ก็ว่าอยู่.....ว่าช่วงหลังๆข่าวโจรสลัดโซมาเลีย เงียบๆไป เพิ่งรู้เหตุผลวันนี้เองครับ
Kiyoshi Kimura เจ้าของร้านซูชิ ซันไม ผู้ที่โด่งดังไปทั่วโลกจากการประมูลปลาทูน่าตัวแรก ของปีที่ตลาดซึกิจิไปในราคาสูงถึง 14 ล้านเยน แต่เรื่องของเขาไม่ได้น่าสนใจเพียงเท่านั้น เขายังเป็นผู้ที่สามารถเปลี่ยนโจรสลัดโซมาเลียให้กลายมาเป็นชาวประมงจับปลาทูน่าให้กับร้านซูชิของเขาเองอีกด้วย!
คุณผู้อ่านคงเคยได้ดูหนังเรื่องกัปตันฟิลลิป ที่เรือขนสินค้าของสายเรือที่ใหญ่ที่สุดของโลก
ถูกโจรสลัดโซมาเลียปล้นแบบไร้ความปราณีซึ่งทำให้โจรสลัดโซมาเลียดูเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก เมื่อโจรสลัดเพิ่มจำนวนขึ้น เรือขนสินค้าต่างตื่นตระหนกไม่กล้าผ่านแถวนั้น ต่อให้น่านน้ำแถวนั้น เป็นแหล่งปลาทูน่าชุกชุม แต่ก็ไม่มีกล้าไปแหยมเพราะกลัวเจอโจรสลัดปล้น
แต่คุณคิมูระบอกว่าคงไม่มีใครเกิดมาแล้วอยากเป็นโจรหรอก ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คุณคิมุระจึงได้นัดไปจับเข่าพูดคุยกับโจรสลัดเหล่านั้น ทำให้รู้ว่า แท้จริงเพราะความสูญเสียในสงครามกลางเมืองและความอดอยาก ทำให้คนเหล่านั้นต้องผันตัวมาเป็นโจรเพราะไม่มีความรู้ ในการประกอบ
อาชีพอื่น คุณคิมุระจึงเสนอให้โจรสลัดเหล่านั้นมาทำมาหาเลี้ยงชีพสุจริตด้วยการ จับปลาทูน่าขาย โดยที่เขาจะรับซื้อไว้เอง และเป็นที่น่าประหลาดใจมากเพราะความคิดของคุณคิมุระได้รับการตอบรับอย่างดีเกินคาดจากกลุ่มโจรสลัดเหล่านั้น
ปัญหาต่อมาก็คือโจรสลัดเหล่านั้นไม่รู้วิธีตกปลาทูน่า ไม่มีเรือที่จะออกไปจับไม่มีห้องเย็นที่จะเก็บปลาหลังตกและก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน IOCTหรือสมาคมปลาทูน่าแห่งมหาสมุทรอินเดีย
ทำให้ไม่มีช่องทางการส่งออกทูน่า คุณคิมุระก็เลยให้เรือประมงญี่ปุ่นที่ใช้งานแล้วไปหลายลำ ซ่อมห้องเย็นให้และหาทางให้โซมาเลียเข้าร่วมสมาคมปลาทูน่าแห่งมหาสมุทรอินเดียจนได้
นอกจากนี้เขายังได้เดินทางไปโซมาเลียนับสิบครั้งเพื่อสอนวิธีการจับปลาทูน่าให้อดีตโจรสลัดเหล่านั้นด้วยตัวเอง!
ทุกวันนี้ชาวโซมาเลียได้เปลี่ยนอาชีพหลักจากการหากินด้วยการปล้น มาเป็นการส่งออกปลาทูน่าแทน และได้ส่งออกประมาณ 100 ตันต่อปี จำนวนโจรสลัดที่ออกปล้นในน่านน้ำโซมาเลียก็ลดลงจนเป็นศูนย์ในปีที่ผ่านมาคุณคิมุระยังได้รับเหรียญรางวัลจากรัฐบาล Djibouti ในความพยายามที่ลดจำนวนโจรสลัดด้วย
การช่วยเหลือของคุณคิมุระ อาจมีเหตุผลในด้านธุรกิจแต่ก็ถือได้ว่าเป็นไอเดียที่ดีมากที่ได้ช่วยคนอื่นด้วยไปในตัว และเรื่องนี้สอนให้เห็นว่าปัญหาบางอย่างที่ดูเหมือนหนักหนา บางครั้งก็แก้ไขได้ง่ายๆด้วยการเปลี่ยนทัศนคติเพียงอย่างเดียว
เรื่องโดย : พิชชารัศมิ์