[Part 2] ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการจัดฟัน+ผ่าตัดขากรรไกร



ต่อนะคะ
20 ก.พ. 58  มาแอดมิทที่ชั้น 10 โรงพยาบาลทันตกรรม

ตอนประมาณสี่โมงเย็น อีฟจองห้องพิเศษเอาไว้

ค่าห้องคืนละ 2,000 บาทค่ะ

(แต่ไม่ใช่ห้องแพงที่สุดนะคะ มีห้องพิเศษ VIP อีก)

บรรยากาศในห้องสะดวกสบายตามในรูปเลยค่ะ



พรีเซ็นเตอร์กับมุมโต๊ะอาหารติดหน้าต่าง 


ในห้องมีตู้เย็น ไมโครเวฟให้ด้วย  

ใกล้กับเตียงคนไข้มีโซฟาเบดสำหรับญาตินอนเฝ้า 


เตียงคนไข้สามารถปรับระดับได้ด้วยปุ่มข้างเตียง 


เบื่อๆ ก็เปิดทีวีดูได้ บางทีก็รู้สึกว่ากำลังอยู่ในโรงแรม

มากกว่าโรงพยาบาล 555

หลังจากเข้าห้องมา ก็จะมีพยาบาลมาอธิบายทุกอย่างที่เราจำเป็นต้องรู้

รวมถึงสร้างความเข้าใจให้กับญาติด้วยว่า

อาการหลังผ่าตัดของคนไข้จะเป็นยังไง ไม่ต้องตกใจ 

เพราะญาติส่วนใหญ่จะตกอกตกใจเมื่อเห็นสภาพคนไข้หลังผ่าตัด

ส่วนข้าพเจ้ามีเวลาสวาปามอาหารได้ถึงก่อน 5 ทุ่ม

หลังจาก 5 ทุ่ม ต้องงดน้ำ งดอาหาร T^T


อาบน้ำ สระผม เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะทำไม่ได้ไปอีกหลายวัน

เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคนไข้แล้วมาเซลฟี่เป็นที่ระลึก

ก่อนนอนได้ยานอนหลับครึ่งเม็ด ตอนแรกก็ตื่นเต้นนอนไม่หลับ 

แต่ซักพักพอยาออกฤทธิ์ก็หลับสบายอ้าปากหวอตามรูปเลยค่ะ 


ขุ่นแม่แอบถ่าย นี่เพิ่งรู้ว่าเวลานอนหน้าตาน่าเกลียดน่าชังขนาดนี้ 555

ตอนเช้าพยาบาลมาปลุกตอน 06.30 น. 

อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีเขียวสำหรับผ่าตัด 

No underwear นะคะจุดนี้ แล้วก็ต้องถอดเครื่องประดับทุกอย่าง

คือต้องตัวเปล่าจริงๆ 

ได้ยานอนหลับอีกครึ่งเม็ด (แต่รอบนี้มันไม่ได้ทำให้ง่วงเล๊ย)

พอถึงเวลา 07.30 น. พยาบาลก็มาพร้อมกับรถเข็นแบบเตียง

แล้วก็ทายาชาเนื้อครีมที่หลังมือให้ เวลาเจาะสายน้ำเกลือจะได้ไม่เจ็บ

จากนั้นก็แค่ขึ้นไปนอน แล้วพยาบาลก็เข็นพาไปห้องผ่าตัด

ข้างในห้องผ่าตัด อากาศหนาวมาก 

ซักพักก็มีคนมาเจาะสายน้ำเกลือให้

โดยก่อนเจาะ ใช้สเปรย์อะไรไม่รู้พ่นใส่หลังมือ

คือมันเย็นมากจนชา ตอนเจาะนี่ไม่เจ็บเลยค่ะ

ถามว่ากลัวมั้ย ไม่นะ ตื่นเต้นมากกว่า

คืออยากรู้ว่า โดนยาสลบแล้วจะเป็นยังไง

แต่เตรียมใจไว้ว่าหลังจากฟื้นมา ต้องลำบากแน่ๆ

เพราะเกือบทุกคนที่อีฟไปอ่านรีวิวมาบอกว่า คืนแรกทรมานมาก

พอเจาะสายน้ำเกลือเสร็จหมอก็เอาเข็มยามาเลยค่ะ

เราก็แบบเหย เอาแล้วๆๆๆ 

อยากจะบอกว่าตอนเร่งยานี่มันปวดได้ใจจริงๆ 

ปวดแบบอยากจะร้องออกมาดังๆ

แต่ปวดแค่ประมาณ นับ 1 ถึง 3 อะค่ะ

เพราะหมอเอาหน้ากากเหมือนหน้ากากออกซิเจนมาครอบจมูก

จำได้ว่าหายใจเข้าแค่ฟืดเดียว ฟืดที่สองสติก็ดับไปเลยค่ะ

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก 

รู้สึกตัวอีกทีตอนได้ยินเสียงพยาบาล

"คุณอุทุมพรคะ คุณอุทุมพรคะ"

สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ความรู้สึกเหมือนเพิ่งหลับไปแป๊บเดียว

ยังง่วงๆ อยู่ อยากนอนต่อ ฮ่าาา

พอเห็นว่าเราตื่นแล้ว พยาบาลก็พากลับห้องพัก

เริ่มผ่าตัดตอนแปดโมง ออกมาตอนบ่ายสอง รวมใช้เวลา 6 ชั่วโมง


กลับมาถึงห้องมีอาการหนาวสั่น ฟันกระทบกันดังกึกๆ 

จนพยาบาลต้องหาผ้าห่มมาห่มให้หลายๆผืน

ในรูปหลับตาอยู่ แต่จริงๆ ไม่ได้หลับนะคะ 

แค่รู้สึกง่วงๆ ลืมตาไม่ขึ้น แต่ยังได้ยินเสียง รับรู้ทุกอย่าง

ลืมตาขึ้นมาดูคนนู้นคนนี้บ้างเป็นระยะๆ


นี่คือสภาพหน้าหลังผ่าตัดแค่ไม่กี่ชั่วโมง

หน้าบวม ปากบวมเป็นไส้กรอกเลย ฮ่าาาา

สายยางที่โยงออกมาจากปาก 2 เส้น คือสายเดรนเลือด

เอาไว้ดูดเลือดที่ไหลจากแผลออกมาใส่ถุงกลมๆ เหมือนลูกบอลที่

ห้อยอยู่ข้างตัว

เผื่อใครสงสัยว่าหลังผ่าตัดพูดได้เลยหรือเปล่า

ตอบว่า พูดได้เลยค่ะ แต่จะไม่ชัด เพราะปากบวม หน้าตึง

คำแรกที่อีฟพูดคือ 'น้ำ' ค่ะ 

พยาบาลเอาน้ำให้ดื่ม โดยใช้ไซริงฉีดเข้าปาก 

หลอดเดียวไม่พอ ขออีกจนพยาบาลบอกพอก่อนเนาะ

บางคนอาจจะรู้สึกเจ็บคอจากการใส่ท่อช่วยหายใจตอนผ่าตัด

แต่อีฟไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ รู้แต่หิวน้ำมาก

ซักพักมีอาหารมื้อเย็นมาเสิร์ฟ

อาหารที่ว่าคือ น้ำข้าว น้ำซุปใส น้ำตะไคร้ แล้วก็นม

พอเห็นก็ขอกินเลยค่ะ รู้สึกหิวมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต

แต่พยาบาลบอกว่า วันแรกยังไม่อยากให้กินอะไร

เพราะกระเพาะกับลำไส้ยังทำงานไม่ปกติ

แถมบอกว่า ไม่เคยเจอคนไข้ขอกินอาหารหลังผ่าตัดวันแรกเลย

ส่วนใหญ่กินอะไรไม่ลง

อีฟนี่กรีดร้องในใจว่า หนูหิวมากกกกค่ะพี่

สรุปก็อดไปนะคะ ดื่มได้แค่น้ำเปล่า ฮือออ


อาการข้างเคียงหลังผ่าตัดของอีฟคือ อาเจียนเลือดออกมาค่ะ

คือเกือบทุกรอบที่ดื่มน้ำ จะอาเจียนเป็นลิ่มเลือดออกมา

พยาบาลบอกว่าเป็นเลือดจากการผ่าตัดที่ไหลลงท้อง

อาเจียนอยู่ประมาณ 5-6 รอบได้ ถึงจะหมด

 ถามว่าเจ็บแผลหรือปวดไหม?

ไม่เจ็บเลยค่ะ มันชา เพราะตอนผ่าตัด เส้นประสาทจะได้รับการกระทบกระเทือน

แต่ละคนจะมีอาการชาต่างกัน แล้วแต่ว่าเส้นประสาท

ได้รับการกระทบกระเทือนขนาดไหน

ส่วนใหญ่ชาที่ปาก และคาง บางคนชาตั้งแต่ใต้ตาลงมาเลย

ของอีฟปากไม่ชา คางไม่ชา แต่ชาที่เหงือกค่ะ

พยาบาลจะคอยถามว่า ให้คะแนนความปวดเท่าไหร่ 0-10

0 คือไม่ปวดเลย 10 คือปวดมากที่สุด

จริงๆ ไม่ปวดหรอก แต่บอกไปว่า 2 กลัวเดี๋ยวเค้าไม่ให้ยา 

ซักพักพยาบาลมาเช็ดตัวเช็ดหน้าให้ ตอนนั้นแหละค่ะที่ความปวดมาเยือน

คือถ้าอยู่เฉยๆ มันไม่ปวดเลยนะ

แต่พอพยาบาลเอาผ้าชุบน้ำมาแตะโดนคางเท่านั้นแหละ

สะดุ้งเลยค่ะ มันปวดจี๊ดอะ 

โดยเฉพาะตรงมุมกรามที่หมอตัดกระดูกออกไป กับตรงคาง

อีฟเลยขอพยาบาลเช็ดหน้าเอง 

ปัญหาอีกอย่างที่เจอคือ พอตกกลางคืนจะมีอาการคัดจมูกค่ะ

ตอนแรกก็รูเดียว ซักพักคัดสองรู หายใจไม่ออก

ต้องบอกพยาบาล เค้าจะให้ยาหยอด

หยอดแล้วก็โล่ง นอนได้ หลับสบายในคืนแรก

วันที่ 2 นี่แหละที่เด็ด

ตื่นมาส่องกระจก หน้าบวมมากกกก 

ตามรูปเลยค่ะ ใครไม่รู้คงนึกว่าโดนรุมตื้บมา 555

แม่บอกเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ 

เป็นวันที่บวมสุดแล้วค่ะ หลังจากนี้จะเริ่มลดบวมลงเรื่อยๆ 

ผ้าสีม่วงๆ คือถุงใส่เจลประคบเย็น

หลังจากออกจากห้องผ่าตัด พยาบาลก็ใส่ให้เลยค่ะ

ประคบเย็นตลอดเวลา ที่โรงพยาบาลมีให้ยืม 1 คู่

ต้องซื้อมาเองอีก 1 คู่ เอาไว้เปลี่ยน

วันนี้ได้รับอนุญาตให้กินอาหารแล้ว ก็จัดเต็มเลยค่ะ 

ใช้ไซริงฉีดกินเอง เกลี้ยงทุกอย่าง

แต่หลังกินอาหารทุกครั้งต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาบ้วนปาก

ของโรงพยาบาลผสมน้ำ กับน้ำเกลือ Normal Saline 

เพื่อไม่ให้แผลสกปรกแล้วก็ติดเชื้อค่ะ


วันที่ 3 เริ่มบวมลดลงนิดหน่อย

ตกบ่ายหมอมาดูแผล เห็นว่าเลือดหยุดไหลแล้ว 

เลยให้ไปถอดสายเดรน

วิธีเอาออกทำยังไงน่ะเหรอ หึหึ 

หมอก็นับ 1..2.. แล้วดึงค่ะ ดึงแบบพรวดเดียวออก

เจ็บจี๊ดเบาๆ แต่พอทนได้ เอาออกแล้วก็โล่งสบายขึ้น

แต่ที่ยังอยู่คือ แผลที่มุมปากค่ะ

แผลนี้เกิดจากตอนผ่าตัด หมอต้องถ่างปาก แล้วคิดดูว่า 6 ชั่วโมง

มันก็ต้องมีฉีกกันบ้าง

สำหรับอีฟ แผลมุมปากเจ็บที่สุดแล้วในการผ่าตัดครั้งนี้

ถ้าไม่นับตอนฉีดยาก่อนผ่าตัด

อีฟเตรียมวาสลีน ยาไตรโนโลน มาไว้ทาแผลมุมปาก 

ตามคำแนะนำของผู้มีประสบการณ์ผ่าตัดมาก่อน

แต่ปรากฏว่า 3 วันแรกที่ทาไป แผลมันไม่ดีขึ้น

ยาที่ทาทำให้สภาพแผลเปียกเยิ้มตลอด แล้วพอเช็ดทำความสะอาด

แผลที่เหมือนกำลังจะตกสะเก็ดก็ลอกออก แสบสะท้านละครับ

บังเอิญคืนที่ 3 หายาไตรโนโลนไม่เจอ วาสลีนก็ไม่อยากทา มันเยิ้ม

เลยเอาลิป Medex ของ Blistex ที่พกติดตัวมาด้วย มาทา

ทาแล้วจะรู้สึกเย็นๆ ดี ทำให้ไม่แสบ

ปรากฏเช้ามา เหยยยยย แผลดูดีขึ้น ไม่เปียกเยิ้มเหมือนตอนแรก

วันที่ 4 หมอเข้ามาตรวจตอนเช้า ถามว่า อยากให้เลือดไหม

เพราะตอนผ่าตัดอีฟเสียเลือดมาก 

อาการตอนนี้คือ ให้ก็ได้ ไม่ให้ก็ได้ แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหว 

หมอจะให้เลือด

อิฉันก็ตอบไม่ต้องคิดเลยค่ะว่า ไหวค่ะหมอ

ไม่อยากได้เลือดคนอื่น อีกอย่างไม่ได้รู้สึกเพลียอะไรขนาดนั้น

สรุปหมอบอก ถ้าไหว หมอจะให้กลับบ้านได้ 

(จริงๆ หมอบอกกลับได้ตั้งแต่วันที่ 3 แล้วค่ะ แต่แม่อยากให้อยู่ต่อ

เพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรขึ้นมาตอนอยู่ไกลหมอ แม่กลัว)

สายๆ ก็ไปอาบน้ำ สระผมเป็นครั้งแรกหลังจากผ่าตัด

โล่งหัว สบายตัวมากกกก 

หน้ายังบวมอยู่ แต่ขนาดของปากลดลงอย่างเห็นได้ชัด

แฟนบอก หน้าเหมือนกบ 555

หลังจากนี้ก็ไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายก่อนออกจากโรงพยาบาลค่ะ

ค่าผ่าตัด + ค่าห้อง = 158,000 บาท มีเศษนิดหน่อย

ตัวเบาเลยล่ะฮะท่านผู้ชม


อ่านต่อ จิ้มที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ


พูดคุยสอบถามได้ที่เพจ https://www.facebook.com/abcdever












Create Date : 26 มิถุนายน 2558
Last Update : 10 มกราคม 2560 16:59:36 น.
Counter : 12419 Pageviews.

13 comments
  
สุดยอดเลยค่ะเดี๋ยวจะๆปติดต่อหมอดู ตอนนี้จักรอที่ชลบุรีกะว่าจะไม่ผ่าเพราะกลัว มาเจอเคสนี้ตัดสินจัยผ่าเลยค่ะ
โดย: จารุวรรณ IP: 115.87.228.251 วันที่: 1 กรกฎาคม 2558 เวลา:21:35:17 น.
  
ขอถามหน่อยค่ะ ตอนนี้ก้อเป็นเหมือนกัน ใส่สปริ้นท์มาจะ6เดือนแล้ว ยอมรับเลยว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก
แค่ทำสปริ้นท์รองฝันฐานล่าง ก็ปาเข้าไป 40,000 กว่า ยิ่งได้รู้ว่าค่าผ่าตัดเกือบ 300,000 ที่ต้องจ่ายให้โรงพยาบาลเงิบเลยค่ะ อยากถามว่า อยากถามว่าตอนที่ผ่าตัดพี่ผ่าตัดที่ไหนหรอคะ ของไหมหมอแนะนำให้เลือกโรงพยาบาลเอง หลั หลังจากการผ่าตัดใหม่ต้องดัดฟันอีกโดยค่าใช้จ่ายจะมีเพิ่มเติมอีกประมาณ 100,000 กว่าๆรวมเบ็ดเสร็จแล้ว 500,000 เลยค่ะ เครี เครียดมากเพราะค่าใช้จ่ายสูงจริงๆเห็นพี่สาวบอกว่าค่าผ่าตัดทั้งหมดประมาณ 200,000 บาทเลยอยากทราบว่าเป็นที่ไหนล่ะค่ะพอแนะนำได้หรือเปล่า Pj@jingro.com อันนี้เป็นอีเมลใหม่ค่ะจะรอฟังคำตอบนะคะ
โดย: พลอยไหม IP: 183.89.52.49 วันที่: 1 กรกฎาคม 2558 เวลา:23:05:36 น.
  
ค่าผ่าตัด + ค่าห้อง = 158,000 บาท มีเศษนิดหน่อยค่ะ
จัดฟัน+ผ่าตัดที่โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์
ม.มหิดลค่ะ
โดย: คริสต์มาสอีฟ วันที่: 2 กรกฎาคม 2558 เวลา:0:00:05 น.
  
รบกวนสอบถามหน่อย พี่ก็มีปัญหาเรื่องขากรรไกรเบี้ยวค่ะ เป็นมานานแล้ว ตอนเด็กๆทางบ้านก็ไม่ได้มีฐานะอะไรมาก และไม่ได้คิดว่าโตขึ้นจะมีปัญหามากขนาดนี้ จนมันเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ พอโตขึ้นพอจะทำงานมีเงินดูแลตัวเองได้ เคยไปปรึกษาหมอที่รพ.จุฬาฯ รอเข้าคิว แต่นานมากๆๆๆๆ ผ่านมาเกือบ 10 ปี ยังไม่ตามพี่เลย งงมาก พออยากจะผ่าก็ไม่มีเวลาเพราะทำงานเกี่ยวกับการใช้เสียงตลอดและก็กลัวมากด้วยค่ะ จนตอนนี้พี่อายุ 40 กว่าแล้ว มีปัญหาอาการเดียวกับน้องเลย เวลาอ้าปากจะมีเสียงกึกๆที่ขากรรไกร บางครั้งเป็นก็ปวดแบบปวดเส้นเอ็นตึงๆ แถมบางครั้งนอนกัดกระพุ้งแก้มตัวเองด้วย จากรูปที่เห็นพี่ว่าพี่เป็นเยอะกว่ามากๆเลย ทั้งยื่นและเบี้ยว พอเห็นน้องอีฟผ่ามาแล้วหน้าเปลี่ยนไปเลย สวยมากๆๆๆ เลยอยากไปปรึกษาหมออีกครั้ง ต้องเริ่มต้นยังไงดีคะ อยากลองไปปรึกษาที่มหิดลเหมือนกันค่ะ ต้องไปติดต่อที่ไหนก่อน ทำยังไงบ้างคะ ขอบคุณมากค่ะ
โดย: โอเล่ IP: 27.55.85.248 วันที่: 3 กรกฎาคม 2558 เวลา:2:57:48 น.
  
เข้าไปทีโรงพยาบาลทันตกรรมได้เลยค่ะ
แผนกจัดฟันจะอยู่ชั้น 4
ต้องไปติดต่อขอจองคืวก่อน แต่คิวค่อนข้างยาวนะคะ
ถ้าไม่สะดวกรอคิว ลองคุยกับหมอ ให้หมอแนะนำคลินิกที่ส่งผ่า
ที่มหิดลก็ได้ค่ะ
โดย: คริสต์มาสอีฟ วันที่: 3 กรกฎาคม 2558 เวลา:16:40:44 น.
  
ขอบบคุณมากๆ เลยจ้า ตอนนี้กำลังเลือก รพ.อยู่พอดี
ตอนนี้พลอยรักษากับคลินิก แถวๆ นนทบุรี (Dental-tmd) อ่ะจ้า
แล้วเขาบอกพลอยว่าค่าผ่าตัด 300,000 บาท
จัดฟันหลังผ่าอีก เกือบ 2 แสน ทั้งหมดก้อ 5 แสน
พลอยเลยต้องมาหาเช็ค ราคา และสถานที่ที่ผ่าตัดว่าที่ไหนดี อ่ะจ้า
โดย: พลอยไหม IP: 183.89.192.101 วันที่: 11 กรกฎาคม 2558 เวลา:23:06:56 น.
  
พี่อีฟคะ!จัดฟัน+กับผ่าตัดขากรรไกร คือห้ามถอนฟันหรอคะ?คือที่หนูจัดฟันมาหมอก็บอกว่าต้องผ่าตัดด้วย แต่หมอก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไร แค่บอกว่าจะถอนฟันออก เป็นเคี้ยว 2 ซี่อะค่ะ หนูย้ายที่อยู่เลยถอดเหล็กออก แล้วหนูจะผ่าตัดได้อีกปะคะ
โดย: ชมพูนุท ชุมสุข IP: 49.230.151.1 วันที่: 15 กรกฎาคม 2558 เวลา:21:26:54 น.
  
@พลอยไหม

ถ้าผ่าที่โรงพยาบาลของรัฐราคาจะถูกลงมากค่ะ
อีฟผ่าที่รพ.ทันตกรรมมหิดล ไม่ถึง 200,000 บาท ค่ะ
โดย: คริสต์มาสอีฟ วันที่: 17 กรกฎาคม 2558 เวลา:14:58:48 น.
  
@ชมพูนุท ชุมสุข

พี่ไม่สามารถให้คำตอบได้ค่ะ
แนะนำให้ไปหาคุณหมอที่จัดฟันร่วมกับการผ่าตัด
คุณหมอจะบอกได้ว่า ผ่าตัดได้หรือไม่ และต้องทำอะไรบ้าง
แล้วก็เวลาเจอหมอ อยากรู้อะไร ถามให้ละเอียดเลยค่ะ
โดย: คริสต์มาสอีฟ วันที่: 17 กรกฎาคม 2558 เวลา:15:54:10 น.
  
มีปัญหามีเสียงที่หูเวลาอ้าปากเหมือนกัน อยากไปปรึกษาหมอ เริ่มแรกทำอย่างไรบ้างคะ ไปคลีนิกจะจัดฟันหมอบอกไม่รู้ เหมือนไม่ใส่ใจ อยากไปปรึกษาที่โรงพยาบาลเลยได้ไหม แต่ก็อยากได้คิวเร็วๆ55
โดย: care IP: 223.206.141.23 วันที่: 30 กรกฎาคม 2558 เวลา:11:36:16 น.
  
ค่าผ่าตัดเราสามารถผ่อนจ่ายได้มั้ยอะค่ะ
โดย: may IP: 125.24.23.251 วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:15:48:23 น.
  
สวัสดีค่ะ มิ้ลประสบอุบัติเหตตั้งแต่เด็ก คือล้มหัวฟาดพื้น แล้วขากรรไกรเลยมีปัญหา มีอาการปวดเมื่อยหน้าหู โคนลิ้นแข็ง ทรมานกับความเมื่อยมากเลยค่ะ ปัจจุบันรักษาที่มหิดล แต่คุณหมอท่านนี้บอกไม่ต้องผ่า ให้ใส่แต่เฝือกสบฟัน คือ รู้สึกมันไม่หาย คุณหมอบอกรักษาได้แค่นี้ ทำไมของคุณอี๊ฟคุณหมอดูไปให้สุดทาง นี่ขนาด x-ray หมอก็ไม่ x-ray ให้ ต้องไปขอทำเอง พอได้ฟิล์มมา หมอก็ไม่ดูไม่วิเคราะห์อะไรให้เลย บอกทำได้แค่นี้ ทุกวันนี้ทรมานใจมากเลยค่ะ รู้สึกว่ามันน่าจะมีทางมากกว่านี้
โดย: มิ้ลค์ สุภชา IP: 1.46.33.178 วันที่: 12 กันยายน 2558 เวลา:14:41:39 น.
  
แวะมาทักทายจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite ร้อยไหม IPL Medisyst adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow Haijai.com สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรเพื่อสุขภาพ น้ำมันมะพร้าว ขิง ประโยชน์ของขิง ผู้หญิง สุขภาพผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการ ตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อคนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4713825 วันที่: 11 สิงหาคม 2561 เวลา:14:36:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คริสต์มาสอีฟ
Location :
อุดรธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]



***Welcome to my blog***

My name is Eve.
Here is my space used to share my makeup tutorials, reviews and much more.
Hope you enjoy :)

Facebook Page: https://www.facebook.com/abcdever
YouTube: abcd_eve
New Comments