www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

ช็อคโกแลต , กลมกล่อมกว่า ต้มยำกุ้ง แต่ไม่แซ่บไม่ติดใจ






...ถ้าพูดถึง ออทิสติก มีหนังสองเรื่องที่นำเสนอโลกของออทิสติกได้ดีเหลือเกิน จนผมนิยมนำไปเปิดให้ผู้สนใจศึกษาเกี่ยวกับออทิสติกได้เข้าใจอาการของโรค และ เข้าใจชีวิตของพวกเขากับคนรอบตัว

ทั้งสองเรื่องทำออกมาได้ดูสนุกและซาบซึ้ง แสดงให้เห็นถึง การทำการบ้านมาอย่างหนักของผู้สร้างและนักแสดง

... หนึ่งเรื่องมาจาก Hollywood ซึ่งก็คือ Rain man งานโชว์ฝีมือของดัสติน ฮอฟแมนน์ ที่แสดงบทบาทของคนเป็นออทิสติกได้สมจริงอย่างเหลือเชื่อ ไม่เหมือนหนังส่วนใหญ่ที่ชอบเหมารวมว่า ออทิสติก คือ ปัญญาอ่อน แล้วก็ให้ตัวละครทำติ๊งต๊องปัญญาอ่อนไปวันๆ

... อีกหนึ่งเรื่องมาจากกิมจิ ชื่อ Running boy เป็นหนังเกาหลีที่ดีมากๆ พระเอกหนุ่มจาก The Classic เล่นเป็นออทิสติกได้ดีไม่แพ้ ดัสติน ฮอฟแมนน์ (ผมยังรู้สึกว่าสมจริงยิ่งกว่าเสียด้วยซ้ำ) ที่ดีมากๆ คือ หลายๆฉากในหนังถ่ายทอดอารมณ์และจิตวิญญาณของครอบครัวคนเป็นออทิสติกได้กินใจ ชนิดใครได้ดูมีปาดน้ำตากันเป็นแถบๆ

น่าสนใจเมื่อ คนไทย คิดจะสร้างหนังเกี่ยวกับ ออทิสติก บ้าง ถึงจะเป็นหนังแอคชั่นผมก็อยากดูและอยากรู้ว่าจะเล่นกับ ความเป็นออทิสติก ของตัวละครได้ดีมากน้อยแค่ไหนสำหรับ หนังเรื่อง ช็อกโกแลต





... ช็อกโกแลต คือ หนังแอคชั่นเน้นศิลปะการต่อสู้(Martial arts)ชิ้นที่สามของ ปรัชญา ปิ่นแก้ว ถัดจาก องค์บาก และ ต้มยำกุ้ง ผลงานสองเรื่องนั้นไม่มีใครกังขา ความมันกับความสะใจในฉากแอคชั่น แถม ยังเป็นงานแจ้งเกิด จา พนม

ปัญหาที่บ่นๆกันของสองเรื่องก่อน คือ บทภาพยนตร์

ที่น่าผิดหวังยิ่งกว่าตัวบท คือจำได้ว่าเคยได้อ่านบทสัมภาษณ์ของใครสักคนบอกว่า บทหนังหรือสาระอื่นใดไม่สำคัญ แค่หนังแนว Martial arts มี ฉากแอคชั่นเด็ดๆขายก็เพียงพอ ซึ่งสะท้อนทัศนคติการทำหนังแบบตีหัวเข้าบ้านของคนทำหนังไทยได้เป็นอย่างดี

... ก่อนจะเข้าไปดู ช็อกโกแลต ได้อ่านจากบทสัมภาษณ์หลายแห่ง ดูผู้กำกับก็มองเห็นปัญหาเรื่องบทหนัง ช็อคโกแลต จึงระดมคนเขียนบทมาเคี่ยวให้มากขึ้นและมีชื่อ มะเดี่ยว ซึ่งพิสูจน์ฝีมือการเขียนบทหนังดีๆให้เห็นมาแล้วใน รักแห่งสยาม มาเป็นหนึ่งในทีมคนเขียนบท

ซึ่งหลังจากได้เข้าไปชิมช็อกโกแลตในโรงมาแล้วก็พบว่า บทหนังของ ช็อกโกแลต พยายามใส่ที่มาที่ไป ใส่ความเป็นหนังชีวิต ใส่บทสนทนาที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และ ไม่ทำให้ จีจ้า เป็น จา พนม ที่อุดมไปด้วยบทพูดทื่อๆแบบ "ช้างกูอยู่ไหน"
(ถึงจะมีทื่อๆแบบ "เอาเงินแม่มา" ก็รับได้ เพราะความบกพร่องทางจิตของตัวละครจึงดูไม่ขัดตา นี่ถ้าตอนนั้นบทหนังเขียนให้ จา พนม เป็นออทิสติก ก็คงไม่มีใครแซวเรื่องพูดซ้ำๆว่า "ช้างกูอยู่ไหน" เพราะเข้าใจว่าตัวละครมีอาการหนึ่งของออทิสติก)

แต่ การมีบทหนังที่ดีกว่า ต้มยำกุ้ง ไม่ได้แปลว่า จะถึงระดับน่าพึงพอใจ

เพราะ ต้มยำกุ้ง สอบตกจากค่าเฉลี่ยไปมากในส่วนของบทหนัง

และเพราะ

ความเป็นดราม่า ไม่ใช่ มาม่า ที่แกะซองใส่น้ำร้อนตามสูตรสำเร็จรูป นึกอยากจะใส่ก็กลมกล่อมได้ในทันที ผู้กำกับในฐานะพ่อครัวมีหน้าที่ต้องปรุงให้มันกลมกล่อมด้วย ลองดูตัวอย่างดีๆใกล้ๆในบ้านเราอย่าง ไชยา คือตัวอย่างหนังไทยที่ดี ที่ผสมดราม่ากับแอคชั่นได้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

...ใน ช็อคโกแลต ความเป็นดราม่าเหมือนถูกใส่แบบทื่อเกินไปหน่อย และ ใส่เสมือนเพื่อให้มีไว้เป็นยันต์กันคนบอกว่า หนังดีแต่ชกต่อย

ดูแล้วรู้สึกเหมือน มีคนเขียนบทสองส่วน คือ ส่วนดราม่า ที่จ้างมาเขียนแล้วจับใส่หนังเลย โดยไม่ได้คุยกับทีมงานหลักๆ และตัวพ่อครัวของหนังไม่สามารถปรุงให้เป็นเนื้อเดียว จึงทำให้หนังแยกเป็นช่วงดราม่า กับ ช่วงแอคชั่น ออกไปแบบตัวใครตัวมันชัดเจน

เราจึงเห็น ประโยคเท่ๆตอนเปิดเรื่อง กับ ปิดเรื่อง ที่ผมดูแล้วรู้สึกว่า ใส่โมโนล็อกเข้ามาเพื่อให้เท่แต่ฟังแล้วไม่รู้สึกอิน หากจะตัดไปก็แทบจะไม่มีผลอะไรเลย เพราะ เกือบ ตลอดทั้งเรื่อง หนังแทบจะไม่ได้ใส่ใจ ประโยคเท่ๆที่ตัวละครพูดแม้แต่น้อย

ที่เห็นได้ชัดๆคือ หลังพ้นสิบนาทีแรกที่ตั้งท่าเหมือนจะออกมาดี หนังก็ทอดทิ้ง ’ความเป็นดราม่า’ แบบโยนใส่ตะกร้าแล้ว เดินหน้าไล่ฆ่าไล่ทวงกันจนจบ แล้วจึงปิดเรื่อง ด้วยการจับ ’ความเป็นดราม่า’ กลับมาใส่เป็นเสียงบรรยายอีกรอบ ทั้งที่ช่วงสิบนาทีแรกอุตส่าห์เล่นกับอารมณ์ของตัวละครได้ดีแล้ว ไม่รีบผลีผลามกระโจนเข้าหักกระดูกกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ใส่ใจกับมันแบบต่อเนื่อง

(ปัญหาส่วนตัวสำหรับผมคือ สิบนาทีแรกที่ว่าดีแล้วตัวเองก็ไม่อิน อาจเป็นที่ตัวเองเจอออทิสติกมากเกินไป แต่ลึกๆแล้วก็คิดว่า หนังเองก็ยังทำได้ไม่ได้ดีมากนักในการขับเน้นอารมณ์ เพราะตอนดูชีวิตตัวละครหลายช็อตหลายฉากใน Running boy ยังเศร้าซึ้งน้ำตาซึม)





... อีกปัญหาของบทหนังคือ หนังอาจจะให้ความสำคัญกับตัวละครมากขึ้น ใส่ที่มาที่ไปใส่ปูมหลังให้กับตัวละครนำของ จีจ้า มากกว่า ตัวละคร จา พนม ใน องค์บาก กับ ต้มยำกุ้ง แต่ คนเขียนบทเหมือนจะลืมใส่พื้นหลังหรือมิติใดๆให้กับตัวละครรอบข้าง

โชคดีที่สองเรื่องก่อนมี หม่ำ ซึ่งใช้ความสามารถส่วนตัวช่วยให้คนดูสนุกไปกับบทที่ไร้มิติได้ แต่ในช็อกโกแลต มีเพียง ส้ม อมรา ที่นอกจากจะมีรอยสักเซ็กซี่และเสียงดี เธอยังส่องประกายเจิดจ้าในด้านการแสดง + ฮิโรชิ อาเบะ ที่มีรัศมีดาราเอาตัวรอด

ส่วนนักแสดงคนที่เหลือ ในเมื่อบทไม่เอื้อและเลือกนักแสดงไร้เสน่ห์ไร้ทักษะ เหล่าร้ายทั้งหลายจึงล้วนดู ก๊องแก๊ง เหมือนหลุดมาจากหนังไทยสมัยยี่สิบปีก่อน หรือ ละครตอนหัวค่ำ

... เด็กหนุ่มที่รับบทเป็น มุม ซึ่งควรเป็นลูกคู่ของตัวเอกเป็นตัวละครสำคัญที่จะสร้างสีสันและเรียกอารมณ์สะเทือนใจได้ แต่บทนี้กลับเป็นบทที่น่าผิดหวังเมื่อนักแสดงถ่ายทอดได้ไม่ดีพอ ซึ่งจะโทษนักแสดงอย่างเดียวคงไม่ได้ ขนาด พงษ์พัฒน์ นักแสดงฝีมือดีก็แทบจะเอาตัวไม่รอดกับบทหนังที่เขียนให้ Boss ตัวร้าย ออกมาแบนสนิทไร้มิติ ไร้ความน่าเกรงขาม

มิหน้ำซ้ำ พอนึกย้อนหลังไปถึง ฉากยิงเท้าตัวเองของเขาทีไร แทนที่จะทำให้เขาดูเป็น คนแรง ,คนจริง กลับกลายเป็นเหมือน คนโง่ ทะลึ่งยิงเท้าตัวเองไปเสียอีก
(ซึ่งเดาว่าบทหนังใส่ ฉากยิงเท้า เข้ามา เพื่อจะได้มีเนื้อหาให้ไปตัดนิ้วคืนทีหลัง เช่นเดียวกับ ฉากโชว์ก้น ที่ใส่เข้ามาแบบไม่จำเป็นและไม่ได้สอดคล้องใดๆเลย ทั้งที่ฉากเลิฟซีนกลับกระมิดกระเมี้ยนแต่เหมือนจะกลัวไม่อินเตอร์เลยโชว์ก้นมาซะอย่างนั้น)






... สิ่งที่ทุกคนรอคอยมากที่สุด และ หนังตอบสนองได้อย่างที่หวังคือ ช่วงเวลา จีจ้าโชว์

จีจ้า นักแสดงหน้าใหม่ในวัยเพียงยี่สิบต้นๆ ให้ในสิ่งที่คนดูรอคอย ฉากแอคชั่นมันๆที่ผ่านการออกแบบมาอย่างดี แถมเล่นจริงเจ็บจริงตามคำโฆษณา ผสมทักษะด้านการแสดงที่ดูจะมีมากกว่าเหล่านักบู๊หน้าตายอย่าง ฌอง คล็อด แวนเดม และ จา พนม

เธอแสดงอารมณ์และท่าทางของคนเป็นออทิสติกได้ดี เช่นเดียวกับตอน แสดงท่า บรู๊ซ ลี ก็น่ารักน่าลุ้นยิ่งนัก เชื่อได้ว่า ใครได้ดูก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม ดาวดวงใหม่ของวงการคนนี้

และตัวผมเองตอนดูหนังก็เบื่อทุกครั้งที่ไม่มีจีจ้า ได้แต่รอว่าเมื่อไหร่จะเห็นเธอโชว์เสียที

ฉากแอคชั่นของหนังไม่มีอะไรให้ติ ยกเว้นไคลแมกซ์ช่วงท้ายที่ให้อารมณ์ใกล้เคียง Kill bill ไปหน่อย ขาดเอกลักษณ์ในตัวเองเหมือนที่เคยมีอย่างใน องค์บาก กับ ต้มยำกุ้ง


สรุป ... ช็อกโกแล็ต มีบทที่ดีกว่า และ กลมกล่อมกว่า องค์บาก กับ ต้มยำกุ้ง แต่ ส่วนตัวแล้วกลับรู้สึก สนุกสะใจ น้อยกว่า


บทหนังสองเรื่องก่อน อาจจะแย่แต่ตอนดูยังรู้สึก สนุกตื่นเต้น ฉากแอคชั่นยังตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะถ้าต้องคิดคะแนนความชอบเฉพาะฉากบู๊หักกระดูกแล้ว หากไม่มองหน้านักแสดง อดรีนาลีนผมหลั่งใน ฉากแอคชั่นองก์บาก > ต้มยำกุ้ง > ช็อกโกแลต

ยิ่งถ้าในหนังเรื่องนี้ไม่มี จีจ้า มันก็เหมือนกับเห็นอะไรที่ผ่านๆตามาจนเริ่มชิน

ตัวหนังยังไงก็ขายในบ้านเราและขายเมืองนอกได้อยู่แล้ว เพราะมีจุดขายชัดเจน เพียงเสียดายทรัพยากรดีๆอย่าง คนกำกับคิวบู๊เช่นคุณพันนา หรือ นักแสดงดีๆอย่างน้องจีจ้า และ ผู้กรุยทางหนังศิลปะการต่อสู้แบบไทยๆอย่างคุณปรัชญา ว่าหากทีมผู้สร้าง สนใจกับแค่รายได้ที่รับเข้ามาเป็นตัวชี้วัดว่า หนังดีแล้ว

น่าคิดว่า หากหนังเรื่องหน้า ไม่ได้นักแสดงแบบจีจ้า แล้วทีมผู้สร้างยังคงโครงเรื่องก๊อปปี้เดิมแบบรีเมคพล็อตตัวเองชนิดร้อยเนื้อทำนองเดียวอย่าง ‘ทวงของ สลับ โชว์ชกต่อย’ คนดูจะเริ่มเบื่อแล้วหรือยัง เพราะเราต่างก็เริ่มชินตามามากแล้ว




Link บทความที่อ้างอิงถึงจากใน blog

Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"

ไม่ใช่ไข่เค็ม ไม่ใช่ต้มยำกุ้ง ไม่ใช่หนังชกมวย ( ไม่สปอยล์ ) <--- “ไชยา” --> หนังดีที่น่าชื่นชม

ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม



แจ้งข่าวจ้า : องศาที่ 361 คลอดอย่างเป็นทางการแล้ววววว




อ่านเบื้องหลัง ที่มาที่ไป ไขเบื้องหลังของหนังสือ คลิกได้ที่นี่เลยครับ

เบื้องหลัง 'องศาที่ 361' - พ็อกเก็ตบุ้คเล่มที่ 2 ของ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ”

อ่านจบเมื่อใด ขอเชิญชวนมาพูดคุยแสดงความเห็นเกี่ยวกับหนังสือ คลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลยครับ

อ่านแล้วมาคุยกัน ... "องศาที่ 361


ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2551 1:21:02 น. 25 comments
Counter : 4807 Pageviews.

 
จ่ายค่าอ่านละนะ..ว่างๆจะมาอ่านใหม่วิเคราะห์ละเอียดดีค่ะ


โดย: kidakarn วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:58:25 น.  

 
ไปดูมาแล้ว เห็นด้วยกับคำวิจารณ์ค่ะ ถ้าไม่มีจีจ้า ถ้าเป็นจา พนม ก็คงไม่ไปดู เพราะเข้าคอนเซปต์เดิมๆ "ทวงของ" ถ้าไม่ทวงของจะมีการต่อสู้ไม่ได้หรือไง???


โดย: ยัยตัวเล็ก (sine_zaa ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:03:49 น.  

 
พอพูดถึงเรื่องออทิสติก เรื่องที่แว้บเข้ามาในหัวก็เป็นสองเรื่องเดียวกันกับเจ้าของบล็อกเลยค่ะ
จำได้ว่า Runing Boy นั่งดูน้ำตาท่วมอยู่ที่ห้องสมุด ไม่ได้อายใครเขาเลย

วันนี้ยังไม่ได้มาอ่านนะคะ แวะมาเยี่ยมเฉยๆ พรุ่งนี้กะว่าจะไปดูแล้วเดี๋ยวจะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ

ปล.ดูไตเติ้ลหนังแล้วแอบชอบน้องที่เล่นเป็นจีจ้าตอนเด็กจัง


โดย: SnowBelL IP: 116.58.231.242 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:3:04:51 น.  

 
แวะมาชิม ความกลมกล่อม

อิอิ

ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ
อยากไปดูเหมือนกัน
ไม่ได้อุดหนุนหนังไทยมานานแล้ว
(ตั้งแต่ "พระนเรศวร")




โดย: โสดในซอย วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:12:45 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ
อยากอ่านวิจารณ์ Death Note: L Change The World จังค่ะ


โดย: jenny05 IP: 203.150.4.68 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:33:47 น.  

 
อ่านแล้วน่าเป็นห่วงหนังเรื่องหน้าของคุณปรัชญานะคะ ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร แต่อย่างน้อยคงมีน้องจีจ้ามาช่วยเป็นแม่เหล็กดึงดูดเสริมแรง คุณจาพนมอีกแรง หวังว่าเค้าจะคิดได้และยอมรับถึงจุดอ่อนของเค้าเกี่ยวกับบทหนัง และหาทีมใหม่ ๆ ช่วยเสริมจุดอ่อนให้แข็งแรงมากขึ้นนะคะ หนังไทยจะได้โกอินเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบค่ะ


โดย: aorengja IP: 203.144.213.3 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:14:34 น.  

 
กำลังจะไปดู....อยากเห็นหนังไทยโกอินเตอร์


โดย: simon IP: 202.28.179.3 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:38:13 น.  

 
คนเขียนบทเขาก็เขียนเฉพาะเนื้อเรื่อง และในฉากแอ๊กชั่นก็จะเหมือนจุดประที่ให้คนกำกับคิวบู๊ไปจัดการออกแบบคิว
มันเลยทำอารมณ์ของหนังมันยังไม่เข้ากันดีนักระหว่างแอ๊กชั่นกับดราม่า แต่ขอรับรองครับว่าการใส่ดราม่าในเรื่องไม่ใช่การใส่ยันต์กันผีแต่อย่างใด ทีมงานทุกคนเขาก็อยากสร้างหนังดีๆทั้งนั้น เพียงแต่บางทีมันยังมีปัจจัย อีกจากเบื้องบนที่ต้องการให้หนังออกมาเป็นแบบนี้แบบนั้น ซึ่งก็ต้องทำตามเขาอ่ะครับ ก็เลยไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าเจ้าอ้วนเจ้าของเขียงหมูเขาเปรียบเหมือนใครในชีวิตจริง
อันนี้เป็นคลาบลับอ่ะครับ ไม่สามารถอ้างอิงตรงไหนได้เพราะทีมงานส่วนใหญ่ก็ไม่รู้

แต่สุดท้ายแล้ว อยากบอกว่าทุกคนเขาก็อยากทำหนังให้ออกมาดี แต่อยากให้เข้าใจว่าในโลกแห่งความเป็นจริงในวงการนี้มันยังมีอะไรที่เป็นตัวแปรอีกเยอะ เลยอยากให้สงสารคนทำหนัง ทีมงานบ้างในคำวิจารณ์เพราะทุกคนเขาก็ทำเต็มที่แล้ว และพร้อมจะน้อมรับคำวิจารณ์ดีๆไปปรับปรุงเสมอ


โดย: ปลายเทียน วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:45:58 น.  

 
^
^
เท่าที่ฟังคุณปรัชญา ตอบคำถามในช่วง Q&A มันส่อออกไปทางนั้นจริงๆครับ แม้จะเป็นคำพูดแบบทีเล่นทีจริงก็ตาม
หรือต่อให้คนเขียนบท กับคนกำกับคิวแอ็คชั่นแยกกันทำ ผู้กำกับก็มีหน้าที่ทำให้มันกลมกล่อมเหมือนกัน ไม่ใช่ปล่อยให้มันดูแยกจากกันชัดเจนแบบนี้


จริงๆแล้วผมชอบความ "ใจดำ" เล็กๆของคุณปรัชญานะ ที่แต่ละเรื่องเลือกที่จะไม่ให้หนังจบแบบ happy ending เท่าไหร่นัก ผมเลยแอบเชียร์ให้แกไปทำหนังดราม่าแบบเศร้าๆน่ะ
เสียดายที่ในเรื่องนี้ นอกจากฉากจบแล้ว ฉากอื่นๆยังใจร้ายไม่พอ เพราะสังเกตได้ชัดเหลือเกินว่าคุณปรัชญาไม่กล้าทำให้ตัวละคร เซน ฆ่าใครตายเลยซักคนในเรื่อง ทั้งที่สถานการณ์เอื้ออำนวยสุดๆ

อย่างไรก็ตาม จีจ้าน่ารักที่สุด


โดย: nanoguy IP: 125.24.77.137 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:23:01 น.  

 



เป็นอีกเรื่องที่น่าดูเหมือนกันนะ แต่แพ้โหวต...เลย...อดดูเลย



โดย: a_mulika วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:24:11 น.  

 
เด็กชาย...(จำไม่ได้) ชอบของมีตำหนิ...

ใส่มาเพื่ออะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้มีการขยายความในจุดนี้เลย หรือกลัวว่าหนังจะไม่มีประโยคเท่ห์ๆก็เลยต้องใส่เข้ามาตอนเริ่มเรื่อง และใส่มาอีกครั้งตอนจบ
แอ็คชั่นของน้องจีจ้า ผมว่าบางช็อตมันดูไม่สมจริง คือไม่เชื่อว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆขนาดนั้นจะเตะผู้ชายตัวเท่าควายทีเดียวจอด

ที่จริงผมไม่เคยดูทั้งองค์บากและต้มยำกุ้งนะ แต่ที่ดูช็อกโกแล็ตก็เพราะน้องจีจ้าคนเดียวเลย



โดย: yatiko IP: 125.27.143.112 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:36:59 น.  

 
ไปดูมาแล้ว เราว่าบทหนังทันขาดๆเกินๆ เหมือนเอาฉากบู๊ 5 - 6 ฉาก มาถ่ายไว้ก่อน แล้วค่อยเขียนบทมาร้อยให้เป็นหนัง จังหวะหนังเลยสะดุดมากๆ
ตัวละครของพงษ์พัฒน์ไม่มีมิติอะไรเลย ทั้งๆดูแล้วน่าจะมีบทบาทมากกว่านี้ ส่วนเรื่อง ดรามาสอบตกสนิท ทั้งๆที่หนังเอื้อให้เล่นประเด็นนี้ค่อนข้างมาก ส่วนนักแสดงญี่ปุ่นคนนั้น ก็เสียของเป็นที่สุด จ้างมาให้เล่นแค่เนี๊ย เสียดายค่าตัวเปล่าๆน้า (ได้ข่าวว่าดังที่เดียวที่ญี่ปุ่น) src=https://www.bloggang.com/emo/emo1.gif>
แต่ยังไงก็ตามน้องจีจ้าน่ารักดีนะ แต่เราว่าฉากบู๊มันดูยั้งๆ ชอบกล หรือว่าจะตีความว่าเป็นบู๊แบบ ออทิสติกก็ไม่รู้นะ เหมือนเตะป๊าบ แล้วก็รอให้ผู้ร้ายวิ่งเข้ามา ก็เต๊ะอีกป๊าบประมาณนั้น กึ่งๆโชว์ยังไงก็ไม่รู้ แอบผิดหวังนิดหน่อย(ก็ไม่รู้จะหวังทำไม หรือยังไม่เข็ดจากต้มยำกุ้ง!)


โดย: obiwankenobi IP: 210.246.178.51 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:13:03 น.  

 
+ แหะๆ ... อ่านแล้ว ผมคงบาย เหมือนที่คิดไว้ตั้งแต่แรกแหละครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:04:31 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากครับ ยอมรับว่าพอรู้ว่าเป็นหนังของผู้กำกับ "ต้มยำกุ้ง" เรื่องนั้น ก็เกิดอคติไม่อยากดูไปเลย แต่พอดีวันนั้นต้องไปดูอีกเรื่องด้วย (แอว เช้งเดอะเวิน )เรื่องนี้เลยเป็นของแถม

(มีสปอยส์นะครับ)


พอได้ดูกลับพบว่าเป็นหนังแอ๊คชั่นที่มีบทน่าสนใจดี ตั้งแต่ได้อ่านคำอธิบายที่มีก่อนหนังฉาย ผมก็เลยไม่คาดหวังถึงการเป็นหนังดราม่าที่มีบทสมจริงของผู้ป่วยออทิสติก หรือฉากบู๊หฤหรรษ์ดุจต้มยำกุ้ง (สตั๊นโชว์) แต่เข้าไปดูโดยเปิดใจรับความผิดหวังเต็มที่ ซึ่งต้องตกใจเมื่อพบว่าเนื้อเรื่องดำเนินไปได้ดี เปิดเรื่องอย่างน่าสนใจ การชักจูงคนดูเข้าสู่ตัวละครหลัก "น้องจีจ้า" ทำได้อย่างราบรื่น ผมค่อนข้างผูกพันธ์และรู้สึกเอาใจช่วยเธออย่างมาก ในหลาย ๆ ตอน (ใจจริงอยากเห็นเธอแพ้หมดรูป และพบกับความจริงอันโหดร้ายกว่านี้นิด ๆ แล้วค่อย Happy Ending ทีหลัง) ซึ่งเธอก็เทพจนเอาชนะมาได้ทุกครั้งตามสไตล์ผู้กำกับ อีกเรื่องที่อดประทับใจไม่ได้คือ บทบาทของสาวประเภทสองในเรื่อง ปกติเรื่องอื่นผมเห็นแต่เข้ามา "แอร๊ยส์! อิ...!" ด่ากันหยาบ ๆ คาย ๆ ให้คนขำ (แต่ผมเซ็ง) แต่เรื่องนี้กลับแสดงได้ดิบเถื่อน แบบแต๋ว ๆ แหวกแนวมากมายแม้ตอนจบนั้นอาจดูจงใจไปสักนิด แต่ก็น่ายินดีแทนมาซาชิผู้ชื่นชอบของมีตำหนิ ที่แม้จะสูญเสียเมีย (ที่เซ็กซี่ด้วยแผลเป็นบนหน้า) แต่กลับได้พบลูกสาว (ซึ่งมีตำหนิอันบกพร่องแต่กำเนิด) สงสัยจังว่าชื่อ "ช๊อคโกแลต" นั้นสื่อถึงตัวหนังรึเปล่า เพราะหนังมีทั้งความหวานน่ารัก น่าเอ็นดู (แต่โหด) ของตัวเอก ความขมขื่นของเนื้อเรื่อง และความมันส์กำลังดีของคิวบู๊
โดยรวมแล้วผมประทับใจกับหนังเรื่องนี้ไม่แพ้หนังไทยดี ๆ อีกหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะผู้กำกับ ที่แสดงให้เห็นว่าเขารักในสิ่งที่ทำมาก ๆ แถมยังหมั่นปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดอยู่เสมอ อยากบอกคุณปรัชญาจากใจจริงว่า คุณเป็นอีกคนที่ผมอยากติดตามผลงานชิ้นต่อ ๆ ไปครับ (แต่ช่วยสงสารสตั๊นนิดนึงก็ดีนะ เห็นในเครดิตแล้ว เจ็บใช่ย่อย)


โดย: รบชนะ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:08:22 น.  

 
ถ้าไม่มีจีจ้าคงไม่ไปดูอะนะ
ไม่มีนางเอกจะเอาอะไรไปขายเนี่ยหนังเรื่องนี้
ของดีๆมีแต่กำกับออกมาแล้วสะเทือนใจคนดู


โดย: หุหุหุ IP: 58.8.86.219 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:58:50 น.  

 
จีจ้า ตัวจริงน่ารักมาก ตัวนิดเดียวเอง


โดย: YoiChi IP: 125.24.174.67 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:28:11 น.  

 
อยากถาม จขบ. นิดนึงนะครับ เพราะผมไม่ค่อยเข้าใจศัพท์หนัง

โมโนล็อก แปลว่าอะไรเหรอครับ


โดย: HoneyBoy IP: 125.24.8.30 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:47:35 น.  

 
ถ้าไม่เลิกทวงของ...

ผมคงต้องประท้วงไม่ไปดู...(ถึงแม้จะอยากให้กำลังใจหนังก็ตาม)


โดย: กลัวจริงๆ IP: 118.175.84.16 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:41:27 น.  

 
เหมือนกันเลยค่ะ
เราดู จีจ้า .. แล้วคิดอย่างเดียวว่า ชนะ ชนะ ชนะ ..

ลุ้นให้ชนะทั้งเรื่องเลย แข็งแรงดีจัง


โดย: jumwilly วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:54:26 น.  

 
สิ่งที่ผมเสียดายมากที่สุดคือการตัดต่อที่ฉับไวราวกับหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ด
สิ่งที่จีจ้ามีเหนือกว่าดาราฝรั่งหรือเอเชียคนอื่น ๆ ถูกกลบไปด้วยการตัดต่อจนดูไม่ออกว่าถ่ายกันกี่ช็อตกว่าจะได้ฉากนั้น ๆ
อยากเห็นลองช็อตยาว ๆ สักหน่อย ไม่ต้องยาวเหมือนต้มยำกุ้งหรอก แค่สัก 5 วิ ก็น่าจะพอ
ไม่ใช่ตัดต่อทุกเสี้ยววินาที เปลี่ยนมุมกล้องกลับไปกลับมาจนปวดหัว
ผมเสียดายแทนน้องจีจ้าที่ทุ่มเทมา 4 ปี แต่ภาพที่เห็นไม่สามารถถ่ายทอดความสามารถของเธอได้เต็มที่


โดย: jason IP: 125.24.180.146 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:06:31 น.  

 
สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ดีกว่า องค์บาก และ ต้มยำกุ้งครับ เรื่องของบททำไม่เนียนก็จริง และมีส่วนช่วยให้หนังดูสนุกขึ้นนะครับ


โดย: TorTong IP: 125.27.80.43 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:48:42 น.  

 
เห็นด้วยกับคำวิจารณ์หนังมากๆเลยค่ะ
หลายๆคนที่ไปดูบอกว่า ชอบมาก สนุกมาก ดีมาก
แต่เรากลับไม่รู้สึกขนาดนั้น
ถ้าเทียบกับไชยาแล้ว เห็นด้วยกับจขบ.ค่ะว่าดีกว่าจริงๆ (อันนี้เปรียบเทียบตัวหนังโดยรวมนะคะ ไม่ใช่นักแสดง) แต่เสียดายที่ไชยาดูจะไม่เปรี้ยงปร้างซักเท่าไหร่
ส่วนเรื่องช็อคโกแล็ตก้อคงเหมือนหลายๆคนอ่ะค่ะ มีดีที่น้องจีจ้า และก็ตัวประกอบทุกคนที่ทุ่มเทเจ็บตัวกัน(น่าสงสาร) ดูเสร็จแล้วก็สนุกประมาณนึงค่ะ แต่ก็ให้ความรู้สึก"เสียของ"ด้วยค่ะ


โดย: อยู่ข้างหลังคุณอีกที(อิอิ) IP: 203.113.16.78 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:08:14 น.  

 
comment ไม่เก่งนะครับ

เอาง่าย ๆ ว่า ชอบที่คุณส้ม อมรา ในเรื่องฝีมือการแสดง กับจีจ้า ในเรื่องแทบทุกฉากเลย

สรุปว่า อยากได้อะไร คาดหวังอะไร ผมได้กลับไปครบ แถมความ"อิ่มอุ่น" ด้วยแหละ (แบบรักแม่น่ะ)


โดย: icute123 IP: 203.146.147.102 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:50:16 น.  

 
"ที่น่าผิดหวังยิ่งกว่าตัวบท คือจำได้ว่าเคยได้อ่านบทสัมภาษณ์ของใครสักคนบอกว่า บทหนังหรือสาระอื่นใดไม่สำคัญ แค่หนังแนว Martial arts มี ฉากแอคชั่นเด็ดๆขายก็เพียงพอ ซึ่งสะท้อนทัศนคติการทำหนังแบบตีหัวเข้าบ้านของคนทำหนังไทยได้เป็นอย่างดี"
เป็นบทสัมภาษณ์ของคุณปรัชญา ครับ ผมได้ฟังครั้งแรกถึงกับอึ้งไปเลย คิดอยู่นานว่าจะไปดูดีหรือเปล่าพอดีก่อนวันฉายสักสัปดาห์นึงเห็นจะได้ ได้ไปดูน้องจ้า โชว์สดๆ ก็เลยตัดสินใจว่าดูก็ได้ฟ่ะ ถือว่าสนับสนุนเด็กไทยที่มีฝีมืออีกสักคน สำหรับผมๆ เฉยๆกับหนังเรื่องนี้ครับ

wichmata สมาชิกชมรมโตแล้วเฟ้ย


โดย: wichmata IP: 118.175.72.64 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:11:35:36 น.  

 


สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน


โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:17:23:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
9 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.