แม้จะได้รับคำชมในเรื่องของหัวจิตหัวใจหลังตีเสมอ สเปน ได้ในนาทีสุดท้าย แต่โดยภาพรวม โปรตุเกส ยังมีปัญหากับเกมรับพอสมควรหลังเสียไปถึงสามประตู ส่วนเกมรุกยังไปหวังพึ่ง โรนัลโด้ มากเกินไป ทำให้เกมนี้ เฟอร์นานโด ซานโต๊ส น่าจะปรับทัพเล็กน้อย ด้วยการให้โอกาส อังเดร ซิลวา ลงสนามแทน กูเอเดส ส่วนตำแหน่งอื่นน่าจะคงเดิม

ความผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียว นำมาซึ่งการเสียประตู และไม่มีแม้แต่คะแนนเดียว ทำให้เกมนี้ แอร์กเว่ เรอนาร์ ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเก็บสามคะแนนให้ได้เช่นเดียวกัน เอ็มบาเร็ค บูสซูฟา และนอร์ดิน อัมราบัต คือสองหัวใจที่จะขับเคลื่อนเกมในแดนกลาง โดยมี ฮาคิม ซิเย็ค เป็นความหวังในการทำประตู และเล่นงานแนวรับแข้ง “ฝอยทอง”

โปรตุเกส : รุย ปาทริซิโอ (GK), เปเป้ , ราฟาเอล เกอร์เรโร่, โจเซ่ ฟอนเต้, เซดริก โซอาเร, เจา มูตินโญ่, แบร์นาร์โด ซิลวา, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, บรูโน่ เฟอร์นานเดส, อังเดร ซิลวา

โมร็อกโก : มูเนียร์ เอล คาจุย (GK), อาชรัฟ ฮาคิมี, เมห์ดี้ เบนาเตีย, โรเมียง ไซส์, ฮาคิม ซิเย็ค, คาริม เอล อาห์มาดี้, ยูเนส เบลฮานด้า, เอ็มบาเร็ค บูสซูฟา, นอร์ดิน อัมราบัต, อามีน ฮาริต, อายูบ เอล คาบี้

ความพ่ายแพ้ในเกมแรกต่อทีมที่ดูเหมือนจะอ่อนที่สุดในกลุ่มอย่าง อิหร่าน ทำให้ โมร็อกโก ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเหลือเกิน ยิ่งมาเจอกับ โปรตุเกส ที่นำโดยแนวรุกที่เพิ่งตะบันแฮตทริกมาอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เชื่อว่าเกมนี้ จะยังเป็น โปรตุเกส ที่อาศัยความแข็งแกร่งของนักเตะ และประสบการณ์ที่เหนือกว่าไล่ต้อน โมร็อกโก เพื่อการันตีพื้นที่การเข้ารอบได้ในที่สุด