KAI-FU LEE & CHEN QIUFAN : เขียน ชนานันท์ พูนพานิช,ปภาวี เทียนทองดี : แปล การศึกษาเรื่องราวของAI เริ่มต้นเมื่อประมาณปี1956 แต่พึ่งมามีบทบาทเด่นชัดในช่วงห้าปีที่ผ่านมา(เรื่องนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกปี2021) หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่หลี่ไคฟูกับฉุยฟ่านร่วมกันสร้างขึ้นมาเป็นการจินตนาการถึงโลกในอีก20ปีข้างหน้า(ปี2041)ที่AIมีบทบาทต่อสังคมโลกอย่างแท้จริง  ซึ่งในเล่มประกอบไปด้วย 10 เรื่องสั้น 🍂ช้างทอง  เรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจถึงDeep learning ของAI ที่ไม่ได้ถูกตั้งโปรแกรมมาล่วงหน้า แต่ให้AI เรียนรู้และคัดแยก จัดสรรข้อมูลมหาศาลที่ได้รับ (ถ้าจะให้นึกภาพออกง่ายๆเลย ตอนนี้ในfb สมมติว่าเราไปกดถูกใจโพสต์ที่เกี่ยวกับแมว หรือค้นหาสินค้าสักอย่าง มันก็จะโชว์โพสต์แนะนำเรื่องทำนองเดียวกันนี้ขึ้นมา ซึ่งบริษัทใหญ่อย่างfb ก็ได้นำDeep learning เข้ามาใช้ สังเกตไหมว่าเดี๋ยวนี้ในแชท จะมีให้ถามmeta AI ด้วย)----บริษัทที่ถือครองข้อมูลมากที่สุดในโลกคือ facebook,amazon ,google[เรียกกันว่าบริษัทAI]  หลังอ่านเรื่องนี้จบมีความรู้สึกว่าทุกวันนี้ที่เล่นfb ถูกAIของบริษัทนี้เก็บข้อมูลตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการกดถูกใจ การเข้าไปติดตามใคร เม้นต์โพสต์ไหน เข้าไปอ่านโพสต์เกี่ยวกับอะไรเยอะสุดในแต่ละวัน บริษัทนี้คือเก็บข้อมูลหมดเลยนะ ไม่ว่าจะมีfb กี่อัน ไม่รอด หรือจะให้พูดอีกแบบหนึ่งคือ app ต่างๆในมือถือทุกวันนี้AIมีส่วนร่วมทั้งหมด 🍂พระเจ้าหลังหน้ากาก เป็นเรื่องราวของDerpfack (วิดีโอปลอม) เป็นการใช้เทคโนโลยีCNN ที่ถูกออกแบบมาให้AI มีความสามารถในการมองเห็นจากข้อมูลที่รวบรวมมาจากวิดีโอต่างๆที่มีการบันทึกในสมาร์ทโฟนและที่แชร์ลงในโลกโซเชียล ตามด้วยเทคโนโลยีGAN ที่ทำให้AI มีความสามารถสร้างใบหน้าปลอมของคนที่ต้องการสร้างเลียนแบบลงบนวิดีโอ ด้วยกิริยา ท่าทาง น้ำเสียง ราวกับเป็นคนๆนั้นจริง ๆ เช่นกรณีปี2018 มีวิดีปลอมที่สร้างประธานาธิบดีโอบาม่าตัวปลอมแล้วพูดด่าประธานาธิบดีทรัมป์มาแล้ว หลังจากนั้นวิดีปลอมเริ่มแพร่กระจายไปในโลกโซเชียลมาจนถึงปัจจุบัน เหยื่อโดยมากเป็นบุคคลหลายระดับ ส่วนในแง่ที่มีประโยชน์มันมีส่วนทำให้วงการภาพยนต์และอนิเมะพัฒนาภาพ ฉาก การเคลื่อนไหว ได้สมจริงอย่างที่เราน่าจะเห็นกันในทุกวันนี้ ปัจจุบันทั้งfbและgoogle พยายามสร้างโปรแกรมตรวจจับวิดีโอปลอมพวกนี้อยู่(เหมือนฝ่ายมืดกับฝ่ายสว่าง ต่อสู้กันผลัดกันแพ้ชนะ ไม่รู้ว่าอนาคตมันจะไปถึงจุดไหน)----ในส่วนของบทวิเคราะห์ในเรื่องนี้บอกว่า อนาคตอาจต้องมีการใช้เทคโนโลยีblockchian เข้ามาตรวจ แต่เทคโนโลยีนี้ แม้ปี2041 ก็อาจจะยังไม่มีโอกาสได้ใช้(เป็นเทคโนโลยีในอนาคตเหรอ?) พวกเราทุกคนที่ใช้สมาร์ทโฟนอยู่กับGANเลยแหละ  ก็เวลาที่เราถ่ายรูปจากมือถือหรือถ่ายวิดีโอ ไลฟ์สดบ้างละ   มันปรับผิวหน้าเต่งตึง ปรับรูปหน้าให้อัตโนมัติ มันคือGAN ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของคนเรา ที่ว่าตัวจริงกับรูปไม่ตรงปก เออนะก็มาจากพี่GANนี่เอง😂 (ที่เราเห็นในโพสต์ทางfb อย่างการให้ภาพถ่ายเคลื่อนไหว การทำให้ภาพย้อนวัยในแต่ละช่วงอายุ ที่จำได้เป็นพระนางซูสีไทเฮาและดาราจีนอีกหลายคนก็ใช้เทคโนโลยีนี้เช่นกัน) นอกจากนี้ยังมีการสร้างให้AI ตรวจสอบความถูกต้องโดยวิธีการยืนยันตัวตนด้วยBiometrics อาศัยม่านตาและลายนิ้วมือ----ผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคตปี2041จะมีการใช้Biometricsในการสอบสวนคดีอาญาและนิติวิทยาศาสตร์มากขึ้น อ่านจบจะรู้ว่าการใช้AI ปลอมแปลงไม่ใช่แค่วิดีปลอมเพียงอย่างเดียว มีการใช้AI hackระบบในสงครามด้วยการปลอมคำสั่ง เราว่าอันนี้น่ากลัวสุด มันขึ้นอยู่กับคนใช้จริงๆแหละ  🍂นกกระจอกแฝด เรื่องนี้ผู้เขียนต้องการเน้นในเรื่องของNLPหรือการประมวลผลเพื่อให้AIเข้าใจภาษามนุษย์และสื่อสารกับมนุษย์ได้ โดยแบ่งเป็นสองแบบ แบบแรกมีมนุษย์คอยช่วยเหลือ แบบที่สองAIเรียนรู้เองทั้งหมด(แบบแรกเสียเวลาใช้ค่าใช้จ่ายสูง ถูกตัดออก แบบที่สองปัจจุบันได้ปรากฏขึ้นมาแล้วเป็นโปรแกรมสะกดคำอัตโนมัติในgoogle search ซึ่งปี2020 มันถูกต่อยอดซึ่งเรียกกันว่าGPT-3 (รูปธรรมในปัจจุบัน เช่นให้AIเขียนนิยาย เขียนกลอน วาดภาพ แต่งเพลง ขัดเกลาสำนวนภาษา และสามารถตอบคำถามเวลาเราถามได้(คอลเซ็นเตอร์เดี๋ยวนี้ไงบางบริษัทก็ใช้AI รับสายแทนคน))---คคหสต.เราคิดว่าถึงยังไงมันก็ต้องใช้มนุษย์ช่วยอยู่ดีในแง่การป้อนข้อมูลให้ ที่ว่าจะมีสติปัญญาเกิดขึ้นเองเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเพราะมันไม่ได้มีจิตมาอาศัยอยู่เหมือนร่างของมนุษย์และร่างของสัตว์ หลี่ไคฟูมองว่าอีกยี่สิบปีข้างหน้ามนุษย์อาจมีเพื่อนคู่หูเป็นAI(ซึ่งในปัจจุบันปรากฏการณ์นี้ได้เกิดขึ้นแล้ว แสดงว่าพัฒนาการทางAI ก้าวไปไว มากกว่าที่หลี่ไคฟูคาดการณ์ซะอีก) อีกประเด็นในเรื่องที่ผู้เขียนเอ่ยถึงเป็นการใช้AIทางด้านการศึกษา ที่AI สามารถช่วยแบ่งเบางานบางอย่างแทนครูผู้สอนได้ อย่างที่ในจีนได้มีการใช้appชุบชีวิตบุคคลในประวัติศาสตร์ให้พูดคุยกับนักเรียนได้(โห..จีนไปไกลมากเลยนะเพราะเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อปี2021ตอนนี้2025แล้ว)  นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้อนุมานว่าอนาคตรูปแบบการเรียนการสอนอาจเปลี่ยนไป เด็กไม่จำเป็นต้องมาเรียนหรือมีครูมาสอนก็ได้ เพราะให้AI สอนที่บ้านแทน 🍂รักไร้สัมผัส เป็นเรื่องของAI ที่จะนำมาใช้เกี่ยวกับด้านสุขภาพ เป็นการคาดเดาว่าในปี2041 AI จะมีบทบาทในด้านการวินิจฉัยโรค ผลิตยาและวัคซีนรวมถึงอีกหลายๆด้านทางการแพทย์  ซึ่งหากทำได้จริงวงการแพทย์หลายสาขาคงสั่นสะเทือนโดยเฉพาะบุคลากร เพราะถูกAI แย่งงาน (ปัจจุบันมีการใช้AIช่วยในการผ่าตัดกึ่งอัตโนมัติโดยมีแพทย์คอยควบคุม แต่มีเปอร์เซ็นต์การใช้AI ช่วยผ่าตัดน้อยมาก)---ส่วนใหญ่เราจะเห็นแต่ในหนังแนวไซไฟ 🍂ไอดอลสุดหลอนของฉัน เป็นเรื่องAIกับเทคโนโลยีเสมือนจริง(XR) XR ประกอบด้วย 3 เทคโนโลยีคือ โลกเสมือนจริง(VR), ความจริงเสริม(AR)[เรานึกถึงหนังที่เวลาตัวละครคลิกตำแหน่งหนึ่งในภูมิประเทศมันจะขึ้นภาพเป็นสามมิติออกมา],ความจริงผสม(MR)[ให้นึกถึงหนังผี ที่ผีปรากฏตัวให้เราเห็นได้ในทุกๆสถานที่ โดยที่คนอื่นมองไม่เห็น] ผู้เขียนคาดการณ์ว่าในปี2041 เทคโนโลยีXR จะเกิดขึ้นได้จริงโดยมองผ่านแว่นหรือคอนแทคเลนส์ อ่านเรื่องนี้แล้วมีบางอย่างที่รู้สึกว่ามันอาจจะดูออกทะเลไปให้เทียบก็ประมาณคนสมัยโบราณที่ไม่เชื่อว่าอนาคตจะมีรถวิ่งบนถนนแทนม้า จะมีเครื่องบินที่พาคนขึ้นไปบนฟ้าได้ ฟิวเราก็ประมาณนี้เลย แต่ว่าผู้เขียนก็มีมุมมองในอีกแง่ที่ว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิตเวชได้(เรายังนึกภาพไม่ออก)รวมไปถึงใช้ในการเรียนการสอนด้านการจำลองผ่าตัดคนไข้ให้นักเรียนแพทย์ได้ศึกษา(อันนี้พอเข้าใจได้อยู่) อีกประเด็นเป็นเรื่องของการเก็บความทรงจำหรือความอมตะแบบดิจิตอล (คคหสต.ความทรงจำที่งดงามที่สุดควรเก็บจากจิตใจของตัวเองมากกว่า ถ้าคนเราสร้างคนที่ตายไปให้ฟื้นคืนชีพกลับมาในรูปแบบของดิจิตอล อนาคตมนุษย์ชาติอาจจะไม่รู้จักหรือเรียนรู้เรื่องของความสูญเสียก็เป็นได้)  ผู้เขียนเองก็มองว่าเทคโนโลยีนี้ถ้าใช้ในทางที่ผิดจะสร้างความเสียหายต่อสังคมและก่อให้เกิดอาชญกรรมรุนแรงตามมา คคหสต.เรามองว่าเทคโนโลยีXRหากนำมาใช้ในแง่ของจิตใจ กลับทำให้มนุษย์จิตใจอ่อนแอลง มีผลเสียมากกว่าจะเป็นผลดี ค่อนข้างน่ากลัวนะ 🍂พลขับศักดิ์สิทธิ์ รถยนต์ไร้คนขับหรือAV(เรื่องนี้ไม่แปลกเท่าไหร่เพราะมีให้เห็นในหนังมานานมาก) การขับรถแบ่งเป็น 6 ระดับ(L0-L5) โดยการขับแบบมีAI ช่วยจะอยู่ในระดับL1-L5  ในปัจจุบันการขับด้วยAI ยังไม่สามารถเป็นจริงได้คือระดับ L4-L5 (L5 เป็นการใช้AI ทำหน้าที่ควบคุมการขับรถทั้งหมด มนุษย์เป็นเพียงผู้โดยสาร]   ผู้เขียนวิเคราะห์ประมาณว่าสิ่งที่ขัดขวางการพัฒนาการขับรถด้วยAI ในระดับL5 ส่วนหนึ่งมาจากความไม่มั่นใจต่อความปลอดภัยของชีวิต(เราเป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนี้เหมือนกัน ไม่คิดฝากชีวิตไว้กับพวกปัญญาประดิษฐ์) 🍂กองทัพโดรนวันสิ้นโลก เรื่องนี้มีเอ่ยถึงการใช้ควอนตัมคอมพิวเตอร์(QC) เป็นเรื่องที่เราเข้าไม่ถึงนะ เพียงสรุปได้ว่า ในแง่ลบมันคือนักโจรกรรมที่สุดยอดมากถ้ามันเกิดขึ้นได้จริง แต่ว่ายังไม่มีใครทำได้เท่านั้น ส่วนอีกประเด็นคือโดรนสังหาร ที่ใช้ได้จริงแล้วในสงครามปัจจุบัน(นี่ก็รบกันไม่จบไม่สิ้น) เราดูเรื่องดูน โดรนสังหารเป็นตัวยุง(ถ้าเจอของจริง ไม่มีใครรอดได้หรอก ตายลูกเดียว)  🍂ผู้ช่วยให้งานรอด เป็นเรื่องที่เอ่ยถึงAI เข้ามาแย่งงานมนุษย์ (น่าจะพอนึกภาพกันออกเนาะ) ผู้เขียนจะเน้นไปในเรื่องของการเสนอแนวคิดการแก้ปัญหาเหตุการณ์นี้ที่จะขึ้นในอนาคต โดยการสร้างความเหลี่ยมล้ำให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดระหว่างAIกับมนุษย์  มีหลายอย่างที่เราว่ามันเป็นไปได้ยาก มนุษย์ไม่มีวันให้AI ครอบครองงานทั้งหมดหรอก ในที่สุดกลุ่มชนชั้นแรงงานที่ถูกไล่ออกหรือเลิกจ้างทั่วโลกอาจสร้างปรากฏการณ์ล้มล้างระบบนี้อย่างคาดไม่ถึงก็ได้  🍂เกาะแห่งความสุข เป็นเรื่องราวในแง่บวกของAIที่สร้างความสุขให้มนุษย์  🍂AIกับสังคมในอนาคต เป็นเรื่องของอนาคตในปี2041ที่ผู้เขียนคาดการณ์ว่าจะเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4 โดยAI รวมไปถึงการใช้พลังงานทดแทนแบบเต็มขั้นทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ศัพท์ใหม่ที่ได้รู้เพิ่มเป็นซิงกูลาริตี้ที่นักวิทยาศาสตร์คาดเดาว่าจะเกิดในปี2045 มันคือสังคมโลกที่ถูกควบคุมโดยAI ทั้งหมด 🌼หลังอ่าน🌼 เราไม่ได้มีความรู้เรื่องAI มากมายอะไร  ด้วยเหตุนี้จึงอยากหามาอ่านดูว่าAIได้พัฒนาไปไกลขนาดไหนแล้ว เป็นเล่มที่เราตั้งใจอ่านแบบจริงจังเหมือนอ่านหนังสือสอบ เพราะบางทีเวลาที่เห็นคำว่าAI บนปกหนังสือปุ๊บ เราก็อดคิดไปก่อนไม่ได้ว่าคงอ่านยาก จะอ่านรอดไหม จะเข้าใจหรือเปล่านะ ก็เลยบอกตัวเองว่าเล่มนี้ยังไงก็ตั้งใจอ่านหน่อยนะ  เรื่องสั้นในแต่ละเรื่องเหมือนส่วนขยาย ทำให้เราเห็นภาพรวมในแต่ละหัวข้อที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอไม่ได้อ่านยาก สนุก สำนวนการแปลดีมาก แต่ละเรื่องก่อนจะเปิดอ่านให้ความรู้สึกลุ้นว่าเราจะได้อ่านเนื้อหาแบบไหนกันนะ  การอ่านเล่มนี้ต้องใช้การแยกแยะนิดหนึ่งในบทวิเคราะห์ท้ายเรื่องของแต่ละเรื่องตรงที่เนื้อหาช่วงไหนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เนื้อหาช่วงไหนเป็นเพียงแนวคิดและการคาดการณ์ในอนาคตของผู้เขียน หากใครสนใจลองหาฉบับเต็มมาอ่านได้ค่ะ   Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2568 Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2568 6:51:44 น. 0 comments Counter : 230 Pageviews. (โหวต blog นี้)  Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณhaiku, คุณดอยสะเก็ด