ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always be loved.
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2564
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 ธันวาคม 2564
 
All Blogs
 
วัดชนะสงคราม

#ความเป็นมาของชื่อวัดชนะสงคราม 📌
#โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทฯ 📌

...ณ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร จ.กรุงเทพฯ

"วัดชนะสงครามฯ" เป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า "วัดกลางนา" เพราะในอดีตรอบๆวัดเป็นทุ่งนากว้างใหญ่ ต่อมา "สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล" พระราชอนุชาใน "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" (รัชกาลที่ 1) ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นใหม่ และเปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดตองปุ"

สาเหตุที่ตั้งชื่อวัดนี้ว่า "วัดตองปุ" มีข้อมูลอยู่ 2 กระแส คือ 1. ชื่อ "ตองปุ" มาจากชื่อ "หมู่บ้านตองปุ" หมู่บ้านของชาวมอญในหงสาวดี ซึ่งคนเหล่านี้ได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บริเวณวัด 2. มาจากชื่อ "วัดตองปุ" วัดพระรามัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่ง "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" (รัชกาลที่ 1) ทรงตั้งพระราชาคณะฝ่ายรามัญสำหรับพระนคร จึงทรงให้พระสงฆ์ฝ่ายรามัญมาอยู่ที่วัดนี้

ต่อมา... หลังจาก "ทำสงครามชนะพม่า 3 ครั้ง" นับแต่สงครามเก้าทัพ พ.ศ.2328 / สงครามท่าดินแดงและสามสบ พ.ศ.2329 / และสงครามป่าซาง นครลำปาง พ.ศ.2330 "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" (รัชกาลที่ 1) จึงโปรดเกล้าฯพระราชทานนามวัดใหม่เป็น "วัดไชยชนะสงคราม" แต่ภายหลังตัดเหลือเพียง "วัดชนะสงครามฯ" และใช้มาจนถึงปัจจุบัน 

>>> "ตองปุ" แปลว่า "ที่รวมพลทหารไปออกรบ" 😊

"วัดชนะสงครามฯ" ได้รับการทำนุบำรุงมาเรื่อยๆในทุกรัชกาล เช่น "สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์" พระราชโอรสใน "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" (รัชกาลที่ 1) และทรงเป็น "กรมพระราชวังบวรสถานมงคล" ในรัชสมัย "พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย" (รัชกาลที่ 2) ทรงโปรดเกล้าฯให้รื้อ "พระที่นั่งพิมานดุสิตา" นำไม้มาสร้าง "กุฏิสงฆ์" ที่วัดแห่งนี้ 

หรือเจ้านายฝ่ายวังหลวงอย่าง "สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" พระบรมราชินีนาถใน "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" (รัชกาลที่ 5) ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ก่อสร้าง "ที่บรรจุพระอัฐิเจ้านายฝ่ายกรมพระราชวังบวรสถานมงคล" (เจ้านายฝ่ายวังหน้า) ที่เฉลียงพระอุโบสถด้านหลัง และได้มีพิธีอัญเชิญพระอัฐิจากพระราชวังบวรสถานมงคลไปประดิษฐานในปี พ.ศ.2470 

พระประธานในพระอุโบสถมีพระนามว่า "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหธิศักดิ์ ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ" หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า "หลวงพ่อปู่" พระพุทธรูปองค์นี้มีมาตั้งแต่ครั้งยังเป็น "วัดปลายนา" มีตำนานกล่าวว่า.....

"...ก่อนออกรบ "สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล" จะเสด็จมาสักการะพระพุทธรูปองค์นี้ และทรงได้รับชัยชนะทุกครั้ง และยังมีเรื่องเล่าว่า "หลังสงครามเก้าทัพ" พระองค์ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์ ทรงถวาย "ฉลองพระองค์ลงยันต์คลุมองค์พระประธาน" และโปรดเกล้าฯให้แม่ทัพนายกองทำเช่นกัน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ก่อนจะโปรดเกล้าฯให้โบกปูนทับไว้อีกชั้นหนึ่ง..."

ที่มา : คุณธนภัทร์ ลิ้มหัสนัยกุล / สารานุกรมไทย



Create Date : 13 ธันวาคม 2564
Last Update : 13 ธันวาคม 2564 20:51:59 น. 1 comments
Counter : 513 Pageviews.

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 15 ธันวาคม 2564 เวลา:4:29:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.
New Comments
Friends' blogs
[Add ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.