สุราษฎร์ธานีเมืองคนดี
สุราษฏร์ธานีเมืองคนดี “พงศาชลากร” สืบเชื้อสายมาจากผู้ก่อตั้งเมืองสุราษฏร์ธานี “พระวิสูตรสงครามรามภักดี” ข้าหลวงในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ในครั้งสงคราม 9 ทัพ ปี พ.ศ. 2329 เมืองท่าทองถูกพม่าเผาทำลายจนกลายเป็นเมืองร้าง ซากศพผู้คนเกลื่อนกลาด เจ้าเมืองคนเดิมหายสาบสูญ ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทได้นำกองทัพขับไล่พวกพม่าจนถอยหนีไปหมดแล้ว จึงทรงโปรด ฯ ให้หลวงวิเศษภักดี (นายสม) ข้าหลวงในพระองค์ นำพลส่วนหนึ่งเป็นผู้รั้ง (รักษา) เมืองท่าทองไว้ก่อน แต่เมืองท่าทองถูกทำลายมากเกินกว่าที่จะบูรณะให้ดีดังเดิมได้ หลวงวิเศษภักดีได้ปรับปรุงค่ายพม่าเก่าที่คลองกระแดะ ที่ตั้งอำเภอกาญจนดิษฐ์ในปัจจุบัน เป็นที่ว่าราชการชั่วคราว แล้วจึงเรียกกรมเมืองและนายแขวงเมืองท่าทองและข้าราชการเก่า ให้ช่วยกันสืบหาพระท่าทองเจ้าเมืองคนก่อนและครอบครัว นายจ่ายวดบุตรคนโตของเจ้าเมืองคนเดิมได้พาน้อง ๆ คือหม่อมมาก แม่บุญคง แม่แถม แม่ฉิม หม่อมราม กลับมาพบหลวงวิเศษภักดี หลวงวิเศษได้อุปการะบุตรของเจ้าเมืองคนก่อนตามสมควร ต่อมาได้ยกแม่แถมเป็นภรรยาแล้วสร้างบ้านให้อยู่ในบ้านกระแดะ และได้เริ่มดำเนินการช่วยเหลือให้ราษฎรที่เมืองท่าทอง กลับมาทำมาหากินที่เมืองท่าทอง ฟื้นฟูเมืองจนกลับมาเป็นปกติสุข ใน พ.ศ. 2336 หลวงวิเศษภักดีได้ตัดสินใจย้ายไปตั้งบ้านเมืองใหม่ที่คลองมะขามเตี้ย ตรงวัดโพข้าม ที่ปัจจุบันคืออำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งอยู่ใกล้เส้นทางคมนาคมระหว่างด่านท่าข้ามกับเมืองท่าทองมาแต่โบราณ สร้างจวนเป็นที่อยู่อาศัยและเป็นที่ว่าราชการเมือง สร้างศาลากลางเป็นที่พิจารณาคดีและประชุมกรมการ สร้างตารางคุมขังนักโทษอันเป็นอาคารสำคัญสำหรับเมืองครบถ้วนแล้ว ได้สร้างวัดไว้หน้าเมือง เรียกว่าวัดหน้าเมืองไว้เป็นที่ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา แล้วรายงานการสร้างบ้านเมืองใหม่แก่เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ได้มีใบบอกไปกราบบังคมทูลรัชกาลที่ 1 ให้ทรงทราบ จึงโปรด ฯ ให้เรียกเมืองท่าทองตามเดิมและพระราชทานตำแหน่งให้หลวงวิเศษภักดี (สม) ขึ้นเป็นพระวิสูตรสงครามรามภักดี หรือพระท่าทอง เช่นเดียวกับเจ้าเมืองท่าทองก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา พระวิสูตรสงครามรามภักดี (สม) ได้ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2375 เครดิต: วรณัย พงศาชลากร
Create Date : 24 กันยายน 2563 |
Last Update : 24 กันยายน 2563 8:44:25 น. |
|
1 comments
|
Counter : 349 Pageviews. |
|
|
|