4 วิธีเอาตัวรอดในโลกธุรกิจดิจิทัล
ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมากทั้งในการสื่อสาร การทำงาน การเดินทาง แม้กระทั่งการทำธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ล้วนมีการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความสะดวกและเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้น เช่นเครื่องจักร คอมพิวเตอร์ รวมถึงระบบอินเตอร์เน็ต ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในด้านธุรกิจกันอย่างแพร่หลายเรียกอีกอย่างว่าการทำธุรกิจดิจิทัล หรือธุรกิจยุคใหม่ที่มีความสะดวกสะบายมากขึ้น ทำให้ในปัจจุบันการขายสินค้าออนไลน์หรือทำธุรกิจดิจิทัลเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในผู้ประกอบการรายใหม่และเก่าหันมาทำธุรกิจดิจิทัลกันอย่างแพร่หลาย โลกดิจิทัลนั้นเป็นโลกที่มีขอบเขตทั่วโลกซึ่งนั่นหมายถึง ผู้ที่ประกอบการธุรกิจดิจิทัลนั้นสามารถค้าขายสินค้ากับคนทั่วโลกผ่านโลกดิจิทัลได้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจได้อย่างมากแต่โลกดิจิทัลนั้นมีการแข่งขันที่สูงและมีการเคลื่อนไหวการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเราจึงควรปรับตัว ควรเรียนรู้วิธีเอาตัวรอด
หากใครยังมองไม่เห็นภาพว่าเราควรจะต้องเริ่มปรับตัวไปในทิศทางทางใด ก็อาจจะต้องลองเริ่มมองจาก 4 แนวทางต่อไปนี้
1) จาก Vision >> เปลี่ยนเป็น Digital Idea
แต่เดิมการวางแผนงานล่วงหน้า10 ปี เป็นสิ่งที่ธุรกิจจำเป็นต้องทำแต่ในปัจจุบันนี้ การวางแผน 2 ปีอาจจะดูยาวนานเกินไปเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในทุก ๆ วินาทีในทุก ๆ ครั้งที่เราหายใจ ใครที่เร็วกว่า ใครที่แม่นยำกว่า นั่นแหละคือ ผู้ชนะเพราะฉะนั้นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและเติบโตได้ในยุคนี้จึงต้องเป็นธุรกิจที่มีการวางแผนที่ยืดหยุ่น คือสามารถวางแผนและปรับเปลี่ยนแผนใหม่เพื่อให้ก้าวนำโลกและตามทันโลกได้ทุกวัน
2) จาก Strategy >> เปลี่ยนเป็น Digital Strategy
นักวางกลยุทธ์ยุคเก่าอาจต้องยอมรับว่ากลยุทธ์แบบเดิมที่เคยใช้ได้ดี อาจจะใช้ไม่ได้ผลในยุคนี้ เนื่องจากกลุ่มคน ความคิดทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ และเครื่องมือในการสร้างธุรกิจนั้นได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงทุกอย่างถูกย้ายมาอยู่ในดิจิทัลเกือบจะทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่นักวางกลยุทธ์ยุคนี้ต้องทำคือ การเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่าง ๆ เหล่านั้นให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ได้กลยุทธ์ที่เฉียบคมและพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
3) จาก TraditionalSales >> เปลี่ยนเป็น Digital Platform
การวางแผนธุรกิจแบบเก่าอาจจะล้าสมัยเกินไปการวิเคราะห์รายละเอียดต่าง ๆ ของธุรกิจ ทั้งตัวลูกค้าจุดแข็งและจุดอ่อนของเราอาจเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การยึดติดกับแผนหรือวิธีการแบบเดิม อาจจะดูไร้ประสิทธิภาพลงเรื่อย ๆถึงเวลาที่เราต้องยอมรับแล้วว่า ทุกวันคือการเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ดังนั้นเราจะเลือกปรับตัวให้ก้าวทันหรือจะยอมจำนนให้กับโลกที่เปลี่ยนไป
4) จาก Brand Strategy >> เปลี่ยนเป็น DigitalBrand Strategy
กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์เองก็เช่นกันหากเรายังใช้กลยุทธ์เดิมที่สอนกันต่อ ๆ มาตั้งแต่หลายสิบ ปีก่อนแบรนด์ของเราก็อาจเติบโตได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพและไม่สามารถติดตลาดในยุคนี้ได้เช่น การวางแผนสร้างแบรนด์ ด้วย สื่อ TV หนังสือพิมพ์ป้ายบิลบอร์ด ติดโฆษณาในลิฟท์ ในห้างสรรพสินค้า กลายเป็นเรื่องที่ไม่เวิร์กแล้วเพราะคนไม่เงยหน้ามองลิฟท์ มัวแต่จ้องโทรศัพท์วันละ 4 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย
หลายมหาลัยได้จัดให้มีการเปิดการเรียนการสอนในสาขาธุรกิจดิจิทัล รวมถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะวิทยาการจัดการจึงได้มีการเปิดหลักสูตรการเรียนการสอน สาขาธุรกิจดิจิทัลขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้กับเยาวชนหรือกลุ่มคนที่สนใจในการดำเนินกิจการ การทำธุรกิจดิจิทัลได้ศึกษาเรียนรู้การทำธุรกิจดิจิทัล การขายสินค้าออนไลน์ได้อย่างถูกต้อง และเพื่อเป็นการทำความรู้จักทำความเข้าใจ โลกดิจิทัล และธุรกิจดิจิทัลอย่างแท้จริง และสามารถที่จะดำเนินกิจการธุรกิจดิจิทัลได้อย่างปรอดภัยและสามารถสร้างรายได้ สร้างกำไร ให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง