พิษณุโลกโคตร Local วันแรกแวะมาแชะมาชิลมามูกันที่เมืองสองแควกันเนาะ



นางสาวญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก ดูแล 2 จังหวัดด้วยกันคือ จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูรณ์ สำหรับส่วนการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลกของเรา สามารถเดินทางมาได้หลายช่องทาง อาจจะเดินทางมาทางนรถยนต์ซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 5 ชั่วโมง ส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วเราก็มีสนามบิน มีสายการบิน 3 สาย คือ นกแอร์ทำ-แอร์เอเซีย และไลอ้อนแอร์ สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก มาเยือนจังหวัดพิษณุโลก สิ่งหนึ่งที่จะต้องขาดไม่ได้นั่นก็คือการมาไหว้พระพุทธชินราชก่อน ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมใจของชาวพุทธ
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงของเราปีนี้มีเยอะแยะมากมาย แหล่งท่องเที่ยว "ชุมชนบ้านแหล่งส้มซ่า" ปีนี้เราเสนอในธีม "เสน่ห์กินริมน้ำ FUN FIN FOOD @Phitsanulok" ที่นี่เขามีไฮไลต์คือ เขาจะปลูกต้นส้มซ่า แล้วชาวบ้านจะนำ "ส้มซ่า" มาประกอบเป็นเมนูอาหารของชุมชน เพราะฉะนั้นควรมาลองชิมลองทานเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวสามารถไปท่องเที่ยวที่ "เนินมะปรางค์" ซึ่งที่เนินมะปรางค์จะมีไฮไลต์ในตอนเย็นๆ นั่นก็คือ "ค้าวคาว" นับล้านตัวบินออกจากภูเขาหินปูนที่เนินมะปรางค์ สามารถมานอนพักแรมค้างคืน ซึ่งเรามีที่พักหลากหลายรูปแบบไว้รองรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นแบบแค้มป์ หรือว่าแบบเต็นท์ เลือกได้ตามใจชอบ เชื่อมโยงไปถึงจังหวัดเพขรบูรณ์ที่ "เขาค้อ" สำหรับที่เขาค้อ เรามีกิจกรรมในช่วงปลายปีด้วยเช่นกัน นอกเหนือไปจากสวนดอกไม้-ไร่ผลไม้ และอากาศมีความเย็นสบายตลอดทั้งปี ปลายปีนี้เรามีการจัดงาน "บอลลูน เค้าดาว์น" ที่ Route 12 เขาค้อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่โทร.091-842-4792 ซึ่งทุกคนสามารถเดินทางมาร่วม Countdown กับเราได้ เราจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2565-วันที่ 1 มกราคม 2566 ททท.พิษณุโลก ขอเชิญชวนมาร่วมงาน เพราะเราจะมีกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยว มาร่วมสนุกพร้อมแจกของรางวัลอย่างมากมาย
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก ขอเรียนเชิญนะคะ

จากนั้นมาถึงเมืองสองแคว จังหวัดพิษณุโลก ททท.พิษณุโลก พามารับประทาน "ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน่าน" เป็นร้านอร่อยร้านดังของจังหวัดพิษณุโลก สูตรก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยแบบแท้ๆ ที่คนรักกินเส้นต้องห้ามห้ามพลาด
ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน่าน พิกัด : 64/9 ถ.พุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก เปิดบริการ : 09.00 - 16.00 น. (ทุกวัน) โทร : 08-1953-6228

ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน่าน เป็นร้านอร่อยชื่อดังประจำจังหวัดพิษณุโลก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระศรีมหาธาตุ ที่นี่มีจุดเด่นเป็นสูตรก๋วยเตี๋ยวต้มยำจากสุโขทัย เก๋ตรงที่การมานั่งห้อยขาทานก๋วยเตี๋ยว เรียกว่ามาเยือนเมือพิษณุโลกต้องมากินมาชิล ต้องห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาด





ก่อนปิดท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง ของหวานที่ต่องห้ามพลาดสั่งปิดท้ายเลยนะคะ ไม่งั้นจะ OUT คุยกับเขาไม่รุ้เรื่องว่ามาถึงเมืองสองแควแล้ว เรียกว่ามาเช็คอินเปิดเมืองเข้าจังหวัดพิษณุโลกด้วยมื้อเที่ยงที่นี่

จากนั้นอิ่มพุงกันแล้ว ททท.สำนักงานพิษณุโลก พามาต่อที่ร้านกาแฟ ""

ร้าน RAMATIQ opening ตั้งแต่เวลา 8.00น.-23.00น. ช่วงเช้ามีบริการ breakfast & brunch พร้อมกับ คาเฟ่ เครื่องดื่ม ชา กาแฟ เบเกอรีโฮมเมด ช่วงกลางวันมีบริการ อาหาร และเครื่องดื่ม ส่วนช่วงเย็นมีบริการ อาหาร และเครื่องดื่ม พร้อมมีมินิคอกเทลบาร์และดนตรีสด อยู่ในโรงหนังราม่าเก่า








จากนั้นแวะไปหาน้องแมวที่เป็นร้านคาเฟ่แมวอยู่ติดกันค่ะ แวะไปเล่นกับแมวดูสักหน่อยเนาะ เดินขึ้นไปชั้น 2 ของร้าน ที่นี่มีกฏข้อเดียวว่า "เล่นกับน้องแมวได้ ให้อาหารน้องแมวได้ แต่ห้ามอุ้มแมว"










วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร มรดกแห่งศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของจังหวัดพิษณุโลก

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ริมฝั่งแม่น้ำน่านด้านทิศตะวันออก ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) เ นับป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในฐานะสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลก


พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารด้านตะวันตกในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1900 ตรงกับรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระเหลือ พระพุทธชินราชได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงาม และยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจำลองกันมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ศรัทธาและนิยมเดินทางมากราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่งด้วย

ตำนานพระพุทธชินราชนั้นมีปรากฏในพงศาวดารเหนือ ซึ่งได้รับการเรียบเรียงใหม่ตอนปลายรัชกาลที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2350 โดยพระวิเชียรปรีชา เจ้ากรมราชบัณฑิตขวา ประวัติความเป็นมาของพระพุทธชินราชตามพงศาวดารเหนือนี้มีว่า มีกษัตริย์เชียงแสนองค์หนึ่ง ชื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก มีบุญญาธิการมาก กษัตริย์เมืองเล็กเมืองน้อยต่างก็โอน อ่อนสวามิภักดิ์ พระองค์ได้ยกทัพมาทำศึกกับพระเจ้าพสุจราชเมืองสัชนาไลย เมืองสัชนาไลยเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ได้ยกพระธิดาปทุมเทวีให้แก่พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก ต่อมาพระนางได้มีโอรสสองพระองค์ คือ เจ้าไกรสรราช และเจ้าชาติสาคร
ภายหลังพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกได้มาสร้างเมืองใหม่ ด้วยความเชื่อว่าเป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้า เคยได้เสด็จมาฉันจังหันใต้ต้นสมอแห่งนี้ แล้วตั้งชื่อเมืองใหม่นี้ว่า "พิษณุโลก" พระองค์ได้ให้เมืองใต้พระบรมโพธิสมภารทั้งหลาย ช่วยกันสร้างวิหารและพระธาตุขึ้นกลางเมือง ส่วนพระองค์เองนั้นดำริจะสร้างพระพุทธสำริด 3 องค์ คือ พระพุทธชินศรี พระศรีศาสดา และพระพุทธชินราช มีช่างจากเมืองสัชนาไลยและหริภุญไชย สร้างสำเร็จเพียงสององค์แรกเท่านั้น เหลือแต่พระพุทธชินราชเพียงองค์เดียวที่ไม่ลุล่วง ช่างทำการหล่อถึง 3 ครั้ง ก็ไม่สามารถหล่อองค์พระขึ้นมาได้เพราะทองนั้นแล่นไปไม่ทั่วองค์พระ
พระศรีธรรมไตรปิฏกจึงได้ตั้งจิตอธิษฐาน ถึงบุญบารมีที่ท่านได้บำเพ็ญมาแล้วในกาลก่อน ร้อนไปถึงองค์อินทร์ต้องเสร็จลงมาช่วย โดยเนรมิตตนเป็นชีปะขาว ด้วยอิทธิฤทธิ์แห่งจอมสวรรค์ทองนั้นก็แล่นทั่วองค์พระได้โดยพลัน

จากประวัติการสร้างพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นี้ ชี้ให้เห็นฐานะของพระพุทธชินราชว่า สูงกว่าพระพุทธชินศรีและพระศรีศาสดา เพราะต้องอาศัยเทวดามาสร้าง คนธรรมดาสามัญไม่อาจสร้างได้ ด้วยว่าบุญญาบารมีไม่ถึงพระพุทธชินราช ทั้งได้แสดงถึงบุญญาธิการยิ่งใหญ่ของพระศรีธรรมไตรปิฎกด้วย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ยังได้ทรงสร้างความเชื่อมโยง ให้พระพุทธชินราชเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สยาม ด้วย โดยกล่าวว่า พระพุทธที่สร้างขึ้นนั้นโดยรวมแล้ว เป็นฝีมือของชาวสยาม (สวรรคโลก) ดังเนื้อความว่า
พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกจึงทรงพระวิตกว่า ถ้าจะทำพระพุทธรูปขึ้นแต่โดยลำพัง ฝีมือลาวชาวเมืองเชียงแสนกลัวเกลือกจะไม่งามดี สู้พระพุทธรูปเมืองสวรรคโลกได้
ทั้งยังเท้าความไปอีกว่า พระพุทธชินราช พระพุทธชินศรี และพระศรีศาสดา ทั้ง 3 องค์ อันเผ่าพงศ์กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาเคยนมัสการมาแล้วหลายชั่วคน ได้เอ่ยนามกษัตริย์เป็นต้นว่า สมเด็จพระราเมศวร สมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จพระนเรศวร สมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ฯ
ด้วยอานิสงส์แห่งการมาสักการะพระพุทธรูป ที่เมืองสวรรคโลกนี้ ทำให้เป็นกษัตริย์ที่เกรียงไกรมีชัย เหนือศัตรูทั้งปวง พระเจ้าแผ่นดินสยามองค์ต่อมา ก็ได้เสด็จมานมัสการพระพุทธรูปทั้ง 3 นี้ เป็นธรรมเนียม

รัชกาลที่ 6 ก็ได้ทรงปรารภถึงความงามของพระพุทธชินราชไว้ดังนี้
พระพุทธชินราช ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้เห็นพระพุทธมานักแล้ว ไม่เคยรู้สึกว่าดูปลื้มใจจำเริญตาเท่าพระพุทธชินราชเลย
ถ้าพระพุทธชินราชยังคงอยู่ที่พิษณุโลกตราบใด เมืองพิษณุโลกจะเป็นเมืองที่ควรไปเที่ยวอยู่ตราบนั้น ถึงในเมืองพิษณุโลกจะไม่มีชิ้นอะไรเหลืออีกเลย ขอให้มีแต่พระพุทธชินราชเหลืออยู่ แล้ว ยังคงจะอวดได้อยู่แล้ว ยังคงจะอวดได้อยู่เสมอว่ามีของควรดูควรชมอย่างยิ่งอย่างหนึ่งในเมืองเหนือหรือจะว่าในเมืองไทยทั้งหมดก็ว่าได้

จากคำกล่าวของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อครั้งพาฝรั่งไปชมพระพุทธชินราชว่า
พวกฝรั่งพากันออกปากว่า ยังไม่เคยเห็นของโบราณที่แห่งอื่นในเมืองไทยจับใจ Impressive เหมือนพระชินราช

คำกล่าวของหลวงบริบาลบุรีภัณฑ์
ข้าพเจ้าเคยไปราชการที่จังหวัดพิษณุโลกกับฝรั่งหลายคราว เขาเคยกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า พระพุทธรูปองค์นี้สวยเหลือเกิน เขาอาจนั่งดูอยู่ในวิหารนี้ได้โดยไม่เบื่อตั้ง 2-3 ชั่วโมง บางคนถึงกับกล่าวว่าเขารู้สึกอิจฉาคนไทยมาก ที่มีพระพุทธรูปงามเช่นนี้ ฯลฯ ถ้าท่านเป็นคนไทย
ความงามของพระพุทธชินราช จะปรากฏแก่ท่านในขณะที่นั่งอยู่ในวิหาร ถึงทำให้น้ำตาไหลออกมาได้โดยไม่รู้สึกตัว

เพราะพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีอิทธิพลอย่างยิ่งคือร่วมสร้างประวัติศาสตร์ชาติ และสัญลักษณ์ของความเป็นไทย สะท้อนถึงความเจริญในศิลปวัฒนธรรมของชาติให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก และสามารถอนุมานได้ว่าพระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่สวยที่สุดในประเทศไทย หรืออาจเป็นพระพุทธรูปที่งามที่สุดในโลก
ดังที่ได้กล่าวมาทั้งหมดแล้วนั้นคงจะเป็นเหตุผลเพียงพอ ที่จะอธิบายได้ว่า ทำไมพระพุทธชินราชถึงถูกจำลองมากที่สุดในไทย ทำไมจึงเป็นพระพุทธรูป ที่ถูกเลือกให้เป็นแบบของพระประธานแก่วัดไทยในต่างแดน
ที่มาข้อมูลมาจาก : ชาตรี ประกิตนนทการ. พระพุทธชินราชในประวัติศาสตร์สมบูรณาญาสิทธิราชย์. นนทบุรี: โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด, 2551









พระพุทธชินสีห์ ถูกจัดให้อยู่ในพระพุทธรูปหมวดพระพุทธชินราช (พระพุทธรูปสกุลช่างเมืองพิษณุโลก) ซึ่งมีลักษณะต่างจากหมวดใหญ่เล็กน้อย คือพระพักตร์ที่อวบอ้วนมากกว่า และที่สำคัญคือการทำปลายนิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเสมอกัน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย


ส่งท้ายตอนที่ 2 ของการมาเยือนสอวแควไว้แค่นี้ละกันเนาะ

ขอขอบคุณ
นางสาวญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก
เพลง : พิษรักพิษณุโลก - สีหนุ่ม เชิญยิ้ม BG : คุณลักกี้ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat ของแต่ง BLOG : ป้ามด-ดอกหญ้าเมืองเลย-ชมพร-ญามี่-เนยสีฟ้า
Create Date : 22 พฤศจิกายน 2565 |
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2565 2:09:36 น. |
|
12 comments
|
Counter : 361 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณปัญญา Dh, คุณnewyorknurse, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณSleepless Sea, คุณสองแผ่นดิน, คุณplang_ks, คุณSweet_pills, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณNoppamas Bee, คุณSertPhoto, คุณStand by bowky, คุณเจ้าการะเกด, คุณkae+aoe, คุณ**mp5** |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา:5:05:55 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา:14:24:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา:15:35:37 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา:22:00:25 น. |
|
|
|
โดย: Noppamas Bee วันที่: 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา:23:49:11 น. |
|
|
|
โดย: SertPhoto วันที่: 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา:23:52:59 น. |
|
|
|
โดย: เจ้าการะเกด วันที่: 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา:23:57:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤศจิกายน 2565 เวลา:5:09:10 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 23 พฤศจิกายน 2565 เวลา:9:57:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤศจิกายน 2565 เวลา:13:01:59 น. |
|
|
|
|
|
ถือเป็นจังหวัดใหญ่
และมีอะไรน่าเที่ยว น่ากินมากมายเลยนะครับ