Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
1 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 1 - ตอนที่ 12


สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนถัดไป
ตอนที่ 12 พี่น้องร่วมสาบาน




ที่ห้องที่ใช้กักขังไท่จื่อและชาวคณะภายในจวนของเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ ไท่จื่อกำลังนั่งหน้า
เคร่งเครียด

จิ่วเกอ ทำไมท่านไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นไท่จื่อล่ะ แค่ท่านยอมรับ พวกเราก็ไม่มีใครเป็น
อะไรแล้วล่ะ”
หลี่หลิงเอ่ยถามไท่จื่อ
กัวเส่อเหรินขัดขึ้นว่า “ถึงพวกเราไม่เป็นอะไร แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับจิ่วเกอถือเป็นเรื่อง
ใหญ่เลยทีเดียว พวกเจ้าลองคิดดู ในตอนแรกพวกเราแอบหนีออกจากวังมาอย่างลับๆ ดังนั้น
ก็น่าจะกลับเข้าวังอย่างลับๆด้วย แต่ตอนนี้ดันมีเรื่องที่ไท่จื่อทำร้ายคน เรื่องนี้หากคนในวังทราบ
เรื่องแล้วล่ะก็ยิ่งวุ่นวายเข้าไปกันใหญ่ และจากนี้ไป หากไท่จื่อคิดจะออกจากวังแม้แต่ก้าวเดียว
ก็คงจะไม่ได้แล้ว”

ก้วนฟูสวมบทพระเอกยืดอกเอ่ยขึ้นว่า กัวเส่อเหริน เจ้าไม่ต้องพูดอะไรให้มากความอีก ข้า
นี่แหละที่เป็นคนทำร้ายเจ้าหนุ่มคนนั้นจนตายเอง เรื่องนี้จิ่วเกอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย
เลย ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต(杀人抵命) เรื่องนี้ข้ารับผิดคนเดียว”

จางทังเอ่ยแทรกขึ้นว่า “ฆ่าเจ้าก็คงไม่มีประโยชน์อันใด ถ้าข้าคาดไม่ผิด ข้าคิดว่า เป้าหมาย
ของเจ้าเมืองเยี่ยนชื่ออยู่ที่จิ่วเกอ

ก้วนฟูหันไปบอกกับไท่จื่อ จิ่วเกอ ข้าเป็นคนทำข้าก็ต้องรับผิดชอบ” จากนั้นก็ตะโกนร้อง
บอกออกไปท่ามกลางการตกตะลึงของทุกคนว่า “ฆาตกรฆ่าคนอยู่ที่นี่แล้ว รีบมาจับตัวไปรับ
โทษเร็ว”


**********



ก้วนฟูถูกทหารสองนายนำตัวไปคุกเข่าต่อหน้าเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อเพื่อทำการไต่สวน
“เจ้าชื่ออะไร” เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อเอ่ยถามขึ้น
“ข้าแซ่ก้วน ชื่อว่าฟู
“ในรัชกาลก่อนๆของราชวงศ์ฮั่น มีขุนนางใหญ่อยู่คนหนึ่งที่ชื่อ ก้วนอิง(灌婴) เจ้าคงจะ
เป็นหลานเป็นเหลนของเค้าใช่หรือไม่”

“ใช่แล้วจะทำไม จะฆ่าข้าก็เชิญ ข้าฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต จะตัดหัวข้าก็รีบๆเข้า จากนั้น
ก็จงรีบปล่อยตัวจิ่วเกอให้เป็นอิสระโดยเร็ว”

เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อได้ยิ้นก้วนฟูเอ่ยชื่อจิ่วเกอขึ้นมาจึงเอ่ยถามขึ้น
“เจ้าไม่ต้องรีบร้อน ข้าขอถามเจ้าสักหน่อย จิ่วเกอที่เจ้าพูดถึงนั้นเป็นอะไรกับเจ้า”
“เป็นคนที่ข้ากับเค้านับถือกันเหมือนเป็นพี่เป็นน้อง”
“แต่ข้าดูเจ้าแล้ว รู้สึกว่าเจ้าจะอายุมากกว่าเค้า ไฉนถึงให้เค้าเป็นพี่เจ้าล่ะ”
[ที่เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อถามเช่นนี้เพราะว่า จิ่วเกอ ในภาษาจีน เขียนว่า 九哥 แปลว่าพี่คนที่เก้า]
“พวกข้าไม่เกี่ยงเรื่องอายุ ใครอยากเป็นพี่ก็เป็นพี่ ใครอยากเป็นน้องก็เป็นน้อง เรื่องนี้ไม่เห็น
จะเกี่ยวอะไรกับเค้าเลย จะทำอะไรก็รีบทำ”

เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อเอ่ยถามต่อ “งั้น จิ่วเกอของเจ้ามีชื่อแซ่ว่าอะไร”
“ก็แซ่จิ่ว ชื่อเกอยังไงล่ะ”
หลิวอี้ซึ่งอยู่ในที่นั้นด้วยได้ยินคำตอบกวนๆของก้วนฟูเข้า ก็เกิดอารมณ์เอ่ยขึ้นว่า
“ดูเหมือนว่าถ้าไม่จับเจ้าทรมาน ก็คงจะไม่ยอมเอ่ยปากบอกความจริง”
ก้วนฟูเอ่ยตอบอย่างท้าทาย “งั้นเจ้าก็ลองมาทรมานท่านปู่ก้วนของเจ้าคนนี้สักหน่อยจะเป็น
ไรไป”
ได้ยินก้วนฟูพูดจาเช่นนี้ หลิวอี้ถึงกับของขึ้น รีบสั่งให้ทหารนำเครื่องทรมานมาจัดการ
กับก้วนฟูทันที

**********



จิ่วเกอเอ่ยถามจางทังด้วยความร้อนใจ จางทัง เจ้าว่า พวกนั้นจะลงโทษก้วนฟูอย่างไร”
“ในสมัยที่ปฐมหวงตี้ฮั่นเกาจู่(นามเดิม 刘邦 - หลิวปัง) เข้าปกครองเมืองเสียนหยาง
(咸阳 - เมืองหลวงของราชวงศ์ฉิน) ได้มีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี เซียวเหอ(萧何)
ตราบทบัญญัติสามประการ(约法三章) และประกาศใช้ทั่วราชอาณาจักร ต่อมาบทบัญญัติ
สามประการนี้ได้กลายมาเป็นข้อบังคับหลักสำคัญแห่งตัวบทกฏหมายของราชวงศ์ฮั่น”

หลี่หลิงเอ่ยถามแทรกขึ้นมาว่า “แล้วเป็นบทบัญญัติที่เท่าไหร่ล่ะ”
“บทบัญญัติที่หนึ่ง ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต(杀人者死)” จางทังตอบ
ไท่จื่อได้ยินแล้วสีหน้าเครียดทันที
กัวเส่อเหริน : จางทัง แล้วมันมีวิธีการชดใช้ความผิดด้วยเงินหรือเปล่าอ่ะ”
จางทัง :“ไม่มี ”
หลี่หลิง : “ถ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิตอย่างนี้แล้วล่ะก็ ก้วนฟูต้องตายแน่ๆใช่หรือไม่”
จางทัง :“ใช่”
กัวเส่อเหรินได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่าก้วนฟู เจ้าเป็นคนมีความจงรักภักดีจริงๆ”
[หลังจากที่หลิวปังได้เข้ายึดครองเมืองเสียนหยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ฉินได้แล้ว
ก็ทำการยกเลิกกฏหมายการลงโทษที่โหดร้ายสมัยราชวงศ์ฉินทิ้ง แล้วออกกฏหมายฉบับใหม่
มาใช้แทนที่ โดยสั่งให้ เซียวเหอ หนึ่งในผู้ช่วยมือดีของหลิวปัง ทำการตราบทบัญญัติ
สามประการ(约法三章 - เยว์ฝ่าซันจาง) ซึ่งประกอบไปด้วยบทลงโทษที่แตกต่างกันขึ้น
กับลักษณะของการกระทำความผิด หลังจากที่มีคำสั่งประกาศใช้ทั่วราชอาณาจักร ประชาชน
ส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับบทบัญญัตินี้ที่ให้ความคุ้มครอง ให้ความห่วงใยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ของประชาชน จึงให้ความเชื่อถือ และให้การสนับสนุนต่อหลิวปัง
บทบัญญัติทั้งสามประกอบไปด้วย
บทบัญญัติที่หนึ่ง “杀人者要处死” ฆ่าคนจนถึงแก่ความตายต้องชดใช้ด้วยชีวิต
บทบัญญัติที่สอง “伤人者要抵罪” ทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นต้องได้รับโทษที่สาสมกับความผิด
บทบัญญัติที่สาม “盗窃者也要判罪” การลักขโมยทรัพย์สินของผู้อื่นถือว่ามีความผิดต้องได้รับโทษ]

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของก้วนฟูดังลอดเข้ามาถึงในห้อง
ไท่จื่อได้ยินเข้ารู้สึกทนไม่ได้ที่ก้วนฟูต้องมาเจ็บปวดทรมานแทนตน จึงรีบวิ่งออกจากห้อง
หมายจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ถูกทั้งสามคนห้ามขัดขวางไว้

**********



ก้วนฟูถูกทรมานด้วยการใช้ไม้บีบรัดข้อเท้า ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หลิวอี้ร้อง
บอกเหล่าทหาร “พวกเจ้า หยุดการทรมานสักครู่” แล้วหันมาพูดกับก้วนฟู “ว่าไงจะบอก
ความจริงได้หรือยัง จิ่วเกอ ใช่ไท่จื่อหรือไม่”

“เป็นพ่อของเจ้าไง”
“ตอบได้ดี” จากนั้นก็บอกเหล่าทหารให้ทรมานต่อ ก้วนฟูส่งเสียงร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด
อีกครั้งหลิวอี้ถามขึ้นอีกครั้ง จิ่วเกอ เป็นใคร”
“เป็นต้นตระกูลของครอบครัวของเจ้าไง”
ได้ยินปุ๊บหลิวอี้รู้สึกโมโห จึงสั่งให้ทหารทรมานให้หนักๆ

**********



ไท่จื่อร้องไห้เอ่ยขึ้นว่า “พวกเจ้าอย่ารั้งตัวข้าเลย ปล่อยข้าออกไปเถอะ”
จางทังเอ่ยขึ้นว่า จิ่วเกอ คำโบราณกล่าวไว้ว่า เมื่อใดที่หวงตี้ทรงได้รับความเสื่อมเสียชื่อ
เสียงเกียรติยศ ข้ารับใช้มีโทษสมควรตาย(君辱臣死) หากท่านต้องขึ้นศาลพิจารณาคดีแล้ว
ล่ะก็ จะเป็นเรื่องที่น่าอัปยศอับอายขายหน้าที่สุด(奇耻大辱) รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น แต่ถ้า
หากท่านยังยืนยันที่จะออกไป พวกเราทุกคนจะพร้อมใจกันฆ่าตัวตาย(撞死)อยู่ที่นี่”

[การฆ่าตัวตายที่จางทังกล่าวถึงคือการเอาหัวชนกับเสา]
กัวเส่อเหริน “ใช่ ข้าก็พร้อมยอมตาย”
หลี่หลิงเอ่ยขึ้นบ้าง จิ่วเกอ ยังไงท่านก็ออกไปไม่ได้นะ”
ไท่จื่อเกิดอาการซึ้งกับน้ำใจที่ทั้งสามคนมีให้ต่อตนเองเอ่ยขึ้นว่า “ความรัก ความห่วงใยที่
พวกเจ้ามีให้แก่ข้า ข้าหลิวเช่อ(刘彻 ชื่อจริงของจิ่วเกอหรือไท่จื่อ) จะจดจำไว้จนวันตาย”

จากนั้นหันไปพูดกับจางทัง
จางทัง ที่เจ้าพูดมามันก็เป็นแค่กฏเกณฑ์ปฏิบัติของหวงตี้กับข้ารับราชบริพาร แต่ตัวข้า
ไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าพวกเจ้าเป็นบ่าวของข้า ข้าคิดเสมอว่าพวกเจ้าคือพี่น้องของข้า”

จางทังเอ่ยขึ้นว่า จิ่วเกอ ท่านกล่าวเกินไปแล้ว ยังไงธรรมเนียมปฎิบัติก็ไม่อาจละเลยได้”
ไทจื่อรำพันขึ้นว่า “สายเลือดของคนแซ่หลิว ที่สืบต่อกันมาในแต่ละช่วงอายุคน ไม่ว่าจะเป็น
พี่น้องสายเลือดเดียวกัน(亲兄弟)กับข้า ลูกพี่ลูกน้อง(堂兄弟)ของข้า แม้แต่ญาติๆของข้า
ที่แซ่หลิว ล้วนมีมากมายนับไม่ถ้วน ไม่เว้นแม้แต่เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ ถ้าสืบกันจริงๆก็เป็นญาติ
ห่างๆของข้า แต่ว่าสถานะที่เข้าตาจนของข้าในตอนนี้ จะมีใครมายอมร่วมชะตากรรมกับข้าก็
คงมีแต่พวกเจ้า จางทัง หลี่หลิง กัวเส่อเหริน และก็ก้วนฟูผู้ชึ่งกำลังได้รับความเจ็บปวด
จากการทรมานแทนข้า พวกเจ้าก็เปรียบเสมือนเป็นพี่น้องของข้า และก็จะใช่ตลอดไป”

ไท่จื่อหยุดพูดชั่วครู่แล้วเอ่ยต่ออีกว่า “ณ ที่นี้ ข้ามีข้อเสนอ อยากให้พวกเรามาร่วมสาบาน
เป็นพี่น้องกัน จากนี้ไปจะเป็นนายกับบ่าวเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์ฉันท์
พี่น้องจะเป็นที่รู้กันระหว่างพวกเรา”

จางทังค้านขึ้น จิ่วเกอ ท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ”



“ใครคนไหนไม่เต็มใจ จะคิดดูถูกในน้ำใจของข้า หลิวเช่อ ข้าก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าหากเต็มใจ
ที่จะร่วมเป็นร่วมตาย(同生共死)ด้วยกันกับข้าแล้ว ก็จงร่วมคุกเข่าต่อหน้าสวรรค์เบื้องบนด้วย
กันกับข้า”
ไท่จื่อพูดจบก็คุกเข่าลง ทั้งสามคนหันมามองหน้ากันอย่างลังเล แต่ในที่สุดก็คุกเข่า
ตามไท่จื่อลงที่ทางด้านหลัง
“สวรรค์เบื้องบน พิภพเบื้องล่าง ข้าแต่เทพบนฟ้าและบนดินที่มองดูอยู่จงเป็นพยาน วันนี้ข้า
หลิวเช่อ จางทัง หลี่หลิง กัวเส่อเหริน และก้วนฟู ถึงแม้จะต่างแซ่กัน ก็ขอสาบานเป็นพี่
เป็นน้องร่วมกัน แม้จะไม่ได้ร่วมเกิดในวัน เดือน และปีเดียวกัน ก็ขอร่วมตายในวัน เดือน
และปีเดียวกัน หากใครคิดคดทรยศหักหลัง ขอให้ฟ้าดินลงโทษ”
ไท่จื่อพูดจบ ทั้งสามก็เอ่ย
ขึ้นว่า “ขอให้ฟ้าดินลงโทษ” จากนั้น ทั้งหมดก็คำนับขอบคุณต่อฟ้าดินที่ช่วยมาเป็นพยานให้
คำนับเสร็จไท่จื่อก็ลุกขึ้นยืน หันมาบอกให้ทั้งสามลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปหาทั้งสาม เอ่ยขึ้นว่า
จางทัง ในบรรดาพวกเรา เจ้าอายุมากที่สุดสมควรที่จะเป็นพี่ใหญ่”
“ข้ายินดี” จางทังตอบรับ
ก้วนฟูเป็นพี่รอง กัวเส่อเหรินเป็นพี่สาม ส่วนเจ้า หลี่หลิง เจ้าเป็นน้องเล็ก”
หลี่หลิงเอ่ยถามขึ้น จิ่วเกอ แล้วท่านล่ะเป็นพี่คนที่เท่าไร”
ไท่จื่อตอบ “เจ้าก็พูดออกมาแล้วนี่ ข้าก็คือจิ่วเกอ(พี่คนที่เก้า)ไง”
ทันใดนั้นทหารก็พาร่างของก้วนฟูที่ได้รับบาดเจ็บจากการทรมานเข้ามา ทุกคนต่างร้องเรียก
พี่รอง น้องรอง แล้วพากันเข้าไปพยุงตัวก้วนฟู ก้วนฟูได้ยินเสียงเรียกพี่รอง จึงเอ่ยถามขึ้น
“ใครคือพี่รองหรือ”
“ก็เจ้าไง เจ้าคือพี่รอง” ไท่จื่อตอบ

**********



ที่พระตำหนักของไท่โห้วโต้ว

“อ้อ ข่าวดีเช่นนี้เกิดขึ้นเร็วดีจัง เจ้าเด็กคนนี้ ข้านึกว่าจะมีพิษสงอะไร ข่าวที่ได้มายืนยัน
หรือเปล่า”
ไท่โห้วโต้วเอ่ยถามอ๋องเหลียงหวัง
“เสด็จแม่ ข่าวนี้จริงแท้แน่นอน พ่ะย่ะค่ะ” อ๋องเหลียงหวังตอบ
เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อเป็นคนแจ้งข่าวมาด้วยตนเองหรือไม่” ไท่โห้วโต้วถาม
“ไม่ พ่ะย่ะค่ะ เป็นคนที่หม่อมฉันส่งไปที่นั่น ส่งข่าวมาพ่ะย่ะค่ะ”
“คนที่เจ้าส่งไปงั้นหรือ เจ้าส่งคนไปที่นั่นตั้งแต่เมื่อไร”
“ตั้งแต่ที่ไท่จื่อเสด็จออกจากวัง พ่ะย่ะค่ะ”
ไท่โห้วโต้วหัวเราะอย่างมีความสุข “ที่แท้เราสองคนก็มีเป้าหมายในเรื่องเดียวกัน”
อ๋องเหลียงหวังรีบปฏิเสธ “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันส่งคนติดตามไปก็เพื่อให้การคุ้มครอง
ไท่จื่อ

“คำพูดประโยคนี้ เจ้าไปพูดให้คนอื่นฟังเถอะ ข้าเป็นแม่ของเจ้ามีหรือที่จะไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไร
เลยเชียวหรือ”

“แต่หม่อมฉันไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น”
ไท่โห้วโต้วกำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างขึ้น แต่นึกขึ้นได้ว่ามีพวกนางกำนัลและขันทีอยู่ด้วย
ไม่เหมาะที่จะพูดกับอ๋องเหลียงหวัง จึงบอกให้คนอื่นๆออกไปให้หมด จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า
“ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่สวรรค์มอบให้กับเจ้า จงรีบไปเมืองเยี่ยนชื่อ ลงมือด้วยตนเอง ทำให้เจ้า
เด็กนั่นยอมรับสารภาพผิด จากนั้นนำตัวกลับมาที่ฉางอัน ดูสิว่าหวงตี้น้องของเจ้าจะว่าอย่างไร”

“ตอนนี้หวงตี้ทรงประชวรหนัก ทำอย่างนี้ยิ่งทำให้พระอาการหนักยิ่งขึ้นนะ พ่ะย่ะค่ะ”
“ก็เพราะประชวรหนักนะสิ เราจะต้องชิงลงมือก่อน ทำความผิดฆ่าคนไม่เว้นแม้แต่ชาวบ้าน
ดูสิว่าจะยังทรงแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาทอีกต่อไปหรือไม่”

“แต่ถ้าเจ้าเด็กนั่นปากแข็ง ไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นไท่จื่อล่ะเสด็จแม่”
“นั่นยิ่งดีใหญ่เลย จัดการสำเร็จโทษซะก็สิ้นเรื่อง”
“ท่านว่าอย่างไรนะ เสด็จแม่” อ๋องเหลียงหวังตกใจกับคำพูดของไท่โห้วโต้ว
“อนาคตของหวงตี้องค์ใหม่ ข้าคงต้องยินดีกับเจ้าแล้วล่ะ”
อ๋องเหลียงหวังยิ้มอย่างดีใจ “หม่อมฉันมิบังอาจ”
ไท่โห้วโต้วนึกอะไรขึ้นได้จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “แล้วเจ้าหนุ่มผู้ตายชื่อว่าอะไร”
จางเชียน พ่ะย่ะค่ะ”
ไท่โห้วโต้วพูดเตือนสติอ๋องเหลียงหวัง “หลังจากที่เจ้าขึ้นครองราชย์แล้วล่ะก็ ซ่อมแซม
ขยายหลุมฝังศพของเค้าให้สมเกียรติ และประกาศคุณความดีของเค้าให้ทุกคนทราบ เจ้าอย่า
ลืมล่ะว่า ถ้าไม่เป็นเพราะเค้า เจ้าก็คงไม่มีโอกาสดีๆเช่นนี้ที่จะได้ขึ้นเป็นหวงตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น”

“หม่อมฉันทราบแล้ว พ่ะย่ะค่ะ”





Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 5 ตุลาคม 2549 13:04:57 น. 3 comments
Counter : 1915 Pageviews.

 
ล้ำลึก


โดย: noom_no1 IP: 61.91.179.78 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:21:03 น.  

 
เขียนอักษรจีนยังไงค่ะ


โดย: net_jimkung@hotmail.com IP: 210.246.165.51 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:20:00:40 น.  

 
ยอดจริงๆครับ ผมอยากเก่งภาษาจีนมั่งสอนผมหน่อย ไว้ผมสอนคอมแรกเอาไหมครับ (Master of Information Technology : Major Mulitmedia)


โดย: ฟลอบ (ฟลอบ ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:55:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WangAnJun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add WangAnJun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.