Group Blog
 
 
เมษายน 2566
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
13 เมษายน 2566
 
All Blogs
 
เสน่ห์สวิตเซอร์แลนด์

สวัสดีครับ ผมมีโอกาสไปท่องเที่ยวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับทัวร์ ในรายการแกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ ช่วงวันที่ 21-29 มีนาคม 2566 รวม 9 วัน 6 คืน มีผู้ร่วมทริปนี้ จำนวน 26 คน เดินทางไป-กลับด้วยสายการบินไทย เส้นทางท่องเที่ยวเป็นไปตามลำดับตัวเลขในแผนที่ด้านล่าง




ขอนำความประทับใจมาบันทึกไว้ในวันนี้ครับ


วันแรก เครื่องการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 970 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 00.35 น. ถึงสนามบินเมืองซูริค (Zurich) เมื่อเวลา 6.30 น.




บริเวณสายพานรับกระเป๋าในสนามบินซูริค




เริ่มการท่องเที่ยววันแรกในสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางด้วยรถโค้ชปรับอากาศคันนี้




ออกจากสนามบินซูริค




ไปยังเมืองลูเซิร์น (Lucerne) ไปถึงช่วงสาย ๆ ที่ลูเซิร์นอากาศดี ท้องฟ้าใส อุณหภูมิ 8 องศาเซลเซียส กำลังเย็นสบาย















ตอนบ่ายเดินทางไปยังเมือง อินเทอร์ลาเก้น (Interlaken) แวะชมทิวทัศน์สวยงามระหว่างทาง




ถึงเมืองอินเทอร์ลาเก้นแล้ว






และพักค้างคืนที่เมืองนี้ เพื่อเตรียมตัวขึ้นไปชมยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) ยอดเขาที่ไกลที่สุดในภาพ ในวันพรุ่งนี้ครับ






วันที่สองในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันนี้มีแผนจะไปขึ้นยอดเขาจุงเฟรา ออกเดินทางจากเมืองอินเทอร์ลาเก้นแต่เช้า 






ไปขึ้นเคเบิลคาร์ ที่เมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald)








เมืองกรินเดลวาลด์เมื่อมองจากเคเบิลคาร์







แล้วต่อด้วยรถไฟไต่เขา เพื่อขึ้นไปยังยอดเขาจุงเฟรา ที่ได้ชื่อว่าเป็น Top of Europe




ถึงด้านบนจุงเฟรา มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและกระทำหลายอย่าง นอกเหนือจากธรรมชาติที่สวยงามและอากาศที่หนาวเย็น -1 องศาเซลเซียส รวมทั้งมีหิมะตกประปราย








พาสปอร์ตจุงเฟรา เป็นเอกสารที่การรถไฟจุงเฟรามอบให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปยังยอดเขานี้ทุกคน สามารถสแตมป์วันเดือนปีที่ขึ้นไปได้ด้วยตนเอง




ตอนบ่ายเดินทางไปชมปราสาทซิยอง (Chateau De Chillon) ที่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองสวยงามที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา และพักค้างคืนที่เมืองนี้ครับ




วันที่สามในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชมความสวยงามของห้องอาหารเช้าในโรงแรมที่พักเมื่อคืน



และทิวทัศน์สวยงามของทะเลสาบเจนีวา




แล้วขึ้นรถไฟข้ามเขาไปยังเมืองกีซดาด์ก (Gstaad) เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงและแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนม








ต่อจากนั้นเดินทางไปยังเมืองโกล เดอ ปิยง (Col Do Pillon) เพื่อนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นยอดเขากลาเซียร์ 3000 ปรากฏว่านั่งรถไปถึงสถานีเคเบิลคาร์แล้วแต่ฝนตกและลมแรงทำให้ขึ้นไปยอดเขาไม่ได้ครับ




ตอนบ่ายเดินทางไปยังเมืองเลคเกอร์บาด (Leukerbad) เมืองที่มีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ ตั้งอยู่บนภูเขาสูงถึง 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า Wellness นักท่องเที่ยวนิยมไปอาบน้ำแร่แช่น้ำอุ่น เพื่อรักษาโรคต่าง ๆ คืนนี้ผมพักที่เมืองนี้ครับ




วันที่สี่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันนี้มีรายการขึ้นเขามาทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ผมออกเดินทางจากที่พักในเมืองเลคเกอร์บาดแต่เช้า ขณะที่มีหิมะตกเล็กน้อย ไปยังเมืองแทรช (Tasch) แล้วนั่งรถไฟต่อไปยังเมืองเซอร์มัท (Zermatt) จากนั้นนั่งรถไฟจากสถานีกอร์นเนอร์แกรท (Gornergrat) ขึ้นเขาสูงไปยังสถานีมาทเทอร์ฮอร์น ความสูง 3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล เพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงามของขุนเขาสลับซับซ้อนที่ปกคลุมด้วยหิมะ และสกีรีสอร์ทที่สำคัญของประเทศ




















กลับลงมาตอนบ่าย เดินชมความงดงามของเมืองเซอร์มัท และวิวยอดเขามาทเทอร์ฮอร์น














แล้วนั่งรถไฟกลับไปพักค้างคืนที่เมืองแทรช บริเวณสถานีรถไฟมีป้ายต้อนรับหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วยครับ




วันที่ห้าในสวิตเซอร์แลนด์ เช้านี้อุณหภูมิในเมืองแทรชที่พัก -1 องศาเซลเซียส หนาวมาก มีหิมะตกประปรายด้วย



ผมออกเดินทางจากโรงแรมขึ้นรถไฟไปเมืองเซอร์มัท แล้วขึ้นรถไฟสายกลาเซียร์เอ็กเพรส (Glacier Express) จากเมืองเซอร์มัทไปยังเมืองอันเดอร์มัท










ชมทิวทัศน์สองข้างทางบนเทือกเขาแอลป์ที่สวยที่สุดในประเทศ บางช่วงรถไฟไต่ขึ้นเขาสูงถึง 2,000 เมตร วันนี้มีหิมะตกหนาแน่นไปตลอดทาง น่าประทับใจสำหรับคนไทยอย่างมาก




รถไฟไปถึงเมืองอันเดอร์มัท (Andermatt) ลงรถไฟเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน หลังจากนั้นนั่งรถโค้ชไปช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าฟ๊อกทาวน์ เอ๊าท์เลทมอลล์ ชายแดนไกล้กับประเทศอิตาลี








แล้วเดินทางไปเข้าที่พักค้างคืนที่เมืองซันดริโอ (Sondrio) อิตาลี เนื่องจากพรุ่งนี้จะต้องขึ้นรถไฟสายโรแมนติก "เบอร์นิน่าเอ็กซ์เพรส (Bernina Express)" ที่มีต้นทางอยู่ที่เมืองทิราโน่ (Tirano) ประเทศอิตาลี แต่ปลายทางอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ครับ




วันที่หกของการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ผมออกจากโรงแรมที่พักไปยังเมืองทิราโน่ อิตาลี เพื่อขึ้นรถไฟเบอร์นิน่าเอ็กซเพรส รถไฟสายเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก








รถไฟขบวนนี้แล่นผ่านใจกลางเทือกเขาแอลป์ ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ด้วยความสูงถึง 2,253 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ผ่านทะเลสาบ อุโมง สะพาน สวยงาม จำนวนมาก ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมาเป็นระยะ












สิ้นสุดเส้นทางที่เมืองเซนต์มอริทซ์ (St. Moritz) เมืองตากอากาศและศูนย์กลางสกีระดับโลก ซึ่งวันนี้อากาศหนาวเย็นมากจนน้ำในทะเลสาบเป็นน้ำแข็ง !!!










หลังอาหารกลางวัน เดินทางด้วยรถโค้ชไปยังเมืองซูริค บนเส้นทางภูเขาสูงที่มีหิมะตกตลอดทาง ถึงเมืองซูริคแวะชมทิวทัศน์สวยงามริมทะเลสาบกลางเมือง และพักค้างคืนที่เมืองนี้เป็นคืนสุดท้าย














วันที่เจ็ดตอนสาย ออกเดินทางไปยังสนามบินซูริคเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 971 เครื่องออกจากสนามบินซูริคเวลา 13.30 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 05.30 น. ในวันรุ่งขึ้น เป็นอันจบทริปนี้โดยสวัสดิภาพครับ.




ปล.ภาพปลั๊กไฟที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ควรเตรียม "อแดปเตอร์ปลั๊ก" ไปให้พร้อมหลาย ๆ อัน เพราะซื้อที่นั่นราคาค่อนข้างแพงครับ (อันละ 320-400 บาท)


 


Create Date : 13 เมษายน 2566
Last Update : 25 เมษายน 2566 8:30:38 น. 0 comments
Counter : 1775 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณSweet_pills, คุณนายแว่นขยันเที่ยว


ทองกาญจนา
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทองกาญจนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.