นิดไม่ได้แค่แต่งหน้าทำผม แต่นิดจะทำให้คุณสวยที่สุด สดใสที่สุด โดดเด่นที่สุด ในแบบที่คุณชอบและเป็นตัวของคุณเอง
Group Blog
 
All Blogs
 
เรื่องเล่าความเป็นมา Makeup Artist ทำยังไง เรียนที่ไหน หางานยังไง มาอ่านกันค่ะ ^^

สวัสดีค่ะทุกคน 

วันนี้มีเวลาว่างนิดหน่อยมานั่งเขียนเรื่องราวในเส้นทางการทำอาชีพ Makeup Artist ของพี่เองให้ทุก  ๆ ได้อ่าน เป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่พี่เลือกเดินเองในเส้นทางอาชีพนี้ พี่เคยทำงานมาแล้วหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคุณครูสอนศิลปะเด็ก AE นักทำภาพประกอบ และสุดท้ายก่อนหันเหชีวิตอย่างถาวรคือ Graphic Designer ทุกอาชีพที่พี่ทำล้วนเป็นสิ่งที่พี่รักและสนุกกับงานมาก ๆ แต่มันไม่มีความอิสระและคล่องตัวพอที่พี่จะทำแล้วเลี้ยงลูกน้อยจอมซนทั้ง 2 คนได้ 

พี่อยู่ในองค์กรที่ดีและมั่นคงทีเดียวก่อนลาออกทำตามใจรักและความฝันน้อย ๆ ของพี่ แต่มันมีอุปสรรคเกิดขึ้นนิดหน่อย นั่นคือความเบื่อหน่ายในหน้าที่การงานและความเจ็บป่วยเรื้อรังที่สะสมมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องรีบจัดการ

พี่เป็นโรคพังพืดรัดเส้นประสาทและหมอนรองกระดูกเสื่อม เนื่องจากการนั่งหน้าคอมเป็นเวลานาน และการจับเมาส์คลิ๊กตลอดเวลา ทรมานมาก ๆ เลยนะ เมื่อไหร่ก็ตามที่เอามือวางบนเมาส์แล้วทำงานเนี่ย อย่างกะมีใครเอาไฟฟ้ามาชอตและเทน้ำแข็งราด มันปวด มันชา มันจี๊ดไปหมดทั้งตัว 

ปรึกษาหมอเรียบร้อย คุณหมอใจดีจังแนะนำว่า เปลี่ยนงานได้เปลี่ยนนะคะ จะได้ไม่ทุกข์ทรมานแบบนี้อีก อายุก็มากขึ้นทุกวัน ตอนเริ่มรับการรักษาก็ 32 แล้วด้วย เปลี่ยนงานก็ใช่จะหาง่ายและคนวัย 30 กว่าจะมีทางเลือกในสายงานอะไรมากมายเหมือนเก่า ไปเริ่มต้นกับงานสายอื่นในบริษัทใหม่ ก็ไม่มีประสบการณ์งานด้านอื่น ๆ เลย ทำงานกราฟฟิกมา 10 กว่าปี จะไปเริ่มอาชีพอะไรในองค์กรไหน หางานใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานเดิมนานมาก ไม่มีที่ไหนเรียกเข้าทำงาน 55 เศร้า เลยตัดสินใจลาออก เอาเงินก้อนที่เก็บไว้ไปทำตามใจฝันและเริ่มจริงจังที่จะทำให้เป็นอาชีพ

ก่อนลาออกจากองค์กรเก่า ก็ได้เริ่มกรุยทางไว้แล้ว ถามว่าทำไมอยากทำอาชีพนี้ คำเดียวเลย “รัก” อยากแต่งหน้าตัวเองให้สวย ๆ เป็น อยากทำให้คนรอบข้างและคนทั่วไปสวยขึ้นด้วยมือเรา อยากทำงานสร้างสรรค์โดยไม่พึ่งคอมพิวเตอร์ และได้ระบายสีตามใจนึกในงานที่ไม่ต้องพึ่งการตีกรอบ สุดท้ายคือเลี้ยงตัวเองได้อย่างไม่ลำบาก มีอิสระมากพอที่จะเลือกวันและเวลาทำงาน ได้อยู่กับลูกมากขึ้น

จากวันนั้นถึงวันนี้ กับอาชีพที่รัก Freelance Makeup Artisit

 

PART 1 
เรียนแต่งหน้า

เริ่มมองหาไปหลายที่ แต่ดูจากเงินและความพร้อมของตัวเองแล้วไปได้ไม่ไกลมาก เลยเลือกที่เราไหวก่อนลำดับแรก

1. MTI สถาบันสอนแต่งหน้าเก่าแก่ของไทย
ค่าเรียน 6,500 บาท (พี่เรียน มีค. 2013) ระยะเวลา 3 วัน

เหมาะสำหรับผู้มีพื้นฐานการแต่งหน้าอยู่แล้ว 
และอยากเรียนแต่งตาให้สวยขึ้น เก่งขึ้น

พี่มาเรียนเฉพาะคอร์สตา Eyes Expert กับที่นี่ เนื่องจากไม่มีเงินไปลงเรียนคอร์สเต็ม มันแพง 555 มีครูสอนทั้งสิ้น 3 ท่าน เปลี่ยนกันสอนคนละวิชา วันละ 1 คน ภาคเช้าเรียนทฤษฎี ภาคบ่ายเรียนปฏิบัติ ผลัดกันแต่งหน้ากับเพื่อน ๆ ในคลาส ในชั้นเรียนนี้พี่ไม่สนิทกับใครเท่าไหร่ เพราะเพื่อน ๆ คนอื่นจบจาก MTI ล้วน ๆ รู้จักสนิทสนมกับครูและกับเพื่อนในคลาสกันมาก่อน

ที่นี่จะสอนเป๊ะจริง ๆ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยภาคเช้าครูท่านจะสอนภาคทฤษฎีพร้อมทั้งแต่งหน้าสาธิตให้ดู คุณครูเก่งมาก ๆ ภาคบ่ายจะเป็นการเรียนปฏิบัติ ผลัดกันแต่งตากับเพื่อน แต่ตอนเรียนปฏิบัติครูไม่ค่อยใส่ใจเด็กเท่าที่ควร ครูจะเดินดูแล้วก็ไป ถ้าสงสัยก็มาทำให้ดูแบบไว ๆ แล้วก็ไม่ยืนดูตอนเราทำเลย ก็ทำแบบมั่ว ๆ ไป ตามความเข้าใจของตัวเองไม่รู้ว่าถูกหรือผิด 55 

แต่เทคนิคครูนั้นแพรวพราวมากมาย มันทำให้พี่รู้เลยว่า ความรู้ที่เรารู้ตอนนนี้เหมือนเราไม่รู้อะไรเลย การแต่งตานั้นทำให้คนคนนึงเปลี่ยนไปได้เป็นคนละคน แค่ 3 วัน กลับไปทำงานพี่นี่แต่งตาสวยขึ้นอย่างอัศจรรย์ จนมีลูกเพจและเพื่อนบอกเลยว่า แกไปทำอะไรมา ทำไมแต่งตาสวยจนจำไม่ได้ (ภูมิใจ ยืดจนพุงหาย) แต่คอร์สนี้สอนเฉพาะการแต่งตานะคะ อย่างอื่นไม่สอนเลยจ้า









หลังจากนี้ก็ทำงานรับงานมาเรื่อย ๆ เก็บเงินที่ได้มาจากการทำงานตั้งใจจะไปเรียนคอร์สเต็มกับ MTI ให้ได้ เพราะประทับใจผลที่ตามมาจากการทำงานจริง แต่งตาสวยแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ห่วยตลอดกาลคือคิ้ว พี่เขียนคิ้วได้ง่อยมาก กลับไปเรียนซ้ำเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ เพราะพี่ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นยังไง ตอนพี่เรียนพี่ก็ไม่เข้าใจหลักการเขียนคิ้วเลย ให้เพื่อนสอนก็ไม่เข้าใจ มันโมโหเราอีก และก็ไม่รู้วิธีฝึกด้วย (ไม่ขยันไง ขี้เกียจ) 

และพี่ก็เลยดิ้นรนหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ จนมาเจอบลอคบลอคนึง จากจุดเริ่มต้นที่พี่ได้อ่านบลอคบลอคนี้ มันทำให้พี่เป็นบ้า อยากทำให้ได้อย่างที่น้องเจ้าของบลอคทำ อ่านทุกคำที่น้องเขียนแล้วมันเกิดแรงบันดาลใจที่ทำให้พี่มีวันนี้ ขอบคุณน้องจูน Jelly fish fat eyes มาก ๆ ที่หนูเขียนเรื่องราวดี ๆ และการไปเรียนแต่งหน้าของหนู มันเปิดโลกใหม่พี่เลย

ดังนั้นเมื่อความบ้าของคนเราไม่สิ้นสุด พี่เลยตามน้องจูนมาที่นี่ ที่เรียนแต่งหน้าที่ดีที่สุดของพี่ และที่นี่เองที่ทำให้พี่ก้าวขึ้นสู่ความเป็นมืออาชีพของจริง

2. IMC International Makeup Center
ปัจจุบันครูคิมและครูอุ๊ที่สอนแต่งหน้าพวกพี่  ตอนเรียน IMC ไม่ได้อยู่สอนที่ IMC แล้วค่ะ ดังนั้นเรื่องการเรียนการสอนหรือวิชาความรู้หลังจากที่ครูทั้งสองไม่ได้อยู่สอนแล้ว พี่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรนะคะ เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน ต้องสอบถามกับทาง IMC ดูจ้า พี่นิดขอเล่าเฉพาะในส่วนสมัยที่พี่นิดเรียนกับครูคิมและครูอุ๊เท่านั้นนะคะ ^^

ราคา 75,000 บาท (พี่เรียน เมย. 2014) Intensive Course ระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง เรียนเต็มวัน จ.-ศ.

เหมาะสำหรับบบุคคลทั่วไปที่อยากทำอาชีพนี้อย่างจริงจัง 
ต้องการความเป็นมืออาชีพ มีเวลามากพอและทุ่มเท และต่อยอดในการทำงานทั่วโลก

เนื่องจากราคาสูงมากกกกกก (ขอบคุณสามีพี่มาก ๆ ที่ช่วยพี่จ่ายค่าเรียนครึ่งนึง) พี่เลยตั้งใจเรียนที่สุด เอาให้คุ้ม 555 ที่นี่มีครู 2 ท่าน (ซึ่งพี่รักและเคารพท่านมาก ๆ รวมถึงสนิทที่สุดในบรรดาครูทุกคนที่เคยเรียนมา) 

ที่นี่สอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยภาคเช้าครูท่านจะสอนภาคทฤษฎีพร้อมทั้งแต่งหน้าสาธิตให้ดู สอนได้ละเอียดมาก ๆ พอตอนบ่ายก็จับคู่กันปฏิบัติได้ เราเรียนกันตั้งแต่พื้นฐาน เรียนเรื่องโครงสร้างผิว แนะนำผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ใช้แต่งหน้าทุกตัว 

ด้วยตัวหลักสูตรเองเป็นหลักสูตรสากล พวกเราเลยได้เรียนการแต่งหน้าที่หลากหลายมาก ๆ เรียนตั้งแต่การแต่งหน้าพื้นฐาน การแต่งหน้าตามยุคต่าง ๆ การแต่งหน้าถ่ายภาพในสตูดิโอ การแต่งหน้าละครเวที การแต่งหน้านางโชว์ การแต่งหน้าผู้ชาย การแต่งหน้างานในห้องส่ง การแต่งหน้าประกวด การแต่งหน้าเพื่องานละครและภาพยนตร์ การแต่งหน้าเพื่อภาพขาวดำ การแต่งหน้าเพื่อสื่องานพิมพ์ การแต่งหน้ารันเวย์ เยอะมากกกกกก

ด้วยระยะเวลาการเรียนถึงเดือนครึ่ง เลยทำให้พี่ได้ฝึกทุกวันติดต่อกัน จากที่เขียนคิ้วไม่ได้เลย ก็มาเขียนคิ้วได้ที่นี่ ทุกวันครูจะให้พวกเราฝึกอย่างหนัก ผิดก็ให้แก้ไขเดี๋ยวนั้นทันที และทำใหม่ไปเรื่อย ๆ ซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้งจนกว่าจะถูก มีการออกแบบ face chart      ออกแบบงานแต่งหน้า เสื้อผ้า ทรงผมให้เข้ากับการแต่งหน้าของเรา ทำการบ้านหนักมาก แต่ก็สนุกมาก ๆ เช่นกัน 

มันทำให้พวกเราที่เรียนหลุดออกจากกรอบการเรียนแต่งหน้าแบบเดิม ๆ โดยสิ้นเชิง พวกพี่เรียนกันโดยไม่มีแพทเทิร์นใด ๆ ตายตัว ทุกอย่างดิ้นได้ ด้นสดได้ ตามแต่ที่เราเห็นสมควร ที่นี่สอนให้พวกเราคิดและทำ ไม่ใช่ทำๆๆๆๆๆ ทำตามกันโดยไม่ใช่สมอง ดังนั้นเรียนจบมา นร.ที่นี่จึงมีลายเซ็นเป็นของตัวเอง แต่งหน้าตามที่ตัวเองถนัด ดูปุ๊บรู้ปั๊บงานใคร 

สิ่งที่พี่ไม่มีวันลืมเลย คือคำสอนของครูทั้งคู่จากที่นี่ ทุกคำที่ครูพูดมันทั้งฮาทั้งจิกกัดและฝังรากลงในใจแบบชนิดจำจนตาย ครูให้ทั้งกำลังใจและดุเด็ดเผ็ดมันเวลาที่นักเรียนทำผิดพลาด 

ระหว่างเรียนครูจะพาพวกพี่ออกไปฝึกงานจริง ทำงานจริงในงานแฟชั่นต่าง ๆ ในกองถ่าย ในกองสตูดิโอ ได้เรียนรู้เรื่องวิชาการถ่ายภาพและการเกล้าผมเสริมมาด้วย อยู่ในหลักสูตร คลอบคลุมทีเดียวล่ะ 

ทุกวันนี้พวกพี่จบมานานมากแล้ว ครูก็ยังพาไปทำงานด้วยสม่ำเสมอ บอกเลยว่าครูที่นี่ไม่เคยทอดทิ้ง นร.แม้แต่คนเดียว ทุกคนได้ทำงานที่ครูพาไปอย่างทั่วถึง ไม่มีแบ่งว่าลูกรักลูกชัง หากคุณไม่ทิ้งการแต่งหน้า IMC ก็ไม่ทิ้งคุณ ครูบอกไว้ก่อนจบ ซึ้งงงงงง และที่ IMC มีใบรับรองเป็นแบบใบรับรองนานาชาติ คือเราสามารถท่องโลกท่องจักรวาลไปสมัครงานแต่งหน้าได้ทั่วโลก

ด้วยระยะเวลาที่เรียนนานพอควร ทำให้สนิทกับเพื่อนในคลาสมาก ๆ ทุกวันนี้เราจับกลุ่มกันเป็นทีมแต่งหน้า รวมรุ่นพี่รุ่นน้องจากหลาย ๆ รุ่นของ IMC ไว้ด้วยกัน มีงานก็พากันไป สนุกสนานกลมเกลียว ไม่มีคู่แข่ง ไม่มีศัตรู มีแต่มิตรที่ดีที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูล สิ่งสำคัญคือมิตรภาพนี่ล่ะค่ะ คอนเนคชั่นของอาชีพนี้ สำคัญมาก ๆ ถ้าเรายิ่งมีเครือข่ายกว้างมากเท่าไหร่ งานเราก็จะเยอะตามมากขึ้นเท่านั้น เพราะเพื่อนดึงเพื่อน ก็พากันเจริญรุ่งเรือง

พี่ได้ความรู้จากที่นี่มากมาย มันทำให้การทำงานของพี่ไปได้ดีมาก ๆ เป็นหนี้บุณคุญครูทั้งสองรวมถึงเพื่อน ๆ อย่างชนิดที่ตายไปก็ใช้ไม่หมด การแต่งหน้าพี่แต่งได้สวยแบบก้าวกระโดด จากแค่แต่งพอได้กลายเป็นแต่งสวยระดับมืออาชีพทำกันจริง ๆ เพราะอะไร 

เพราะเรามีโอกาสได้เรียนรู้เยอะ ได้ฝึกเยอะ ได้แต่งหน้าทุกแนวเท่าที่การแต่งหน้าบนโลกนี้จะมี (ยกเว้นการแต่งเอฟเฟกซ์ ไม่มีสอนค่ะ) ทุกวันนี้พี่ไม่กลัวเลยนะ มาเลย รูปหน้าแบบไหน แต่งหน้าแบบอะไร ให้คิดให้ออกแบบเองใช่ไหม พี่ทำได้ครบทุกอย่าง ตลอดระยะเวลาที่เรียนมา ครบถ้วนคุ้มค่าทุกนาทีจริง ๆ เงินที่เสียไปเกินคุ้มกับสิ่งที่ได้รับกลับมาเสียอีก

ปล. ครูคิมมีสตูดิโอสอนส่วนตัว ณ เวลานี้ หากน้อง ๆ สนใจสามารถเข้าไปดูคอร์สการเรียนการสอนได้ที่แฟนเพจครูนะคะ

KIMs  สตูดิโอสอนแต่งหน้า (สตูดิโอของครูคิมค่ะ) https://www.facebook.com/KIMs.makeupstudio/




















 

3. POM VINIJ & KIMs Makeup Studio

ค่าเรียน 3,500 บาท (พี่เรียน 27 กพ. 2020) ระยะเวลา 1 วัน 10.00 . - 17.00 .

เป็นคลาสพิเศษซึ่งทางครูคิมจัดขึ้นมาสำหรับนักเรียนของ KIMs Makeup Studio โดยเฉพาะค่ะ 

เป็นคลาสเรียนที่มีความปลาบปลื้มใจมาก ๆ เพราะเป็นคลาสที่พี่ได้เรียนแบบใกล้ชิดกับพี่ป้อมวินิจ Makeup Artist อันดับ 1 ของไทย ซึ่งพี่ป้อมสอนได้ละเอียดรอบด้านมาก ๆ ค่ะ ไม่มีหวง ไม่มีกั๊กความรู้ใด ๆ เลย 

บอกแม้กระทั่งเครื่องสำอางทุกชิ้นที่พี่ป้อมใช้งานจริง แปรงทุกด้ามที่ป้อมใช้ประจำ รวมถึงเทคนิคการแต่งหน้าต่าง ๆ ความรู้ตรงนี้มันทำให้เรารู้จักผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ต่าง ๆ และเทคนิควิธีการแต่งหน้าอย่างลึกซึ้งมากขึ้น และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการทำงานของเราได้แบบไม่มีวันลืม

ซึ่งการสอนพี่ป้อมนั้น สอนละเอียดยิบทุกขั้นตอน และไม่ใช่แค่สอนแต่งหน้า พี่ป้อมยังแนะนำแนวทางในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืนและสร้างแรงบัลดาลใจ ปลุกพลังในการทำงานด้านแต่งหน้าให้มีไฟลุกไม่ดับ พร้อมที่จะให้เรากล้าสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ ในแบบที่เป็นตัวเราเอง 

เพราะการแต่งหน้าเป็นศิลปะที่ไม่มีอะไรตายตัว เราอยากสร้างสรรค์อะไรลุยได้เลยเต็มที่ ซึ่งต้องกราบขอบพระคุณครูคิมอย่างมากมายจริง ๆ ค่ะ ที่ได้มอบโอกาสสุดพิเศษนี้ให้พวกเรา ไม่มีครูคิมพี่เองก็คงไม่มีโอกาสได้เรียนแต่งหน้ากับพี่ป้อมอย่างใก้ลชิดติดหน้าพี่ป้อมแบบนี้ค่ะ





PART 2
เรียนทำผม

เรียนแต่งหน้าแล้วก็ต้องหาที่เรียนทำผมกันบ้าง มีความรู้ติดตัวไว้หลาย ๆ อย่าง ทำให้เรารับงานได้อย่างมั่นใจและสามารถหอบกระเป๋าไปได้ทุกที่แม้ต้องไปทำคนเดียว จริง ๆ ที่ต้องเรียนทำผมไว้เพราะบางครั้งช่างผมนั้นหายาก หากเป็นงานที่งบไม่เยอะ หรือ ลค. น้อยคน ก็จะได้ทำเองได้ ประหยัดส่วนที่ต้องจ่ายให้ช่างทำผมไปได้นิดหน่อยก็ยังดี

1. ศูนย์ฝึกอาชีพ กทม.

ราคา 0 บาท (จ่ายค่าอุปกรณ์เองพี่เรียน - เป็นเวลา 2 เดือน (จริง  จบหลักสูตรสมบูรณ์ 4 เดือนนะคะแต่พี่ไม่ไปต่อเอง)

เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่อยากเรียนรู้เรื่องการทำผมทุกชนิด ในหลักสูตรสอนครบเปิดร้านได้เลยค่ะ

พี่เรียนที่ศูนย์จรัญฯ ค่ะ อันนี้เรียนนานมาก แต่พี่เรียนไม่จบนะคะ พี่ไปต่อไม่ไหว พี่ปวดแขนและหลังมาก ๆ เพราะการเรียนต้องยืนทั้งวันและบางครั้งต้องใช้แขนหนักมาก อาการป่วยกำเริบ เรียนได้แค่ 2 เดือนเองค่ะ แต่ก็ได้อะไรมาเยอะมากกก ที่นี่ นร.เรียนเยอะค่ะ 40-60 คนต้อคอร์ส แต่มีครูสอนแค่ 1 ท่าน ก็นะเรียนฟรีอย่าคิดมาก 5555 แต่ครูสอนดีม๊ากกกกกกก ครูที่พี่เรียนด้วยแกฮาชนิดที่ลามกสอดมาตลอด เรียนไปท้องแข็งไป มุขแกนี่ตลกมืออาชีพอายเลย ก็เรียนหลายอย่างเลยนะคะ ตั้งแต่ม้วนแกน สระไดร์ เกล้าผม ถักเปีย ดัดผม ตัดผมและทำเคมีทั้งหมด เค้ามีสอนวันเสาร์อาทิตย์ด้วยนะคะ แต่คงเรียนนานมากกกกกก

เรียนจากที่นี่ก็ได้ความรู้มาเยอะค่ะ ได้เพื่อนมาอีกด้วย ทำให้พี่ไดร์ผมเป็น เซตผมได้ และงานเกล้าก็มีทรงที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน แถมถักเปียได้หลายแบบด้วยค่ะ ถึงครูจะสอนแค่คนเดียวแต่ครูเอาอยู่ค่ะ แกสอนดีมาก และคอยเดินดูนักเรียนตลอดเวลา มีอะไรก็เรียกครูมาสอบถามและสอนจนกว่าเราจะเข้าใจด้วย ถ้าใครมีเวลาก็แนะนำนะคะ คุ้มค่าสุด ๆ

2. ชมรมเกล้าผมฟรุ้งฟริ้ง ช่างผมอินดี้

ราคา 7,000 บาท (พี่เรียน สค. 2017)

เรียน 3 วัน เวลา 10.00 . - 18.00 . (จริง  เวลาเรื่อย  ค่ะ ไม่ดึกไม่กลับบ้าน 5555)

เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่อยากเรียนรู้เรื่องการเกล้าผมแบบสมัยนิยม ฟรุ้งฟริ้งและสวยไว ทำง่าย ไม่ง้อสเปรย์

เนื่องจากพี่นั้นได้มีโอกาสร่วมงานกับครูนิดเมื่อนานมาแล้ว ได้เห็นถึงฝีมืออันเฉียบคม ทำงานไว สวย ปานเทวดาของพี่เค้า เลยแอบไปถามเบา ๆ ว่า พี่คะรับสอนเกล้าผมด้วยไหม ณ ตอนนั้น ครูนิดยังไม่เปิดสอนค่ะ แกบอกขอเวลาแกอีกนิดนึง เอาให้แกพร้อมก่อน เพราะมันต้องลงทุนหลายสิ่ง ผ่านไปนานก็ลืม ๆ กันไป จนมาเจอพี่นิดอีกครั้ง หลายปีผ่านไป 55555 เลยแลกไลน์แลกเฟสกันไว้ ครูนิดก็บอกพี่ว่า แกเปิดสอนแล้วนะ ตามดูในแฟนเพจครูได้ ทีนี้ล่ะสติสตังขาดหาย ไปดูทรงที่ครูสอนแล้วเตลิด อยากเรียนมากกกกกก แต่เวลาก็ไม่อำนวย และเงินก็ไม่พอจ่ายซักที เลยขอสตางค์ท่านแม่ไปเรียนซะเลย ^^

ครูนิดเป็นครูที่น่ารักมาก ๆ ฮาและฮาไม่มีที่สิ้นสุด คือตอนพี่เรียนนี่ขำจนไม่มีน้ำตาจะไหล หัวเราะเหนื่อยมาก และทรงผมที่ครูสอนทุกทรง มันทันสมัย ฟรุ้งฟริ้งสมกับชื่อชมรมครูเลย ทำง่าย ทำไว ทำได้จริง และไม่มีตกยุคแน่นอน ทรงผมที่ครูสอนจะเป็นทรงที่ไม่ง้อสเปรย์ด้วยนะคะ คือใช้สเปรย์น้อยมาก และครูมีเทคนิคดาวล้านดวงมากมายไว้แนะนำลูกศิษย์ ที่สำคัญครูนิดจะคอยอัพเดตทรงผมให้ลูกศิษย์ตลอด มีงานก็พาลูกศิษย์ออกไปด้วย ครูนิดไม่เคยหวงความรู้เลย แต่จะแชร์คลิปที่ครูสอนมาตลอด มีทรงใหม่ ๆ ครูก็ไม่เคยหวง จะอัพความรู้ให้ลูกศิษย์เสมอ เป็นคนที่ทรงคุณค่ามาก ๆ รักแกมากบอกเลยตรง ๆ ค่ะ ^^

ทุกวันนี้พี่เลยสามารถทำผมได้หลายแบบ เพราะผ่านการเรียนรู้มาจากครูหลายท่าน ทั้งแบบเรียบร้อย แบบฟรุ้งฟริ้ง การเรียนไม่เคยทำให้ใครขาดทุน มีแต่เพิ่มทุนและกำไรให้ชีวิต แนะนำให้สนุกกับการเรียนรู้ในทุกสิ่งนะคะ


3. เรียนเกล้าผมกับครูเหมี่ยว กอบกุล

ราคา 8,500 บาท มีค่านางแบบอีก 1,500 บาท (พี่เรียน กค. 2019)

เรียน 1 วัน 3 ทรงผม เวลา 7.00 . - 17.00 

เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีพื้นฐานการเกล้าผมมาอยู่แล้ว และต้องการความรู้เพิ่มเติมในการทำผมและเกล้าผมแบบสมัยนิยม ฮิต  กันตอนปัจจุบันนั่นล่ะจ้า

คือตัวพี่นิดเองเป็นคนชอบเรียนและขยันหาความรู้ไม่หยุด พอเราเริ่มรู้สึกว่า ความรู้ที่เรามีมันไม่พอหรือเราเริ่มเอาไม่อยู่แล้ว ก็อยากไปอัพเดทหาความรู้ใหม่ ๆ พี่ก็เล็งไว้หลายครูนะคะ เอาจริง ๆ 555 แต่ของครูเหมี่ยวพี่จ่ายไหว เรียนระยะเวลาสั้น และผู้เรียนทุกคนที่ไปเรียนกับครูเหมี่ยวมาชมกันเป็นเสียงเดียวเลยว่า ครูเทคนิคดีมากกกกก สอนดีและครูบอกหมดไม่หวงความรู้เลย 

พี่เลยเอาวะไป 555 เชื่อคนง่าย พอไปเรียนก็ตรงเป๊ะตรงปกตรงคำบอกเล่าเลยค่ะ คือครูสอนดีมากค่ะ สอนให้การหยิบจับผมเป็นเรื่องง่ายไปเลย มีเทคนิดลัดประหยัดเวลาแต่ผลออกมาสวยเป๊ะไม่ต้องกลัวโป๊ะ แล้วครูมาสอนแบบใกล้ชิดติดตามาก ๆ ค่ะ จับมือทำให้ดูเลยทีเดียว แถมให้พวกนักเรียนสามารถกลับไปเรียนซ้ำได้อีกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายการเรียนแล้ว สุดอ่ะค่ะ บอกเลย แล้วทุกคนที่มาเรียน บอกเลยว่าทำผมสวยขึ้นทุกคนเลยค่ะ ยอมรับเลยว่า ครูเหมี่ยวสุดยอดจริง ๆ 






 

PART 3
ขอเข้าสู่เรื่องราวการทำงานบ้างค่ะ 
เริ่มต้นอาชีพยังไง หางานยังไง
เริ่มทำอะไรก่อนหลัง

หลังจากพี่เรียนแต่งหน้าจบแล้ว พี่ก็ทำตามที่ครูแนะนำหลายอย่างเลย ครูแนะนำให้พี่เขียนบลอค พี่ก็เขียน เพราะบลอคเราจะสามารถเข้าสู่คนอ่านได้ เป็นการแชร์เรื่องราวตัวเราให้โลกรู้ ครูบอกให้รับงานจากเพื่อน ๆ ก่อน ก็ขอแต่งหน้าเพื่อนฝูงเพื่อฝึกมือ โพสต์ลงเว็บประกาศฟรีต่าง ๆ มากมาย เพื่อรับงานแต่งหน้า หลังจากนั้นก็เริ่มทำแฟนเพจ ตอนนั้นเฟสบุคเพิ่งฮิตเล้ยยย ก็ทำแบบนี้มาเรื่อย ๆ ค่ะ

ช่วงแรกของการเริ่มงาน อย่าหวังได้เงินเลยค่ะ ได้แต่งหน้าฝึกมือก็ดีใจแล้ว เงินน้อยเงินมากก็รับหมด ขอให้มีคนจ้างพอ (ทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนั้น 5555) ตามสุภาษิตไทย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา คนเราขยันก็ไม่มีวันอดตาย พี่เชื่อแบบนั้นค่ะ 

ใครมีงานที่ไหนไปหมดจริง ๆ ขอให้บอก ก็ไปกับเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกันนี่ล่ะค่ะ ทุกงาน พอเราทำงานไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้จักคนมากขึ้น เริ่มมีแวดวงสำหรับคนอาชีพเดียวกัน งานก็ขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ชวนกันไปทำงานต่าง ๆ มากขึ้น นี่ล่ะที่ทำให้รู้ว่า วิชาที่ติดตัวเรามาช่างอ่อนด้อยยิ่งนัก ถึงกับต้องดิ้นรนไปหาเรียนเพิ่มเรื่อย ๆ  เพราะยิ่งเราทำงานมากก็ได้เห็นงานช่างคนอื่นมากขึ้น มีแต่คนเก่ง ๆ รอบตัวเรา แต่งสวยชนิดที่ว่าถ้าเราไม่เร่งตัวเราเอง เราได้ไม่มีที่ยืนแหง ๆ

หมั่นอัพเดตผลงานเรื่อย ๆ งานพวกพี่ที่ทำต้องขายฝีมือ แต่คนจะเห็นฝีมือเราได้ยังไงก็ต้องมีที่ประชาสัมพันธ์ ขอบคุณโลกโซเชี่ยลทุกวันนี้ที่ทำให้การทำงานทุกอาชีพสนุกขึ้น เข้าถึงลูกค้าง่ายขึ้น แต่ภาพที่เรานำเสนอลูกค้าต้องโชว์ผลงานดี ๆ ของเราเต็ม ๆ เหมือนเราขายงานผ่านภาพถ่ายน่ะค่ะ เพราะ ลูกค้าก็เลือกมาแต่งหน้าทำผมกับพี่เพราะเลือกแล้วเลือกอีก คัดแล้วคัดอีกผ่านภาพนี่ล่ะ 

ดังนั้นภาพถ่ายผลงานมีความสำคัญมาก ๆ ใครภาพสวยส่วนใหญ่ก็ได้งานเยอะกว่า พี่แนะนำว่าเราต้องเอาใจใส่ต่อภาพที่เราส่งให้ลูกค้าดูอย่างละเลยไม่ได้ค่ะ อาชีพนี้เรารับงานเอง ลูกค้าเลือกเราที่ผลงานและการบอกปากต่อปาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฝีมือ ภาพผลงานสวย ๆ และรอยยิ้มสดใส มารยาทดี อ่อนน้อมเมื่อทำงาน และห้ามเด็ดขาดคือห้ามขี้เกียจ เพราะถ้าขี้เกียจ อดตายจ้ารับรอง

เวลาที่คุยงานกับลูกค้าที่ติดต่อเข้ามา ควรเจรจากับลูกค้าด้วยความรัก อย่ากินหัวลูกค้า  เวลาทำงานก็เช่นกัน ควรอ่อนน้อมถ่อมตน ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นมิตร ทำให้ลูกค้าผ่อนคลายและได้รับความรู้จากเราไปด้วยในตัว 

ต้องรู้จักรักษาเวลา ตรงต่อเวลา และมีวินัยกับตัวเองมาก ๆ ลูกค้านัดเวลานี้ เราต้องไปถึงก่อนอย่างน้อย 20 นาที และเวลาทำงานให้เราลงมือทำอย่างเต็มที่ทุกงานไม่ว่าจะงานถูกงานแพง งานฟรีงานเหมา อย่าเบ่งว่าฉันดัง ฉันเก่ง อย่าอวดดีว่าตัวเองมีฝีมือเลิศเลอและไม่ก้มหัวให้ใคร ไม่ว่าจะเป็นกับช่างแต่งหน้าด้วยกันหรือกับลูกค้า เพราะทุกคนที่เข้ามาในกรทำงานของเราล้วนแต่มีบุญคุณกับอาชีพเราทั้งนั้น

พี่สะสมประสบการณ์จากการทำงานมาเรื่อย ๆ หลังจากที่พี่เรียนจบจากที่ IMC ก็เริ่มแกร่งละค่ะ เพราะฝึกหนัก เรียนหนัก แต่งหน้าหนักหักโหม และครูพาพวกพี่ออกไปฝึกงานที่ต่าง ๆ จากจุดนี้เองทำให้พี่มีคอนเนคชั่นต่าง ๆ มากมาย ทั้งพี่ช่างภาพ ทั้งทีมผู้จัดงาน ทั้งน้องนางแบบ ทั้งจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกรุ่นจาก IMC เลยทำให้พี่ได้มีโอกาสได้ทำงานแต่งหน้าแทบทุกประเภท เพราะทุกคนต่างพากันดึงกันไปทำงานตลอดไม่ขาดสาย ล

ดังนั้นการทำงานด้านนี้เราอย่าเป็นคนเงียบ ๆ ตัวคนเดียว เราต้องเป็นนางงามมิตรภาพและนางงามมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ เจอใครที่ไหนบอกไปค่ะ เราทำอะไร นามบัตรมี แจกค่ะ แลกไลน์กันไว้ก็ได้ มีงานเมื่อไหร่ถ้าเค้านึกถึงเราได้ เราก็ได้ไปทุกครั้ง

กว่าจะมีวันนี้ได้ เหนื่อยมากมายจริง ๆ อาชีพแบบพวกพี่ไม่เป็นเวลา เช้า สาย บ่าย เย็น ถ้ามีคิวมีงานพี่รับหมดค่ะ แต่มันดีตรงที่เราสามารถเลือกรับได้ ถ้าไม่พร้อมจะไปก็ไม่ต้องรับงาน ไม่มีตอกบัตรเข้าทำงาน ไม่มีลาพักร้อน อยากหยุดก็หยุดได้เลย แต่มันก็แลกมากับสวัสดิการชีวิตที่พี่ต้องหาเอง ไม่บริษัทคอยจ่ายให้ ก็ดีอย่างเสียอย่าง 

เมื่อเลือกแล้วพี่ก็สนุกกับมันเต็มที่ และพี่ก็ต่อยอดอาชีพอีกนิดโดยการรับสอนแต่งหน้า สอนทำผม ราคาน่ารักจุ๋มจิ๋ม ให้กับน้อง ๆ ที่อยากสวยด้วยมือเราเอง รวมถึงสาว ๆ ที่อยากทำอาชีพนี้ เป็นการแบ่งปันความรู้ที่พี่มีไปสู่คนอื่น ๆ ด้วย พี่จะได้ทั้งทวนวิชาไปในตัว ฝึกไปพร้อม ๆ กับทุกคน ลับสมองและฝีมือให้คมอยู่เสมอ อย่าหยุดอยู่กับที่ แต่จงพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ใช้การได้และไม่ตกยุคนะคะ

ถามว่าพี่คะพี่จะเรียนอะไรนักหนา พอได้ยัง พี่บอกเลยว่า ความรู้น่ะค่ะ มันเป็นของที่เราเรียนได้ชั่วชีวิต ถ้าเราชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เรียนไปเถอะ อย่าปล่อยให้น้ำเต็มแก้ว เติมอะไรไม่ได้อีก มันจะทำให้เราตามโลกไม่ทัน โลกหมุนไวไปไว เราวิ่งช้าเดินช้า เราจะไม่ทันโลก ยิ่งพี่ทำงานด้านสวยงามมันก็อิงแฟชั่นมาก ๆ พี่อยู่ตามหลังไม่ได้ พี่ต้องเดินไปคู่กะโลกเลย












ข้อแนะนำสำหรับผู้มีฝันอยากเป็น 
Makeup Artist ค่ะ

เงินเดือนไม่มีแล้วถ้าหางานแต่งหน้าไม่ได้จะเอาอะไรกิน
ความคิดนี้ถามว่าเคยมีในหัวพี่ไหม มีอยู่แล้ว รู้ไหมวันแรกที่พี่ไม่ได้ทำงานประจำแล้ว เคว้งเลย 555555 มันโหวง  เหวง  ในใจไงไม่รู้ แต่มันก็สบายใจปนกัน บอกไม่ถูก พี่ไม่กลัวเลยนะว่าจะทำไม่ได้ จะไม่มีใครจ้าง งานมีอยู่แล้วทุกที่ ถ้าเราเปิดตาหา พี่จะแนะนำช่องทางให้ค่ะ เอาหมดเปลือกที่พี่ทำเลยนะ


1. หาเพื่อนที่มีอาชีพเดียวกันเยอะ  
เวลามีงานเพื่อน  เหล่านี้ล่ะค่ะ จะส่งงานและดึง  กันไป ก็มีบ้างล่ะนะที่อิจฉากัน มีงานก็ไม่บอก ยิ่งสังคมมืออาชีพจริง  การแข่งขันก็ยิ่งสูง แต่สำหรับพวกพี่ ไม่เป็นอ่ะ พวกพี่รักกัน 5555 มีงานเมื่อไหร่ ถ้าไปด้วยกันได้ เฮกันไป อุ่นใจและปลอดภัยดีด้วย อย่างตัวพี่เอง พี่ไม่หวงงาน ได้มาพี่ก็แบ่งน้อง  ด้วย มันเป็นเรื่องน้ำใจ เรามีน้ำใจให้ใคร เค้า็มีน้ำใจตอบแทนเรากลับมา แม้เราไม่หวังให้กลับมาก็มาอ่ะ เชื่อไหมเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และหมั่นพูดคุยกับช่างแต่งหน้าที่เก่ง  เพื่อแลกเปลี่ยนวิชาความรู้


2. หาพื้นที่ประชาสัมพันธ์ตัวเอง
อย่าง fb แฟนเพจ กลุ่มหางานแต่งหน้าในเฟสบุค บล๊อกต่าง  รวมถึงเว็บไซต์ เอาทุกทางทุกที่ที่มีช่องให้เราโปรโมตตัวเอง ขยันหมั่นอัพผลงาน และถ้าเรารู้เทคนิคดี  ก็บอกและมาเขียนแชร์ อย่าหวงวิชา เพราะวิชาความรู้ที่เรามี ไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่รู้ คนเก่งกว่าเราก็เยอะเป็นล้าน ต้องเป็นคนมีน้ำใจและมองโลกบวก      55555 มันทำให้เรามีความสุข รู้เปล่า


3. คืนกำไรให้กับสังคม
แต่งหน้าฟรี อันนี้พี่อยากให้ทำ ครูทำผมพี่ท่านบอกมา และจำขึ้นใจตลอดเวลาคือ "ปีแรกที่คุณทำอาชีพนี้ คุณแต่งหน้าฟรีให้เยอะ  เพราะครูที่ทำให้เราเก่งแบบไม่ต้องจ้าง คือบุคคลเหล่านี้แล้วไปหาจากไหนล่ะ พี่หาจากโรงเรียนค่ะ มูลนิธิต่าง  น้อง  รู้ไหมคะ เวลามีงาน เด็ก  และคนอีกมากมายไม่มีเงินจ้างช่างหรอกค่ะ พอพี่ได้ไปทำ พี่โครตตตตตตมีความสุขเลย เหมือนเราได้ทำในสิ่งที่เรารักไปพร้อม  กับการทำบุญ เงินไม่ได้หรอกค่ะ แต่คนเหล่านี้คือครูของเรา ครูที่ช่วยให้เราเก่งขึ้นโดยไม่คิดมูลค่า เราได้แต่งหน้าเยอะ เราได้ฝึกเยอะ มันทำให้เราเก่ง จริง  นะ พี่ทำแบบนี้ล่ะ พี่ก็เก่งขึ้นจริง 


4. ถ้ามีเงิน ก็ลงโฆษณา
ปัจจุบันกระแสของโซเชี่ยลเนตเวิร์คมาแรงมาก เราต้านไม่อยู่ เราก็ตามมันไปเลยค่ะ มีแฟนเพจก็ใช้โฆษณาแฟนเพจ มีเวบบอร์ดต่าง  ก็อาศัยเวบบอร์ดนั้น  ช่วย มีลงประกาศฟรีก็ลงประกาศฟรีไปเลย บางครั้งเราก็ต้องยอมเสียเงินเพื่อให้เราเป็นที่รู้จักและเป็นที่คุ้นเคยพบเห็น แม้สักเพียงนิดเดียวก็ควรค่ะ จะลงกับที่ไหนก็หาเอาจากอากู๋เน้อ แต่พี่ไม่ได้ลงโฆษณา เพราะพี่ยังเงินไม่เยอะ 5555555


5. ได้เงินค่าจ้างมา แบ่งไว้ทำบุญบ้าง
พี่ช่างทำผมที่ไปด้วยกันบอกไว้ พี่ชอบอ่ะ เป็นความคิดที่ดีและทำให้หน้าที่การงานเรารุ่งเรือง ส่งเสริมทำนุบำรุงทั้งจิตใจและศาสนา มีความสุขนะพี่อยากบอก


6. หมั่นหาความรู้ให้ตัวเองอยู่เสมอ
ไปลงเรียนเพิ่มก็ได้ คอร์สแปลก  ที่จะส่งให้งานเราดียิ่งขึ้น พี่เองก็เป็นคนไม่ค่อยฉลาด คิดอะไรไม่ค่อยออก เลยไปขอวิชาความรู้จากครูดีกว่า มีครูแนะนำดีกว่ามางมเข็มคนเดียว หรือถ้าเค้ามีอบรมอะไรฟรีก็ไปเรียนค่ะ เชื่อไหมว่าทุกคอร์สที่เราไปเนี่ย ได้ความรู้ไม่ซ้ำกันหรอก เน้นของฟรีหน่อย 55555 ถ้าต้องเสียเงินก็ยอมเสียเป็นบางโอกาสเพื่อแลกกับสิ่งที่เราจะมาพัฒนาฝีมือ ทำงานได้ หาเงินได้ก็เก็บส่วนนึงไว้ไปเรียนต่อยอดนะคะ หรือจะหาคอร์สอบรมฟรีต่าง  ตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางก็ได้ มีตลอดจ้า ส่วนใหญ่พี่จะติดตามในแฟนเพจของเครื่องสำอางต่าง  หรือตามเพจความงามดัง  เค้าก็มาแจ้งข่าวให้ไปลงชื่ออบรมบ่อย  คือจะขายของนั่นล่ะ เราก็ไปลงชื่ออบรมค่ะ จะซื้อไม่ซื้อก็เรื่องของเรา แหะ  มีงบก็อุดหนุนบ้าง ไม่มีก็ดู  จับ  กลับบ้านแบบอึน  ไป เชื่อพี่นะคะ การที่เราได้เห็นอะไรมาก  เราจะเก่งขึ้น  จ้า


7. ตามคนดังและคนเก่งบนโลกไซเบอร์
 เพลานี่ มีเหล่าบลอคเกอร์ ยูทูปเบอร์เกิดขึ้นมากมายทุกวัน  เราสามารถดูคลิปต่าง  อ่านบลอคต่าง  ได้จนตาแฉะ รวมถึง IG ที่รวมเอาคลิปสั้น  เทคนิคดี  มากมาย ทั้งของไทยและนานาชาติทั่วโลก ถ้ามีเวลาดูคลิปกดตามแชแนลต่าง  ที่เราชอบในยูทูปไว้ด้วยนะคะ เพราะเทคนิคดี  ที่เราดูได้ฟรี  มีมากมายจนเราดูไม่ไหวกันเลย หรือจะตามกูรูท่านไหนก็ได้ที่เราอยากตามและเห็นว่าเค้ามีเทคนิดดี  มาแบ่งปันเสมอ พี่ได้ความรู้จากบรรดาคนดังเหล่านี้เยอะมากนะ ขอบอก อย่ามองข้ามเด็ดขาด ถามว่าหนูจะรู้ได้อย่างไรคนไหนเก่งคนไหนดี Goofle จ้า ช่วยหนูได้ เพียงแค่กดหาคำว่า Makeup โอวววว มาเป็นหางว่าวเลยจ๊ะสาว  


8. ตั้งใจทำงานทุกครั้ง อย่าดูถูกฝีมือตัวเอง
คนที่ดูถูกตัวเอง จะทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ จำคำพี่ไว้นะคะ เราต้องมั่นใจในสิ่งที่เราเลือก ทำงานทุกครั้งตั้งใจทำ ใส่หัวใจลงไปด้วย ทำด้วยความสุข อย่ากดดันตัวเองเด็ดขาด ทำตามสไตล์ที่เราถนัดและทำได้ ยิ้มแย้มแจ่มใสทำงานอย่างอารมณ์ดี ปกติพี่จะพกเอาลำโพงบลูธูทไปด้วยค่ะ แล้วโหลด APP spotify ไว้ในมือถือ ไปถึงก็เปิดเพลงฟังผ่านลำโพง มันช่างมีความสุข แต่งหน้าไป พากันฮัมเพลงไป คุยเรื่องเพลงไป ดี๊ดีจ้า 


และพยายามพูดคุยกับลูกค้า กับคนที่เราแต่งหน้าให้ จะได้ผ่อนคลายไม่กดดัน และอย่าลืมเช็คกลิ่นปากตัวเอง อันนี้สำคัญนะเออ เราทำอาชีพที่ใช้ความใกล้ชิดกับหน้ามากกกกกกกกก ก่อนแต่งหน้าอย่ากินปลาร้า กระเทียม สตอ หรืออาหารมีกลิ่นเด็ดขาด ให้แปรงฟันซัก 2 ครั้ง เคี้ยวหมากฝรั่งด้วย ดื่มน้ำมาก  ช่วยได้ค่ะ กลัวลูกค้าเป็นลม ฮ่า 


9. หากเป็นผู้หญิง ไม่แนะนำให้รับงานในเวลาที่ดึกสงัดและเดินทางคนเดียวค่ะ อันตราย
ถ้าจะรับงานช่วงเช้ามืดดึกดื่น หาเพื่อนไปด้วยซักคน อาจเป็นคนในครอบครัวเรา เพื่อน หรือใครก็ได้ที่พร้อมจะไปกับเรา รู้ไหมคะ การเดินทางคนเดียวไปในที่ที่เราไม่คุ้นนี้โครตน่ากลัวอ่ะ พี่เองยังไม่เคยเจอที่น่ากลัว แต่ครูสอนแต่งหน้าพี่เจอมาแล้ว เป็นแต่งหน้าเจ้าสาวแถวนากุ้ง มันวังเวงและมืดมาก ถ้าไปคนเดียวหลงทางหรือมีคนมาทำอันตรายเราตายแหง 


ดังนั้นเราต้องศึกษาแผนที่สถานที่ที่เราจะไปอย่างละเอียด สอบถามและมีเบอร์ติดต่อลูกค้า ถามทางให้แน่ใจ เพราะบางทีแผนที่ที่ลูกค้าให้มา มันไม่ใช่เลย 555555 หลงกันมาแล้ว พี่อยากเล่า ยิ่งต้องไปต่างจังหวัดนี่ เส้นทางก็ไม่คุ้น ทางก็มืด จบข่าวเลยทีเดียว ดังนั้นการมีใครซักคนไปกับเราเป็นทางเลือกที่เราต้องทำค่ะ ถ้าหาไม่ได้จริง  อย่ารับงานนั้น มันได้ไม่คุ้มเสียจ้า 


ถึงวันนี้นับจากวันที่ตัดสินใจออกจากงานจนรับงานเอง มันคุ้มค่าจริง  ความสุขที่ได้จากการทำงานประเมินค่าไม่ได้ ยิ่งเวลาเราแต่งหน้าแปลงโฉมให้คนคนนึงเปลี่ยนไปให้สวยขึ้น  มันช่างมีความสุข และเป็นความภาคภูมิใจยิ่งนัก อนาคตจากนี้จะเป็นอย่างไรไม่อาจรู้ได้ แต่พี่อยากให้ทุกคนที่มีความฝัน กล้าที่จะเดินตามฝัน อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนเลยวัยที่เดินตามไม่ได้ พี่ผ่านจุดวิกฤตและก้าวข้ามมันมาแล้ว พอได้มายืนอยู่จุดที่เราเลือกเอง มันช่างน่ายินดียิ่งนัก 

อย่างน้อยที่สุด ในชีวิตนึงที่เรามี เราก็ได้ทำอาชีพที่เราต้องการ และวันทุกวันที่เราทำงานก็ทำให้เราอยากตื่นไปทำ และในขณะที่ทำงานก็ทำอย่างมีความสุข คิดดูซิว่า มันสุดยอดแค่ไหน ทำในสิ่งที่เรารักและมั่นใจในสิ่งที่เราทำว่าเราทำได้ งานจะออกมาดีและชีวิตจะมีความสุข 

เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ขอให้ประสบความสำเร็จและได้ทำตามอย่างใจฝันอย่างประสบความสำเร็จ สู้นะคะ อย่าท้อ มีอะไรแลกเปลี่ยนและต้องการคำปรึกษา มาคุยกันได้ตลอดเวลาค่ะ พี่ยินดีเสมอ หวังว่าประสบการณ์ตรงนี้จะมีประโยชน์และเป็นแนวทางในการเดินสู่เส้นทางอาชีพนี้นะคะ

สุดท้ายพี่ขอบคุณพระเจ้า ที่รักและเมตตา ทำให้ชีวิตพี่เต็มไปด้วยสันติสุข เสมอมาและเสมอไป
ขอบคุณครอบครัวของพี่มาก  ที่สนับสนุนทั้งเงิน แรงกาย แรงใจ ทั้งช่วยดูแลเจ้าตัวยุ่ง 2 คนที่กำลังซนมากกกกอย่างดีมาตลอด

ขอบคุณคุณครูทุกท่านที่ให้คำแนะนำและสอนลูกศิษย์คนนี้เป็นอย่างดี ขอบคุณความรักความเมตตาที่มีให้พวกเราทุกคน

ขอบคุณเพื่อน  พี่  น้อง  ทุกคน ในอาชีพนี้ รวมถึงลูกศิษย์ของพี่เองทุกคน ที่ช่วยกันทั้งผลักและดัน แชร์สิ่งต่าง  และพากันไปทำงานเสมอ
เราทุกคนเกิดมามีเพียง 1 ชีวิต ถ้าเราตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างไม่ท้อถอย พี่เชื่อค่ะว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้

พระเจ้าอวยพรทุกคนค่ะ ^^

ฝากเนื้อฝากตัวและเรียกใช้บริการได้นะคะ
พี่นิดเต็มที่และทำงานแบบสุดตัวสุดใจทุกงานจ้า

ติดต่อให้นิดไปดูแลความสวยและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel. 090-965-2245

Website: https://www.happynidmakeup.com/

Line: superhappynid
https://line.me/ti/p/lPFjSRv_BP

IG: รวมผลงานเจ้าสาวของพี่นิด 
https://www.instagram.com/happynid_makeup/

IG: รวมทุกผลงานของพี่นิด
https://www.instagram.com/blessgracefulmakeup/

Fanpage: Bless Graceful Makeup 
ช่างแต่งหน้าเจ้าสาว รับปริญญาและทุกงานสำคัญของคุณ
https://m.facebook.com/happynidmakeup/?locale2=th_TH


































 




Create Date : 19 กันยายน 2560
Last Update : 19 ธันวาคม 2563 10:13:30 น. 0 comments
Counter : 5879 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peopleparadise
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




หวัดดีจ้า นิดเป็นคุณแม่ลูก 2 ที่ชื่นชอบการแต่งหน้า จนในที่สุดก็ได้ละทิ้งงานประจำอันมั่นคงเพื่อเข้าสู่เส้นทางที่ตัวเองรักอย่างจริงจัง นั่นคือ การเป็นช่างแต่งหน้า ทำมาได้หลายปีแล้วค่ะ มีความสุขทุกวันที่ได้เปลี่ยนโฉมหญิงสาวธรรมดาให้เป็นหญิงสาวที่ทุกคนตะลึงด้วยความงาม อิอิ ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานงานที่ทำให้นิดมีความสุขทุกวัน ๆ เช่นนี้
สาว ๆ ท่านใดสนใจให้นิดแต่งหน้าหรือมาเรียนแต่งหน้าและเกล้าผมกับนิด ติดต่อนิดได้นะคะ ^__^ ยินดีให้บริการอย่างเต็มความสามารถค่ะ
พระเจ้าอวยพรจ้า
New Comments
Friends' blogs
[Add peopleparadise's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.