www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

ฝัน-หวาน-อาย-จูบ , ไม่ถึงกับแย่มากมาย ก็ยังพอเพลิดเพลินได้ แต่ ง่ายไปหน่อยมั้ย



... ปกติ หนังสั้นรวมมิตร ที่ รวบรวมผู้กำกับ มาทำหนังสั้นๆ แล้วจับมารวมกัน มักจะเป็นโปรเจคต์ที่คนสร้างค่อนข้างมั่นใจล่วงหน้าว่า ขายได้ เพราะ จุดขาย คือ การกินรวบแฟนๆล่วงหน้า มาจากหลายแหล่ง อย่าง ฝัน-หวาน-อาย-จูบ เดาว่าผู้สร้างต้องค่อนข้างยิ้มกริ่มกับจุดขายในมือที่มีทั้ง แฟนๆมาริโอ้ , แฟนๆมะเดี่ยว , แฟนๆวงออกัสต์ , แฟนๆหนังรักรุ่นเก่าๆ จาก โลกทั้งใบฯ , ฯลฯ

หนังรวมมิตร จึงดูเหมือน หนังหากินง่าย แต่ ถ้าจะหาหนังรวมมิตรคุณภาพดี ในระดับเดียวกับที่ ผู้กำกับหนังใหญ่ แต่ละคนเคยทำ อาจหาได้ยาก เพราะ จากที่เคยเล่าเรื่องในเวลาสองชั่วโมง ผู้กำกับเหล่านั้น ก็ต้องมาย่นหนังของตัวเองให้เหลือ ครึ่งชั่วโมง หรือ ไม่ถึงสิบนาที

ผกก.หนังใหญ่ฝีมือดีหลายคน จึงต้องตกม้าตายเมื่อมาทำหนังสั้นรวมมิตร เพราะไม่สามารถเล่าเรื่องให้กระชับได้มากพอตามเวลาที่ย่นยอลง

... ส่วนตัวแล้วคิดว่า หนังสั้นรวมมิตรที่ดี คือ ไม่ใช่หนังที่คล้ายๆกันทุกตอน หรือ แตกต่างจนกลายเป็นคนละเรื่องคนละราว แต่ คือ การที่ ผู้กำกับแต่ละคนใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไป ให้เกิดความหลากหลาย โดยไม่ทิ้งธีมหลักของหนัง และ ภาพรวมของหนัง ยังคงเดินหน้าไปในทิศเดียวกัน

เหมือน หนังรัก อย่าง Paris, je t'aime ที่โจทย์มีแค่ หนังรัก กับ ปารีส แล้วผกก.แต่ละคนก็ไปบรรเลงกันตามใจนึก เราจึงได้ดูรักหลากหลาย ในสไตล์ที่แตกต่าง ที่มีตั้งแต่รักซึ้งๆ , รักของแม่ลูก , รักของชายชาย , รักสูงวัย , รักของแวมไพร์ ไปจนถึง รักเฮี้ยนๆของ คริสโตเฟอร์ ดอยล์

ในบรรดา หนังสั้นรวมมิตร ที่มีอยู่ตอนนี้ ส่วนตัวที่อยากดูที่สุดก็โครงการหนังจีน ที่มี ตู้ฉีฟง , ฉีเคอะ แล้วก็ใครอีกซักคน ที่ทำหนังสั้นแบบต่อๆกัน คือ รายแรกทำจบแค่ไหน รายถัดมาต้องดำเนินเรื่องสานต่อให้ได้ และ คนสุดท้ายต้องจบให้ลง เป็นโปรเจคต์ที่น่าสนใจมาก (ได้ข่าวว่าแผ่นก็มาแล้ว)



ฝัน-หวาน-อาย-จูบ
(หนังเล่าย้อนไปเป็น จูบ อาย หวาน ฝัน)




... ทั้งสี่เรื่อง เป็น ความรักสี่ช่วงวัย เล่าไปตามพัฒนาการความรักความสนใจคล้ายๆกับ ปิดเทอมใหญ่ฯ แต่ ฝันฯ ขยายไปไกลถึงรุ่นวัยทำงาน

จุดที่ชอบที่สุดของหนังชุดนี้ คือ ทั้งสี่เรื่อง พยายามที่จะฉีกแนวหนังรักเลี่ยนๆ และ ใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไปได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งเป็นจุดที่ต่างจากหนังรักGTH ที่ระยะหลังแทบจะถอดออกมาจากบล็อกเดียวกัน

จุดที่ชอบรองลงมา คือ ทั้งสี่ตอน ล้วนพูดถึง บทเรียนของความรัก ที่ได้รับจากการละเลยให้ความสำคัญของคนรัก คนใกล้ตัว ซึ่งไล่ สาเหตุ ไปตามช่วงวัยตามทฤษฎีพัฒนาการจิตสังคมของมนุษย์ ได้ดี ตั้งแต่

การไม่ทันสังเกต ยังไม่ทันรู้จักความรักของเพื่อนต่างเพศ ของ วัยแรกรุ่น

การไม่ทันได้เรียนรู้ที่จะปรับนิสัยส่วนตัวเพื่อเทคแคร์คนรักของ วัยรุ่นตอนต้น

ความกลัวที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นผู้ใหญ่ของ วัยรุ่นตอนปลาย

และ

ความชาชินที่ให้ความสำคัญกับงานและความสำเร็จของ วัยผู้ใหญ่


สามตอนแรก มีประเด็นคล้ายๆกันคือ พูดถึง มุมของฝั่งชาย ในขณะที่ตอนสุดท้ายเป็นมุมของฝั่งหญิง


... และ จุดร่วมสำคัญ คือ หนังทั้งสี่เรื่อง ขาย มาม่า แบบไม่เกรงใจคนดู

ซึ่ง มาม่า นอกจากจะโผล่เยอะ พอดูหนังจบก็กลับมานึกถึง มาม่า อีกรอบ เพราะความรู้สึกของการดูหนังเรื่องนี้ ที่ทำให้ไม่ได้ชอบหนังมากมาย เพราะรู้สึก คล้ายๆกิน มาม่า คือ

แกะง่ายกินง่าย ไม่ต้องประนีตพิถีพิถัน ลวกๆใส่น้ำ กินแล้วก็อิ่มประมาณหนึ่ง ไม่ถึงกับผิดหวังรุนแรง เพราะยังไงมาม่าก็รสชาติแบบนี้ อิ่มอืดๆ เหมือนขาดอะไรไป และ อยากจะให้ใส่เนื้อใส่หมูให้มากกว่านี้


จูบ



(พระเอกรูปหล่อ แต่ไม่ค่อยสนใจแฟน จนตัวร้ายมาดเสี่ยนักมวย ที่ชอบแย่งจูบแฟนของชาวบ้าน ประกาศกร้าวว่า ข้าจะแย่งหญิงมาครองพร้อมยึดจูบแรกของแฟนพระเอกเป็นของตัวเอง ยกเว้นพระเอกจะทนหมัดของตัวเองได้)


- ขายสไตล์ และ ขายมาริโอ้

- สไตล์ของหนังหวือหวา เร้าใจสลัดภาพหนังรักยุคภาพหวานประมาณ GTH ไปได้ ประมาณเหมือนดูหนังกาย ริชชี่ หรืดู MTV หรือดู รายการมิวสิควิดิโอ ประเภท กราฟฟิกขึ้นยุบยับ ตัดต่อฉับไว ตัวละครหันมาคุยกับคนดู ทำให้ตื่นตัวอยากติดตาม

- แต่ พอติดตามไปได้ซักพัก ก็ชักเริ่มเบื่อๆ เพราะ บทหนังน่าผิดหวังเหลือเกิน เหมือนไม่มีอะไรจะเล่า เดินเรื่องไปเรื่อยๆง่ายๆ ทั้งทัศนคติที่ง่ายๆ บทสรุปที่ง่ายๆ จบแล้วเหมือนกิน มาม่าครึ่งซองลวกน้ำร้อน ไม่อิ่มและไม่ได้สารอาหาร

- ไม่ชอบมุก เห็นหมี และ ไม่ได้ ดัดจริต เพราะจะพูดกูมึงสิงสาราสัตว์ ถ้าเหมาะกับสภาพแวดล้อมของตัวละครก็โอเค แต่คิดว่า มุกบางอย่างก็เหมาะสำหรับคุยกันในวงเล็กๆมากกว่าจะเอามาขายเป็นวงกว้าง ไม่ชอบที่หยิบเดอตี้โจ๊กที่เหมาะสำหรับวัยหนึ่งกลุ่มหนึ่ง ให้กลาย เป็นเรื่องธรรมดาที่ฮาๆขำๆเหมาะกับคนทุกวัย

- มาริโอ้ ถ้าเล่นแต่หนังขายหล่อแบบนี้ไปเรื่อยๆ อนาคตทางการแสดงน่าเป็นห่วง เพราะ หล่อเลือกได้ในวงการจริง แต่ หล่อนิ่งๆอยู่ได้ไม่นาน

- ดูแล้วรู้สึกว่า ตอนนี้น่าจะเหมาะกับฉายทางฟรีทีวีมากกว่า


อาย



(นางเอกลูกเศรษฐี ไปสำรวจเกาะที่พ่อได้สัมปทาน โดยมี พระเอกที่เป็นอดีตแฟนเมื่อสองปีก่อน เป็นคนนำสำรวจ พร้อมๆกับ การได้เปิดเผยความจริงว่า เพราะอะไร เขาถึงหายจากชีวิตของเธอไป)



- เมื่อเทียบกับศิษย์เก่าจากรักแห่งสยาม น้องตาล นางเอกของเรื่องนี้มีพัฒนาการที่น่าปลื้มกว่า มาริโอ้

- เมื่อเทียบกับอีกสามตอน เป็นตอนที่ซึ้งที่สุด , ถ่ายภาพสวยที่สุด, มีตัวละครน่าสนใจที่สุด (งุก – หนุ่มชาวเล แจ๊ค สแปโร่ว์) และ เป็นตอนที่เล่าเรื่องลงตัวที่สุดในแง่ของการเป็นหนังสั้นที่มีกรอบเวลาจำกัด

- ถึงจะซึ้งไปอย่างเพลิดเพลิน แต่ ข้อด้อยบางจุดก็เห็นได้ชัด อย่าง พระเอกเล่นทื่อ , ปมต้นเหตุดูของฝั่งชายเมื่อเฉลยแล้วรู้สึกว่าแค่นี้เองหรอ?

- ถ้าหนังเพิ่มกิมมิค หรือ มุกเล็กๆน้อยๆ แบบ กรณีโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ อีกซักหน่อย หนังคงจะมีอะไรน่าประทับใจและดูมี ‘อะไร’ มากกว่านี้

- จากชื่อผู้กำกับ เมื่อเทียบกับหนังรักที่เคยทำๆมากับอีกสามคน ก่อนดูรู้สึกว่า คาดหวังได้น้อยที่สุด แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา กลับน่าประทับใจมากกว่า จูบ และ หวาน

- มุก ข.อ. คิดเหมือน มุก เห็นหมี ในความเห็นเรื่อง จูบ นอกจากจะไม่ขำยังรู้สึกว่า ไม่น่าเล่น

- (แอบเดาตอนดูว่า พระเอก เป็น วิญญาณ ถึงหายไปเฉยๆสองปี)


หวาน



(พระเอกบ้างาน แม้นางเอกจะร้องขอให้แบ่งเวลา แต่พระเอกก็บอกว่า ถ้าไม่ทำงานก็จะไม่มีเงินใช้มากพอ ในที่สุด นางเอกก็หมดความอดทน สภาพจิตใจแตกสลาย ความทรงจำที่มีในตัวถอยหลังกลับไปยี่สิบปี ไม่เหลือความทรงจำในปัจจุบัน)


- พล็อตเรื่องมีความน่าสนใจมาก ชวนให้คิดถึง The Curious Case of Benjamin Button หนังที่อยากดูมากๆของปีหน้าที่เล่นเกี่ยวกับ ความรักและอายุที่แปรปรวน

(The Curious Case of Benjamin Button - เด็กคนหนึ่งที่เกิดมาสภาพร่างกายเหี่ยวแก่ แต่เมื่ออายุมากขึ้น สภาพร่างกายจะค่อยๆหนุ่มลง / หวาน - ความทรงจำของนางเอกนับถอยหลังตามอายุที่มากขึ้น)

- เป็นตอนที่มีบทที่ท้าทายแต่คนเขียนบทยังตีไม่แตก เอาแค่ประเด็นกับเนื้อหา ก็ซึ้งแล้ว แต่พอได้ดูแล้วรู้สึกว่า เป็นตัวอย่างของการดัดแปลงที่ทำเป็นหนังสั้นไม่ลงตัว เหมาะจะทำเป็นหนังยาวมากกว่า เพราะพอทำเป็นหนังสั้นๆแค่สี่สิบนาที หนังเล่าได้สับสน และ ช่วงเวลาที่กระโดดไปมาก็ดูชวนงงๆมากกว่าจะซึ้ง

- เพลงที่เลือกมาของ MD อยู่ในหนังแล้วช่วยเสริมให้กับหนัง เหมาะกับหนัง มากๆ

- ในแง่ข้อเท็จจริงทางการแพทย์ ภาวะของนางเอกในทางสภาพจิตเรียกว่า regressed คือถดถอยไปเป็นเด็ก และ การรักษาสามารถทำได้ไม่ต้องทิ้งไว้เป็นยี่สิบปี

- ฝ่ายเมคอัพทำ คนหน้าแก่เหมือนคนเปื้อนฝุ่น และ ผลของเมคอัพผสมกับจังหวะเวลาที่หนังใช้เล่าเรื่อง ทำให้ฉากจบดูตลกๆมากกว่าซึ้ง



ฝัน



(นางเอก หลงรัก นักร้องวงออกัสต์ แม้จะมี พระเอก ที่เป็นเพื่อนสนิทแอบปลื้มอยู่ใกล้ๆก็มองไม่เห็นคุณค่า แล้วเธอหลงเข้าไปผจญภัยอยู่ในความฝันกับพี่เบิร์ด และ วงออกัสต์)



- เฮี้ยนตั้งแต่ พี่เบิร์ด มา และ เฮี้ยน ยิ่งกว่า เมื่อเดินเรื่องไปซักพัก กลายเป็น หนังวัยรุ่นใสๆ ผสม หนังแอนิเมชั่น และ หนังเพลง

- ดูตอนนี้แล้วคิดถึงตอน น้องโฟกัส ใน ปิดเทอมใหญ่ฯ ให้อารมณ์ รักคลั่งไคล้idol คล้ายๆกัน แถม น้องผู้หญิงในเรื่องนี้ก็เล่นได้เซี้ยว น่าประทับใจมิใช่น้อย

- ดูเอาเพลินแบบไม่นับเนื้อหาสาระ ชอบตอนนี้มากที่สุด เพราะ รู้สึกสนุกและตลกกับมุกจิกๆกัดๆ เป็นบทพิสูจน์ว่า มะเดี่ยว เป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งและสร้างสรรค์ บวก รู้สึกดีที่มะเดี่ยว ไม่ขายของเก่า ไม่เน้นขายหล่อใสออกัสต์ ไม่เน้นขายซ้ำย่ำรอยแนว รักแห่งสยาม

- โชคดีที่ได้การเล่าเรื่องที่สนุก เพราะ บทหนังมั่วๆสะเปะสปะ คนดูต้องใช้ความพยายามในการเข้าใจเรื่องราวมากเกินไป ทั้งๆที่ หนังสามารถทำให้เข้าใจง่ายกว่านี้ก็ยังได้ ไม่จำเป็นต้องให้มั่วเพราะเป็นความฝัน

- งานแอนิเมชั่น บางตอน หยาบๆเหมือนดูในทีวี (ขึ้นโรงทั้งที น่าจะให้มันเนี้ยบกว่านี้หน่อย ตอนดูยังคิดว่า ถ้าแอนิเมชั่นได้แบบในโฆษณาของธ.กสิกรไทย ก็น่าจะดี)

- ฮาตอนหนังเพลงมาก และ ชอบเหตุผลตอนท้ายที่เฉลยให้เด็กสาวคนนี้ต้อง ‘ฝัน’ มาก ช่างเสียดสีดีแท้



- แมวผี ดูแล้วคิดถึงตัวละคร รถแมว ใน My Neighbor Totoro



สรุป ... ชอบ ฝัน มากที่สุด ชอบ อาย รองลงมา ส่วน หวาน เกือบจะชอบถ้าบทลงตัวมากกว่านี้ และ ไม่ชอบ จูบ เลย

ถัวเฉลี่ยแล้วรู้สึกว่า หนังเล่นง่ายๆไปหน่อย และ ขาดความประนีตอย่างละนิดอย่างละหน่อยแทบทุกตอน ก็เพลิดเพลินประมาณหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงกับห้ามพลาดหรือต้องไปตีตั๋วดูในโรง





Link ของ บทความที่อ้างอิงถึง และ เกี่ยวข้อง

ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น , อีกหนึ่งหนังไทยวัยรุ่นดีๆ ที่ว่าด้วย 'ความรักของวัยรุ่น'

สี่แพร่ง , แพร่งหนึ่งเงียบสยอง แพร่งสองบ้าพลังเกินงาม แพร่งสามง่ายแต่ดี แพร่งสี่เชยสะดุ้ง

รักแห่งสยาม , ทุกชีวิตเติบโตได้ด้วยความรัก






สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com




พื้นที่แนะนำผลงาน{ตัวเอง}

(คลิกที่รูปหนังสือ เพื่อ อ่าน หรือ แสดงความเห็น ต่อหนังสือแต่ละเล่มได้เลยครับ)

ปีนี้ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ขอฝากผลงานเล่มล่าสุดที่เพิ่งคลอดจ้า อันว่าด้วย 'ความรักและกำลังใจ' ผ่านแรงบันดาลใจจากชีวิตและภาพยนตร์ ในหนังสือที่ชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป



และ ผลงานสองเล่มก่อน จากสองปีที่ผ่านมา



"หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม กับ องศาที่ 361 หนังสือที่อาสาช่วยคุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก

พูดคุยกับเจ้าของ Blog คลิก

เปิดหารายชื่อหนังเก่าๆนอกเหนือจากในหน้าสารบัญ คลิก





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 28 ธันวาคม 2551
Last Update : 28 ธันวาคม 2551 21:35:44 น. 32 comments
Counter : 6006 Pageviews.

 


โดย: แค่ฟ้ามีดาว ^^ วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:2:57:37 น.  

 
มุก ข.อ. อยู่ใน "อาย" นะครับ ไม่ใช่ "หวาน"


โดย: คนรักในวันหยุด วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:4:45:05 น.  

 
มุข ข.อ. อยู่ในอายตามคห2 บอกครับ


โดย: ขาอ่อน IP: 202.149.24.129 วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:8:14:06 น.  

 
^
^
...ขอบคุณครับผม แก้แล้วครับ โพสต์ดึกๆ เลยเมาข้อมูลบ่อยๆ


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:8:51:19 น.  

 
เราชอบ "ฝัน" มากที่สุดค่ะ
แล้วก็ชอบ "จูบ" น้อยที่สุด
นอกนั้น กลางๆ ค่ะ คือ ดูได้ไม่ถึงกับไม่ดี

ที่ชอบ "ฝัน" ไม่ได้ชอบ ออกัสนะคะ
เฉยๆ ค่ะ เฉยๆ ตั้งแต่รักแห่งสยามแล้ว
แต่ที่ชอบเพราะว่า มันเป็นการ์ตูน
แล้วก็เลอะเทอะ มั่วดี คือ ดูไปเรื่อยๆ เพลินๆ
ดูไป ก็ลุ้นไปว่า จะมีตัวอะไร ออกมาอีก
(อิอิ .. เราไม่ได้เป็น ม้า นะคะ เป็นคนดูเฉยๆ )


โดย: jumwilly วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:9:09:42 น.  

 
The Curious Case of Benjamin Button ทีแบร็ด พิทเล่นหรอ ครับ น่าสนมาก


โดย: adente IP: 58.64.49.5 วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:11:59:36 น.  

 
คิดเหมือนกันเลยนะคะ บังเอิญๆ


โดย: Pakang IP: 202.176.103.180 วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:12:00:30 น.  

 
ผมชอบ หวาน > ฝัน > อาย > จูบ ครับผม...

ผมเห็นด้วยที่ว่าประเด็นของ หวาน ..ถ้าเล่าเป็นหนังยาวจะดีกว่านี้ ...แต่ด้วยความที่ผมมองในเรื่องของข้อคิด และความซึ้ง เป็นองค์หลัก ก็เลยคิดว่า สั้นแบบนี้ มันก็ดีในแบบของมัน อีกอย่าง ก็ทึ่งกับพี่ปรัชแกด้วย ที่ทำหนังรักดีกว่าหนังบู๊ซะอีก (รวมถึงการแสดงของ ชาคริต และนุ๊ก ก็สะเทือนใจ ..กับ สายป่าน น่ารักสดใสดี) แต่ก็อย่างว่า ดูไป คิดถึง หนังพี่แบรดที่จะฉายเดือนหน้าไปด้วย ....อยากดูมากมายก่ายกองระเนระนาด

ส่วนอีก 3 ตอน ผมไปสรุปใน Vreview ดีก่า ..และรีวิวกระพ้มเอง


โดย: OncE UPoN'-'a MaN วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:12:24:59 น.  

 
เพิ่งไปดูมา ชอบตอน ฝัน มากที่สุดเหมือนกัน น่าติดตาม


โดย: kwanmanee (kwanmanee ) วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:19:21:33 น.  

 



สวัสดีปีห้าสองฉลองสุข
ให้คลายทุกข์คลายเศร้าคลายเหงาหงอย
ให้มีโชคมีชัยได้ลาภลอย
สูงสุดสอยก็ได้คว้าเอามาครอง


ปีที่ผ่านมีเศร้าก็เท่านั้น
ให้แล้วกันทิ้งทุกข์ทนความหม่นหมอง
เริ่มปีใหม่สดใสอย่างหมายปอง
แล้วฉลองสุขใจไปพร้อมกัน




โดย: โสดในซอย วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:20:41:34 น.  

 
ชอบคุณหมอวิจารณ์เลยจริงๆพับผ่าสิ
555+
ตรงใจมากเลยครับ
ไปดูวันที่ 25 มาครับ โดนรุ่นพี่(ออกัส)ที่โรงเรียนบังคับไปดู 55+
ชอบ อาย หวาน ฝัน จูบ
มากไปน้อยตามลำดับครับ

อาย นี่ชอบเพราะวิวกว่า 90% แล้วครับ (ที่ไหนบอกกันด้วย 55+)
แล้วก็ยังเป็นแฟนพี่ตาลด้วย ซึ่งรู้สึกว่าเล่นดีใช้ได้ ดูแล้วตัดลุคเด็ก ม ปลาย จากรักแห่งสยามมาได้เลย

หวาน
ผมชอบตรงไอเดียน่ะครับ (ต้องขอบคุณคุณหมอที่ให้ข้อเท็จจริงทางการแพทย์ด้วยครับ)
แล้วก็ พี่นุ้ก เล่นดี เสียตรง make up นี่จริงๆ

ฝัน
ผมคิดว่า ถ้าโฆษณาออกมาว่า จะเป็นอย่างนี้จริงๆ อาจทำให้ชอบมากกว่านี้ ก็ได้มั้
งครับ เพราะรู้สึกเหมือนครั้งรักแห่งสยามนิดหน่อย ที่ตอนโปรโมทไม่ค่อยตรงกับตัวหนัง
ส่วนเนื้อหาคิดว่าแหวกดีใช้ได้ครับ
เสียก็ตรง แอนิเมชันจริงๆอย่างที่คุณหมอว่า
ถ้าทำได้ระดับ นาค นี่น่าจะโอเคเลยนะครับ

จูบ
เหมือน มาริโอ้ จะออกมาหล่อเท่านั้น -*- เล่นก็ ไม่ค่อยจะดี ดูแข็งๆ (คนที่เล่นเป็น เป็ด ยังดูดีซะกว่า) แล้วก็เนื้อหาไม่มีอะไรเลย หนังก็สั้นมากก

สรุปว่า ผมเฉยๆครับเรื่องนี้
ถือว่า ไปดูอุดหนุนหนังรุ่นพี่ แล้วก็ คุณมะเดี่ยว (และพี่ตาล 55+)

แต่วันเดียวกัน ไปดูซูเปอร์แหบแบบไม่ซีเรียส คิดว่าชอบมากกว่าครับ ถ้าคุณหมอได้ดูก็อยากให้ช่วยเอามาลง blog ด้วยนะครับ

สุขสันต์วันปีใหม่ครับ


โดย: ฺBank IP: 58.9.96.254 วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:21:16:17 น.  

 
ยังไม่ได้ไปดูเลย
อยากดู แต่ว่าไม่มีใครยอมไปดูด้วย แย่จังเลยค่ะ 55

ความจริงตอนรู้จักเรื่องนี้ เห็นแค่มาริโอ้
พอได้เห็นโฆษณาเรื่อยๆถึงรู้ว่ามันเป็น 4 เรื่อง
แต่คิดว่าถูกใจกะวิวของเรื่อง อาย มากๆเลย
สวยมาก อยากจะไปเที่ยวทะเล


โดย: Penguin*Air (DuckGuinZ ) วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:23:34:04 น.  

 
มีหลายคนที่รู้สึกว่าดู ฝัน หวาน อาย จูบ แล้วไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ

...ผมขอแนะนำ "หวานขม BitterSweet BoydPod The Short Film" ครับ มันตอบโจทย์ทุกอย่างที่เราต้องการจาก ฝัน หวาน อาย จูบ ได้หมดเลย แถมยังให้เราได้มากกว่าที่หวังไว้อีกด้วย


โดย: Mystery Rain IP: 124.121.110.103 วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:23:55:52 น.  

 
เพิ่งได้อ่านแบบจริงจัง
แอบถามนิดนึงคะ (ไม่กล้าตั้งกระทู้ข้างนอกหรือคะ ล้อเล่นนะคะ เห็นคุณหมอ ชอบฝันเลยมาแซวเล่นๆคะ)

จริงๆเคยโพสเรื่องนี้เอาไว้กับกระทู้น้องคนนึง เอาไว้หาเจอแล้วจะมาแชร์ความคิดใหม่นะคะ

ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้อีกรอบ หลังจากไปดูรอบสื่อ จะไปอุดหนุนน้องๆอิอิ

เอาเป็นว่าคราวหน้าค่อยมาโพสนะคะ

ยินดีที่ได้คุยกันคะ


โดย: เจเจ IP: 125.24.50.239 วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:0:43:45 น.  

 
ตอนแรกเห็นกระแสหนังเรื่องนี้จากห้องเฉลิมไทย มีแต่คนไม่ชอบ โดยเฉพาะตอนฝัน จนทำให้เราเกือบไม่ไปดูหนังเรื่องนี้ซะงั้น แต่ก็คิดว่าน่าจะเชื่อสัญชาตญาณตัวเองมากกว่ากระแส ก็เลยไปดูมาวันนี้

โชคดีที่ตัดสินใจไปดูค่ะ หนังก็โอเคไม่เห็นแย่อย่างที่หลายๆคนบอก แถมเรายังชอบตอนฝันด้วยนะคะ เพลงก็เพราะ น้องพิชก็น่ารัก 555

happy belated christmas and happy new year in advance ค่ะ ^^


โดย: พุดดิ้งสีชมพู IP: 125.25.111.230 วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:1:43:53 น.  

 
ไม่น่าเชื่อ จุดที่ผมชอบ/ไม่ชอบ เหมือนคุณหมอเกือบ 100% เลยครับ
วิจารณ์ได้ตรงใจมากๆครับ ^^

ชอบ ฝัน มากที่สุด ชอบ อาย รองลงมา ส่วน หวาน เกือบจะชอบถ้าบทลงตัวมากกว่านี้ และ ไม่ชอบ จูบ เลย

เหมือนกันเป๊ะๆ




โดย: หนึ่งกระบี่ แปรสามแจ้ง IP: 124.121.2.196 วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:5:09:25 น.  

 
จบแบบนี้คิดถึง totoro
เจ้าของบล็อครีวิวหน่อยสิคะ ได้ไหมเอ่ย


โดย: มรสุม IP: 124.157.136.74 วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:9:19:38 น.  

 
ก็เพลินๆ ดีคับ


โดย: ไอ้วู่ IP: 58.8.126.199 วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:10:34:19 น.  

 
คิดคล้ายๆ พี่หมอเลยค่ะคราวนี้ ^^ ชอบฝันเหมือนกันนะ (บ้าดี) แต่ต้องดูให้จบถึงจะอิน เห็นมีหลายคนบอกว่าเดินออกก่อนจบ น่าเสียดายมาก

โอคุงเขียนไว้ในบล็อค//acacha-nao.exteen.com/20081226/mini-review (เขียนไปเขียนมารู้สึกสไตล์คล้ายของพี่หมอเลยแฮะ ^^! ติดสำนวนไปเสียแล้วค่า)


โดย: นะโอ IP: 58.9.137.122 วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:11:27:30 น.  

 
เห็นตัวอย่างแล้วไม่นึกอยากดู...

พออ่านรีวิว..ก็ประมาณอย่างที่คิด...วงการหนังไทยช่างขาดแคลนคนเขียนบทซะจริงๆ


โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:16:09:31 น.  

 
ตอน หวาน
ผมคิดว่า ไม่ได้รอ 20 ปี ถึงทำ ไม่ใช่เหรอครับ
เพราะตามที่หมอบอก พระเอกต้องรู้ด้วยว่านางเอกย้อนไปถึงไหนแล้ว ถึงจะแก้ได้
แต่พระเอก ไม่รู้ว่า ตอนนี้ นางเอก ย้อนไปช่วงไหนแล้ว ประกอบกับ เห็นแก่งานๆๆ เลยละเลยการดูแล

จนท้ายที่สุด มานึกออกก็ตอนถึงช่วงเวลาสุดท้าย
นั่นคือ การเจอกันครั้งแรก
แล้วก็......

หรือผมเข้าใจผิดไปอะครับ


โดย: น้ำหนักขึ้น IP: 125.25.50.120 วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:22:58:36 น.  

 
ดูแล้ว ไม่เพลินอ่ะ
อึดอัดสุดๆ เมื่อไรจะจบ


โดย: 7 IP: 118.173.227.155 วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:17:24:33 น.  

 
เข้ามาอ่านเพลินๆ ครับ
ขอบคุณครับที่มีรีวิวดีๆ ให้อ่าน
ให้ประกอบการตัดสินใจก่อนไปดู
ทำให้ไม่ต้องเสียเงินฟรีๆ แล้วเสียความรู้สึก ^ ^


โดย: gonz IP: 118.173.50.72 วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:12:02:04 น.  

 
หนังที่ทำออกมาแล้วคนดูผิดหวังเนี่ย
อยากจะรู้จังว่าคนสร้างคิดอะไรอยู่ค่ะ



โดย: jigglypuff IP: 205.172.16.70 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:13:04:14 น.  

 
ตอนที่ดู รู้สึกว่า ง่ายไปหน่อยมั้ยกับหนังเรื่องนี้ ยังดีที่บางตอนก็ไม่ผิดหวังมากนัก เสียดายที่หลงมองที่หน้าหนังสวยๆ...


โดย: a-o-i IP: 202.28.80.4 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:15:23:43 น.  

 
ไม่ชอบเลยซักตอนอะครับ เซ็งกับ"จูบ" "อาย"นี่ซึ้งเล็กน้อย แต่แอบเวียนหัว "หวาน"นี่สำหรับผมมันน่าสะเทือนใจมากกว่าโรแมนติกอะ ส่วน"ฝัน" ไม่ค่อยชอบอะครับ อาจเพราะไม่ชอบเด็กที่เป็นนางเอก

สรุป...ผิดหวัง


โดย: amnesia IP: 58.9.198.69 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:0:37:12 น.  

 
ชอบ "อาย" ที่สุดค่ะ แต่พระเอกเล่นทื่อไปหน่อยค่ะ


โดย: ครูแหวว IP: 125.25.90.76 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:21:44:49 น.  

 
ผมชอบ อาย เหมอืนกัน ถ้าบทพูดลดความเลี่ยนลงหน่อย พระเอกเล่นให้เนียนซักนิด
น้องตาลเล่นดีมากเลย น่าร๊ากกกก อีกต่างหาก

ฝันก็ดูสนุกๆ ได้แต่ผมว่าการ์ตูนเยอะไปนิด
บวก เลี่ยนยัดเยียดขายวง ออกัสไปหน่อย

หวาน เนี่ยชอบพล็อตเหมือนกันแต่น่าจะเนียนๆ กว่านี้หน่อย

จูบก็เหมอืนดูมิวสิควีดีโอครับ


โดย: lkunl IP: 58.8.4.206 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:12:19:48 น.  

 
ชอบเรื่อง หวาน ค่ะ เพราะชอบประเด็นของเรื่องมากที่สุด รองลงมาเรื่อง ฝัน ถึงแม้ตัวเองไม่ค่อยชอบเหนังการ์ตูน แต่เรื่องนี้ก็ดูสร้างวรรค์ และดูมีประเด็นที่มากกว่าความรักเยอะเลย


โดย: ธิดาวัลย์ IP: 161.200.255.162 วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:1:47:21 น.  

 
ชอบเหมือน จขบ. เลย ฝัน อาย หวาน จูบ

ชอบสุดเรื่อง "ฝัน" ค่า!!! ไปดูมา 3 รอบและ หุ หุ
ถ้าจาบอกว่าชอบเพราะว่า ชอบ august อยู่แล้วด้วย มันก้อเหตุผลนึง แต่ในส่วนของเนื้อเรื่องก้อชอบอ้ะ แหวกแนวดี ชอบที่เป็น musical เหมือนดูการ์ตูนดิสนี่ย์ ชอบๆๆๆ
ในส่วน อนิเมชั่น ถ้าเอาอต่เนื้อเรื่องนะ ก้อ ok ชอบเลย โม้ดี เอานารูโตะ มารวมกับ ดรากอนบอล ฮาได้อีก เราชอบดูการตูนอยู่แล้ว ก้อเลยไม่รู้สึกเบื่อ เหมือนคนอื่นๆที่พอรู้ว่าเป็นการ์ตูนแล้วมะค่อยอยากดู แต่ถ้าวาดการ์ตูนให้สวยกว่านี้อีกนิสสส ก้อจาดีมากๆๆๆๆ


โดย: นัทจัง (peanut_p ) วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:0:43:55 น.  

 
+ แหะๆ เพิ่งจะได้มีเวลาเข้ามาอ่าน (เพราะเพิ่งได้ดูเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และรู้สึกสัปดาห์นี้จะไม่มีรอบฉายแล้ว) ... ก็คิดตรงกับคุณ จขบ. เกือบเป๊ะๆ เช่นกันขอรับ ไปเขียนลงเว็บยาริสไว้ก่อนหน้านี้แล้ว


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:12:16:38 น.  

 
ผมชอบเรื่องนี้ในแง่ที่เราสามารถมองความรักได้หลายๆมุม ผมไม่แน่ใจว่าการเรียงตอนหนังมีผลไหม ถ้าเราเล่นแบบ จากความรักในวัยเด็ก แล้วพัฒนาเป็นความรักแบบผู้ใหญ่ที่ต้องมองอะไรมากขึ้น หนังน่าจะสอนได้ดีกว่านี้ หรือ จะเล่าแบบย้อน ให้เรากลับไปคิดถึงความรักในวัยเด็กๆได้ มันก็จะดีไปอีกแบบ แต่มีความรู้สึกว่า หนังแต่ล่ะเรื่องนั้น ขาดจุดเชื่อมโยงกันอย่างแรง เหมือนดูหนังสี่เรื่อง ไม่ใช่หนังเรื่องเดียวกันแต่แบบช่วง ทำให้ตีมภาพ อารมณ์ มันคนล่ะเรื่องกันเลย ซึ่งผมไม่ชอบนะ งั้นเอาแต่ล่ะเรื่องทำหนังเรื่องยาวเลยไม่ดีกว่าเหรอ เล่าได้ชัดกว่า ถ้าจะทำแนวนี้จริงๆ ปิดเทอมใหญ่ยังดูเกี่ยวและมีอารมณ์ของหนังต่อกันมากกว่า

ส่วนตัวชอบ อาย ครับ หนังเล่าเรื่องได้ดี ถ่ายภาพได้สวย มุมมองดี ดูแล้วคล้อยตาม แต่ด้วยหนังที่สั้น ยังไม่ทันได้อิน ได้เล่นข้อคิดอะไร ก็จบแล้ว เสียดายจริงๆ

ไม่ชอบที่สุดคงเป็น ฝัน เพราะ มั่วเกินไป ไหนจะอะนิเม ไหนจะละครเพลง แถมเรื่องราวยังดูมั่วๆอีก อะนิเมก็ไม่เนียน ออกแบบcharactor ไม่น่าสนใจเลย เอาแค่น้องสัตว์แต่ล่ะตัว ไม่มีความเป็น Unity เลย แถมหนังยาว และ เอาไว้เรื่องสุดท้ายอีก ทำให้จบไม่สวยเลย ถ้าเอาอะนิเมออกไป แล้วเอาคนแสดงเป็นละครเพลงเต็มขั้นมันคงน่าสนใจและเชื่อมกับเรื่องอื่นๆได้มากกว่านี้

ปล. แอบทำหนังออกมาขายเป็นแผ่น แบบแยกตอน กะจะวัดดวงหรือเปล่า ว่าตอนไหนขายดีไม่ดี ซึ่งผมว่า การตลาดแบบนี้ไม่ดีอ่ะ ถ้าขายแยก


โดย: boatmaster IP: 114.128.179.42 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:04:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
28 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.