักชื่อว่า ดวงแข ทะหมุคูจากนั้นก็นั่งคุกเข่าประนมมือไหว้ก่อนลุกขึ้นเพื่อเดินเข้าป่าเก็บใบย่านางกลับไปเป็นหลักฐานให้ยายก่อพอดู โครม!!! แต่ในขณะที่ก้าวเดินไปตามทางมืดสลัวของป่ายามค่ำเธอก็ต้องหยุดขาชะงักเพราะมีเสียงโครมครามดังสนั่นจนเหล่านกป่าตกใจกระพือปีกออกจากที่ซ่อนตัว ซวบ!!! แล้วหัวใจของคุณหมอสาวก็แทบกระโจนออกจากอกเมื่อมีบางอย่างโผล่พรวดออกจากพุ่มไม้ อี๊ด อี๊ดอี๊ด! แต่ด้วยรูปร่างและเสียงร้องของมันทำให้มั่นใจว่าน่าจะเป็นลูกหมูป่าแต่พวกมันวิ่งหนีอะไรกันมา ทำให้ไหมแก้วนึกหวั่นใจ แกรก แกรก แกรก! เธอละความสนใจจากสัตว์ตัวน้อยกลับไปมองทางต้นเสียงประหลาดคิ้วเรียวงามขมวดเข้าหากัน จับจ้องไปยังพงต้นไม้เบื้องหน้า ตึก ตึก ตึกเคร้ง! มือบางเคลื่อนย้ายล้วงหามีดพกเตรียมพร้อมหากต้องใช้ในยามคับขัน เพราะฟังเสียงคล้ายโลหะกระทบกับผืนดินนั้นแล้วไม่น่าเกิดจากสัตว์ขนาดเล็กเธอยกมีดหันไปทางทิศของเสียง แล้วตั้งสติให้นิ่ง เฝ้ามองสิ่งที่กำลังเผยตัวออกมา ฟึ่บ!!! ฉับพลันนั้นร่างสูงใหญ่ของชายในชุดหนังสีดำก็ปรากฏกายออกจากพุ่มไม้หนา ทั่วทั้งใบหน้าและตามเนื้อตามตัวเต็มไปด้วยดินโคลนผมเผ้าสีดำสนิทยุ่งเหยิง มีรอยเลือดซึมออกจากแผลถลอกที่หน้าขมับ ดวงตาของเขาเลื่อนลอยหายใจหอบจนหน้าอกกระเพื่อมชัดเจน เพราะไม่แน่ใจว่าในจุดประสงค์ของอีกฝ่ายแขนบางจึงกระตุกมีดขึ้นในระดับเดิมอีกครั้งเมื่อเขาผู้นั้นก้าวขาเข้ามาทว่าดวงตาคมคู่นั้นอ่อนแสงแล้วทิ้งตัวล้มลงหน้าคว่ำไปต่อหน้าต่อตา คุณ...คุณคะ! ไหมแก้วรีบรุดเข้าไปพลิกร่างใหญ่ให้หงายแล้วตบแก้มเบาเรียกสติของชายหนุ่มแปลกหน้าตามจรรยาบรรณของแพทย์แต่เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเพียงเสียงครางแสนเบา เธอจึงปัดเส้นผมให้พ้นกรอบหน้าสำรวจอาการบาดเจ็บก็เห็นรอยฟกช้ำกับแผลสดที่มีเลือดซึมเพียงเล็กน้อย จึงรีบไปหยิบไฟฉายแล้วส่องหาอาการบาดเจ็บอื่นตามร่างกายจนเจอต้นเหตุที่ทำให้คนตัวใหญ่ล้มทั้งยืน เขาเหยียบแร้วดักสัตว์! เลือดสีแดงสดไหลอาบจากคมเขี้ยวของเครื่องทรมานชีวิตที่ฝังลึกลงตรงข้อเท้าเสียงครางต่ำของผู้บาดเจ็บบอกให้เธอรู้ว่าเขาเจ็บปวดมากแค่ไหนใบหน้าซีดเผือดของเขาก็ทำให้ไหมแก้ววิตกกังวล คุณหมอสาวจึงยกแขนของชายหนุ่มขึ้นพาดกับบ่าตัวเองแล้วพยายามพยุงร่างใหญ่ของเขาลุกขึ้น แต่ก็ไม่อาจต้านทานน้ำหนักตัวของเขาได้จึงทำให้ทั้งเธอและเขาล้มลงครืนไปพร้อมกัน ไหมแก้วดันร่างหมดสติของคนตัวใหญ่ที่ทาบทับบนตัวขึ้นแล้วให้เขาเอนพึงกับตัวเองก่อนเพื่อตั้งหลักคิดหาหนทางใหม่ นึกได้ว่าที่จากจุดนี้ห่างจากน้ำตกที่ควาญช้างพาช้างไปอาบน้ำไม่ไกล แต่ในยามฟ้าพลบค่ำแบบนี้ขอให้ยังเหลือควาญช้างอยู่สักคนช่วยหามเขากลับหมู่บ้าน แล้วคำขอของเธออาจถึงหูเจ้าป่าเจ้าเขาเพราะที่ตรงปลายสายตานั้น มีแสงตะเกียงอีกดวงลอยเด่นในความมืด ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย เธอจึงรีบตะโกนออกไปแล้วเฝ้ารอจนเปลวไฟตะเกียงส่องสว่างเห็นใบหน้าของควาญช้างกับลูกช้างตัวอ้วนกลมเยื้องย่างเข้ามาแล้วความวิตกทั้งหมดก็หายไปสิ้น ไหมแก้วเป่าด้วยความโล่งใจ เอ่ยบอกกับชายหนุ่มที่หมดสติไปแล้วด้วยความยินดี ดูเหมือนเจ้าป่าเจ้าเขาไม่อยากให้คุณเป็นอะไรไป นอกจากผู้เสียชีวิตรายนั้นแล้วก็ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บคนอื่นครับสารวัตร อัชวินนิ่วหน้าฟังรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาถึงเรื่องเหตุปั่นป่วนที่เกิดในงานแสดงซุปเปอร์ไบค์จนส่งผลให้ภารกิจของเขาไม่สัมฤทธิ์ผล แต่ที่ไม่มีผู้บาดเจ็บมากไปกว่านี้ก็ต้องมอบความดีความชอบให้ระพีพัฒน์ที่รายงานข่าวได้ทันท่วงที ผู้ตายคือป๋องบุตรชายของหนึ่งในสมุนโจรที่เสียชีวิตตอนบุกค่ายโจร และเราพบยาเสพติดจำนวนหนึ่งในศพนายป๋องซึ่งก็สอดคล้องกับแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลว่านายป๋องพัวพันการค้ายาผู้ใต้บังคับบัญชายังคงรายงานต่อไป แต่พอนายป๋องตาย ก็เท่ากับเราเสียเส้นทางนำจับสมุนโจรที่เหลือ สารวัตรใหญ่พ่นลมหายใจก่อนหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งยังเหลือเพลงพิณกับแม่โคโยตี้นั่นอีกคน จากข้อมูลที่สายเราได้มาประวัติเพลงพิณใสสะอาด นอกจากการวิวาทกันตามประสาวัยรุ่นก็ไม่เคยถูกจับข้อหาอะไรครับ ผู้ใต้บังคับบัญชาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าสืบจากเพลงพิณไม่ได้ก็สืบจากแม่เอื้อยนั่น สารวัตรอัชวินยังไม่ถอดใจ แต่ดูเหมือรว่าเราต้องเปลี่ยนแผนอัชวินเอ่ยกับลูกน้องหลังจากครุ่นคิดในหัว รูปถ่ายใบหนึ่งถูกหยิบออกจากซองเอกสารลับผู้ถูกถ่ายนั้นเป็นหญิงสาวรุ่นรูปร่างดีใบหน้าสะสวยเพราะการแต่งแต้มสีสันบนร่างของเธอมีแขนอวบอูมของเสี่ยเกียงโอบล้อมข้ามบ่าดูอย่างไรก็คล้ายกับชายแก่ตัณหากลับที่คิดหาความสุขทางกามารมณ์กับเมียเด็ก เราจะให้แม่เอื้อยนี่มาเป็นสายให้เราสารวัตรว่าพลางเอนหลังลงกับพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ หล่อนบุตรสาวนายอำพันนะครับผู้ใต้บังคับบัญชาจ้องมองรูปถ่ายหญิงสาวก่อนเงยหน้ามองรอยยิ้มของสารวัตรคนเก่ง เป็นลูกโจรแถมยังทำงานอย่างนั้น จะยอมให้ความร่วมมือกับเราหรือ อัชวินแย้มยิ้มใช้สองมือประสานกันที่ปลายจมูก เราจะไม่เข้าหาหล่อน แต่จะให้คนอื่นเข้าหาแทน สารวัตรหมายถึง... ระพีพัฒน์คำตอบนั้นมาจากความมั่นใจล้นเหลือ อยู่ ๆตาขวาก็ขยิบยิบ ๆ หากจะเชื่อคำกล่าวโบร่ำโบราณว่าขวาร้ายซ้ายดีก็เดี๋ยวจะหาว่าคนรุ่นใหม่อย่างเขางมงายอะไรไม่เข้าเรื่องยิ่งหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมายจากเจ้านายหนุ่มคือการวางแผนการลงทุนฉะนั้นถ้าพูดว่าตาขวาขยิบแบบนี้เห็นทีหุ้นของบริษัทที่เจ้านายของเขากำลังตัดสินใจซื้อคงไปไม่รอดอาจทำให้เขาถูกตำหนิจนลิดรอนตำเหน่งผู้ช่วยฝึกหัด กลางเป็นอะไร ทำไมเงียบไป เอ่อ...คือ... ผมกำลังคิดว่าตอนนี้ ธุรกิจค้าปลีกน่าจะปรับตัวดีขึ้นแต่ต้องรอดูนโยบายสนับสนับการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในปีนี้ว่าจะอัดงบประมาณเท่าไหร่ ถ้าอย่างนั้นเราควรชะลอการซื้อหุ้นตัวนี้ใช่ไหม เจ้านายหนุ่มถามหาคำตอบสุดท้าย ใช่ครับ ตกลงตามนั้น เมื่อได้ฟังคำตอบชัดเจนปราณนารายณ์จึงหมุนเก้าอี้หันไปทางเลขานุการคนเก่งเพื่อบอกให้หล่อนส่งคำตัดสินต่อไปยังฝ่ายวางแผนการลงทุนที่ได้ขึ้นว่าแกร่งที่สุดในประเทศระพีพัฒน์ก็เป่าปากด้วยความโล่งใจที่หาเหตุผลหน่วงการตัดสินใจได้ เย็นนี้ฉันมีนัดกินข้าวกับธิดาจะไปด้วยกันไหม ไม่ดีกว่าครับนาน ๆ พี่จะได้มีเวลากับธิดาสองต่อสอง ผมไม่กล้าไปนั่งเป็นก้างหรอก ไม่ได้ไปกันแค่สองคนตฤณก็ไปด้วย มันเป็นร้านเบียร์เยอรมันที่ธิดาเขาอยากไปดูการตกแต่งของร้านไปกันหลายคนนั่นแหละดี ไม่งั้นก้องปฐพีมันจะหาว่าฉันพาน้องสาวของมันไปมอมเหล้าเมายาไปเถอะ ฉันเลี้ยงอยู่แล้ว เอางั้นก็ได้ฮะเรื่องกินฟรี ไม่มีเกี่ยง ระพีพัฒน์ยิ้มกว้างแล้วค้อมศีรษะขอตัวแต่ยังดีใจไม่ทันได้ถึงนาทีเรื่องจะมีคนเลี้ยงเบียร์คืนนี้เสียงสายเรียกที่ดังจากสมาร์ทโฟนก็ทำให้เขาย่นคิ้วถอนหายใจเหนื่อยอ่อนหนึ่งทีก่อนกดปุ่มรับสายที่ไม่เคยคิดอยากได้ยินเสียง คิดถึงกันมั้ยเป็นคำทักทายแรกของปลายสายที่ดังเข้าหู ไม่เลยชายหนุ่มจึงเอ่ยบอกเสียงละเหี่ย อะไรกันนี่ข้าคิดถึงเอ็งนะถึงได้โทรมาหา ปลายสายเอ่ยน้ำเสียงหยอกให้ดูน่าฟัง ระพีพัฒน์กระตุกยิ้มที่มุมปากจะหลอกใช้งานผมหรือเปล่าครับสารวัตร ข้ามั่นใจว่างานนี้เอ็งต้องชอบข้าจะส่งเนื้อหางานไปทางโทรศัพท์ ถ้าเองรับก็ติดต่อกลับมาหาข้าอีกทีปลายสายหัวเราะครื้น แล้วตัดสายทันที ก็หวังอย่างนั้น ระพีพัฒน์เปรยด้วยความหงุดหงิดแต่ไม่ทันถึงนาทีดี เนื้อหางานก็เด้งเข้าสู่เครื่องรับโทรศัพท์ ปรากฏเป็นภาพหญิงสาวดวงตาหม่นเศร้า เธอชื่อเอื้อยนี่เองปากหยักคลี่ยิ้ม เปรยชื่อของหญิงสาวในรูปถ่าย แล้วกดหมายเลขของสารวัตรใหญ่ทันที เสียงสัญญาณโทรศัพท์ปลายทางดังนานเกินไปจนทำให้ผู้ถือสายรอเกิดความสงสัยหญิงสาวเจ้าของดวงตากลมสีนิลสวยจึงกดปุ่มตัดสายแล้วกดหมายเลขเดิมอีกครั้งแต่ครั้งนี้ขอตรวจสอบตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าจอให้แน่ใจว่าไม่ผิดหากแต่เมื่อแนบหูฟังสัญญาณโทรศัพท์นานสอนนาน ปลายทางก็ยังคงปล่อยให้ฟังเสียงสัญญาณนานเช่นเดิม ธิดาครับ ถ้าพี่นับไม่ผิด นั่นก็รอบที่สิบแล้วนะครับ เจ้าของชื่อเงยหน้าจากโทรศัพท์มองชายคนรักที่ส่งยิ้มละมุนมาให้ขอรอบที่สิบเอ็ดอีกสักรอบนะคะพี่ปราณ ถ้าครั้งนี้ติดต่อพี่ก้องไม่ได้จริง ๆธิดาคงต้องขอไปหาพี่ก้องที่หมู่บ้านช้าง แต่รอบที่สิบเอ็ดของเธอก็ให้ผลเหมือนเดิมจึงเป็นเหตุให้ธิดาถอนหายใจเสียงยาว เหตุเพราะว่าพี่ชายของเธอไม่เคยไม่รับสายน้องสาวแม้กระทั่งระหว่างการประชุม สายเรียกเข้าของเธอก็สำคัญเสมอฉะนั้นการที่เธอพยายามติดต่อเขาเป็นรอบที่สิบเอ็ดแล้วยังไม่รับก็ทำให้เกิดความกังวลใจเป็นธรรมดา ทานอาหารก่อนเถอะครับของโปรดธิดาไม่ใช่หรือ เดี๋ยวมันจะเย็นเสียก่อนนะ รอยยิ้มอ่อนโยนของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกผิดแล้วคิดได้ว่าในตอนนี้ เธอควรสนใจเขามากว่าตามหาตัวพี่ชายที่ขาดการติดต่อไปแค่คืนเดียวธิดาจึงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าส่งยิ้มให้แล้วหยิบช้อนส้อมขึ้นเตรียมพร้อมที่จะชิมรสชาติของเมนูโปรด ชักอยากเปลี่ยนใจไม่มานั่งเป็นก้างแล้วสิ เสียงของใครบางคนดังแทรกการประสานสายตาหวานของทั้งคู่และเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากตฤณ ผู้ที่ชื่นชอบการเย้าแหย่คู่รัก นั่งเถอะ ขอร้องผู้พูดคือปราณนารายณ์ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย ทำไมครับพี่ กลัวเมาเบียร์แล้วจะลากธิดาเข้าถ้ำเลยต้องหาคนมาห้ามใช่ไหม เอ... หรือว่าอยากได้คนยุมากกว่า คนถูกแซวไม่ตอบโต้แต่ไสเบียร์แก้วใหญ่ไปให้เผื่อว่ามีอะไรเข้าปากแล้วจะได้ช่วยหยุดวาจาไว้ได้สักสองสามนาที แล้วกลางล่ะไม่ได้มาพร้อมกันกับเธอหรือ หญิงสาวคนเดียวของโต๊ะชวนสนทนาบ้างเมื่อเห็นว่าตฤณฉายเดี่ยวผิดวิสัยของคู่หูคู่ซี้ มันเบี้ยว เห็นว่ามีงานเข้าคนตอบหย่อนตัวนั่ง มีสีหน้าขุ่นมัวขึ้นทันทีเมื่อถูกถามถึงเพื่อนสนิท ถูกสารวัตรเรียกใช้งานอีกแล้วหรือ ปราณนารายณ์ถามต่อ น่าจะใช่ แต่ดูท่าทางกระตือรือร้นผิดปกติทั้งที่รู้ว่ามีนัดกับพี่ปราณตฤณระบายความโกรธแล้วเรียกบริกรของร้านให้มาเสิร์ฟเบียร์อีกแก้วใหญ่จากนั้นยกกระดกจนชุ่มคอ แล้วค่อยเอ่ยต่อ เห็นว่าต้องไปติดต่อผู้หญิงคนที่เกี่ยวข้องกับเพลงพิณ พอได้ยินชื่อเพลงพิณ ธิดาก็ถอนหายใจถ้าไม่เกิดเรื่องยิงกันตาย ธิดาคงได้เจอแล้วก็คุยกับเพลงพิณเรื่องทุนเร็วกว่านี้ ปราณนารายณ์หันไปยิ้มปลอบใจธิดาจะได้พบเขาเร็ว ๆ นี้แน่นอนพี่คิดตอนนี้เด็กคนนั้นคงกำลังยุ่งกับการถูกสารวัตรสอบสวน อย่างน้อยเขาก็น่าจะตอบกลับจดหมายว่ายินดีรับทุนการศึกษาของชลธารคอนสตรักชันหรือเปล่าแต่หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว เอาน่ายายธิดาจะช้าหรือเร็วเธอก็ได้ตอบแทนคุณนายกำธรแน่นอน แต่ตอนนี้กินกันเถอะฉันหิวจนจะกินทุกอย่างในร้านได้แล้ว ตฤณขยี้หัวเพื่อนสาวต้องการแหย่ให้หายเศร้าพอดีกับที่สปาเก็ตตี้จานใหม่ถูกวางตรงหน้า ส่งกลิ่นหอมฉุยเรียกน้ำย่อยธิดาจึงคลี่ยิ้มยกแก้วเบียร์ของเธอขึ้นเพื่อชนกับชายหนุ่มทั้งสอง เป็นการฉลองเล็กๆ หลังผ่านความเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน แต่แม้นว่าธิดาพูดคุยกับทั้งสองอย่างสนุกสนานแต่ในใจเธอนั้นยังพะวงห่วงถึงพี่ชายคนเดียวในชีวิต ป่านนี้แล้วทำไมเขายังไม่ติดต่อกลับมา
-------------------------------- ฝากผลงานด้วยค่ะ รัก ฤดีวัลย์
Create Date : 15 ตุลาคม 2561 |
Last Update : 15 ตุลาคม 2561 19:38:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 332 Pageviews. |
 |
|