space
space
space
 
พฤศจิกายน 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
space
space
6 พฤศจิกายน 2560
space
space
space

กระบองเพชร พืชสวนสุดฮิต เลี้ยงง่าย แต่ทำไมจึงตายเร็ว !?


กระบองเพชร พืชสวนเลี้ยงง่าย แต่ทำไมจึงตายเร็ว !?

กระบองเพชร

เชื่อว่าหลายๆคนตอนนี้ก็หันมานิยมเลี้ยง กระบองเพชร กันมากขึ้นซึ่ง ต้นกระบองเพชร เป็นพืชที่สามารถเก็บน้ำไว้ในลำต้นได้เป็นจำนวนมาก ทำให้เราไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน จึงกลายเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่นิยมเป็นอย่างมาก แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไม ทั้งๆที่เลี้ยงไม่ยากแต่บางครั้ง แคคตัส ที่เราเลี้ยงถึงตาย นั่นเป็นเพราะการดูแลที่ผิดวิธี วันนี้ cactus buffet มีเทคนิคการเลี้ยง กระบองเพชร มาฝาก ไปชมกันเลยค่ะ

การเลี้ยงและดูแล
ในบ้านเรา ถ้าเราไปซื้อกระบองเพชรจากร้านค้ามา ในการเลี้ยงดูของฟาร์มแต่ละฟาร์มนั้น ส่วนมากเขาจะเลี้ยงกันในโรงเรือนแบบปิด มีหลังคาเป็นหลังคาโปร่งแสงเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาได้ตลอดทั้งวัน แต่จะกันน้ำกันฝนที่ตกลงมาเพียงเท่านั้นเอง การรดน้ำ ก็จะทำการรด 3-5 วันต่อครั้ง ดังนั้น เวลาที่เราไปซื้อหามาแล้วเอาพวกเขาไปตั้งบนโต๊ะทำงาน ห้องรับแขก โดยทันที แบบนี้ สักพักก็เตรียมเงินไว้ซื้อใหม่ได้เลยค่ะ เพราะพวกเขาจะค่อย ๆ ตายไปแบบที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว

สถานที่ปลูกเลี้ยง
การดูแลให้พวกเขางดงาม สวยเหมือนตอนที่ซื้อมา ที่ควรทำก็ต้องทำการเลี้ยงดูให้เหมือนกับฟาร์มนั่นแหละค่ะ เป็นโรงเรือนหลังคาใส แต่ว่าจะให้ทำแบบนั้นก็คงลำบากจนเกินไป ดังนั้น เราก็ต้องค่อย ๆ ให้พวกเขาปรับตัวทีละนิด เช่น วางพวกเขาไว้ที่ระเบียงที่โดนแดดเกือบทั้งวัน สำหรับคนที่พักอยู่ตามหอพัก ห้องพัก อพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโด ที่หันหน้ารับกับแสงพระอาทิตย์เต็มๆก็คงโชคดีหน่อย แต่ถ้าไม่มีแสงแดดเลย ก็ไม่ควรซื้อพวกเขามาเลี้ยงเลยนะคะ ตายเสียเปล่า ๆ

สำหรับคนที่อยู่บ้านมีสนามมีพื้นที่ที่โดนแดดจัดทั้งวัน ก็จะดีมาก สามารถเอาพวกเขาไปตากแดดได้เต็มวันเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝน ก็หาขวดพลาสติกใสมาตัดด้านก้นขวดออก แล้วครอบต้นแคคตัสไว้เป็นต้น ๆ เลยก็จะป้องกันน้ำฝนได้ดีค่ะ ด้านปากขวดไม่ต้องปิดฝานะ อากาศจะได้ระบายถ่ายเทได้ แต่ถ้ามีหลายๆ ต้น ก็ทำหลังคาใสมาบังไว้เลยก็จะดีมากค่ะ

กรณีที่อยากเอามาวางประดับบนโต๊ะบ้าง ก็ยังสามารถทำได้นะคะ ก็คือเลี้ยงสักหลาย ๆ ต้นหน่อย แล้วเวียนเอาพวกเขามาตั้งประดับสัก 2-3 วัน แล้วก็เอาออกไปเปลี่ยนคืนนั่นเอง การทำแบบนี้ ก็ใช่ว่าจะดีนะคะ แค่สามารถยืดชีวิตพวกเขาไปได้นานขึ้นก็เท่านั้นเอง นาน ๆ ไป ก็อาจจะแคระแกรนได้เช่นกันค่ะ แสงแดดจำเป็นต่อชีวิตพวกเขามาก เป็นพันธุ์หนาม หนามก็จะยาวสวยงาม เป็นพันธุ์ขนขาวปุย ก็จะขาวหนานุ่มสวยงามเช่นกัน

การดูแลรดน้ำ
มาว่าถึงอีกเรื่องที่สำคัญก็คือ การให้น้ำ แคคตัสเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำมาก ให้น้ำมากคือการฆ่าพวกเขาให้ตายนั่นเอง การเอาตัวรอดในเรื่องน้ำ พวกเขาพัฒนามาเป็นล้าน ๆ ปีแล้ว นั่นคือลำต้นที่อวบอิ่มเก็บกักน้ำไว้ภายในนั่นเอง

ให้สังเกตดินปลูกเลี้ยงว่าแห้งแล้วหรือยัง ถ้าแห้งแล้วก็ให้ใช้ฝักบัวรดให้ชุ่ม ส่วนระยะเวลาห่างในการรดน้ำ สังเกตุง่าย ๆ หลังจากที่เรารดน้ำไปวันแรก ให้เช็คดูว่า อีกกี่วันดินถึงจะแห้ง เมื่อดินแห้งแล้วให้เว้นไปอีก 1 วัน แล้วค่อยรดน้ำใหม่ โดยให้ปล่อยดินได้แห้งบ้าง ไม่ใช่ชุ่มฉ่ำเปียกอยู่ตลอดเวลา ขนาดของกระถางเล็ก กระถางใหญ่ ก็มีผลกับระยะในการแห้งของดิน โดยเฉลี่ยแล้วจะรดประมาณ 4-5 วันครั้ง ถ้าเป็นไม้ต่อที่ต้องการน้ำมากหน่อย ก็จะรดวันเว้นวัน ถ้าเป็นกลุ่มฮาโวเทียจะรดพร้อมกับแคคตัส แต่จะสเปรย์น้ำให้วันเว้นวัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์อีกต่างหากค่ะ

การใส่ปุ๋ย
1. เราสามารถใช้ปุ๋ยกล้วยไม้ให้กับกระบองเพชรได้ แต่ควรใช้ในปริมาณที่ต่ำกว่าฉลากข้างขวดระบุไว้ ไม่ควรให้ปุ๋ยกับกระบองเพชรในปริมาณมาก เพราะอาจเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี
2. วิธีให้ปุ๋ยให้ได้ผลดีคือ ผสมให้เจือจางกว่าปกติ แต่รดให้บ่อยกว่าปกติ ใช้ปุ๋ยกล้วยไม้ 1 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร รดทุก ๆ 2 สัปดาห์ก็พอค่ะ
3. การให้ปุ๋ยแก่ต้นไม้ทุกชนิด ควรเริ่มให้เมื่อต้นไม้สามารถตั้งตัวได้ดีแล้ว ระบบรากเดินดีพร้อมที่จะกินอาหารได้ เวลาที่เราเปลี่ยนกระถางใหม่ ๆ ควรงดปุ๋ยไปจนกว่ายอดของต้นจะเริ่มเดิน นั่นหมายถึงสัญญานว่า ระบบรากเริ่มทำงานแล้ว การรักษาระยะเวลาให้สม่ำเสมอในการให้ปุ๋ย จึงเป็นสิ่งควรยึดถือเป็นหลักในการปฏิบัติ เพื่อสุขภาพที่ดีของกระบองเพชรค่ะ
4.ส่วนยาฆ่าแมลงหรือยาป้องกันเชื้อราต่าง ๆ ผสมน้ำรดทุก ๆ 2-3 เดือน ต่อ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว

การปลูกหรือเปลี่ยนกระถาง
การเปลี่ยนกระถางจะกระทำเมื่อต้นโตคับกระถางเก่า แต่อย่าลืมว่าต้องใช้ดินปลูกโดยเฉพาะเท่านั้น จะซื้อแบบที่เป็นถุงสำเร็จรูปสำหรับปลูกกระบองเพชรโดยเฉพาะ หรือจะผสมเองก็แล้วแต่เลย สูตรสำหรับดินก็มีให้เลือกหลากหลายมากมายอยู่เหมือนกันค่ะ สำหรับส่วนประกอบหลักที่เราจะผสมลงไปก็ได้แก่

1. เนื้อดิน เช่น ดินขุยไผ่ ดินใบก้ามปู ดินที่ผสมใบไม้หมักต่าง ๆ แกลบ ขุยมะพร้าว พีทมอส หรือ มูลสัตว์ต่าง ๆ

2. วัสดุที่ช่วยเพิ่มความโปร่งให้ดิน เช่น เพอร์ไลท์ (Perlite) หินภูเขาไฟ (Pumice) เวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite) กรวดแม่น้ำ มะพร้าวสับ ถ่าน

3. สารเคมีต่าง ๆ เช่น ปุ๋ยละลายช้า ยาฆ่าแมลงแบบเกร็ด (สตาร์เกิ้ลจี ฟูราดาน) ยาฆ่าเชื้อรา

ส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนนี้ ควรจะเลือกชนิดที่นำมาผสม ให้เข้ากับความสะดวกในการซื้อหา และให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่นั้น ๆ

ในการผสมดินนั้น เราควรคำนึงถึงความสะอาดของดิน เพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา หรือเชื้อโรคต่าง ๆในวัสดุที่เราจะนำมาผสม เราควรทำความสะอาด หรือ ตากแดดไว้สัก 3–5 วัน ก่อนที่จะนำมาผสม ส่วนประกอบที่จะนำมาผสม มีธาตุอาหารเพียงพอหรือไม่ ดินมีความโปร่งพอหรือไม่ ดินโปร่งจะทำให้ดินแห้งไว น้ำสามารถซึมผ่านไปได้ทั้งกระถาง ตามธรรมชาติของแคคตัสแล้ว ไม่ได้ต้องการเนื้อดินเยอะ ควรเน้นไปที่วัสดุที่ช่วยความโปร่งให้ดิน แล้วใส่ดินไปประมาณ ¼ ก็เพียงพอแล้ว ข้อสำคัญ หลังจากที่ผสมดินเสร็จแล้ว ควรรดน้ำให้ชุ่ม และตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ เราจะได้ดินที่สะอาดและไม่มีความร้อน จากการย่อยสลายตัวของอินทรีย์สารในดิน

ไม่ยากเลยใช่มัยคะ กับเทคนิคการเลี้ยง ต้นกระบองเพชร ที่ แคคตัส บุฟเฟต์ เอามาฝาก ครั้งหน้าจะมีทริคดีดีอะไรมาฝากต้องรอติดตามกันนะคะ




Create Date : 06 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2560 22:48:44 น. 0 comments
Counter : 1169 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 1820898
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 1820898's blog to your web]
space
space
space
space
space