หลังจากเล่าเรื่องกระบี่ในคราวที่แล้วไปจนถึงเหล็กเจ็ดขี้เป็ดสุดยอด ศาสตราวุธของจอมยุทธในสมรภูมิแล้ว
...จะว่าไปคนรุ่นเก่าในสมัยที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์
หรือมีอินเตอร์เน็ต ใช้อยู่ตามบ้านตามช่องให้เกลื่อนกลาด
ดาดดื่นจนกลายเป็นขยะอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองเหมือนปัจจุบัน
ก็เห็นจะมีแต่หนังสือไว้อ่านให้ความรู้กับทุกคน
ไม่มี พี่กรู.....!!!แบบอยากรู้อะไรก็หาอ่านเอา
และต้องเสาะหามาเอา
ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้อยากรู้อะไรก็กดหาพี่กรูเอา
ที่คุยมานี้มันเกี่ยวอะไรกับกระบี่
ละก็เข้าเรื่องเลยแล้วกันว่ากระบี่นั้นจะรู้จัก
ก็ต้องรู้จักกับบู๋ลิ้มหรือยุทธภพก่อน
ถ้าคอเก่าติดหนังสือจีนประเภท จอมยุทธทั้งหลาย
ก็จะรู้ว่าจอมกระบี่มีมากมายหลายเล่ม
ทั้งกระบี่ไร้เทียมทาน กระบี่คู่ กระบี่วงพระจันทร์
โอ๊ย สารพัดเลยครับพี่น้องทั้งหลาย
เอ๊ย..
ที่กล่าวมาก็เพราะนึกถึงอดีต สมัยก่อนต้องอ่านหนังสือจีน ไม่มีการ์ตูน VDO CD DVD แบบเดี๋ยวนี้หรอก
พออ่านแล้วก็ได้อรรครถอีกแบบหนึ่ง
ประเภทอ่านไปอินไปจินตนาการกว้างไกล
เหมือนประหนึ่งเป็นจอมยุทธผู้เก่งกล้าในนิยายจีนเสี่ยเองเลยที่เดียว
(ภาพประกอบโดยเป็งแปะ)ติดจนไม่ยอมวางมือแบบเหนียวหนึบ ไม่ยอมกินข้าวกินปลาเลยที่เดียว
เขาว่ายุทธภพที่สมบูรณ์จะต้องมีห้าสำนักใหญ่
เป็นหลักในยุทธภพไว้แก้ปัญหา เพื่อสร้างปัญญา
ประมาณแบบเป็นสหภาพเหมือนบ้านเมืองในปัจจุบัน
ไว้ปกครองยุทธภพโดยประกอบไปด้วย1.สำนักเส้าหลิน หรือ เซี้ยวลิ้มยี่ สำนักนี้เป็นพระบวชในศาสนาพุทธนิกายมหายาน
พวกนี้ไม่เก่งเรื่องกระบี่แต่จะเก่งเรื่องกระบองและหมัดมวย
คำภีร์โด่งดังถือคำภีร์โยกย้ายเส้นเอ้น
(คำภีร์นี้มีประเทศเราก็ไร้เหมือนกินโดยมาไร้ช่วงตุลาหรือเปลี่ยนรัฐบาลใหม่)
2.สำนักง้อไบ๊ สำนักนี้ไม่ง้อน้ำมัน แต่ง้อไบท์ซิเคิ้ล...อ๊ากกก ล้อเล่ง
สำนักนี้เป็นของแม่ชีพวกนี้เก่งเรื่องกระบี่
แต่แสดงให้เห็นว่าพระกับชีในเมืองจีนอยู่ด้วยกันไม่ได้
จึงต้องแยกกันตั้งสำนักใหม่
ไม่เหมือนเมืองไทยเรา พระกับชีอยู่ในสำนักเดียวกันได้
3. สำนักบู๊ตึ๊ง สำนักนี้เป็นนักพรหมลัทธิเต๋าและมืออาชีพดูดวง
ทำพิธีทางเต๋า ซึ่งเป็นลัทธิเดิมของคนจีน
4. สำนักกระยาจก สำนักนี้มีอาวุธเป็นไม้เท้าตีสุนัขและหมัดเมาเป็นหลักการทำมาหากิน
เพราะมักทำหน้าที่คุ้มกันสิ่งของพวกสำนักหรือพรรคต่างๆในบู๋ลิ้ม
ดูๆไปก็เหมือนนักธุรกิจเมืองไทยดูมีเกรียติมีหน้ามีตา
แต่วันๆไม่ค่อยทำมาหากินอะไร
หาเรื่องตีกัน ฟันกัน แทงกัน ไปวันๆให้ประชาชนชาวบ้านดูกันไป เป็นเรื่องเป็นราวที่สนุกสนาน
จนเป็นนิยายอ่านกันติดกันงอมแงม
ในสมัยปู่ใกล้โกว์เล้งยังอยู่ เมื่อ 50-30 ปีก่อนโน้น
ปัจจุบันแกตายไปแล้วละครับ
ด้วยฉายาโกว์เล้งเป็นไทยแปลว่าไอ้มังกรทอง
คำคมของแกยังติดหูหลายคนโดยเฉพาะคอสุรา
เช่น
ข้าพเจ้ามิได้ชื่นชอบในรสสุรา
แต่ข้าพเจ้าชื่นชอบในบรรยากาศการร่ำสุรา หรือ
สหายน้ำมิตรผู้รู้ใจดื่มพันจอกหมื่นจอกก็ไม่เมา(เป็นผมละก็อ้วกตั้งแต่สามจอกแรกแล้วละครับ)
ส่วนคำที่เป็นเรื่องกระบี่ละก็คำคมคือ
"กระบี่อยู่ที่ใจแม้ไม่มีกระบี่อยู่ในมือแต่ขอให้ใจมีกระบี่ก็ชนได้คุยไปคุยมา เขาว่ากันว่า..
สุดยอดของกระบี่คือกระบี่ไร้เทียมทาน
แต่กระบี่ที่ว่าไร้เทียมทานก็ยังแพ้ ดาบ
ดาบที่ว่ามีฉายาดาบไร้น้ำใจ ว่าดาบไร้น้ำใจร้ายแล้วก็ยังแพ้กระบอง
กระบองที่ว่าก็ คือ
กระบองหน้าด้าน เพราะว่าให้ไร้เทียมทาน ให้ไร้น้ำใจเพียงใด
ก็สู้ความหน้าด้านหน้าทนของคนเราไม่ได้หรอก
ก็ กูจะเอา กูไม่ไป กูไม่ออก
ฟังๆแล้วดูคล้ายๆนักการเมืองประเทศใดประเทศหนึ่งแถวๆรอบตัวเราเนอะ(พอเป็นฝ่ายค้านละก็เก่งกันจัง..ไม่ว่าฝ่ายไหน)
ขอโทษทีนะครับที่คุยนอกเรื่องนอกราวไปหน่อย(ไม่หน่อยละมั้ง)
จริงๆแล้วจะคุยกันเรื่องกระบี่เป็นอาวุธต่อจากคราวที่แล้วสักหน่อย
แต่ก็อีกนั่นแหละ..คงต้องต่อตอนหน้าอีกละครับ
มาดูกันว่าทำไม แต่ละที่ถึงใช้ดาบหรือกระบี่ต่างกัน
ทั้งกระบี่มีสองคม ดาบปลายแหลมและงอน ดาบหัวตัด ซามูไรธรรมชาติเป็นตัวกำหนดให้มนุษย์ใช้ต่างกัน
หรือมนุษย์เป็นคนกำหนดลักษณะอาวุธขึ้นมากันเอง
ตอนหน้า ตอนจบครับตอนนี้มีการตีดาบซามูไรในเมืองไทยมาฝากก่อนครับ
รายการกระบี่มือหนึ่ง นำมาพอดีเลย อยู่ใกล้นี่เอง เย้!
(ขอบคุณภาพประกอบจาก Internet)
อิอิ
แวะมาเก็บลิ้งค์ไปแชร์ที่กลุ่มค่ะ
คุณเก่งสบายดีนะคะ อิอิ