1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
สาระ // สัญญาว่าจะร่วมบอกต่อความห่วงใย Women Protect Women Project
จากบล๊อกก่อนหน้านี้ ได้แก่ สาระ // Women Protect Women Project อิชั้นได้นำเอาข้อมูลที่ผู้หญิงทุกๆ ท่านควรทราบเกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกมานำเสนอกัน โดยมีที่มาจาก โครงการ Women Protect Women ซึ่งเป็นโครงการที่ห่วงใยผู้หญิง เพื่อให้ผู้หญิงทุกๆ คน เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะทำการร่วมรณรงค์ สัญญา ว่าจะช่วยบอกต่อ เผยแพร่ข้อมูลด้านต่างๆ เพื่อให้ตัวเองและผู้หญิงเรารัก รู้จักปกป้องตัวเองให้ห่างไกลจากมะเร็งปากมดลูกค่ะ อยากจะชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนไปร่วมกันรณรงค์สัญญาจะช่วยบอกต่อความรู้นี้ด้วยกันค่ะ โดยเข้าไปยังเวปไซต์ Women Protect Women แล้วลงทะเบียน คำสัญญา ว่าจะช่วยบอกต่อความรู้เรืองโรคมะเร็งปากมดลูกสู่ผู้หญิงทุกๆ คน ทำง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์และได้บุญด้วยค่ะ ว่าแล้วก็ขออนุโมธนาบุญ ขอบคุณสาวๆ ใจบุญทุกๆ คนล่วงหน้าค่ะ จากตอนที่แล้วนั้นอิชั้นยังไม่สามารถทำการเสนอข้อมูลได้ครบถ้วน เพราะกลัวว่าจะยาวเกินไป ก็เลยจะทำการค่อยๆ ทยอยสรุปอัพบล๊อกเป็นตอนๆ นะคะ โดยยังค้างอยู่ที่เรื่องความเชื่อและความจริง เกียวกับ มะเร็งปากมดลูก วันนี้รวบรวมมาเพิ่มเติมค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะความเชื่อและความจริง เกี่ยวกับ มะเร็งปากมดลูก (ต่อค่ะ) - ฉันรู้ว่ามีวัคซีนเอชพีวีที่ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ แต่ฉันก็ตรวจแพปเสมียร์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่เห็นต้องฉีดวัคซีนเลย fact : การฉีดวัคซีนเอชพีวี และการตรวจแพปเสมียร์เป็นวิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่มีประสิทธิภาพทั้งคู่ โดยการฉีดวัคซีนเอชพีวีจะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีสายพันธ์ 16 และ 18 ที่ทำให้เซลล์ที่ติดเชื้อเกิดความผิดปกติและอาจเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็ง ส่วนการตรวจแพปสเมียร์นั้น เป็นการตรวจหารอยโรคก่อนเป็นมะเร็ง ซึ่งหากพบความผิดปกติ ก็หมายความว่าอาจมีการติดเชื้อเอชพีวีแล้วและต้องได้รับการรักษา หากทำร่วมกันทั้ง 2 วิธีก็จะได้ผลที่ดีทีสุดในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกต้องฉีดตั้งแต่ยังเด็ก ฉันแก่เกินไปที่จะไปฉีดวัคซีนป้องกันแล้วล่ะ fact : จริงอยู่ที่การฉีดวัคซีนในเด็กผู้หญิงอายุ 10-11 ปี จะได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเด็กยังไม่มีเพศสัมพันธ์ จึงยังไม่ได้รับเชื้อ นอกจากนี้เด็กยังสามารถตอบสนองและสร้างภูมิคุ้มกันได้สูงกว่าผู้ใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยได้รับเชื้อเอชพีวี ก็ยังสามารถสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้สูงกว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อตามธรรมชาติมาก จึงยังได้รับประโยชน์มากจากการฉีดวัคซีนเช่นกัน- เคยได้ยินมาว่า ถ้ามีเพศสัมพันธ์แล้ว ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกไปก็ไม่มีประโยชน์ fact : จากการศึกษาผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว พบว่ามีน้อยกว่า 1% ที่พบการติดเชื้อเอชพีวีทั้งชนิด 16 และ 18 พร้อมกันที่ปากมดลูก วัคซีนจึงยังคงสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี สายพันธุ์ที่ยังไม่เคยมีการติดมาก่อนได้ การฉีดวัคซีนในผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วจึงยังจะได้ประโยชน์ในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกอยู่ค่ะ- (สำหรับคุณแม่ที่มีลูกสาว) ลูกของฉันยังเด็กอยู่ ยังไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับใคร ยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรอก fact : การติดเชื้อเอชพีวี เป็นการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยอัตราการติดเชื้อจะสูงที่สุดในวัยรุ่นตอนต้น หรือวัยที่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ การให้ลูกฉีดวัคซีนตั้งแต่ก่อนเข้าสู่วัยรุ่นจึงเป็นโอกาสสำคัญที่คุณจะให้ เพื่อปกป้องลูกสาวของคุณสำหรับอนาคตข้างหน้า และเด็กยังจะได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเด็กสามารถสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้สูงกว่าผู้ใหญ่มาก เมื่อพร้อมรับมือกับเชื้อที่เข้ามาเมื่อเริ่มมีเพศสัมพันธ์ โดยประเทศในกลุ่มยุโรป เช่น สหราชอาณาจักรได้เห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนตั้งแต่ยังเด็ก รัฐบาลจึงจัดให้เด็กผู้หญิงอายุ 12-13 ปี ฉีดวัคซีนเอชพีวีเพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีทุกคน ทั้งนี้สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนเอชพีวีในเด็กหญิงอายุ 11-12 ปี * หลายๆ คนรวมทั้งอิชั้นเองก็คงสงสัยเรื่องวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกว่า มันคือ อะไร มีวิธีการทำงานอย่างไร แล้วมีกี่ชนิด แล้วเราควรฉีดชนิดไหน ใช่ไหมคะ งั้นมาคำถาม คำตอบต่อไปนี้ แล้วน่าจะเข้าใจมากขึ้นค่ะความเชื่อและความจริง เกี่ยวกับ มะเร็งปากมดลูก และวัคซีนเอชพีวี - วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ฉีดชนิดไหนก็เหมือนกันแหละ ประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งคงไม่แตกต่างกันหรอก fact : ปัจจุบันมีวัคซีนในตลาด 2 ชนิด (มี 2 ยี่ห้อทางการค้าค่ะ) ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่ถึง 70% ชนิดแรก เป็นวัคซีน 2 สายพันธุ์ ชื่อทางการค้าได้แก่ Cervarix เน้นป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่มีสาเหตุจากเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 และ 18 โดยได้เสริมสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันรุ่นใหม่ ทำให้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อเอชพีวีทั้ง 16 และ 18 ได้สูง ทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ ได้ครอบคลุมชนิดที่สอง เป็นวัคซีน 4 สายพันธุ์ ชื่อทางการค้าได้แก่ Gardasil เน้นป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่มีสาเหตุจากเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 และ 18 และยังอาจป้องกันเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดหูดอวัยวะเพศได้ จากสายพันธุ์ 6 และ 11- ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่จำเป็นต้องตรวจภายในแล้ว fact : วัคซีนเอชพีวี สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 และ 18 ได้ 100% ในผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อชนิดนั้นมาก่อน ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ***แต่อย่างไรก็ตามมะเร็งปากมดลูกอาจเกิดจากการติดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์อื่นได้เช่นกัน ผู้หญิงจึงยังคงควรตรวจภายในแพปสเมียร์อยู่เป็นประจำค่ะความปลอดภัยของวัคซีน - วัคซีน HPV ไม่ได้ผลิตจากเชื้อไวสัสที่มีชีวิต แต่เป็นการสังเคราะห์เลียนแบบโครงสร้างเฉพาะส่วนเปลือกหุ้มของเชื้อ HPV โดยไม่มีสายพันธุ์ (DNA) ของเชื้อไวรัส จึงไม่สามารถทำให้เกิดโรคได้ - มีอาการข้างเคียงจากการฉีด พบกว่าจะมีอาการปวดบริเวณที่ฉีดเท่านั้น มีอาการไข้ แต่พบได้น้อย ไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรงใดๆ จึงเป็น วัคซีนที่มีความปลอดภัยสูง ฉีดวัคซีนแล้วจะมีผลในการป้องกันทันทีหรือไม่ - วัคซีนจะได้ประสิทธิภาพสูงสุดเมือฉีดครบ 3 เข็ม ดังนั้นในช่วงที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบ ควรใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV และป้องกันการตั้งครรภ์ - ในช่วงที่ฉีดวัคซีน HPV ไม่ควรตั้งครรภ์ ควรรอให้ฉีดครบ 3 เข็มไปแล้วอย่างน้อย 1 เดือน - ในกรณีตั้งครรภ์ ให้หยุดฉีดก่อนและเริ่มเข็มใหม่ต่อไปเมื่อคลอด และหยุดให้นมบุตรแล้ว - หลังจากการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม (ใช้ระยะเวลารวมตั้งแต่เข็มแรกถึงเข็มที่ 3 เป็นระยะเวลา 6 เดือน) ยังไม่มีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นซ้ำ - การฉีดวัคซีนถัดจากเข็มแรก สามารถฉีดเข็มต่อไปเลยกำหนดที่แพทย์นัดได้ 1-2 เดือน แต่ไม่ควรไปฉีดก่อนวันครบกำหนดค่ะพอจะเข้าใจถึงเรื่องความจริง ความเชื่อ รวมถึงข้อมูลเกียวกับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกกันไปแล้ว ครั้งหน้าอิชั้นจะรวบรวมเรื่องการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap Smear มาฝากกันนะคะ วันนี้ก็ยาวอีกแล้ว หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับผู้หญิงทุกๆ คนไม่มากก็น้อยค่ะ บ๋ายบาย แล้วพบกันจ้าท้ายนี้ขอขอบคุณข้อมูลที่มีประโยชน์จาก : ขอบคุณข้อมูลแสนดีมีประโยชน์จากแผ่นพับทางวิชาการ เอกสารอ้างอิง 1. ความเชื่อและความจริงเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกและวัคซีนเอชพีวี โดย รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2. สมาคมมะเร็งนรี เวชไทย : Thai Gynecologic Cancer Society 3. สถาบันมะเร็งแห่งชาติ 4. Women Protect Women
Create Date : 29 พฤษภาคม 2553
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 13:50:49 น.
16 comments
Counter : 1742 Pageviews.
โดย: ชฎาแหลม วันที่: 29 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:44:59 น.
โดย: That's m3 วันที่: 29 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:54:57 น.
โดย: ติศักดิ์ วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:02:44 น.
โดย: P' Sing IP: 81.111.212.95 วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:51:34 น.
โดย: ป้าวุ้นเส้น (Dress Code ) วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:40:58 น.
โดย: Yoo-mi IP: 58.8.190.52 วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:27:52 น.
โดย: ray IP: 183.89.27.216 วันที่: 4 สิงหาคม 2553 เวลา:22:20:08 น.
โดย: ปุ่น IP: 112.143.4.82 วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:5:05:10 น.
โดย: ชฎาแหลม วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:10:12:58 น.
โดย: ยูมิ IP: 61.90.11.133 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา:4:10:51 น.
โดย: ชฎาแหลม วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:02:24 น.
โดย: ระย้า IP: 125.27.213.9 วันที่: 1 ธันวาคม 2553 เวลา:22:50:32 น.
Location :
United Kingdom
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [? ]
สงวนลิขสิทธิ์ ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าจะเป็นการลอกเลียน หรือ นำส่วนหนึ่งส่วนในของข้อความ รูปภาพ ใน Blog Chadalaem แห่งนี้ไปใช้ โดยเผยแพร่ในทางการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด