ไปเที่ยวอัมพวา ตามโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง
สวัสดีครับ ผมมีโอกาสไปท่องเที่ยวอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 17-19 กันยายน 2568 รวม 3 วัน ตามโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งของรัฐบาล โดยนั่งเครื่องบินจากสนามบินเชียงใหม่ไปลงที่สนามบินดอนเมือง แล้วเช่ารถขับเองไปพักที่โรงแรมในอำเภออัมพวา ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดสมุทรสงคราม และขับรถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยรอบบ้าง ขอนำกำหนดการและภาพประกอบมาเล่าให้ฟังในวันนี้ครับ 

ขับรถมาถึงที่ตั้งโรงแรมที่พักแล้ว อยู่ในซอยเดียวกันกับท่าเรือตลาดน้ำอัมพวา

คือโรงแรมอัมพวา ริเวอร์ ฟร้อนท์ ตั้งอยู่ที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม อยู่ใกล้กับตลาดน้ำอัมพวา สามารถเดินไปถึงตลาดน้ำได้ใช้เวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้น โรงแรมนี้เข้าร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง (ประเภทเมืองรอง) ผมพักที่โรงแรมนี้จำนวน 2 คืนครับ



ได้ห้องพักเป็นห้องดีลักซ์ ริเวอร์วิว ชั้น 3 เป็นห้องที่มีระเบียงและเห็นวิวแม่น้ำแม่กลองชัดเจน ราคาห้องพัก (รวมอาหารเช้าสำหรับผู้เข้าพัก 2 คน) 3,598 บาท/คืน จำนวน 2 คืนเป็นเงิน 7,196 บาท แต่เมื่อเข้าร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง จะจ่ายเพียง 3,598 บาทเท่านั้น
เป็นห้องพักขนาด 25.0 - 29.5 ตร.ม. ตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงผลิตภัณฑ์ของปัญญ์ปุริ และมินิบาร์ฟรี (เติมให้ใหม่ทุกวัน)


เมื่อออกไปยืนที่ระเบียง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ได้ชัดเจน สวยงาม


เนื่องจากโรงแรมตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือตลาดน้ำอัมพวา จึงสามารถมองเห็นเรือโดยสารข้ามฟากแม่น้ำแม่กลอง จากท่าเรือวัดบางนางลี่ใหญ่ ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา (ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม) มายังท่าเรือตลาดน้ำอัมพวา (ที่อยู่ฝั่งนี้) เรือโดยสารนี้ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึง 21.00 น. ค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 5 บาท เด็กหรือนักเรียนคนละ 2 บาท

ตลาดน้ำอัมพวา ตั้งอยู่ริมคลองอัมพวา ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม และอุทยาน ร.2 อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ที่นี่เป็นตลาดน้ำที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเดินท่องเที่ยวได้ในช่วงเย็น ซึ่งต่างจากตลาดน้ำอื่นๆ ที่จะเปิดแต่เช้าตรู่ ดังนั้นเมื่อมาเดินชมตอนเช้าจึงมีสภาพสงบเงียบเช่นนี้ครับ
เมื่อเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งจะพบกับอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2
และพระอุโบสถวัดอัมพวันเจติยาราม ที่อยู่ติดกัน
วัดอัมพวันเจติยาราม หรือ วัดอัมพวันเจติยารามวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ในตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ติดกับ อุทยาน ร.2 เดิมมีชื่อว่า วัดอัมพวา เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นวัดประจำตระกูลราชนิกุลบางช้าง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 รวมถึงเคยเป็นนิวาสสถานเดิมของหลวงยกบัตร (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1) และคุณนาค (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 1) และเป็นสถานที่พระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 อีกด้วย
ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยรอบฝาผนังทุกด้าน งดงามมาก
ไปทำบุญและนมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม ที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม
หลวงพ่อบ้านแหลม มีตำนานเล่าขานคู่กับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังอย่าง หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา และหลวงพ่อโต วัดพลับพลาไชยชนะสงคราม จังหวัดสมุทรปราการ โดยเชื่อกันว่าหลวงพ่อบ้านแหลมและพระพุทธรูปอีกสององค์ได้ลอยตามน้ำมาจากเมืองอยุธยาฯ จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าวัดศรีจำปา (หรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือ วัดบ้านแหลม ในปัจจุบัน) ชาวบ้านได้อาราธนาท่านขึ้นมาประดิษฐานยังที่นี่สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
หลวงพ่อบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปยืน ปางอุ้มบาตร สูงประมาณ 2 เมตร 80 เซนติเมตร หล่อด้วยทองเหลืองปิดทอง ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เป็นพระพุทธรูปสำคัญของชาวเมืองแม่กลอง หรือจังหวัดสมุทรสงคราม
ไปชมหอกลอง บนสะพานแขวน ที่วัดใหญ่ ซึ่งสร้างข้ามแม่น้ำแม่กลอง ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ที่นี่เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัด จึงมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเดินชมและถ่ายภาพกันทั้งวัน
การขับรถไปยังวัดใหญ่ สามารถอาศัย GPS นำทางไปได้ โดยจะต้องกลับรถใต้สะพาน พยายามขับรถช้า ๆ แล้วคอยสังเกตประตูทางเข้าวัดที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ
ไปทำบุญและนมัสการหลวงพ่อโต ณ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
หลวงพ่อโตวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีหน้าตักกว้าง 81 นิ้ว สูง 99 นิ้ว องค์พระแกะสลักด้วยศิลาแลง (หินทรายแดง) ผิวไล้ด้วยปูน เป็นศิลปะสมัยอู่ทอง พระพักตร์กลมอิ่มยิ้มละไม ในส่วนของพระเมาลีตอนโคนสุดเป็นรูปกลีบบัว ส่วนปลายแหลมเป็นเปลวเพลิง ตรงกลางเป็นรูปอุณาโลม เม็ดพระสกขมวดปลายแหลมเป็นก้นหอย พระกรรณยาวจรดพระอังศา พระอังศาและพระอุระใหญ่กว้างแลผึ่งผายสง่างามยิ่งนัก พระเพลาเป็นแบบสมาธิธรรมดา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำบนพระชานุ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา ซึ่งเราเรียกปางนี้ว่า “ชนะมาร หรือ สดุ้งมาร หรือ มารวิชัย“ ลำพระองค์ได้สัดส่วน ห่อหุ้มด้วยทองคำเปลว เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ มีบุญญาภินิหารมาก เป็นที่เคารพสักการะของประชาชน ทั้งชาวจีนและชาวไทย ในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียงครับ
มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของพระเกจิอาจารย์ จากทั่วประเทศไทย อยู่ที่วัดนี้ด้วย
และน้ำในลำคลองหน้าวัดนี้ ยังเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดสมุทรสาคร อีกด้วย
ขอจบเรื่องราวการไปท่องเที่ยวและไหว้พระทำบุญที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ไว้เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่รับชมครับ.
| Create Date : 22 กันยายน 2568 |
| Last Update : 30 กันยายน 2568 8:22:09 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 689 Pageviews. |
 |
|
ทริปเที่ยวดีงาม ได้ใช้โครงการคนละครึ่งด้วย
ไว้ตามไปเที่ยวโดยละเอียดอีกครั้งนะคะ