ความเหงาไม่ได้แค่มาแล้วผ่านไป แต่สามารถสร้างโรคได้ เพราะฉะนั้นถ้าเจอวามเหงาต้องไม่ประมาท “ความเหงาเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นครั้งคราว แถมยังเป็นเรื่องส่วนบุคคล บางคนรู้สึกเหงาเมื่อไม่มีอะไรทำ บางคนเหงาทุกครั้งเมื่ออยู่คนเดียว ขึ้นอยู่กับว่าเป็นคนขี้เหงามากแค่ไหน ความเหงาเป็นเรื่องของความรู้สึกด้านลบที่เกิดขึ้นเวลาที่เรารู้สึกขาดการเชื่อมโยงทางสังคม ขาดที่พึ่งทางอารมณ์ ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น หรือเมื่อความสัมพันธ์ในชีวิตไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าความเหงาที่คนคุ้นเคยกันดีนั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจของคนเราได้ในหลายๆ ด้าน” ความเหงาทำร้ายสุขภาพอย่างไร ? ทำไมเหงาแล้วเราจึงป่วย ดร.หยกฟ้า อิศรานันท์ ผู้ช่วยคณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาฯ อธิบายว่า เวลาที่เราเกิดความรู้สึกเหงา ร่างกายจะรู้สึกตึงเครียดจะหลั่งสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับความเครียดที่เรียกว่า “คอร์ติซอล” ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เมื่อถูกหลั่งออกมาเป็นเวลานานๆ จะไปกดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ตามมามากมาย อาทิ โรคความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบ การติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร และที่ร้ายไปกว่านั้นอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าจึงถึงขั้นฆ่าตัวตายได้เลยทีเดียว มีการศึกษาเรื่องความเหงาในอเมริกา โดยให้กลุ่มตัวอย่าง 5,000 คน ตอบแบบสอบถาม ซักประวัติสุขภาพ และทำการตรวจร่างกายทุกๆ 2 – 4 ปี เป็นระยะเวลา 10 ปี พบว่า 50 % ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่า เมื่อต้องอยู่กับคนรอบข้างที่มีความรู้สึกเหงาเราก็จะเกิดความเหงาตามไปด้วย ซึ่งผลการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นว่า ความเหงาสามารถส่งต่อกันได้ เหมือนการแพร่เชื้อ เป็นเรื่องความเชื่อมโยงของปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล คนเหงามักจะแสดงพฤติกรรม หรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในทางลบ รู้สึกไม่ไว้วางใจ มองโลกในแง่ร้าย หวาดระแวง รู้สึกกังวล ซึ่งโดยปกติเวลาที่เรามีปฏิสัมพันธ์กับใคร เราก็มักจะตอบสนองด้วยพฤติกรรมเดียวกัน เหมือนใครดีมา เราดีตอบ ใครยิ้มมาเรายิ้มตอบ ซึ่งทำให้อนุมานได้ว่า ใครเหงาเราก็เหงาตอบ อย่างไรก็ตาม ความเหงาเกิดขึ้นได้เป็นปกติและไม่ใช่เรื่องน่ากังวล วิธีเอาชนะความเหงา คือ นัดเจอ พูดคุยกับผู้คนที่ช่วยให้รู้สึกมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น หรือคนที่สามารถพูดคุยปรึกษาได้อย่างเข้าอกเข้าใจ หรือ ลองหาเพื่อนใหม่ๆ โดยอาจเริ่มจากการเข้าร่วมกลุ่มที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน เพื่อให้มีเรื่องคุยและสนิทกันได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้อาจลองหางานอดิเรกทำเพื่อให้จิตใจจดจ่ออยู่กับกิจกรรมนั้นแทน เช่น วาดรูป อ่านหนังสือ ฟังเพลง ออกกำลังกาย จัดสวน หรือกิจกรรมอาสาต่าง ๆ หาสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ทำใจให้สงบ อาจลองนั่งสมาธิหรือฝึกการหายใจเพื่อฝึกจิตให้นิ่งยิ่งขึ้น ที่สำคัญอย่าคาดหวังกับผู้อื่นมากเกินไป ไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง อาจลองเขียนไดอารี่คิดทบทวนถึงสิ่งดีต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิต จะช่วยให้เห็นมุมมองดีๆ และรู้ว่าควรให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด ทั้งนี้ ความรู้สึกเหงาหรือความโดดเดี่ยวอาจเป็นสัญญาณของภาวะซึมเศร้าได้เช่นกัน โดยสังเกตได้จากอาการเศร้า สิ้นหวัง หดหู่ ไม่อยากอาหาร นอนไม่หลับ อ่อนล้า หมดความสนใจในเรื่องที่เคยชอบ ถ้ารุนแรงหรือเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานานจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หากใครมีอาการดังกล่าวหรือสงสัยว่าตนอาจมีภาวะซึมเศร้า แนะนำว่าควรไปปรึกษาแพทย์
ขอบคุณบทความดีๆจาก slotxo
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2562 |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2562 10:27:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 728 Pageviews. |
|
|