Basic Sketch 333 STUDIO KENNY KENG Blog
Kenny Keng
ART ARTICLE : "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 6(สุดท้าย): โบนัสพิเศษกับงานศิลปะ "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 5 : วิธีการวาดภาพให้ได้ (เอาจริงซะที 2) "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 4 : วิธีการวาดภาพให้ได้ (เอาจริงซะที 1) "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 3 : ตามหามุมบันทึก(วาดเส้น) "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 2 : ทำไมต้องเป็นถ่าน? "เที่ยวไปกับถ่าน" ตอนที่ 1: เด็กน้อยกับฝาบ้าน**ภาพสเก็ตซ์สีชอล์กน้ำมัน **เทคนิคประสม...ใคร ?? ศิลป์(ป่ะ) ต้องเป็นตัวของตัวเองดิ๊ ...ภาพวาดที่ฉีก: ผมยืนมองภาพพร้อมกับฟังเสียงหล่น..ANATTA: วันที่ความหดหู่ หดเหี่ยว หรือเหี่ยวจนหด...Sketch crawl ร่วม Sketch กับเพื่อนๆทั่วโลก
ALPHA FOCUS หนังสือพิชัย เมืองเล็กฯ เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองหน้าด่านของสยามประเทศในอดีต..... โอกาสที่ท่านมุ้ยมอบให้ สิ่งที่ผมเฝ้าศึกษาและสังเกตุ จะมีเรื่องราวและข้อมูลไปพ้องกับใครบางท่านเข้าอย่างจัง...
ตอนประถมผมอยากเป็นมนุษย์ไฟฟ้าสีน้ำเงิน (ถ้าสมัยนี้ก็มาจิเรนเจอร์)สาเหตุที่ไม่อยากเป็นสีแดงเท่าไหร่ พราะมนุษย์ไฟฟาสีแดงดูเก่งเกินไป เป็นผู้นำมากไป ออกหน้าก่อนตลอดเวลา ตัดสินใจเก่ง พลาดน้อยและชนะหลายๆอย่างได้ง่ายๆ เวลามีเรื่องทีไร เห็นวิ่งออกนำหน้ากลุ่มทุกทีไม่เหมือนมนุษย์ไฟฟ้าสีน้ำเงินที่ดูเงียบๆดูเข้มแข็ง สุขุม นำได้ถ้ามีโอกาส ต่อสู้กับตัวเองบ้างในบางครั้ง ไม่อยากออกหน้าคอยระวังด้านข้างและหลังให้กับสีแดง กับเพื่อนๆแถมยังมีสีเหลืองคอยระวังด้านหลังให้อีกทีดูเป็นเหมือนคนธรรมดาๆอย่างผมที่มีสิทธิที่จะกลัวและพอฝันที่จะเป็นได้บ้างโตขึ้นมาอีกนิด อยากเป็นเหมือนพ่อที่หวีผมเรียบๆ ให้ตังค์ผมแบบง่ายดาย(ถ้าแม่ไม่ยึดไปก่อน)ขออะไรก็ได้ เหมือนเรามีพระเจ้าประจำตัวยังไงยังงั้นเพียงแค่ทำตามเงื่อนไขบางอย่างให้ได้และทำจริงเท่านั้นเอง ช่วงเข้าวัยรุ่นเริ่มไม่อยากเป็นเหมือนพ่อเพราะพ่อทำงานหนัก กว่าจะได้บางอย่างมาพ่อมีผู้คนให้ความเคารพนับถือมากมายจนผมเริ่มถอดใจที่อยากจะเป็นเหมือนพ่อดูเหมือนมันจะยากเกินไปสำหรับผมแต่ผมได้มาง่ายๆ เพราะขอจากพ่ออีกที(เป็นตัวเองสบายสุด)จนถึงวัยรุ่นแบบเต็มๆผมเริ่มมีต้นแบบของผมเองแล้วไม่ว่าจะเป็น จอห์น เลนนอน หรือ พี่หนุ่ย ทุกคนมีเหมือนกันคือความมุ่งมั่น ที่จะสร้างสรรค์ในสิ่งที่ตนเชื่อโดยเฉพาะจอห์น ที่ผ่านการทดสอบมาอย่างล้นเหลือฮืมมมม...มนุษย์ไฟฟ้าทั้ง 5 คนด้วยพ่อเองก็เช่นเดียวกัน ที่ผ่านการทดสอบมาอย่างมากมายพ่อของหลายๆคนก็คงเหมือนกันคือความเป็นมนุษย์เพศผู้โดยสัญชาติญาณแห่งการมองไปข้างหน้าเพื่อตะลุย บุกบั่นแสดงออกทางความรักด้วยการกระทำมากกว่าการที่จะสัมผัสโอบกอดเหมือนกันกับมนุษย์เพศหญิงอย่างแม่หลายๆคนจึงรู้สึกผูกพันธ์กับแม่มากกว่าพ่อพ่อเองก็คงน้อยใจบ้างเหมือนกันแต่คงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่ารอยยิ้ม และชื่นชมกับการรักที่จะต่อสู้ของเราผู้หญิงจะเป็นห่วง ผู้ชายจะส่งเสริมให้แกร่งแบบเสี่ยงๆ กล้าได้กล้าเสียเพราะทักษะชีวิตและสัมผัสที่ต่างกันระหว่างหญิงกับชายมนุษย์ไฟฟ้าเองก็มีสีชมพุเป็นผู้หญิงเหมือนกันพ่อจึงเหมือนมนุษย์ไฟฟ้าสีแดงกับสีน้ำเงินรวมตัวกันมีความมุ่งมั่นที่แรงกล้าเหมือนกับศิลปินดังๆทั้งหลายอยู่ในร่างเดียวของพ่อมีความเป็นพระเจ้าที่พร้อมจะเสกทุกอย่างที่เราต้องการมาให้(ถ้าแม่ไม่เบรค)ด้วยการทำงาน ยอกล้อแรงๆ ตามลักษณะความแข็งแกร่งของเพศชายความรักแบบแมนๆ จึงอยู่ในตัวของพ่อและอัดแน่นไปด้วยคุณภาพอย่างมากมาย
ความรักของพ่อคงจะมี "รูปแบบการแสดงออก" ที่ต่างจากความรักของแม่อยู่บ้างจริงๆ แต่แก่นสารที่สุดข้างใน บางทีคงบอกยากว่าต่างกัน
พ่อมักเป็นฮีโร่ของลูกเสมอ ในแง่ใดแง่หนึ่ง (หรือหลายๆ แง่) แต่ส่วนใหญ่พ่อไม่ค่อยรู้ตัว และบางทีลูกก็ไม่รู้ตัวด้วยเหมือนกัน