ประมุขเฒ่าพรรคมาร
Group Blog
 
All blogs
 
ปิดทีวีกันเถอะครับ (จะดูไปทำไมเพราะมีแต่เรื่องไร้สมองที่คนไทยคิดกันไม่ค่อยจะเป็น)


คนส่วนใหญ่มักชอบบ่นว่า “ไม่มีเวลาเลยโว้ย” ทั้งๆ ที่นาฬิกาทุกหน้าปัดก็มี ๒๔ ชั่วโมงเท่ากันทุกเรือน

กลับมานั่งมองตัวเราบ่นว่าไม่มีเวลาบ่อยขนาดไหนหว่า ถึงมาเห็นว่าอืม….. เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยบ่นว่า “ไม่มีเวลา” เลยแฮะ ทั้งๆ ที่ก็ยังคงมีบ้านหลังเดิม เดินทางเหมือนเดิม กินอาหารจานเดิม

กลับมานั่งคิดทบทวนอีกหนว่าสิ่งไหนที่ทำให้เรามี “เวลา” เพิ่มมากขึ้น มากพอที่จะทำในสิ่งที่อยากทำมากมายขนาดนี้ นึกไป นึกมาก็ถึงบางอ้อครับว่า

ผมเลิกดูทีวีมาหลายปีแล้วครับ
คำว่าเลิกดูทีวีที่ว่านี่คือ ไม่ถึงกับปิด ๒๔ ชั่วโมง แต่หากให้นับหัวเฉลี่ยที่ผมดูทีวีต่อวันแค่ข่าวภาคดึกเท่านั้น ประมาณไม่ถึง ๑ ชั่วโมง


สาเหตุทีทำให้เลิกดูทีวีนี่คือ

๑ เบื่อละครครับ มุกเดิมตลอดแต่ก็แปลกทำไมพอเผลอดูแล้วมันติดจังเลยวะ รำคาญตัวเองเลิกดูแม่งเลย

๒ เบื่อเกมส์โชว์ครับ โคตรเซ็ง ขายแต่ความฮา กับมุกซึ้งกากๆ เบื่อที่ต้องมาดูดาราเปิดแผ่นป้าย

๓ รายการทีวีจำพวกวาไรตี้ ขอบอกตรงๆ เลยนะบางรายการไม่ต้องไปดูมันชีวิตจะดีขึ้น ไม่ต้องไปดูมันเลยจะดีกว่า ยิ่งดูผมว่าสังคมมันจะแย่ลงนะ

๔ กิจกรรมเยอะขึ้น กิจกรรมที่ว่าผมรวมไปถึงการทำงานที่มากขึ้นด้วยครับ ภาระหน้าที่บังคับให้ไม่สามารถดูทีวีได้ เมื่อหมดช่วงงานเยอะจบลง ก็เลยขี้เกียจเปิดมาเจออะไรบ้าๆ บอๆ แบบที่ผ่านมาแล้ว

๕ หนังสือน่าอ่านมีมากขึ้น แม้ในวงการอื่นจะตกต่ำ แต่เมื่อ ๔ ปีที่ผ่านมาวงการวรรณกรรมไทยถือว่าพัฒนาถึงขีดสุด ตอนนี้ผมเสพหนังสือดีๆ มากมาย แต่มาตอนนี้วงการวรรณกรรมไทยโดนต่างชาติ (หนังสือแปล) ยึดไปอีกแล้วครับ

ลองปิดทีวีดูซิครับ แล้วเอาเวลาที่เราดูทีวีต่อวันหลายๆ ชั่วโมงไปทำอะไรอย่างอื่นดูบ้าง แล้วคุณจะรู้ว่าเวลาที่เสียไปกับการจ้องหน้าจอ เป็นทาสจอสีที่ต้องจ่ายด้วยเวลาอันมีค่ามันเสียประโยชน์มหาศาลขนาดไหน

นอกจากสาเหตุทั้ง ๕ ข้อที่เขียนระบายมาสักครู่ มันยังมี “เหตุผล” สำคัญอีกข้อนึงครับที่ผมเลิกดูทีวีอย่างเด็ดขาด

นั่นคือโคตรพ่อโคตรแม่เบื่อกับนิสัย “ไร้สมองของคนไทย” คำว่าไร้สมองในที่นี้ไม่ได้แปลว่าโง่ แต่หมายถึงอาการ “ขี้ลอก” ไร้ซี่งความคิดของบรรดาครีเอทีฟที่สมองตีบตันไร้ไอเดียอย่างแท้จริง


ยกตัวอย่างเช่น
ไอ้การเอาหนังสือพิมพ์มาอ่านตอนเช้าเนี้ยะ คือทำไมมันต้องมีเหมือนๆ กันทุกช่องเลยวะ แม่งอีแบบนี้มันจะต่างกันตรงไหนในเมื่อทุกช่องต่างเปิดหนังสือพิมพ์มาย่อยให้คนดูเสร็จสรรพเหมือนๆ กันทุกช่อง?


ข่าวบันเทิง ทำไมมันมีแต่การสัมภาษณ์ดาราเท่านั้น? ที่ปวดร้าวคือส่วนใหญ่ไม่พ้นนำเสนอเรื่องราวโคตรปัญญาอ่อนแบบ อั้มหิวข้าว……………… เอ้อ แล้ว….แล้วไงวะ สัตว์เอ๊ย อั้มหิวข้าวนี่มึงถึงขั้นต้องมาถ่ายภาพอั้มเดินไปบอกทีมงานว่า “อั้มหิวข้าว” แล้วพิธีก็แซวว่า “อั้มหิวข้าวน่ารักจังเลย” นี่ข่าวบ้านพ่อมึงเหรอครับ หากนี่เป็นข่าวได้ หมาที่บ้านผมตีลังกาขี้นี่คงพาดหัวหน้าหนึ่งเลยดิวะแสดดดดดดดดดดดดด


ข่าวบันเทิงมันควรจะนำเสนอความเคลื่อนไหววงการบันเทิงเช่น ดนตรี ศิลปะ วัฒนธรรม หนัง ฯลฯ ประเด็นแม่งเยอะแยะ กูไม่เคยผ่านตาเลยวันๆ เจอแต่ อั้มหิวข้าว มดจูบแฟน โมนมหก ตัวประกอบสาหร่ายแล่บ โว้ยยยยยอะไรกันวะเนี้ยะ


Create Date : 20 เมษายน 2552
Last Update : 20 เมษายน 2552 22:34:18 น. 2 comments
Counter : 787 Pageviews.

 
เห็นด้วยอย่่างยิ่งค่ะ


โดย: ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:0:56:15 น.  

 


สวัสดีค่ะ...
แวะมาทักทายอีกครั้งค่ะ สบายดีนะคะ
ขอเชิญชวนไปที่บล็อคของป้าตุ้ยเพื่อร่วมขอบคุณ
และเป็นกำลังใจให้คุณหนึ่ง(k_nueng)ซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งใน pantip
ที่ได้เมตตาช่วยเหลือเบื้องต้นในการสร้างที่อยู่
ให้น้องหมาในความดูแลของป้าตุ้ย
ให้ปลอดภัยจากการถูกคนใจร้ายมุ่งเข่นฆ่าทำลายล้าง


โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:09:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ประมุขเฒ่าพรรคมาร
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ประมุขเฒ่าพรรคมาร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.