|
พระปรางค์สามยอดลพบุรี
พระพุทธรูปประธาน “วัชรยานไตรลักษณ์” ภายในปรางค์สามยอด
ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 18 ภายหลังที่ “เมืองลวปุระ” (lavapūr) หรือ “กัมโพช” ในตำนานชินกาลมาลีปกรณ์ ศูนย์กลางแค้วน“ศรีจานาศะปุระ” (Sri Canasa) กลับตกไปอยู่ในอำนาจทางการเมืองของราวงศ์มหิธระปุระอีกครั้ง พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้ส่งพระโอรสพระนามว่า “นฤปตีนทรวรมัน” มารั้งเป็นอุปราชผู้ปกครอง “ลโวทเยศ” และได้เรียกชื่อนามเมืองละโว้ ตามที่ปรากฏจารึกปราสาทพระขรรค์ (K.908) ขึ้นใหม่ว่า “ละโว้ทยปุระ (Lavodayapura) . ในช่วงเวลานี้ คติความเชื่อในพุทธศาสนาแบบมหายาน – วัชรยานตันตระ ใน“ลัทธิโลเกศวร” (Lokeśvara) ที่กำลังนิยมในราชสำนักเมืองพระนคร ได้แผ่อิทธิพลเข้ามาสู่เมืองละโว้ทยปุระตามอำนาจทางการเมือง เกิดความนิยมการสร้างรูปประติมากรรมตามคติความเชื่อในนิกายวัชรยานบายน ทั้งรูปพระพุทธรูปประทับนั่งสมาธิที่มีนาคปรก (Buddha Sheltered by a Naga) อันเป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักร ในความหมายของ “พระฌานิพุทธอมิตาภะ” (Amitābha Dhyāni Buddha) แสดงธยานะมุทรา (Dhyana Mudra) ในลักษณ์ (ความหมายเชิงบุคลาธิษฐานฉ ของการบรรลุ “นิรวาณ-นิพพาน” (nirāvana) หรือ “ความรู้แจ้ง - การหลุดพ้น” รูป “พระโพธสัตว์อวโลกิเตศวร” (Bodhisattva Avalokiteśvara ) ผู้ทรงไว้ซึ่งมหาเมตตากรุณาแก่มวลสัตว์โลกทั้งปวง รูปลักษณ์แทนการบำเพ็ญ “โพธิญาณบารมี” (ทาน ศีล ขันติ วิริยา ปัญญา ญาณ ปณิธาน อุบายะ พละ ชญาณ) และ “เทวีปรัชญาปารมิตา” (Prajñāpāramitā) (ศักติเพศ ในคติตันตระ) รูปลักษณ์ของการใช้ “ปัญญาและอุบายะที่ชาญฉลาด” สู่เป้าหมายครับ . คติของภาพแห่งลักษณ์ (มโนภาพ) ในบุคลาธิษฐาน (Personification) ของ “นิรวาณ โพธิญาณและปัญญา” ตามแบบ “ตันตระ” (Tantra-Tantric) ที่ควรเรียกว่า “วัชรยานไตรลักษณ์” (Vajrayāna Triad -Trinity) มากกว่า “รัตนตรัยมหายาน” ได้ถูกนำใช้สร้างงานพุทธศิลป์ โดยวางรูปประติมากรรมในความหมายของบุคลาธิษฐานทั้งสาม เรียงรูปวิภัติ 3 รูป (Trinity) เรียงบนระนาบฐานไพทีเดียวกัน มีรูปของพระพุทธเจ้าอมิตาภะนาคปรกเป็นประธานตรงกลาง . คติวัชรยานไตรลักษณ์ ได้นำไปสู่การสร้างปราสาทปรางค์สามยอด เพื่อแสดงความเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการเมืองและความเชื่อของจักรวรรดิ ขึ้นบนเนินดินศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมือง เป็นปราสาทสามยอดองค์แรกในภูมิภาคลุ่มเจ้าพระยาครับ . --------------------------------- *** ภายในห้องคูหาครรภธาตุของปราสาททั้ง 3 ห้อง อาจเคยประดิษฐานรูปประติมากรรมพระพุทธเจ้าอมิตาภะปางนาคปรก แทนความหมายของการนิรวาณ-การบรรลุ ในห้องคูหาปราสาทองค์กลาง รูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระญานิโพธิสัตว์ 4 กร ถือดอกบัวปัทมะ ในพระหัตถ์ขวาล่าง ถืออักษมาลา (ลูกประคำ) ในพระหัตถ์ขวาบน ถือปุศตกะ คัมภีร์ปรัชญาปารมิตาณหฤทัยสูตร (Prajñāpāramitā Hṛdaya Sūtra) ที่พระหัตถ์ซ้ายบนและถือกมัณฑลุ (หม้อน้ำนักบวช) ในพระหัตถ์ซ้ายล่าง แทนความหมายของโพธิญาณ –การปฏิบัติ ในห้องคูหาปราสาทฝั่งทิศใต้ และ รูปประติมากรรมเทวีปรัชญาปารมิตา พระหัตถ์ขวาถือดอกบัวปัทมะ พระหัตถ์ซ้ายถือคัมภีร์ ปรัชญาปารมิตาณหฤทัยสูตร เป็นศักติของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และถือเป็นพระมารดาของเหล่าตถาคตที่กำเนิดจากอานุภาพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นสัญลักษณ์ของปัญญาอันล้ำเลิศและอุยายะสู่พระนิพพาน ในห้องคูหาของปราสาทองค์ทิศเหนือ . แต่ร่องรอยที่เห็นในปัจจุบัน คงเหลือให้เห็นแต่เพียงฐานรูปเคารพ “สนานโทรณี” (Sanandorini) ที่ฝังอยู่ในพื้นภายในแต่ละห้องคูหาของปรางค์ทั้งสามหลัง โดยไม่เหลือร่องรอยที่บ่งบอกว่าเคยประดิษฐานรูปประติมากรรมทั้ง 3 วิภัติรูปตามคติวัชรยานไตรลักษณ์หรือไม่ ซึ่งก็คงเป็นการยากที่รูปประติมากรรมทั้งสามจะเหลือรอดมาจากอดีต ด้วยเพราะผู้มีอำนาจในแต่ละยุคสมัย อาจได้เคลื่อนย้าย ดัดแปลงและทุบทำลายรูปประติมากรรมเดิม ไปตามคติความเชื่อและความนิยมของตน โดยเฉพาะรูปประติมากรรมพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรและพระนางปรัชญาปารมิตาในคติโลเกศวร ที่ไม่ได้รับความนิยมภายหลังการสิ้นอำนาจของจักรวรรดิบายน อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงความนิยมมาเป็นพุทธศาสนานิกายเถรวาท - คณะกัมโพชสงฆ์ปักขะ (Kambojsanghapakkha) ในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 18 - ปลายพุทธศตวรรษที่ 19 และพุทธศาสนาเถรวาทลังกาวงศ์ - สยามวงศ์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ได้มีการดัดแปลงปรางค์สามยอดมาเป็นพระเจดีย์ประธานของวัด มีการสร้างอาคารวิหารและระเบียงคดด้วยอิฐที่ด้านหน้าและด้านข้างฝั่งทิศเหนือ ดัดแปลงภายในคูหาของปรางค์บริวารและมุขกระสันเพื่อใช้ประโยชน์เป็นระเบียงวิหารด้วยการปิดช่องผนัง ทำช่องหน้าต่างใหม่ ประดิษฐานพระพุทธรูปแกะสลักหินทรายในศิลปะอยุธยาเข้าไปเพิ่มเติมในส่วนต่าง ๆ ภายในพื้นที่โดยรอบครับ . ------------------------------- *** แต่จากหลักฐานภาพถ่ายเก่าในช่วงทศวรรษที่ 1940 ของ Reginald Le May จากหนังสือ Culture of South-East Asia ตีพิมพ์ในปี 1954 ได้แสดงภาพของพระพุทธรูปนาคปรก พระประธานภายในคูหากลางของปรางค์สามยอดตั้งอยู่บนฐาน ที่แสดงว่า พระพุทธรูปประธานในคติวัชรยานไตรลักษณ์จากยุคจักรวรรดิบายน ยังไม่ได้ถูกรื้อถอนเคลื่อนย้ายออกไปในสมัยต่อมา ยังคงตั้งประดิษฐานอยู่ที่เดิม แต่ในภาพถ่ายก็แสดงให้เห็นว่า มีร่องรอยการทุบส่วนพระเศียรและส่วนนาคปรกจนเสียหาย จึงได้มีการดัดแปลงซ่อมแซมต่อพระเศียรขึ้นใหม่ มีการปั้นปูนประดับส่วนพระเศียร ปั้นมวยพระเกศาถี่แบบเปลือกขนุนและปั้นปูนในส่วนรูปนาคขึ้นใหม่ ยอดพระกรรณทำเป็นบายศรีแหลม ตามแบบศิลปะอยุธยา . ต่อมาตัวองค์พระประธานคงได้ถูกตัดพระเศียรและส่วนนาคปรกออกไปทั้งหมด และได้ถูกเคลื่อนย้ายมาวางไว้ในช่องผนังกำแพงมุขกระสันฝั่งทิศเหนือ โดยในรูปถ่ายเก่าได้แสดงร่องรอยของภูษาสมพตขาสั้นแบบพระพุทธรูปบายนตรงบริเวณใกล้กับพระที่นั่ง (บั้นท้าย) ที่ถูกกะเทาะขูดออกตอนปั้นปูนลงรักผิดทองในสมัยอยุธยา ที่ตรงกันกับรอยแตกกะเทาะของพระพุทธรูปในห้องมุขกระสันอย่างชัดเจนครับ . ส่วนพระวรกายที่ชำรุดของรูปประติมากรรมพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรที่อาจเคยประดิษฐานในห้องคูหาปราสาทฝั่งทิศใต้ และรูปประติมากรรมพระนางปรัชญาปารมิตาที่อาจเคยประดิษฐานอยู่ที่ห้องคูหาปราสาทหลังฝั่งทิศเหนือ อาจเป็นหนึ่งในรูปประติมากรรมหินทรายที่ได้ถูกขนย้ายไปเก็บรักษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรี และรูปประติมากรรมที่เก็บรักษาไว้ในอาคารคลังล้อมรั้วภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม พระนครศรีอยุธยา ในช่วงที่พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์) ดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ได้เก็บรวบรวมศิลปวัตถุและโบราณวัตถุที่พบภายในเมืองอยุธยา ลพบุรีและเมืองใกล้เคียงมารวบรวมไว้ . พระเศียรของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรของปรางค์สามยอดนั้น ก็อาจเป็นพระเศียรที่ปรากฏภาพถ่ายเก่าในหนังสือ Culture of South-East Asia ของ Reginald Le May ที่อธิบายภาพว่าพบมาจากเมืองลพบุรี มีพุทธศิลป์ตามแบบศิลปะบายนหมวดช่างละโว้ ส่วนพระเศียรที่หายไปของรูปประติมากรรมเทวีปรัชญาปารมิตา จะมีเค้าพระพักตร์แบบเดียวกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร แต่มีมวยผมเป็นกรวยแหลม ซึ่งในรูปวิภัติ 3 รูป ตามศืลปะแบบบายน จะไม่มีการสลักรูปพระพุทธเจ้าอมิตาภะไว้ที่หน้ามวยผม ก็ยังไม่ปรากฏร่องรอยให้ตามเห็นได้เลยครับ เครดิต: วรณัย พงศาชลากร EJeab Academy เพราะทุกที่มีเรื่องราวและเรื่องเล่า
Create Date : 23 กันยายน 2563 |
Last Update : 8 มีนาคม 2564 14:46:23 น. |
|
2 comments
|
Counter : 637 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 24 กันยายน 2563 เวลา:3:35:59 น. |
|
|
|
|
|
|
MY VIP Friend
|
|
|
|