รีวิวคอนโด วิสซ์ดอม อโศก - สุขุมวิท Rare Item ทำเลใจกลาง CBD อโศก
Company โครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit พัฒนาโครงการโดยบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองอย่าง แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด, ไอคอนสยาม, เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ และแบรนด์ Whizdom อย่าง วิสซ์ดอม 101 วิสซ์ดอม สเตชั่น รัชดา-ท่าพระ วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว โดยโครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit เป็นโครงการใหม่ของ MQDC และถือว่าเป็นโครงการ Brand Whizdom ที่ดีที่สุดเท่าที่ MQDC เคยพัฒนามาก็ว่าได้ครับ ทั้งเรื่องของทำเลที่อยู่ใจกลาง CBD อโศก งานออกแบบอาคาร ส่วนกลาง และวัสดุที่จัดมาเกรดพรีเมี่ยม โดยใช้สโลแกนว่า own the RARE เชิญชวนให้เรามาเป็นเจ้าของ ๆ หายากบนทำเลอโศกกันครับ Location ที่ตั้งโครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit จะอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับซอยสุขุมวิท 16 ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นสวนเบญจกิติ และอยู่ห่างจากแยกอโศก 450 เมตรเท่านั้น
ทำเลของโครงการนับว่าอยู่ใจกลางเมืองย่าน CBD อโศกเลยครับ ซึ่งมีพื้นที่อาคารสำนักงานช่วงใจกลางเมืองก็จะเกาะกลุ่มกันอยู่ในโซนสีลม, สาทร, เพลินจิต และอโศกไล่ไปจนถึงช่วงแยกพระราม 9 และ สุขุมวิทช่วงต้น ในทำเลนี้ยังมีอาคารสำนักงานน้อยใหญ่อีกมากมายครับ ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลใจกลางเมืองมีอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีการเดินทางที่สะดวกทั้งด้วยรถยนต์ส่วนตัว และรถไฟฟ้า เรื่องไลฟ์สไตล์ก็ครบเครื่องครับ ทั้งช้อปปิ้ง กินเที่ยวพักผ่อน ที่สำคัญคือมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ตรงข้ามโครงการ สวนเบญจกิติที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการนอกจากจะได้วิวที่สวยงามแล้ว ก็ยังที่พักผ่อนออกกำลังกาย ถือเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตของคนในทำเลนั้นด้วย การเดินทางด้วยรถยนต์ ทำเลของ Whizdom Asoke - Sukhumvit สามารถเดินทางไปย่าน CBD ได้ทั้งสีลม สาทร อโศก เพลินจิต ชิดลม ได้ ถือว่ามีการเดินทางที่สะดวกสบายเลยทีเดียว แต่ก็จะพบเจอกับการจราจรหนาแน่นในชั่วโมงเร่งด่วนซึ่งถือเป็นปกติของทำเลใจกลางเมืองอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีตัวเลือกเช่นการใช้รถไฟฟ้าเข้ามาอำนวยความสะดวกได้อีกครับ ส่วนทางด่วนที่ใกล้กับโครงการจะใกล้กับทางด่วนเฉลิมมหานครจุดขึ้นลงที่ด่านเก็บเงินสุขุมวิท และด่านเก็บเงินทางด่วนถนนพระราม 4
ถนนรัชดาภิเษกหน้าโครงการ จะมีการจราจรหนาแน่น แต่ก็เป็นปกติของถนนเส้นหลักใจกลางเมืองครับ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า จากโครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit เดินไปที่แยกอโศกก็จะเป็นอินเตอร์เชนจ์อโศก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และ MRT สถานีสุขุมวิท สามารถใช้เป็นตัวเลือกการเดินไปยังย่านต่าง ๆ ใจกลางเมืองได้อีกเช่นกัน และรถไฟฟ้า MRT ก็ยังไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า Airport Link ใช้เดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้อีกด้วย
BTS สถานีอโศก สิ่งอำนวยความสะดวก โครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit ถือว่าอยู่ในทำเลที่มีแหล่งไลฟ์สไตล์ครบเครื่องมาก ๆ เพราะอยู่ใกล้ทั้งศูนย์การค้าอย่าง Terminal 21 รวมถึงใกล้ย่านห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง EmDistrict ซึ่งรวมเอาห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ อย่างเอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์มาดึงดูดนักท่องเที่ยวสายช้อปกระเป๋าหนัก นอกจากนี้ตามแนวรถไฟฟ้า BTS ก็ยังสามารถเดินทางไปห้างสรรพสินค้าอย่าง Central Embassy, Siam Paragon, Central ชิดลม และCentral World ได้
EmQuartier
Emporium
Terminal 21
สวนเบญจกิติ Product โครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit เป็นคอนโดมิเนียม High-Rise สูง 39 ชั้น บนพื้นที่ 3-1-96 ไร่ มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 601 ยูนิต มีร้านค้าอีก 6 ร้าน และที่จอดรถทั้งหมด 85% (รวมที่จอดอัตโนมัติ) งานออกแบบโครงการใช้แนวคิด Design for all well Being โดยคำนึงถึง 3 เรื่องหลักได้แก่ - ENERGY & ECOLOGY ได้แก่การออกแบบพื้นที่สีเขียวเพื่อลดมลภาวะทางเสียง และมลภาวะทางอากาศ รวมถึงการออกแบบอาคารที่ป้องกันความร้อน และระบายอากาศได้ตามธรรมชาติ - HEALTH & WELLNESS การออกแบบเพื่อสุขภาพ การเลือกวัสดุที่ปลอดภัย ตั้งแต่การใช้สีแบบ Non-Toxic วัสดุในพื้นที่ประกอบอาหารได้มาตรฐานของ NSF การกำหนดค่ากันลื่นในพื้นทุกจุดของโครงการ เครื่องปรับอากาศทำความเย็นด้วยระบบน้ำหล่อเย็น ออกแบบระบบท่อน้ำต่าง ๆ ต่อท่อจากหลังสุขภัณฑ์ไปหลังผนังโดยตรง เพื่อให้แก้ไขบำรุงรักษาง่ายไม่ต้องรบกวนเพื่อนบ้าน - SENSES & HAPPINES ออกแบบตามสัดส่วน Human Dimension ให้เหมาะกับสัดส่วนของร่างกาย เช่น ขอบเตียง, ตู้เสื้อผ้า, ระเบียง และยังใช้แนวคิด Universal Design เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ก็จัดเต็มทีเดียวครับ เริ่มจากชั้นล่างจะเป็นส่วนของ Grand Lobby, Whizdom Private Residence Lounge, Backyard Garden, Medical Center และIntelligent Locker โดยส่วน Grand Lobby จะมีเพดานสูงโปร่งโล่งเป็นพิเศษ
ล็อบบี้ของโครงการออกแบบได้สวยเลยครับ พื้นและส่วนของผนังใช้หินอ่อน และกระจกแบบสูงเต็มบานได้ความโปร่งมาก ๆ
Whizdom Private Residence Lounge จัดไว้เป็นที่นับพบปะพูดคุยสำหรับเจ้าของห้อง ทำออกมาได้โอ่โถงดีครับ
ชั้นพักอาศัยของโครงการจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไปจนถึงชั้นที่ 34 ครับ ส่วนที่จอดรถของโครงการจะทำเป็นอาคารแยกต่างหากอยู่ด้านหลังอาคารพักอาศัยโดยจะเป็นอาคารสูง 12 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 4 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 85 % ของยูนิตทั้งหมด ส่วนกลางของอาคารจะจัดไว้ตามชั้นความสูงที่แตกต่างกันไปครับ โดยชั้นที่ 11 - 12 จะเป็นส่วน Co-Working Space with E-Library ,Private Pod, The Conference Room, Amphitheater, The Exclusive Business Lounge, Sunrise Garden และTheater ชั้นที่ 32 จะมี Garden Lounge, BBQ Deck ไว้พักผ่อนชมวิวจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ได้ ชั้นที่ 35 มี Infinity Edged Swimming Pool and Kid Pool, Jacuzzi และSauna Room ชั้นที่ 36 จะเป็นส่วนรับวิวเมืองขนานแท้ครับโดยมี Sky Lounge, Sky Fitness, Spa & Salon และJacuzzi ส่วนชั้นที่ 37-39 เป็นส่วนของ Ultra Penthouse
The Exclusive Business Lounge
Co-Working Space with E-Library
Sky Fitness
Infinity Edged Swimming Pool and Kid Pool
Sky Lounge จะสังเกตุว่าโครงการจัดส่วนกลางเอาไว้ที่ความสูงหลายระดับเลยครับ อย่างเช่นชั้นที่ 11-12 จัดเอาส่วนกลางเช่น Co-Working Space, Private Pod, ห้องประชุม ฯลฯ มาไว้ที่ระดับความสูงนี้เพื่อให้เพื่อให้เวลามองผ่านหน้าต่างกระจกไป เป็นส่วนรับวิวเมือง และสวนเบญจกิติ ส่วนชั้นที่ 35-36 จัดเอาฟิตเนส สระว่ายน้ำ มาไว้ที่ชั้นความสูงนี้เพื่อให้ได้วิวเมืองมุมสูงที่โปร่งโล่ง ดูสงบ และเป็นส่วนตัวมากขึ้น Product ยูนิตพักอาศัยของโครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit จะมีทั้งหมด 5 แบบหลัก ๆ ได้แก่ - 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 28-35 ตารางเมตร - 1 ห้องนอน สวีท พื้นที่ใช้สอย 48-68 ตารางเมตร - 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 64-70 ตารางเมตร - 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 70-116 ตารางเมตร - Duplex พื้นที่ใช้สอย110 ตารางเมตร - Ultra Penthouse พื้นที่ใช้สอย 240-290 ตารางเมตร ส่วนห้องตัวอย่างมีทั้งหมด 3 แบบได้แก่ ห้อง 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 28-35 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน สวีท พื้นที่ใช้สอย 48-68 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 64-70 ตารางเมตร เริ่มจากแบบ 1 ห้องนอน สวีท พื้นที่ใช้สอย 48.30 ตารางเมตรกันก่อน
ห้องนี้ออกแบบให้ห้องครัว และห้องนั่งเล่นอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกัน ทำให้เมื่อเราเดินเข้ามาในห้องก็จะสามารถมองผ่านห้องนั่งเล่นไปยังระเบียงเพื่อชมวิวได้เลย
พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างขวางดี สามารถวางโซฟาตัวใหญ่สำหรับนั่ง 2 คนได้สบาย ๆ ฝั่งตรงข้ามวางโทรทัศน์ ระยะรับชมสามารถใช้โทรทัศน์จอใหญ่ 50 นิ้วได้
มาอีกฝั่งของห้องจะเป็นห้องนอน พื้นที่วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ ฝั่งปลายเตียงมีพื้นที่เดินไปส่วนในสุดของห้องซึ่งจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนริมกระจกเข้ามุมได้สะดวก
ส่วนห้องน้ำจะวางโถสุขภัณฑ์ไว้ข้างผนังฝั่งประตูทางเข้า ถัดไปเป็นอ่างล้างมือ และด้านในสุดเป็นพื้นที่อาบน้ำ มาเริ่มจากห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35.54 ตารางเมตรกันครับ
ลักษณะ Unitplan ของห้องนี้จะเป็นเหมือนกับยูนิต 1 ห้องนอนที่เราคุ้นเคยกัน โดยจะวางส่วนชุดครัวไว้ติดกับประตูทางเข้า เพื่อสามารถจัดห้องนั่งเล่นไว้ติดระเบียงเพื่อเป็นส่วนรับวิว ห้องนอนจะมีผนังกั้นส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัว ตำแหน่งเตียงนอนอยู่ติดกับหน้าต่างห้อง ส่วนห้องน้ำจะเปิดใช้จากทางห้องนอน
เปิดประตูห้องเข้ามาทางซ้ายมือจะเป็นชุดครัวซึ่งโครงการแถมมากับห้องด้วย ชุดตู้ครัวที่โครงการจะมีความทนทานเป็นพิเศษทั้งรอยขีดข่วน และเปียกชื้น เลอะก็เช็ดทำความสะอาดง่าย ฝั่งขวามือเป็นตู้เย็นแบบบิ้ลท์อิน และถัดไปเป็นเคาน์เตอร์ซึ่งใช้เป็นโต๊ะทานอาหาร
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะใช้แบรนด์ KUPPERSBUSCH สำหรับห้องนี้จะได้เตาแบบ 2 หัว
ฮู้ดดูดควันก็ใช้ของ KUPPERSBUSCH เช่นกัน
ตู้วางพื้นผิวหน้าบานจะใช้วัสดุเดียวกันกับตู้ลอยครับ คือ ทนทานรอยขีดข่วน ทนชื้น ทำความสะอาดง่าย ส่วนเตาอบโครงการจะให้มากับห้องครับเป็นแบรนด์ KUPPERSBUSCH
อีกฝั่งจะมีที่วางของ และตู้เย็นแบบบิ้ลท์อินซ่อนอยู่ โดยใช้ตู้เย็นแบรนด์ Blanco ทำให้ห้องดูสวยเรียบเป็นระเบียบมากขึ้น
ถัดมาเป็นส่วนของโต๊ะทานอาหารสามารถจัดได้ 2 ที่นั่ง และด้านในสุดของห้องเป็นมุมห้องนั่งเล่น โดยสามารถวางโซฟาไซส์ใหญ่สำหรับนั่ง 2 คน ผนังอีกฝั่งบิ้ลท์ผนังโชว์ลวดลายหินอ่อนดูสวยทีเดียวครับ มุมนี้จะเห็นว่าประตูบานเลื่อนที่เปิดออกไประเบียงได้ไซส์ใหญ่พิเศษสูงเต็มบาน ทำให้ห้องดูโปร่ง รับวิวเมืองได้เต็มที่มากขึ้น
มาดูส่วนของห้องนอนกันครับ พื้นที่ห้องนอนฟังก์ชั่นหลัก ๆ เลยจะมีเตียงนอน ซึ่งสามารถใช้เตียงใหญ่ 6 ฟุตได้ ฝั่งปลายเตียงติดโทรทัศน์แขวนกับผนัง พื้นที่ปลายเตียงสามารถเดินเข้าออกได้สะดวก
ข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าผิวหน้าบานทนทานรอยขีดข่วน ความชื้น และคราบเลอะที่อาจเกิดจากมือเราได้ดีครับ ที่บานตู้มีกระจกเงาเป็นกระจกลามิเนตทนทานดี เวลาแตกจะไม่เป็นเสี่ยงบาดเท้า
ถัดจากตู้เสื้อผ้าไปจะเป็นห้องน้ำครับ ตำแหน่งของประตูห้องน้ำจะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าห้องนอนเลย เพื่อให้สามารถใช้งานจากทางห้องนั่งเล่นได้สะดวกเช่นกัน
เข้ามาในห้องน้ำตำแหน่งอ่างล้างมือจะตรงกับประตูทางเข้าห้องพอดี ๆ ที่ผนังติดกระจกเงาไว้เต็มพื้นที่ ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์ และด้านในสุดของห้องเป็นพื้นที่อาบน้ำ โดยจะติดฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัย
อ่างล้างมือจะเป็นแบบฝังลงในเคาน์เตอร์ รอบ ๆ อ่างมีพื้นที่ไว้วางของใช้ เช่น ขวดสบู่เหลวล้างมือ แก้วน้ำต่าง ๆ
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบ Washlet ใช้แบรนด์ TOTO จุดเด่นคือจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับเมื่อเราเดินเข้าห้องน้ำมาฝาโถจะเปิดให้ทันที พอนั่งบนที่รองก็จะอุ่นตัวเองให้อัตโนมัติ และจะทำการฝลัชน้ำในโถเบา ๆ 1 ครั้งเพื่อให้พร้อมใช้งาน พื้นที่อาบน้ำจะมีช่องวางของที่ผนัง ได้ชุดฝักบัว และ Rain Shower แบบในห้องตัวอย่างครับ มาต่อที่ห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 76.72 ตารางเมตร
ลักษณะ Unitplan ของห้องก็จะวางส่วนครัวไว้ติดกับประตูทางเข้าห้อง แต่จุดเด่นจะอยู่ที่ตำแหน่งห้องนั่งเล่น และห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะอยู่ติดหน้าต่างเพื่อให้รับวิวเมืองได้ทุกห้อง โดยห้องนอน Master จะมีลูกเล่นผนังกระจกโค้งเข้ามุมเพิ่มมุมมองที่กว้างขึ้น และมีห้องในในตัวแบบ Four Fixture
เปิดประตูห้องเข้ามาทางขวามือจะเป็นชุดครัวก่อนเลยครับ ตำแหน่งถือว่าดีเลย เวลากลับเข้าห้องถือข้าวของอะไรมาก็วางพักที่นี่ก่อนได้เลย
ชุดครัวของห้องนี้จะใหญ่กว่าแบบ 1 ห้องนอนครับ โดยจะได้ครัว L Shape วัสดุของครัวก็ใช้เกรดดีเช่นกัน โดยหน้าบานตู้จะเป็นวัสดุที่ทนทานรอยขีดข่วน ความชื้น และเช็ดทำความสะอาดง่าย
ตู้เย็นเป็นแบบบิ้ลท์อินของแบรนด์ Blanco เช่นกัน
เตาไฟฟ้าที่ให้เป็นของ KUPPERSBUSCH แต่จะได้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัว
ซิงค์ล้างจานของห้องนี้จะได้แบบ 2 หลุม
ตู้วางพื้นวัสดุหน้าบานก็จะใช้แบบเดียวกับตู้ลอยครับ ส่วนพื้นห้องจะเป็น Engineering Cork Wood
เตาอบจะได้แบรนด์ KUPPERSBUSCH เช่นกัน
ถัดจากครัวจะเป็นโต๊ะทานอาหาร มองจากมุมนี้ไปจะสามารถมองผ่านออกไปวิวด้านนอกได้เลย
โต๊ะทานอาหารของห้องนี้พื้นที่จะกว้างขึ้น จัดชุดเก้าอี้สำหรับนั่งได้ถึง 4 คน
ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ของส่วนนี้กว้างขวางดีเลยครับ วางโซฟาสำหรับนั่ง 2-3 คนได้เลย ระยะรับชมโทรทัศน์ก็มีค่อนข้างเยอะหาโทรทัศน์จอ 50 นิ้วมาวางได้เลย
ระเบียงของห้องนี้จะมีความพิเศษตรงที่เป็นระเบียง 2 ชั้นครับ สามารถเปิดออกไปเป็นที่นั่งพักผ่อนชมวิวแบบ Semi Outdoor ได้
ถัดจากห้องนั่งเล่นมาจะมีทางเดินไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และห้องน้ำใช้รวม
เริ่มจากห้องน้ำกันก่อนครับ ห้องน้ำนี้จะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน โดยตำแหน่งจะอยู่เยื้องกับห้องนอนที่ 2 ภายในห้องจะวางทุกอย่างให้ติดผนังเพื่อให้เกิดทางเดินที่กว้างขวาง
โถสุขภัณฑ์ของห้องนี้จะมีเป็น Washlet ของ Toto ครับ พื้นที่รอบ ๆ โถสุขภัณฑ์สามารถนั่ง และใช้งานได้สะดวก
พื้นที่อาบน้ำจะมีช่องชั้นวางของที่ผนังให้ครับ ฝักบัวที่ได้เป็นแบรนด์ Grohe
มาดูในห้องนอนที่ 2 กันก่อนครับ ห้องนี้เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับตู้เสื้อผ้าอยู่ทางขวามือก่อนครับ โดยตู้เสื้อผ้าวัสดุปิดบานตู้ก็จะเน้นทนทานรอยขีดข่วน คราบเลอะ ความชื้นเหมือนกัน มีกระจกเงาบานสูงติดที่หน้าบานให้ด้วย
พื้นที่ส่วนเตียงนอนให้มากว้างขวางดีครับ วางเตียงนอน 6 ฟุตได้ พื้นที่ส่วนปลายเตียงเหลือให้เดินเข้าออกได้สะดวก
ฝั่งปลายเตียงสามารถบิ้ลท์ตกแต่งผนังเพื่อทำที่แขวนโทรทัศน์ได้แบบในห้องตัวอย่างครับ
ออกจากห้องนอนที่ 2 เดินต่อไปยังห้องนอน Master ซึ่งอยู่ด้านในสุดของห้อง การวางตำแหน่งห้องลักษณะนี้จะช่วยให้ห้องนอน Master มีความสงบเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ห้องนอน Master ลักษณะของห้องจะมีพื้นที่ทางยาวค่อนข้างเยอะครับ ส่วนใช้สอยต่าง ๆ ในห้องจะวางเรียงกันโดยเริ่มจากเตียงนอนอยู่ใกล้กับหน้าต่างห้อง ถัดมาเป็นตู้เสื้อผ้า และส่วนสุดท้ายเป็นห้องน้ำครับ
กระจกของห้องนี้เป็นกระจกโค้งเข้ามุม ซึ่งจะได้ทำให้วิวที่กว้างมากกว่า ความสูงของผนังกระจกตรงนี้จะสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานเลย ทำให้ห้องดูสวยมาก
ถัดจากส่วนเตียงนอนมาเป็นตู้เสื้อ โดยตู้ที่โครงการให้จะเป็นตู้ 2 บานเปิด มีขนาดใหญ่สามารถใส่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายได้เยอะทีเดียวครับ
ถัดมาทางหน้าห้องน้ำ โครงการจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง โดยผนังส่วนนี้จะตกแต่งเป็นกระจกเงาครับทำให้สามารถใช้ส่องเวลาแต่งตัวได้เลย
เข้ามาในห้องน้ำจะมีอ่างล้างมือแบบ His & Her โดยอ่างจะเป็นแบบฝังลงเคาน์เตอร์ มีก๊อกน้ำร้อน-น้ำเย็นแยกให้
โถสุขภัณฑ์ และ Washlet จะใช้แบรนด์ TOTO ครับ โดยจะเป็นแบบฝังผนังทำให้ภาพของห้องน้ำดูสวยเรียบเป็นระเบียบมาก ๆ
อีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำ โดยจะมีกระจกกั้นแบ่งส่วนเปียก-แห้งไว้ให้
อ่างอาบน้ำจะใช้แบรนด์ TOTO
อีกฝั่งอีกฝั่งจะแยกส่วน Rain Shower เอาไว้ ไม่ต้องข้ามเข้าไปอาบน้ำในอ่างอย่างเดียวครับ ซึ่งก็ช่วยให้ใช้งานได้สะดวก และประหยัดน้ำด้วยครับ Price ห้องชุดของโครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit มีราคาเริ่มต้นที่ 8.4 ล้านบาท หรือเทียบเป็นตารางเมตรแล้วจะตกที่ 300,000 บาท ต่อตารางเมตรครับ Conclusion โครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit จาก MQDC นี้อย่างที่บอกว่าถือเป็นแบรนด์ Whizdom ที่ดีที่สุด และแพงที่สุดเท่าที่เคยมีมาครับ ตัวโครงการเองก็มีจุดเด่นหลาย ๆ เรื่อง - ที่ตั้งใจกลาง CBD อโศก รับวิวใจกลางเมืองได้กว้าง ๆ โดยมีให้เลือกทั้งวิวฝั่งสวนเบญจกิติ วิวฝั่งแยกอโศก วิวฝั่งสุขุมวิท - ความสะดวกสบายของทำเลถือว่าสมบูรณ์พร้อมมาก ๆ ถือเป็นที่อยู่อาศัยแนวสูงชั้นดีในเมืองได้เลย เพราะเชื่อมต่อทั้งชีวิตการทำงาน พักผ่อน ออกกำลัง กินเที่ยว ช้อปปิ้งได้ทั้งหมด - โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกจัดมาได้หลากหลายดีครับ แต่ละโซนก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปอย่างชั้น 11-12 จะเน้นรับวิวเมือง และสวนเบญจกิติ ส่วนที่ชั้น 35 -36 จะเป็นโซนที่รับวิวเมืองมุมสูงเห็น Top ของตึกต่าง ๆ - Unit plan จัดมาลงตัวดี การใช้สอยส่วนต่าง ๆ ของห้องทำได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นช่องทางเดินไปยังส่วนต่าง ๆ ระยะความสูงต่าง ๆ ถือว่าดีใช้งานสะดวก - สเปควัสดุต่าง ๆ เลือกเน้นวัสดุที่ทนทานเป็นพิเศษ เพื่อให้ดูแลรักษาได้ง่าย ทนคราบเลอะ ความชื้น ฯลฯ พื้นเป็น Engineering Cork Wood ที่ลดแรงกระแทกจากการเดินได้ดี ชุดครัวที่ให้เป็นของ KUPPERSBUSCH ตู้เย็นบิ้ลท์อินของ Blanco ที่ดูเรียบสวยไปกับห้อง สุขภัณฑ์ให้แบรนด์ TOTO ซึ่งถือเป็นแบรนด์ระดับโลกทั้งนั้นครับ สุดท้ายคงต้องฝากครับว่าโครงการนี้ถือเป็น RARE หายากแล้วครับ เพราะทำเลอโศกฝั่งหัน หน้าเข้าสวนเบญจกิตินี่เต็มแล้วนะครับ ถ้าใครอยากได้คอนโดมิเนียมใจกลาง CBD อย่ารอช้าครับ รีบไปที่สำนักงานของโครงการได้เลย FACTSHEET โครงการ Whizdom Asoke - Sukhumvit เจ้าของโครงการ - บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ที่ตั้งโครงการ - ถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามสวนเบญจกิตติ ประเภทโครงการ - คอนโดมิเนียมสูง 39 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่ - 3-1-96 ไร่ แบบห้อง - 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 28-35 ตารางเมตร - 1 ห้องนอน สวีท พื้นที่ใช้สอย 48-68 ตารางเมตร - 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 64-70 ตารางเมตร - 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 70-116 ตารางเมตร - Duplex พื้นที่ใช้สอย110 ตารางเมตร - Ultra Penthouse พื้นที่ใช้สอย 240-290 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Grand Lobby, Whizdom Private Residence Lounge, Backyard Garden, Medical Center และIntelligent Locker, Grand Lobby, Co-Working Space with E-Library ,Private Pod, The Conference Room, Amphitheater, The Exclusive Business Lounge, Sunrise Garden Theater Garden Lounge, BBQ Deck, Infinity Edged Swimming Pool and Kid Pool, Jacuzzi, Sauna Room, Sky Lounge, Sky Fitness, Spa & Salon และJacuzzi, Ultra Penthouse ราคาเริ่มต้น 8.4 ล้านบาท ติดต่อ 1265 เว็บไซต์ https://bit.ly/2PABPtZ
Create Date : 16 พฤศจิกายน 2561 |
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2561 16:03:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 456 Pageviews. |
|
|
|