It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2561
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 ตุลาคม 2561
 
All Blogs
 
❤★เวลาผิดหวัง...จากคนที่รัก..ทำอย่างไรดี ?



❤★เวลาผิดหวัง...จากคนที่รัก..ทำอย่างไรดี ?

ผมไม่พูดถึงเรื่องของการอกหักคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะชีวิตผมก็ผ่านกาลสมัยวัยรุ่นนมาบ้าง อย่างน้อยๆก็เรียนจบ ม. ๓ กับชาวบ้านชาวเมืองเค้าหล่ะ ช่วงนั้นก็กำลังเป้นหนุ่มรุ่น "กระทง"ภาษาอีสานเรียกว่า "บ่าวแวง" ซึ่งคำว่าบ่าวแวงนี้ก็มีที่มาครับ

เพราะคำว่า "แวง" เพี้ยนมาจากคำว่า "เวง"ในภาษาขอมหรือเขมรโบราณแปลว่า "ใหญ่" หรือกว้างขวาง" เมื่อนำมาใช้ในภาษาอีสานก็เป็นคำว่า "บ่าวแวง" หมายถึง กำลังเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ผ่านกาลเวลาจากหนุ่มน้อยวัยกระเตาะมาเป็นหนุ่มใหญ่ไฟแรงแล้วนั่นเอง

สมัยที่ผมเป็นหนุ่มน้อยวัยกระเตาะนั้นก็เคยแอบรักสาวน้อยแถวบ้านเหมือนกัน เป็นความรักแบบ " love at first sight " คือรักแรกพบนั่นแหละ ภาาาบาลีเราเรียกความรักแบบนี้ว่า บุพเพนะ สันนิวาสเสนะ ความรักที่เกิดมาจากบุพเพอาละวาด เพราะสองเราเคยอยู่ เคยรักกันมาแต่ชาติปางก่อน(ท่านว่าแบบนั้น)
ความรักในโลกนี้มีอยู่ ๒ สถาน ?

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องของความรัก ในทางพระพุทธศาสนามองว่าคนเรารักกันั้นมาจากสาเหตุ ๒ ประการ คือ

(๑) สาเหตุภายในที่เรามองไม่เห็นเป็นเรื่องขของกรรมในอดีตที่เคยอยู่ร่วมกันมา หรือที่เราเข้าใจกันว่าเป็นความรักแบบบุพเพสันนิวาสนั่นเอง ความรักแบบนี้มีขึ้นมาได้ง่ายๆในหลายสถานที่

(๒) สาเหตุภายนอกหรือสาเหตุเชิงสังคม เกิดมาจากความใกล้ชิดสนิทสนมช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาในปัจจุบันนี้ ความรักแบบนี้เป้นความรักที่มีจุดเชื่อมจาก "ความเห็นอกเห็นใจในความดีงามของกันและกัน"อาจจะเกิดหลังหรือก่อนความรักแบบบุพเพสันนิวาสก็ได้ไม่ก่อนไม่หลังกันก็ได้

ความรัก ไม่ได้สมหวังเสมอไป ?

พระพุทธศาสนามองว่าสรรพสิ่งตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์ข้อหนึ่งก็คือ "กฎอนิจจตา" หรือกฎของความเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรทนต่อความเปลี่ยนแปลงไปได้ ผู้เข้าใจในกฎแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้เท่านั้นจึงจะสามารถรับกับคำว่า เคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงนี้ได้

ในส่วนของความรักก็เหมือนกัน ไม่พ้นไปจากฎแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้เลย คือหลายคู่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี แต่หลายคู่เปลี่ยนแปลงไปในทางเลวร้าย คือถ้าสมหวังเข้าใจกันก็มีสุข แต่ถ้าไม่สมหวัง พลาดหวังเข้ากันไม่ได้ ก็เป็นทุกข์ เหมือนที่พระท่านว่า "วิปปะโยโค ทุกโข = พลัดพรากก็เป็นทุกข์ สัมปะโยโค ทุกโข = แม้มาพบกันก็เป็นทุกข์ คือพบคนที่ไม่ได้รักจะมีสุขได้อย่างไร ที่อยากเจอไม่เจอแต่ที่ไม่อยากเจอกลับต้องเจอแบบนี้ "ทุกข์ทั้งนั้น"

เมื่อความรักไม่สมหวัง หรือ อักหก อกหัก ทำอย่างไรดี ?

ผมจะพาไปชมตอนอกหักเลยดีกว่า สภาพของคนอกหัก คือ (๑) โกรธที่เขาไม่รักเรา (๒) อิจฉาคนที่เขาไปรัก (๓)อยากไปกระชากเธอกลับ หรืออยากเปลี่ยนใจเธอ(ทำนองนั้น) (๔) แสนเสียดายที่เห็นเธอกำลังจะจากไปจะหลุดมือไป แบบอยากบอกเธอว่า "ทดเวลาได้บ่" ก่อนที่จะจากไปอารมณ์มันเป็นแบบนี้แหละ (๕) หน้ามืดตามัวคิดอะไรซ้ำๆวนๆ คิดแต่เรื่องเดิมๆที่สองเราเคยรักกัน

แต่สิ่งที่คนอกหักไม่รู้ก็คือ (๑) "ความรัก คือจิตที่เกิดความใคร่เป็นสภาพของจิตที่ถูกราคะครอบงำหรือถูกตัณหาครอบงำอยู่ ย่อมมืดบอด เห็นเพียงแค่ตัวเอง ความคิดของตัวเอง (๒) วัตถุที่เป็นความรัก คือสาวหรือบ่าวคนนั้น เป็นวัตถุกาม หรือที่ตั้งของความใคร่ความต้องการของเราเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมากมายไปกว่านั้น คนอกหักย่อมไม่รู้ ๒ เรื่องนี้

คนที่เรารัก เปรียบเหมือนชิ้นเนื้อสุดอันตราย ?

ถามว่าเมื่อเกิดอาการอย่างนี้จะทำอย่างไร ดี คำตอบก็คือ (๑) ต้องมองให้เห็นความจริงทั้ง ๒ ข้อนั้นก่อน ว่าสภาพจิตของเรากำลังถูกตัณหาครอบงำในเรื่องของวัตถุกามนั้น (๒) ให้คิดเห็นให้ได้ว่า สาวหรือบ่าวที่จากเราไปเป็นเสมือนชิ้นเนื้อที่มีแต่ความทุกข์ ใครได้ไปครอบครองก็เป็นทุกข์หรือหากเรายังยึดยังติดอยู่ เราเองแหละที่จะต้องตายเพราะชิ้นเนื้อนั้น

ท่านอุปมาให้ฟังว่า

เปรียบเหมือนนกแร้ง นกตะกรุม หรือนกเหยี่ยว คาบชิ้นเนื้อบินไป ฝูงนกแร้งก็ดี ฝูงนกตะกรุมก็ดี ฝูงนกเหยี่ยวก็ดี พากันโผเข้าไปรุมจิกทึ้ง ชิ้นเนื้อนั้น ถ้านกแร้ง นกตะกรุม หรือนกเหยี่ยว ไม่รีบปล่อยชิ้นเนื้อนั้นเสีย มันอาจถึงตาย หรือได้รับทุกข์ปางตาย เพราะชิ้นเนื้อนั้นเป็นเหตุ” (ม.ม.(ไทย)๑๓/๔๓/๔๓-๔๔)

กามทั้งหลายมีอุปมาด้วยชิ้นเนื้อ มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก โทษในกามเหล่านั้นมีอยู่มากยิ่ง”

คนที่อกหักก็ควรพิจารณาไปตามนั้นว่า สาวหรือบ่างที่จากเราไปนั้นก็เหมือนชิ้นเนื้อที่นกแร้งคาบอยู่แล้วถูกนกตัวอื่นมาจิกมาทุบตี หากไม่ปล่อยไปเสีย เรานี่แหละจะตายเพราะชิ้นเนื้อนั้น

ปล่อยชิ้นเนื้อเท่ากับเรารอดปลอดภัย ?

การที่เรายังยึดบ่าวหรือสาวคนนั้นอยู่ แทนที่จะมีสุขกลับจะต้องมีแต่ความทุกข์อย่างเดียว แต่ถ้าเราปล่อยชิ้นนเนื้อนั้นไปเพื่อให้นกตัวอื่นๆมันไปไล่ล่ากันเอง ตายก็พวกมันตายไม่ใช่เราตาย แค่ปล่อยเท่านี้เราก็รอด

ที่กำลังอกหักอยู่นี้ก็เพราะเรายังคาบชิ้นเนื้ออยู่เราจึงทุกข์ หากปล่อยเขาไปเสียบ้าง ความสุขจะเกิดขึ้นกับเรา โดยที่เราไม่ต้องไปฆ่าไปทำร้ายยใครหรือไม่มีใครมาฆ่ามาทำร้ายเราได้ นักอกหนักและผู้อกหักหากทำได้แบบนี้ก็ย่อมรอดปลอดภัยได้ นะครับ
เครดิต บทความ เพจ Naga King



Create Date : 04 ตุลาคม 2561
Last Update : 4 ตุลาคม 2561 9:09:20 น. 0 comments
Counter : 847 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.