|
|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 |
| 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
| 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
| 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
| 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
 |
|
|
จุดเปลี่ยน Telco ไทย ใครไม่รวม ไปไม่รอด |
|
ปี 2564 นี้ มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในวงการโทรคมนาคมบ้านเรา เริ่มจากเปิดศักราชมา เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 บมจ.ทีโอที (TOT) และ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ได้ควบรวมกิจการกันเป็น บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT)
ต่อมาวันที่ 4 สิงหาคม กลุ่มธุรกิจด้านพลังงาน GULF ก็ได้ปิดดีลใหญ่สำเร็จ กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทางอ้อมในบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS ซึ่งมีธุรกิจดาวเทียมไทยคมในมือ แทน เทมาเสก โฮลดิ้งส์ จากสิงคโปร์ จากนั้นเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก็ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจของไทยถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากขึ้น GULF จึงมีนโยบายขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อรองรับความต้องการการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในประเทศ จึงได้จัดตั้ง 2 บริษัทใหม่ คือ บริษัท กัลฟ์ เอ็มพี1 จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และบริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด ดำเนินธุรกิจดิจิทัล
ล่าสุด ปิดดีลใหญ่ส่งท้ายปี เมื่อวันที่ 22 พ.ย. บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี กับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC ที่มีเทเลนอร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็ได้ประกาศข้อตกลงเบื้องต้นในการร่วมทุนแบบเท่าเทียม โดยจะจัดตั้งบริษัทใหม่ภายในกลางปี 2565 มีเป้าหมายก้าวไปสู่การเป็น Tech Company ด้วยการขยายขอบเขตไปสู่ธุรกิจด้านดิจิทัล จนถึงการใช้งานเทคโนโลยีอวกาศ (Space Technology)
จะเห็นได้ว่า บริษัทใหญ่ ๆ ทุกบริษัทในธุรกิจโทรคมนาคมไทย ต่างขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายองค์กรกันขนานใหญ่ในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งได้สร้างแรงกระเพื่อมในวงการพอสมควร และเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ธุรกิจโทรคมนาคม หรือ Telco กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องหาทางรอดด้วยการปรับเปลี่ยนตัวเอง ซึ่งแต่ละรายเลือกที่จะแสวงหาพันธมิตร มากกว่าการยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวด้วยตนเองเหมือนที่ผ่านมา
การจับมือกันเดิน สร้าง business model ใหม่ ดูเหมือนจะเป็นทางรอดที่ดีที่สุดของ Telco ในยุคนี้ เพราะเวทีการแข่งขันเปลี่ยนไป จะอยู่แบบเดิมต่อไม่ได้แล้ว แต่ละรายย่อมตระหนักถึงความไม่คุ้มทุนของการเป็นธุรกิจตัวหนักอีกต่อไป เพราะต้องลงทุนมหาศาลหลายแสนล้านบาทอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการประมูลคลื่นที่ตั้งราคาสูงชนิดขูดเลือดขูดเนื้อกันเกินความจำเป็น การตั้งเสาสัญญาณเครือข่ายที่นอกจากลำบากแล้วยังเต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายระหว่างทางมากมาย ในขณะที่รายรับไม่คุ้มกับรายจ่าย เพราะรายได้ส่วนหนึ่งต้องหายไป ทั้งค่าโทร เอสเอ็มเอส โรมมิ่ง ฯลฯ ที่ถูกดูดออกไปให้กับธุรกิจตัวเบา ที่แทบไม่ต้องลงทุนอะไร แต่เป็นกาฝากเกาะกินผลประโยชน์จากการลงทุนของธุรกิจ Telco ในรูปแบบของการโทรและการส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น ฯลฯ ที่ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ทรัพยากรที่ต้องลงทุนมหาศาลโดยธุรกิจ Telco
การปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินกิจการของธุรกิจ Telco ในวันนี้ชี้ชัดว่า บริษัทเหล่านี้ยังอยากสู้ต่อไป ยังไม่ได้ถอดใจออกจากธุรกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคม แต่เป็นการส่งสัญญาณบอกว่า ถ้าวันนี้ Telco ไม่ปรับตัวหนีดิสรัปชั่น ก็หมายความว่ากำลังเลือกที่จบชีวิตตัวเอง เพราะอีก 1-2 ปีคงต้องล้มหายตายจากไป ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนั้น คงต้องมีความเดือดร้อนไปทั่ว ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมากมายแน่นอน
วันนี้เทคโนโลยีวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ แต่วันก่อนยังเห็นนักวิชาการบางคน และนักการมืองไทยในสภา พูดกันเรื่องเดิม ๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อนอยู่เลย ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว แต่จิตสุดท้ายยังผูกติดอยู่กับความฝังใจบางอย่าง จึงยังไปเกิดใหม่ไม่ได้ ยังพูดกันถึงเรื่องการผูกขาดธุรกิจมือถือสมัยประเทศไทยยังมีผู้เล่นเพียงสองราย ยังอยู่ในโลกของโนเกียขณะที่วันนี้เทสลากำลังสื่อสารผ่านดาวเทียม คนทั้งโลกกำลังพูดถึง IoT ใช้คริปโต และเข้าไปอยู่ใน metaverse จึงไม่แปลกใจเลยที่วันนี้องค์กรธุรกิจไทยคิดจะขี่ดาวเทียมไปบุกโลกใหม่ แต่ยังถูกพวกยุค Flintstone วิ่งเอาหินปาหัวอยู่
ที่มา: Stock2morrow
| Create Date : 21 ธันวาคม 2564 |
| Last Update : 21 ธันวาคม 2564 17:24:47 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 823 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
