ด้านล่างของล็อบบี้(ที่อยู่ชั้นสอง) จะเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมที่ชื่อว่า La Perla เปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่มครับ
Luna Bar บนชั้น 3 ที่เราขึ้นไปจิบ Cocktail ชมพระอาทิตย์ตกกันมาครับ
คืนนั้นทางโรงแรมเลี้ยงอาหารค่ำให้กับคณะครับ
Starter เริ่มจากจานนี้ครับ เป็นเนื้อนกกระจอกเทศ ไม่เหม็นคาวเลย
จานที่สองเป็นสลัดแซลมอนรมควันครับ
ซุป
ตามมาด้วย Main Course ที่มีให้เลือกระหว่างปลาหิมะ และเนื้อ Tenderloin ซึ่งผมเลือกทานเนื้อครับ
ปิดท้ายด้วยของหวานเป็นช็อคโกแลตลาวาฮะ
ต้องขอโทษที่ผมจำชื่ออาหารไม่ได้เลยครับ จดมาแล้วแท้ๆไม่รู้ว่าเอาไปไว้ไหน
อาหารรสชาติดีครับ แต่ต้องบอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยชอบทานอาหารแบบนี้เท่าไหร่ถนัดไปทางอาหารไทยมากกว่า ฮ่าๆ
เช้าวันต่อมา ..
ที่จริงทางโรงแรมมีกิจกรรมให้เราได้ทำหลายอย่างนะครับ ใครใคร่จะเล่นน้ำก็เล่นกันไปแต่เสียดายอากาศตอนที่ไปไม่ดีเอาซะเลย
ที่จริงตัวโรงแรมไม่ได้ติดทะเลนะครับ หน้าโรงแรมจะมีลำคลองเล็กๆคั่นระหว่างชายหาดกับตัวโรงแรมอยู่ ทางโรงแรมจะมีทุ่นสะพานลอยน้ำให้เราข้ามไปที่ชายหาดได้ แต่ด้วยบรรยากาศและเวลาที่ไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่ผมก็เลยไม่ได้เดินไปทางชายหาดเลย
ตรงคลองนี่ทางโรงแรมก็มีเรือคายัคไว้ให้แขกได้ใช้บริการนะครับ ใครอยากพายเรือเล่นก็จัดได้เลย
หรือถ้าไม่ชอบกิจกรรมทางน้ำ ทางโรงแรมก็ยังมีจักรยานให้ขี่ไปดูบรรยากาศใกล้ๆโรงแรมได้ครับ
รวมถึงยังมีห้องออกกำลังกายไว้ให้อีกด้วยนะครับ
เนื่องจากทริปนี้ฟ้าเน่ามากและผมไม่สามารถถ่ายภาพด้านนอกอาคารได้เลย ขออนุญาตเอาภาพเก่าที่ผมเคยมาพักที่โรงแรมนี้เมื่อครั้งมาทริป ททท.พังงากลับมาให้ชมเพื่อให้รีวิวสมบูรณ์อีกครั้งนะครับ
สระว่ายน้ำครั้งก่อนผมมีโอกาสลงไปใช้ฮะ รู้สึกว่าน้ำมันอุ่นๆ
Pool Access ของห้อง Horizon Suite Pool Access ที่เกริ่นมาก่อนหน้านี้ครับ สระนี้เป็นสระน้ำอุ่นจริงๆด้วยซิ
ถ้าเป็นช่วงอากาศดีๆบอกเลยครับว่าที่นี่สวยจริงๆ ชายหาดของท้ายเหมืองเป็นชายหาดที่ยาวสุดลูกหูลูกตา แถมเป็นหาดที่เงียบสงบและยังสดอยู่มากๆ
ได้เวลาอาหารเช้ากันแล้วจ้าาาา
เสียดายที่ไม่ได้ลองทำสปาก็เลยบอกไม่ได้ว่าดีหรือเปล่านะครับ แต่เห็นหลายๆคนที่ไปทริปด้วยกันก็ไปลองทำแล้วก็ฟินกันออกมาทุกคน
บทสรุป..
จริงๆโรงแรมยังมีอีกหลายส่วนที่ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างครับ ช่วงที่ผมไปมาทั้งสองครั้งก็เลยยังดูว่าบางส่วนของโรงแรมยังไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แต่ในส่วนของห้องพักและห้องอาหารค่อนข้างเรียบร้อยแล้ว ห้องพักจัดได้ว่าสวยงามเลยล่ะครับ การตกแต่งรวมถึงวัสดุที่นำมาใช้สมกับเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ห้องพักค่อนข้างใหญ่มากเตียงนอนมีให้เลือกทั้งแบบเตียงเดี่ยวใหญ่พิเศษและเตียงคู่ มีหมอนให้เลือกหลายขนาด สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบอินเตอร์เน็ตทีวี จะขาดไปอย่างก็คงเป็นพวกอุปกรณ์ฟังเพลงถ้ามีอุปกรณ์ฟังเพลงแบบที่ใช้กับโทรศัพท์ได้จะดีมากเลยฮะ
เรื่องของอาหารยังมีอีกห้องอาหารนึงที่ยังไม่พร้อมให้บริการครับ(ยังก่อสร้างอยู่) ห้องอาหารหลักตอนนี้จะยังไม่มีอาหารที่ใช้หมูเสิร์ฟนะครับ แต่อีกร้านอาหารนึงที่รอเปิดให้บริการอยู่น่าจะมี อาหารเช้าถึงจะเสิร์ฟแบบ a la carte แต่ก็มีให้เลือกหลายชนิดและใช้วัตถุดิบชั้นดี
กิจกรรมมีให้ทำหลายอย่างอยู่ครับ ในโรงแรมก็จะมีคายัคให้พายเล่นไปตามลำคลองหน้าโรงแรม มีจักรยานให้ปั่นเล่นใกล้ๆ มีบอลลูนน้ำให้เล่นในสระ อีกทั้งยังมีพวกทัวร์หรือบริการเรือไปเที่ยวยังเกาะตาชัย สิมิลัน หรือเขาหน้ายักษ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอีกด้วย ชายหาดหน้าโรงแรมถ้าอยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยวก็จะสามารถเล่นน้ำได้สบายเลยครับ แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูมรสุมแบบช่วงที่ผมไปจะไม่สามารถเล่นน้ำได้เลยเพราะคลื่นค่อนข้างแรง
อ้อ.. ทางโรงแรมมีบริการพิเศษเมื่อมาถึงสนามบินสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการลีมูซีนของทางโรงแรมด้วยนะครับ บริการที่ว่าเป็นบริการช่องตรวจคนเข้าเมืองด่วนสำหรับลูกค้าต่างชาติ และบริการแบบวีไอพีสำหรับลูกค้าคนไทย
ถ้าอยากมาพักโรงแรมหรูที่ดูเงียบสงบเหมือนมีชายหาดส่วนตัวผม และมาพักกันแบบคู่รักผมว่าที่นี่เหมาะมากครับ แนะนำว่าเป็นอีกโรงแรมที่น่ามาพักผ่อนใช้เวลาอยู่ในห้องในโรงแรมมากๆ ถ้าเข้าพักในช่วงนี้โรงแรมจะจัดโปรโมชั่นห้องพักราคาถูกสำหรับคนไทยอยู่ครับ ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวแถวๆพังงาภูเก็ตผมแนะนำให้ลองไปสัมผัสดูนะครับ
ขอบคุณโรงแรม Le Coral Hideaway Beyond Phuket ที่เชิญให้ผมไปพักในทริปนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณบางกอกแอร์เวย์ที่ดูแลเรื่องการเดินทางเป็นอย่างดี เป็นครั้งแรกที่ได้ติด Tag VIP ที่กระเป๋าปลื้มมากตรงได้กระเป๋าไวสุดๆเนี่ยล่ะครับ สำหรับการเดินทางครั้งต่อไปน่าจะเป็นทริปที่ผมดองเอาไว้นานพอสมควรแล้วครับ รับรองว่าเป็นทริปเด็ดแน่นอนจะเป็นที่ไหนตามชมได้ในตอนหน้าครับ