Chichi no O-Bento ข้าวกล่องของคุณพ่อ
บีบี้ขอเกริ่นที่มาของข้าวกล่องของคุณพ่อ ซึ่งเกิดจากความคิดที่ว่า 1. กล่องข้าวที่ซื้อจากร้าน Daizo ยังไม่ได้ใช้ซะที 2. ได้พิมพ์อัดข้าวรูปแบบใหม่มาจากร้าน Daizo เช่นกัน 3. คุณแดดดี้ไม่ได้กินอาหารฝีมือ (ที่แทบกลืนไม่ลง) ของบีบี้มานานแล้ว 4. ดูรายการ Menu's today ทีไรเป็นต้องอยากลุกขึ้นมาทำข้าวกล่องทุกที 5. ที่สำคัญ - ห้องอาหารที่ตั้งใจจะไปกินก็เต็มทั้ง 3 ที่
ในที่สุดจึงจบลงด้วยออกไป shopping พร้อมกับเดินฝันว่าจะทำอะไรให้คุณแดดดี้กินดี เสียเวลา Shopping 1 ชั่วโมง (ที่ห้างของฝรั่งเศสเจ้าหนึ่ง) กับการปรุงอาหารอีก 2 ชั่วโมง (ไม่รวมเก็บล้างอุปกรณ์) กล่องข้าวน้อยก็เสร็จสมบูรณ์
ว่าแล้วมาดูหน้าตาของเจ้ากล่องข้าวกันเลยดีกว่า บีบี้เลือกสีเหลืองเพราะวันพ่อ (อยากได้สีชมพูแต่มันไม่มีสีนี้) มองหลายๆ มุม ทั้งมุมบน มุมข้างและมุมเอียง (ทำให้เห็นว่ากล่องล่างที่ใส่ข้าวนั้นปิดฝาไม่ลง เลยต้องกลับด้านฝา - upside down - และชั้นบนที่ควรจะวางตะเกียบ บีบี้นำไปใส่เบอเกอร์หมูแทน ซึ่งชิ้นก็หนากว่าที่ฝากล่องจะปิดลงได้)
เมื่อเปิดฝาบน สิ่งแรกที่จะเจอก็คือ เบอเกอร์หมูสไตล์ญี่ปุ่นโดยใช้หมูสับหยาบๆ ผสมกับเต้าหู้บดหยาบในอัตราส่วน 3 : 1 และผสมหอมหัวใหญ่สับ แล้วปรุงรสตามชอบด้วยน้ำตาล เกลือและพริกไทย (สูตรนี้บีบี้ได้มาจากรายการ Kokoriko ซึ่งเจ้าของสูตรบอกว่าเต้าหู้สามารถทดแทนไข่ไก่ที่ทำให้เนื้อเบอเกอร์เหนียวและแทนเกล็ดขนมปังที่ทำให้เนื้อเบอเกอร์นุ่มได้ - ไม่น่าเชื่อ คิดได้งัยเนียะ) โดยบีบี้เลือกวิธีการอบแทนการทอด เลยทำให้ไม่มีน้ำเกรวี่สำหรับราดหน้าเบอเกอร์ (เพราะมันแห้งตอนอบไปแล้ว) และคิดว่าบีบี้ใช้เวลาอบนานไปหน่อย เนื้อเลยดูแห้งไปหน่อย
สำหรับชั้นที่สองก็คือ สตูผักรวมและสลัดปูอัดโดยทั้งสองจะเป็นสูตรที่บีบี้คิดขึ้นเอง (กล้ามาก) โดยสตูผักรวมนั้น บีบี้หั่นบรอคโคลี่เป็นช่อเล็กๆ แครอทและฟักทองหั่นเป็นท่อนขนาด 1 นิ้ว จากนั้นนำทั้งหมดใส่ในชามทนไฟ ใส่น้ำเต้าหู้รสหวานที่ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย นำเข้าไมโครเวฟ ตั้งไฟที่ 600 watt นาน 3 นาที แล้วนำออกจากเตา จัดเรียงผักต่างๆ ลงในกระทงฟอยล์ ราดด้วยน้ำเต้าหู้ที่ใช้ต้มผักเล็กน้อยแล้วโรยด้วยชีสขูกฝอยนิดหน่อยก่อนนำเข้าเตาอบ ส่วนสลัดปูอัดนั้น บีบี้ฉีกปูอัดเป็นเส้นๆ ผสมกับกะหล่ำปลีหั่นฝอย (เอาเฉพาะส่วนใบเท่านั้น) และเห็ดเข็มทองฉีกเป็นเส้นๆ คลุกรวมกับน้ำสลัดครีมข้น ใส่ลงในกระทงฟอยล์ (ใส่ให้พูนกระทงเลยเพราะเวลาอบ ผักและเห็ดจะยุบตัวลงอีก) แล้วนำเข้าเตาอบ บีบี้อบอาหารทั้งสามอย่างพร้อมกันที่ 250C นาน 20 นาที (เพราะเบอเกอร์หมู บีบี้คิดว่าควรลดเวลาลงกว่านี้ น่าจะประมาณ 15 นาที แต่ที่เหลือสุกใช้ได้โดยเฉพาะสตูผัก ผักนิ่มหมดทุกอย่าง)
และชั้นสุดท้ายก็คือ ข้าวอัดพิมพ์ซึ่งประกอบด้วยข้าวกล้องหอมมะลิและข้าวซ้อมมือ ซึ่งบีบี้ซื้อแบบที่เค้าหุงเสร็จแล้ว นำมาอัดลงในพิมพ์แบบต่างๆ โดยแบบแรกจะอัดเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมมน โดยจะเป็นข้าวล้วนๆ กับข้าวที่ผสมแครอทขูดฝอย ส่วนแบบที่สองจะเป็นพิมพ์ทรงกระบอกโดยบีบี้จะใส่ข้าวพร้อมกับปูอัดหรือไก่ย่าง (มี 2 แบบ) ลงไปตรงกลาง เมื่อแกะออกจากพิมพ์ก็ทำการม้วนด้วยสาหร่ายโดยรอบ เป็นอันเสร็จในชั้นสุดท้าย
และในที่สุด กล่องข้าวของคุณพ่อก็ออกมามีหน้าตาโดยรวมเป็นเช่นนี้ ความภาคภูมิใจของบีบี้บังเกิดขึ้นทันทีที่ได้เห็นความสำเร็จที่ทำข้าวกล่องเองเป็นครั้งแรกแต่ไม่รู้ว่ารสชาติจะอร่อยถูกปากแดดดี้หรือไม่ (แดดดี้ไม่มีคำติชมใดๆ ทั้งสิ้นหลังจากที่กินอาหารกล่องนี้ - ท่าทางจะแย่)
บีบี้
Create Date : 07 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2552 0:18:13 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2062 Pageviews. |
|
|