มติชน สุดฯ ฉบับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550

เกาะติดข้างสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส 2007


     ใช่ว่าฉันเก่งกาจ ใช่ว่าฉันฉลาดรู้มากกว่าใคร

     เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเพราะ...ประกาย

     ประกายที่วาบขึ้นมาครั้งแรก เมื่อสองเดือนก่อนขณะกำลังทำงานแปลข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่อง TV5 Monde ของฝรั่งเศสที่รายงานเรื่องการขึ้นเวทีประชันตอบคำถามของผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นตัวแทนพรรคสังคมนิยม (FS) เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ผู้สมัครหนึ่งในสามเป็นสาวใหญ่สวยสง่าหน้าหวาน ท่าทางเด็ดเดี่ยว แม้รูปร่างจะอ้อนแอ้นบอบบาง เธอประจันหน้าแข่งขันกับอดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีท่าทางมั่นอกมั่นใจสองคน ทั้งยังถูกจับตามองกึ่งชื่นชมกึ่งหยามหน้าว่าจะสู้เสือสิงห์ได้สักกี่น้ำ

     ผลลัพธ์พลิกโผค่ะท่าน หลังจากเดินสายตอบคำถามรอบแล้วรอบเล่าของสมาชิกพรรคตามธรรมเนียมปฏิบัติ ทั้งในปารีสและหัวเมืองต่างๆ เธอผู้นั้นก็ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนพรรคฝ่ายซ้ายของฝรั่งเศสเพื่อลงสมัครเป็นประมุขของประเทศ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นภายในอีกไม่ถึงร้อยวันนี้

     ประกายวาบกระซิบบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องมีสีสันไม่เบาแน่ๆ เพราะทางพรรคอูเอ็มเป (UMP) พรรคฝ่ายขวาที่กุมเสียงข้างมากในขณะนี้ ก็เตรียมส่งผู้สมัครที่มีความโดดเด่นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เป็นถึงประธานพรรครัฐบาลและเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยคนปัจจุบันที่มีผลงานและพรรคพวกมากมาย

     ประกายส่องแสงเจิดจ้าขึ้น เมื่อดูรายการคุยข่าวทางสถานีโทรทัศน์ของบ้านเรารายการหนึ่ง หนึ่งในพิธีกรคุยข่าวเล่าเรื่องผู้หญิงที่ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเดินทางไปประเทศจีน และได้รับความชื่นชอบขนานนามว่าเป็นกุหลาบแห่งฝรั่งเศส แล้วเธอคนนั้น (พิธีกรคุยข่าว) ก็อ่านข้อมูลประวัติว่าเธอ (ผู้สมัครรับเลือกตั้ง) มีลูกสี่คนและยังไม่ได้แต่งงาน หนึ่งในทีมพิธีกรถามว่าทำไมถึงไม่แต่งงาน ไม่มีใครในนั้นตอบได้

     ประกายบอกว่า ยังมีเรื่องต่างๆ มากมายที่หลายคนสนใจแต่ไม่มีคำตอบ ใครกันเล่าจะไปรู้เรื่องทุกอย่างในโลก ในบรรดาความไม่รู้มากมายของฉัน อย่างน้อยก็มีเรื่องนึงที่ฉันรู้ ฉันรู้ว่าทำไมผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งคนนั้นไม่ได้แต่งงาน คำตอบคือ เพราะเธอปั๊คซ์


ปั๊คซ์ (pacse) ผันจากคำกิริยา pacser เป็นคำใหม่คิดขึ้นมารองรับการใช้กฎหมายฝรั่งเศส ชื่อ ปั๊คต์ ซิวิล เดอ โซลิดาริเต้ (pacte civil de solidarité) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ปั๊คส์ (pacs) ซึ่งอธิบายแบบย่นย่อได้ว่า เป็นรูปแบบหนึ่งของข้อตกลงสัญญาทางกฎหมายระหว่างคนสองคนในการร่วมชีวิตกัน และเปิดโอกาสให้คู่รักทุกเพศ ไม่ว่าจะชาย-หญิง ชาย-ชาย หรือ หญิง-หญิง ได้รับการรับรองความสัมพันธ์ตามกฎหมายโดยไม่ต้องแต่งงาน ตัดปัญหาข้อต้องห้ามหลายอย่างที่เกิดจากการกฎหมายแต่งงานได้ เช่น สิทธิในการรับลูกบุญธรรม การสืบทอดและการแบ่งทรัพย์สมบัติ ฯลฯ



     ประกายวาบๆ กลายเป็นความคิดที่ชัดเจนขึ้น เปลี่ยนเป็นความต้องการติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ค.ศ. 2007 ครั้งนี้ แล้วเก็บเรื่องราวความเคลื่อนไหวทั้งหลักๆ และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ ในการเลือกตั้งครั้งนี้มาเล่าสู่กันฟัง ประจวบกับในช่วงนั้นฉันจะได้มีโอกาสไปเกาะติดอยู่ข้างสนามแข่งขันที่ฝรั่งเศสด้วย ตายจริง... จะลงล็อคอะไรขนาดนั้น

     ถ้าไม่จริงจังกับยศถาบรรดาศักดิ์มากเกินไป ฉันขอเชิญทุกท่านติดตามการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยกันดั่งกำลังดูการแข่งขันกีฬา และขึ้นชื่อว่ากีฬา ถ้าติดตามโดยไม่รู้กฎกติกาก็ดูไม่สนุก ดังนั้น จึงขออธิบายข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับของการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นการปูพื้นอุ่นเครื่องกันก่อน


     ตำแหน่ง เลอ เปรซิดอง เดอ ลา เรปุบลิค ฟรองเซส (Le président de la république française) หรือประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส นอกจากจะเป็นประมุขของประเทศแล้วอย่างที่รู้ๆ กันแล้ว ยังเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ประกาศสงครามได้) เป็นข้ารัฐการตำแหน่งสูงสุด มีอำนาจและหน้าที่สำคัญต่างๆ มากมาย เช่น เป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี สามารถสั่งยุบสภาได้หลังจากปรึกษานายกรัฐมนตรีและประธานรัฐสภา เป็นผู้ลงนามเพื่อบังคับใช้กฎหมายที่รัฐสภาออกเสียงรับรองแล้ว ฯลฯ

     การเลือกตั้งประธานาธิบดี (L’élection présidentielle) ของฝรั่งเศส ใช้วิธีการเลือกตั้งโดยตรง คือ ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเป็นผู้เลือกเอง ไม่ได้เลือกผ่านผู้แทน การเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยวิธีนี้เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1962 ตำแหน่งประธานาธิบดีเคยมีวาระ 7 ปี และเปลี่ยนเป็น 5 ปี หลังการปฏิรูปกฎหมายรัฐธรรมนูญในปี ค.ศ. 2000 ซึ่งถึงระยะเวลาการดำรงตำแหน่งจะหดสั้นลง แต่ผู้ที่เป็นประธานาธิบดียังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ได้ ส่งผลให้ประธานาธิบดีฌาร์ค ชีรัค ต้องสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งวาระที่สองในวันที่ 10 มิถุนานี้


     ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งประมุขของประเทศ คือ คนสัญชาติฝรั่งเศส (แน่ล่ะ) ทั้งชายและหญิง (ผู้หญิงฝรั่งเศสเพิ่งได้รับสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1944 หลังผู้หญิงไทย 12 ปี) มีอายุอย่างน้อย 18 ปี (เกิดก่อนวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 1989) และต้องไปลงทะเบียนผู้มีสิทธิออกเสียง ส่วนผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง มีสัญชาติฝรั่งเศส มีอายุอย่างน้อย 23 ปีบริบูรณ์ และมีรายชื่อผู้ลงนามสนับสนุนอย่างน้อย 500 ชื่อ เพื่อประกอบการยื่นใบสมัครต่อสภารัฐธรรมนูญ

     ในบรรดาผู้สนับสนุนดังกล่าวต้องมีผู้แทนราษฎรอย่างน้อยจาก 30 จังหวัด หรือจากพื้นที่ปกครองโพ้นทะเลต่างๆ และผู้สนับสนุน 50 คน หรือ 1 ใน 10 ของ 500 ซึ่งเป็นจำนวนต่ำสุด อาจจะเป็นผู้แทนราษฎรจากจังหวัดหรือเขตปกครองโพ้นทะเลหรือจาก “เขตปกครองเสมือน” ที่ประกอบด้วย วุฒิสมาชิกซึ่งเป็นตัวแทนของชาวฝรั่งเศสนอกประเทศ เป็นสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งจากรัฐสภาของชาวฝรั่งเศสในต่างชาติ และชาวฝรั่งเศสที่อาศัยต่างประเทศที่เป็นสมาชิกของรัฐสภาสหภาพยุโรปที่ได้รับเลือกตั้งในฝรั่งเศส

     สรุปว่าต้องมีคนที่น่าเชื่อถือรับรองจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่ตาสีตาสาโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้

     สำหรับการเลือกตั้งในปีนี้ หลังจากสภารัฐธรรมนูญรับรองรายชื่อผู้สนับสนุนของผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว ก็จะประกาศรายชื่อผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มีนา แต่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งตามกฎหมายจะเริ่มขึ้นได้ในวันที่ 9 เมษา และสิ้นสุดลงตอนเที่ยงคืนวันที่ 20 เมษา สองวันก่อนจะถึงวันเลือกตั้งรอบแรกในวันที่ 22

     ถ้าผลการเลือกตั้งรอบแรกออกมาปรากฏว่าไม่มีผู้สมัครคนใดได้เสียงเกินครึ่งหนึ่ง ก็จะมีการเลือกตั้งรอบ 2 ที่กำหนดไว้เป็นวันที่ 6 พฤษภา เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกระหว่างผู้ที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดอันดับ 1 และ 2 ในการเลือกตั้งรอบแรก ซึ่งเมื่อดูสถิติจากอดีตที่ผ่านมาแล้ว มีวี่แววว่าจะมีการเลือกตั้งรอบสองเกิดขึ้น เพราะไม่เคยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสเคยได้รับคะแนนเสียงมากกว่าครึ่งในการเลือกตั้งรอบแรก โดยผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งรอบแรก คือ อดีตประธานาธิบดี ชาร์ลส์ เดอ โกล ด้วยคะแนนเสียง 44.6% ในการเลือกตั้งปี ค.ศ. 1959

     รู้กติกากันคร่าวๆ แล้ว คราวหน้า เรามาทำความรู้จักกับผู้เข้าแข่งขัน เริ่มจากผู้สมัครที่กำลังมาแรง เธอเป็นลูกสาวทหารที่พ่อเหยียดหยาม หญิงต่างจังหวัดผู้ประสบความสำเร็จจากการเข้าเรียนสถาบันรัฐศาสตร์ชั้นสูงอย่างเลนา (l’ENA) แบบไม่มีเส้นสาย คุณแม่สมัยใหม่ลูกสี่ที่อุทิศเวลาให้กับชีวิตครอบครัวและอาชีพการงาน เธอฝ่าฟันเอาชนะคำเย้ยหยันของคู่แข่ง เมื่อคราวเข้ารับการเลือกตั้งเป็นตัวแทนจากพรรคสังคมนิยมที่ว่า “ใครจะดูแลลูกๆ ถ้าเธอเป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี”

     เธอชื่อ เซโกแลน โรยัล (Ségolène Royal)







Create Date : 16 เมษายน 2550
Last Update : 16 เมษายน 2550 2:44:11 น. 0 comments
Counter : 766 Pageviews.

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.