www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Australia , หนังดีที่(ผิดหวัง แต่ก็ยัง)เชียร์ให้ตีตั๋วไปรับชมในโรงภาพยนตร์ + Madagascar 2 (ดูเอาฮา)



... สารภาพว่าตัวเองแบกความคาดหวังกับหนังเรื่องนี้ไว้สูงมาก เพราะ Moulin rouge เป็นหนังที่ชื่นชอบแบบสุดๆหยิบมาดูเมื่อไหร่ก็ยังรื่นเริงบันเทิงหัวใจ เป็นหนังที่ผมคิดว่าเปิดศักราชใหม่ของหนังเพลง รวมไปถึงหนังสองเรื่องก่อน(Romeo + Juliet , Strictly Ballroom) ของ Baz Luhrmann ก็ชอบ

เอกลักษณ์ที่แฟนๆชื่นชอบใน ‘ความเป็นหนัง Baz Luhrmann’ ก็คงเป็นความ จัดจ้านอลังการตระการตา เป็นหนังที่ดูแล้วเจริญหูเจริญตา ทั้งเนื้อหา นักแสดง และ องค์ประกอบรายรอบไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย หรือ ฉากต่างๆ ฯลฯ

ดังนั้นแค่ได้ข่าวว่า Baz Luhrmann จะทำหนังใหม่ก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ พอเห็นตัวอย่างที่ ความน่าดูดึงดูดระดับ ห้ากะโหลก ดูแล้วเลิศเลออลังการระดับ วิมานลอย แถมได้ขวัญใจผม แม่สาวผิวหยวก มาเล่นอีกรอบ

ต่อให้เสียงวิจารณ์มาแย่แค่ไหน รายรับจะห่วยอย่างไร ผมก็มั่นใจว่า ตัวเองต้องชอบแน่ๆ และ คิดว่า เสียงวิจารณ์ที่ไม่ค่อยปลื้มนักอาจเพราะหมั่นไส้ทั้งชื่อหนังและความเป็น ออสเตรเลีย

แต่พอพิสูจน์ด้วยตัวเองเรียบร้อย ก็ต้องกลับมาสรุปถึงหนังเรื่องนี้ว่า




...Australia เป็น หนังดีที่ผมผิดหวัง แต่ก็ยังแนะนำให้ ต้องไปรับชมในโรงภาพยนตร์

เนื้อหาว่าด้วย สาวไฮโซที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาจัดการธุรกิจร่วมกับสามี แต่เกิดเหตุพลิกผัน ที่ทำให้เธอต้องฝ่าฟันอุปสรรคทั้งเรื่องเงินๆทองๆและศักดิ์ศรี ไปพร้อมๆกับ พบรัก กับหนุ่มห้าวต่างชนชั้น และ เด็กพื้นเมืองที่กำลังถูกไล่ล่า


... ถึงเนื้อหาอ่านผ่านๆจะ น้ำเน่า แต่ เหตุผลที่หนังเรื่องนี้คู่ควรกับการรับชมในโรงภาพยนตร์เป็นอย่างยิ่ง ก็เพราะ



1.งานด้านภาพ ที่ขอยกนิ้วให้ว่างามระดับหยดย้อยอลังการ เป็น หนังที่มีภาพงดงามมากที่สุดของปีนี้ ในระดับเดียวกับ หนังอีกสองเรื่องที่ตัวเองมองว่า เป็นการถ่ายภาพระดับอ๋องมากๆนั่นคือ หนังคาวบอยเหงาหลับที่แบรด พิตต์เล่นThe Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford และ หนังเชิดชูคุณค่าชีวิต The Diving Bell and the Butterfly

ความอิ่มเอมจากภาพใน Australia ยังใกล้เคียงกับความมหัศจรรย์ทางภาพที่รู้สึกอิ่มเอิบตอนนั่งดู The Fountain ซึ่ง ความงดงามที่เราจะได้รับจากหนังกลุ่มนี้ ต่อให้นั่งดูจากจอทีวีไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน ก็ไม่มีทางเก็บความประทับใจได้ครบ

ทุกๆช็อตใน Australia สามารถตัดออกมาเป็นภาพปฏิทินหรือโปสเตอร์ที่มีระดับ ทุกๆฉากสั้นๆสามารถตัดมาทำเป็นหนังโฆษณาสินค้าชั้นเยี่ยม เรียกได้ว่า คุ้มค่าแล้วที่ทางการออสเตรเลีย จะให้เงินมาร่วมทุนสร้างเพื่อโปรโมทประเทศ

(แน่นอนว่าทางการออสเตรเลีย คงมั่นใจว่าดีกว่า ตา Greg Mclean ที่ทำหนังเน้นภูมิทัศน์โชว์ออสเตรเลียเก่งเหมือนกัน แต่ดันช่วยโปรโมทให้ออสเตรเลียเป็นเมืองเลือดสาด จาก หนังจระเข้โหด Rogue และ ฆาตกรโรคจิต Wolf Creek )



2. ที่เจ๋งติดตาไม่แพ้งานถ่ายภาพคือ บรรดางานโปรดั่กชั่น และ งานด้านเทคนิคทั้งหลายแหล่ ดูเนี้ยบทุกจุดไม่มีหลุดให้เสียสายตา โดยเฉพาะฉาก ถล่มเมือง ช่วงท้ายนี่ซู้ดยอดดดด ชอบยิ่งกว่า Pearl harbour



3.หนุ่มขนปุย กับ สาวผิวหยวกกล้วย คู่พระนาง เป็น นักแสดงมากเสน่ห์ทั้งคู่ และ ทั้งคู่ก็โปรยเสน่ห์ฟุ้งกระจายชวนให้แฟนๆหลงใหลตลอดทั้งเรื่อง บทของนิโคล ผมนึกภาพไม่ออกจริงๆว่า ถ้าไม่ได้เธอในยุคนี้จะหาใครมาเล่นแทนได้อีก กับความ สวยสง่าแก่นเซี้ยวเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อแต่ต่อมาฮึดสู้ ที่ทำให้ผู้ชมเคลิ้มอยากไปขี่ม้าข้างๆเธอ

4. เจ้าหนูที่รับบท นัลล่าห์ เป็น นักแสดงรุ่นเล็กที่น่ายกนิ้วให้ เพราะ เล่นประชันกับนักแสดงมากเสน่ห์อย่าง ฮิวจ์ กับ นิโคล แบบไม่เกรงบารมี ไม่มีใครข่มเจ้าหนูได้ลง

5. เนื้อหาน้ำเน่าแบบมีระดับเช่นนี้ น้อยคนที่ดูแล้วจะไม่ชอบ


... ในขณะที่ เหตุผล ที่ผมผิดหวัง และ มั่นใจว่า ตัวหนังไปไม่ถึงฝั่งฝันบนเวทีล่ารางวัลในสาขาหลักๆ ไม่ใช่เพราะความหมั่นไส้ของบรรดานักวิจารณ์แน่ๆ แต่ เพราะ ตัวหนังเองที่ว่าดี ยังไม่ได้ดีถึง ‘ขนาดนั้น’


เหตุผลที่ผิดหวัง



1.ถึง ภาพสวยมาก และ ภาพใช้เล่าเรื่องราวได้ดีก็จริง แต่ หนังก็ให้ความสำคัญกับ ภาพ มากกว่า คน จนเกินไป หลายๆฉากที่ภาพของหนังแช่ไว้เพื่อโชว์มากกว่าจะเล่าเรื่องราว (ตัวอย่างหนังภาพสวยและใช้ภาพเล่าเรื่องได้ดีคือ The Diving Bell and the Butterfly)

ทำให้ ตัวละครหลายตัว ขาดโอกาสพัฒนาบทให้มีความลึกมากขึ้น (เช่น นักบัญชีขี้เหล้า) หรือ มีปมที่ไม่ได้รับการขยาย (ปมของคู่พระนาง) ส่งผลให้สุดท้ายแล้ว คน ในเรื่อง ยังไม่น่าจดจำมากเท่าไหร่

ซึ่งบทของคู่พระนาง จริงๆจะว่าไปแล้ว ที่มีเสน่ห์น่าดูชมอย่างนี้ มาจาก การแสดงและออร่าติดตัวของทั้งคู่ แต่ ตัวบทนั้นกลับดูแห้งๆแล้งๆ และ คาแรคเตอร์ก็ไม่คงที่ ไม่ได้ฉายความเป็นตัวตนที่ชัดเจนอย่างสม่ำเสมอ

2. จังหวะการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ยังไม่ได้ดีถึงขนาดจะอยู่ในกลุ่มตัวเต็ง เพราะขาดความกลมกล่อมลงตัว

การดำเนินเรื่องของหนังช่วงกลางๆ มีความเวิ่นเว้ออยู่เยอะ ผมถึงกับรู้สึกเบื่อๆ ทั้งๆที่ความรู้สึกนี้ไม่คิดว่าจะเกิดจากหนังของ Baz Luhrman แถมพอเล่าไปซักพัก หนังให้ความรู้สึกแบ่งเป็นสองภาคในเรื่องเดียวอย่างชัดเจน คือ ภาคแรกจบที่การต้อนวัว ภาคสองเริ่มตอนสงคราม




3. มีเรื่องมีประเด็นอยากจะเล่าเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นเหยียดผิวเหยียดสัญชาติ , นำเสนอรากเหง้าของออสเตรเลีย , รักต่างชนชั้น , รักระหว่างรบ , ปมของความเป็นแม่ , ปมของชายผู้สูญเสีย , การแข่งขันในชั้นเชิงธุรกิจ ฯลฯ

เรื่องเยอะไม่ใช่ปัญหา เพราะ เวลาก็มีอยู่เยอะ แต่ หนังไม่ค่อยขยายหลายๆปมประเด็นที่ใส่เข้ามา ไปเสียเวลากับบางประเด็นมากจนเกินไป ทำให้ดูก็รู้ว่า หนังมีอะไรที่อยากจะบอกอีก แต่ เราไม่เกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามมากมาย แค่ รู้สึกแห้งๆแกนๆ

4. สองนักแสดงนำเข้าคู่กันได้ดี แต่ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนซี้กิ๊กๆกัน มากกว่าจะเกิดความรู้สึกผูกพันรักใครลึกซึ้ง ตามที่หนังต้องการนำเสนอในฉากช่วงท้ายๆ ซึ่งก็เป็นผลมาจาก 3 ข้อข้างต้น

ลองเปรียบกับคู่รักใน Moulin rouge ดูก็ยังได้ที่ทำให้เรารู้สึกถึงรักลึกซึ้งมากกว่า และ โศกเศร้ามากกว่าเมื่อถึงคราวโศกนาฏกรรม



สรุป ... ถ้าตัดให้กระชับ จับประเด็นไม่ต้องมาก ขยายประเด็นที่จะเล่าให้ชัดเจนเข้มข้น เน้นการสร้างมิติให้ตัวละครมากกว่านี้ ผมคงคลั่งไคล้ Australia อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แต่กับที่มีอยู่เท่านี้ ก็อย่างที่บอกว่าเป็น หนังดีที่ผิดหวัง แต่ก็ยังโบกมือชักชวนแนะนำให้ไปรับชมในโรงภาพยนตร์ เพราะเป็นหนังที่ควรดูจากจอใหญ่ยักษ์ในโรงเท่านั้น เชื่อว่า ถ้าไม่เอาอะไรมาก จะเป็นหนังที่คนดูส่วนใหญ่ประทับใจได้ไม่ยากเช่นเดียวกัน


ป.ล. ตัวละครชนะเลิศในหนังยกให้ ลุง คิงจอร์จ แรกๆก็รำคาญลุง แต่หลังๆพอเห็นลุงเขย่งๆขาเดียวไปมา ผลุบๆโผล่ๆร้องเพลง แถมตายยากตายเย็น ก็อดยิ้มในช่วงท้ายๆไม่ได้ว่า ลุงแกเท่ดีแท้น้อ



ป.ล. 2 แต่ถ้าตอนนี้อยากฮาเข้าว่า สาระไม่ต้อง ขอแนะนำ Madagascar 2 หนังที่จะทำให้คุณลืมตรรกะเหตุผล และ สนุกไปกับความงี่เง่าเต็มเปี่ยมของตัวละคร (โดยเฉพาะ ก๊วนเพนกวิน สุดฮา แต่ ภาคก่อนก๊วนนี้ฮามากกว่าหน่อยนะ)






Link ของ บทความที่อ้างอิงถึง และ เกี่ยวข้อง

The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)

Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน





สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com




พื้นที่แนะนำผลงาน{ตัวเอง}

(คลิกที่รูปหนังสือ เพื่อ อ่าน หรือ แสดงความเห็น ต่อหนังสือแต่ละเล่มได้เลยครับ)

ปีนี้ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ขอฝากผลงานเล่มล่าสุดที่เพิ่งคลอดจ้า อันว่าด้วย 'ความรักและกำลังใจ' ผ่านแรงบันดาลใจจากชีวิตและภาพยนตร์ ในหนังสือที่ชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป



และ ผลงานสองเล่มก่อน จากสองปีที่ผ่านมา



"หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม กับ องศาที่ 361 หนังสือที่อาสาช่วยคุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก

พูดคุยกับเจ้าของ Blog คลิก

เปิดหารายชื่อหนังเก่าๆนอกเหนือจากในหน้าสารบัญ คลิก





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 29 ธันวาคม 2551
Last Update : 29 ธันวาคม 2551 21:38:06 น. 11 comments
Counter : 6408 Pageviews.

 
Australia เป็นหนังในไม่กี่เรื่องที่ต้องดูบนจอใหญ่ๆ เพื่อซึมซับเอาภาพสวยๆให้ได้เต็มอรรถรส

ส่วนตัวแล้วชอบครับ แต่อย่างที่ว่าช่วงหลังๆ หนังทำท่าจะจบหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ยอมจบง่ายๆ(ก็แน่ละ หายไปตั้ง 7 ปี พี่บาสคงมีอะไรมาเสนอเยอะเลย^^)

(สปอยเล็กน้อย)
ปล.ฉากต้อนวัวสุดยอดมากๆ แต่มาแอบอาตอนที่หนู "นัลล่าห์" ถูกวัวไล่มาจนถึงหน้าผาแล้วน้องแกร้องเพลงกล่อมฝูงวัวสะชะงักเลย พลางนึกไปถึงฉาก จา พนม ยืนสยบช้างใน องค์บาก 2 สะงั้น หึๆ(รายนั้นวิ่งสะพล่านกว่าจะสยมช้างลงได้)


โดย: negima_xx วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:20:27:46 น.  

 
ชอบพอสมควรครับเพราะชอบสองนักแสดงนำ แต่บทหนังจริงๆมันก็ยังไม่ดีสุดยอดแบบที่พี่บอกอะ คือมันรู้สึกเหมือนมีหลายๆส่วนแต่ไม่มีส่วนที่เข้มข้นตรึงใจแรงๆเลย

แอบรำคาญคิงจอร์จมากๆเหมือนกัน แอบคิดว่าอยากยิงให้ล้มเลยจะได้ไม่เหย่งๆไปมา 555


โดย: amnesia IP: 58.9.186.191 วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:21:30:21 น.  

 
Australia ตั้งแต่ได้ดูตัวอย่างหนังทีแรกแล้วก็คิดว่าภาพสวยจังเลยค่ะ แต่ยังไม่ได้ไปดูเลยจนบัดนี้ แง่ว ส่วนมาดากัสการ์ ภาคนี้ออกแนวหลุดโลกกว่าเดิมค่ะ= ='' ชอบภาคแรกมากกว่าค่ะ มันยังมีมุมให้ซึ้ง+ฮากว่าภาค2อีก


โดย: ~*นิกายแมวเหมียว*~ วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:22:05:09 น.  

 
Madagascar ดูแล้วได้ฮาอย่างเดียวเลย สนุกดี แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีสาระอะไรเลยจริงๆแหละ

ส่วน Australia ดูแล้วหลับตลอดเรื่อง ตื่นมาก็ยังไม่เจอจุดที่ดึงดูดให้ดูต่อ เลยหลับต่อ ว่าจะนอนเอาแรงแล้วซดกาแฟซัก2ถ้วยก่อนไปดูอีกรอบตอนตาสว่าง แหะๆ


โดย: เด็กทดลองรุ่น23 วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:7:38:09 น.  

 
อ่านแล้วอยากไปดูมากๆๆ เลย
แต่ก็คงอดอีกแล้ว T__T
เพราะอยู่ ตจว.ไม่ค่อยมีหนังดีๆ เข้า
แต่ถ้าเป็นหนังไทยเข้าโรงเกือบทุกเรื่อง -*-


โดย: gonz IP: 118.173.50.72 วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:11:47:59 น.  

 
องค์ประกอบดี แต่ดูไม่สนุกอ่ะครับ


โดย: vacuum_car IP: 125.27.5.51 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:9:44:51 น.  

 
ชอบเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ ตอนแรกกะจะไปดูป๋าฮิวจ์
แต่นิโคลเล่นได้น่ารักดีนะคะชอบฉากจิงโจ้ กับฉากร้องเพลง.ไม่เคยคิดเลยว่านิโคลจะเล่นได้น่ารัก ฮาแบบนี้
. ดูจบออกมาก็อารมณ์ดูหนังเพลินๆ พอใจกับหนังว่า OK ในระดับนึงแล้ว

พออีกวันไปดู ฝัน หวาน อาย จูบ เพราะกะไปดูเพื่อน (บอย ปกรณ์) เล่นซักหน่อย ออกมานี่คนละอารมณ์เลยอ่ะค่ะ..แบบอะไรฟระ..


โดย: narusaru (narusaru ) วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:14:53:19 น.  

 
หนังดี ดูสนุกมาก ผมชอบนะเรื่องนี้
แต่ยาวจัง ดูไปนึกว่าจบตอนต้อนวัวเสร็จ อ้าว ไปต่อยอดเรื่องสงครามอีก ยาวมากจนต้องลุกไปเข้าห้องน้ำกลางเรื่องเลย ด้วยความที่ซัดกาแฟเข้าไปแก้วนึง เพราะกลัวว่าจะหลับกลางเรื่อง 555

พูดถึงการแสดง คู่พระนางก้อทำได้ดีทั้งคู่ ตอนเด็กร้องเพลงหยุดวัว ก้อลุ้นเอาใจช่วยจนตัวโก่งงานด้านภาพ สวยงามมากจริงๆ คุ้มค่าเงิน 100 บาท ที่เสียไป
ผมไปดูตอนที่ใกล้จะลาโรงแล้ว เหลือคนดูอยู่ซัก 10 กว่าคนเอง


โดย: Bandai IP: 125.27.210.59 วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:23:21:51 น.  

 
เราไปดูเมื่อคืนนี้เองค่ะ (11 ม.ค.) ชอบฉากที่นัลลาห์ร้องเพลงหยุดวัวทั้งฝูงมากก และอีกตอนนึงก็ตอนที่โดรเวอร์อาบน้ำหน้าเต๊นท์ของซาร่าห์น่ะค่ะ คนอะไรไม่รู้หุ่นดีโฮกกกกก


โดย: อิอิ IP: 203.99.253.12 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:11:33:54 น.  

 
+ เห็นด้วยครับ มีจุดดีที่ภาพและโปรดัคชั่นอลัง กับเคมีของดารา ส่วนจุดอ่อนก็คือความยวบของบทภาพยนตร์ แต่ถึงยังไงก็เป็น "หนังน้ำเน่า" ที่ต้องเข้าไปดูในโรงอยู่ดีเนาะครับ ถึงจะได้อรรถรสแบบเต็มๆ อ่า


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:13:32:09 น.  

 
เปิดดูaustralia ที่บ้านแล้ว หลับทุกคน ภาพก็มีแต่ของปลอมทั้งนั้น เหมือนหนังให้เด็กดู เต็มสิบให้ศูนย์เลยค่ะ


โดย: Australia ห่วยมากค่ะ IP: 115.67.165.193 วันที่: 1 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:39:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.