space
space
space
 
พฤศจิกายน 2563
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
space
space
25 พฤศจิกายน 2563
space
space
space

เรื่องราวชีวิตจริง ที่ยิ่งกว่าละคร ของ บุคคลออทิสติกคนสู้ชีวิต “ อังกูร ชัยนิมิตวัฒนา ”
ขออนุญาตสละเวลาได้อ่านและได้ฟังเรื่องราวของบุคคลออทิสติกคนนี้หน่อยนะครับ เพื่อที่จะได้ตระหนักรับรู้และเข้าใจว่า บุคคลออทิสติกก็มีชีวิตและจิตใจ และควรที่จะยอมรับและให้โอกาสพวกเขาทุกๆคนนะครับ

ผมชื่อนายอังกูร ชัยนิมิตวัฒนา หรือเรียกผมว่า " ไก่ " ก็ได้นะครับ ผมเกิดมาไม่เหมือนกับครอบครัวคนอื่นๆทั่วไป กล่าวคือ ผมเกิดมาไม่มีคุณพ่อตั้งแต่กำเนิด ก่อนที่ผมจะเกิดมานั้น คุณแม่ของผม ถูกผู้ชายล่อลวงจนท้องแล้วหนีไป จนผมมีคุณลุง ซึ่งเป็นพี่ชายของแม่ เป็นผู้ดูแลผมตั้งแต่นั้นมา ตั้งแต่เด็กๆ ผมเกิดมาก็เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แต่แล้วโชคชะตาของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง คือตั้งแต่อายุ 3 ขวบครึ่ง ผมเป็นคนไม่พูด และไม่ค่อยสบตา และตอนอยู่โรงเรียน ผมก็มีพฤติกรรมชอบรื้อกระเป๋าของเพื่อน และชอบเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ในโรงเรียน จนมีบางคนก็ได้บอกกับคุณลุงของผมว่า ผมเป็นออทิสติก ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร จนตอนนั้น คุณลุงของผมก็พาผมไปรักษาและปรับพฤติกรรมที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และผมก็ได้เรียนในโรงเรียนเรียนร่วมกับเด็กปกติ(การศึกษาพิเศษ) จนถึงในตอนมัธยม ผมก็ได้ไปเรียนที่โรงเรียนเฉพาะความพิการที่ จ.สุพรรณบุรี จนสามารถพัฒนาและช่วยเหลือตัวเองได้ รวมไปถึงได้แสดงความสามารถ และได้รับรางวัลศิลปหัตถกรรมทั้งของในระดับภาคและระดับประเทศนับตั้งแต่นั้นมา

หลังจากที่ผมได้จบชั้นมัธยมที่สุพรรณบุรีไปแล้ว ผมก็มีความคิดที่อยากจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย จนได้ไปเจอข้อมูลว่า มีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่ได้เปิดโอกาสให้บุคคลออทิสติกได้เข้าศึกษาต่อ แต่แล้วสิ่งที่ผมได้คิด กลับไม่ได้เป็นความจริงในช่วงนั้น ผมได้เข้าร่วมโครงการทดลองจ้างงานบุคคลออทิสติกของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมบุคคลออทิสติกเพื่อเข้าทำงานในสถานประกอบการ ผมจึงได้เข้าร่วมโครงการนี้เป็นระยะเวลา 1 ปี จนสามารถเข้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งในช่วงแรกนั้น ผมทำงานที่แถวใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งมันก็ใกล้บ้านผมอยู่แล้ว ซึ่งตำแหน่งและหน้าที่ของผมคือ เป็นผู้ช่วยธุรการภาคสนาม มีหน้าที่คอยรับ-ส่งเอกสาร คอยพิมพ์งาน และหน้าที่ประจำของผมคือ หน้าที่ถ่ายเอกสาร ซึ่งผมก็ได้สัมผัสแต่ผงหมึกและกลิ่นหมึกของเครื่องถ่ายเอกสาร จนเมื่อปี 2560 ผมก็ได้รับเกียรติให้ไปเป็นวิทยากรของกรมสุขภาพจิต เนื่องในโอกาสวันสุขภาพจิตโลก และได้รับรางวัลหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในปีเดียวกันอีกด้วยครับ

ผมทำงานที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้ไม่นาน จนเมื่อเดือนธันวาคม 2560 ชีวิตการทำงานของผม ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผมเป็นต้นมา เพราะที่ทำงานเก่านั้น ได้ปิดโครงการลง ผมได้ถูกสั่งย้ายให้ไปทำงานที่ จ.นนทบุรี ในตำแหน่งและหน้าที่เดิม ซึ่งที่ทำงานที่ใหม่นั้น อยู่นอกเมือง ไม่มีร้านค้าและห้างสรรพสินค้า ไม่มีความเจริญ มีแต่เครื่องจักร รวมไปถึง เพื่อนร่วมงานในแผนกก็มีแต่ผู้หญิง ผมก็ยอมรับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต และสร้างความกดดันในครั้งนี้ กล่าวคือ การเดินทางไปที่ทำงานที่ใหม่นั้น ลำบากมากๆ เพราะไม่มีรถเมล์และรถไฟฟ้าผ่าน ทางบริษัทจึงได้อำนวยความสะดวกให้มีรถรับ-ส่งจากใกล้บ้านไปจนถึงที่ทำงาน บางครั้งผมก็ต้องเดินทางไป-กลับเองโดยรถตู้โดยสารธรรมดา ซึ่งเสียค่ารถไปเกือบ 100 บาทต่อวัน รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานก็สร้างความกดดันให้ผม จนมีพนักงานคนหนึ่ง มาดูถูกเหยียดหยามผม และได้มาข่มขู่ผมว่า จะให้ย้ายไปทำงานในสาขาในภาคใต้ จนผมเกิดมีความเครียดสะสม ถึงขั้นที่ต้องไปพบจิตแพทย์ รวมไปถึงผมเจอปัญหาชีวิตอย่างมากมาย โดยเฉพาะคุณแม่ของผมประสบอุบัติในห้องน้ำจนกระดูกหัก ผมต้องพาคุณแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง จนผมต้องร้องขอความช่วยเหลือจนลั่นโรงพยาบาล แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมา ความเครียดของผมก็ได้สะสมขึ้นไปเรื่อยๆ จนผมโกรธพนักงานคนหนึ่งที่มาดูถูกเหยียดหยามผม แล้วด่าใส่เขาคนนั้น ผมขอกกับเจ้านายว่า ผมไม่ไหวแล้ว ผมอยากอยู่ที่กรุงเทพฯ และผมก็มีความฝันของผมอยู่ในใจแต่แล้วผมทำไม่สำเร็จ ซึ่งความฝันของผมนั้น เดี๋ยวผมจะเล่าในข่วงต่อไปนะครับ

หลังจากที่ผมได้ทำงานที่ จ.นนทบุรีได้ประมาณ 6 เดือน ผมเสียใจและว่างงานมากๆ จนอยู่มาวันหนึ่ง ผมเครียดมากๆ จนไม่รู้ว่าผมอยากจะปรึกษาหรือขอรับความช่วยจากใครดี ผมได้ตัดสินใจระบายเรื่องราวของตัวเองลงใน Facebook จนกระทั่ง อ.ชูศักดิ์ จันทนานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย ได้เห็นข้อความที่ผมได้โพสต์ แล้วก็ได้มาชักชวนผมเข้าทำงานที่มูลนิธิ จนสามารถทำงานเป็นบาริสต้าที่ร้านกาแฟ For All Coffee สาขา SME BANK ซอยอารีย์ ผมทำงานที่นั่น ผมมีความสุขๆมาก เหมือนเราได้ชีวิตใหม่ขึ้นมา จนมีบางครั้ง ผมก็ได้ออกสื่อต่างๆ เช่นรายการแจ๋ว Family,รายการนารีกระจ่าง,รายการพบหมอรามา,รายการห้องรับแขกโชว์ ของ คุณบุ๋ม ปนัดดา และโดยเฉพาะที่เด่นที่สุดคือ รายการ PANO TALK โดยทุกๆรายการที่ผมได้ไปออกนั้น ผมก็ได้เล่าความฝันของผมไปด้วย ซึ่งความฝันของผมนั้นก็คือ ผมอยากจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยครับ

ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา คุณลุงของผมก็ได้แอบไปสมัครเข้าร่วมโครงการรับบุคคลออทิสติก ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งในวันนั้นก็เป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร จนผมได้มีสิทธิ์เข้าร่วมสอบสัมภาษณ์ จนในที่สุด ความฝันของผมที่พยายามมาทั้งชีวิต ก็ได้เป็นจริงขึ้นมาตอนนี้ หลังจากที่ผมได้เฝ้ารอมานานกว่า 6 ปี  จนผมได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ในหลักสูตรศาสตร์แห่งแผ่นดิน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน วิทยาลัยบูรณาการศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ทุกวันนี้เอง ผมก็มีความสุขในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ผมก็ยังที่จะต้องดูแลคุณแม่ที่พิการทางจิตใจ กล่าวคือ เมื่อหลังจากที่ผมเลิกเรียนแล้ว คุณแม่อยากจะกินอะไร อยากจะหาอะไร ผมก็จะซื้อกับข้าว ซื้อนมมาฝากแม่ หรือในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ผมก็จะซักผ้า ล้างจาน กวาดพื้น ถูพื้น ผมทำได้ด้วยตัวเอง และที่สำคัญที่สุด ผมเองก็ได้ทำเพจที่มีชื่อว่า " ออฯไทยวาไรตี้ " ซึ่งเป็นเพจที่เกี่ยวกับข่าวสารและเรื่องราวของคนพิการและบุคคลออทิสติก และเพจ " อังกูร ออทิสติกคนสู้ชีวิต " ซึ่งเป็นเพจที่เล่าเรื่องราวชีวิตของผมและข้อคิดดีๆของผมนะครับ

สำหรับเป้าหมายสูงสุดในชีวิตในฐานะที่ผมเป็นบุคคลออทิสติกนี้นั่นก็คือ ผมอยากจะเป็นบุคคลออทิสติกต้นแบบให้กับบุคคลออทิสติกคนอื่นๆ ผมอยากจะช่วยเหลือบุคคลออทิสติกคนอื่นๆที่เขาไม่ได้รับการศึกษาเหมือนกับผม เพื่อให้พวกเขาได้รับการศึกษาตามที่เขาต้องการ รวมไปถึง ผมอยากจะปกป้อง,คุ้มครองบุคคลออทิสติกที่ถูกทำร้ายทั้งทางร่ายกายและจิตใจ รวมไปถึงการไม่ไดัรับความเป็นธรรมจากสังคม ตลอดจนถึงอยากจะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงให้กับบุคคลออทิสติก ในการสร้างความตระหนักรู้และสร้างความเทียมกันของบุคคลออทิสติกทั่วทั้งโลก

และในโอกาสนี้ ผมในฐานะที่ผมเป็นบุคคลออทิสติกชาวไทย ผมจะขออยากบอกกับทุกๆคนที่ได้อ่านกระทู้ๆนี้ว่า บุคคลออทิสติก เขาก็มีชีวิตจิตใจ เขาก็มีสมอง และเขาก็พิสูจน์ตัวเองว่า เขาก็มีความสามารถ และทำให้โลกนั้นสวยงาม ผมหวังอีกต่อไปว่า สักวันหนึ่งในอนาคตอันไกลนี้ ทุกๆคนจะได้เห็นบุคคลออทิสติก ที่มีการศึกษา ได้จบเป็นด๊อกเตอร์ ได้เป็นคุณหมอ ได้เป็นครู ได้เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ได้เป็นซีอีโอ และอื่นๆ รวมไปจนถึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือผู้นำประเทศที่นำพาประเทศไปสู่ความเจริญในอนาคตข้างหน้านะครับ

อังกูร ชัยนิมิตวัฒนา
21/11/2563


อันนี้เป็นรูปผมสมัยเด็กได้กับคุณลุงของผมนะครับ



เอารูปผมตั้งแต่เด็กๆ มาเทียบกับรูปตอนโต 555



อันนี้รูปผมกับคุณแม่นะครับ



อันนี้รูปปัจจุบันนะ


อันนี้เป็นกิจกรรมของผมตั้งแต่ผมเรียนมัธยมนะครับ ในรูปนี้ เป็นกิจกรรมร้องเพลง และปฏิบัติธรรมนะครับ





อวดรูปในอดีตซะหน่อยนะครับ



เคยเป็นวิทยากรในงานวันสุขภาพจิตโลก ปี 2560



อันนี้ไฮไลท์เด็ดของผม ผมได้รับรางวัลหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร เมื่อปี 2560









อันนี้เด็ดสุดได้ได้ถ่ายรูปกับพี่จิ๊ก เนาวรัตน์,พี่เด่นคุณ และพี่จั๊กจั่น 







มีอยู่ครั้งนึง ผมได้เคยประสบปัญหาชีวิตที่หนักที่สุด ผมก็เลยอยากบวชเณรเพื่อขัดเกลาจิตใจ รูปนี้ผมบวชอยู่ที่วัดนางในธัมมิการราม จ.อ่างทองครับ



อันนี้เป็นรูปที่ผมทำงานที่ร้านกาแฟ For All Coffee สาขา SME Bank ซอยอารีย์นะครับ









รูปนี้ผมถ่ายกับอาจารย์ปอ เซียนกาแฟ



รูปนี้ผมได้ไปออกรายการแจ๋ว Family และรายการของคุณบุ๋ม ปนัดดา





รูปนี้ เป็นความฝันของผมทำสำเร็จแล้วนะครับ 









อันนี้ก็คือบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจส่วนตัวของผม คือ ครูไอซ์ ที่เป็นคนตาบอด และอีกคนหนึ่งก็คือ ครูเชาว์ ที่เป็นบุคคลออทิสติกนะครับ (ผมเองก็ไม่ได้เจอครูเชาว์เลยนะครับ)





อันนี้ผมได้รับรางวัลเรียงความชนะเลิศวันคนพิการ เมื่อปีที่แล้วนะครับ



อันนี้ผมขอปิดท้าย ด้วยรูปนี้นะครับ ผมเองก็อยากจะเป็นนักต่อสู้เพื่อบุคคลออทิสติกนะครับ




Create Date : 25 พฤศจิกายน 2563
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2563 18:40:38 น. 0 comments
Counter : 1394 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

อังกูร ออทิสติกคนสู้ชีวิต
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add อังกูร ออทิสติกคนสู้ชีวิต's blog to your web]
space
space
space
space
space