ขอเอาใจคนชอบกินปู ด้วยการชวนมากิน “ปูทาราบะ” (Taraba King Crab) ซึ่งเป็น King Crab (ปูทะเลยักษ์) มีสามสายพันธุ์ สามารถจับได้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมกราคม พบในพื้นที่ต่างๆ ในแถบอลาสก้า สามสายพันธุ์ที่ว่าก็คือ Red King Crab , Blue King Crab และ Brown King Crab (Golden King Crab) แต่นิยมแค่สองสายพันธุ์ คือ Red King Crab (ทาราบะกานิ) และ Blue King Crab (อะบุระกานิ)

โดยที่ ทาราบะกานิ จะเป็นที่นิยมเป็นอันดับหนึ่งและรองลงมาคือ อะบุระกานิ สองสายพันธุ์นี้มีลักษณะภายนอกคล้ายกันมาก และราคาของทาราบะกานิจะแพงกว่าอะบุระกานิ สังเกตความแตกต่างของปูทาราบะที่ปลายขาปูทาราบะกานิ จะมีสีแดง ส่วน อะบุระกานิจะมี สีขาว ทางด้านรสชาติเนื้อปูนั้นถ้าสดมากๆ จะมีรสหวานกลมกล่อม ที่นิยมกันก็จะเป็นส่วนของขาปู

เกาะฮอกไกโด อีกหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อด้านอาหารของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอาหารทะเลอย่างปู เกาะแห่งนี้นับเป็นแหล่งส่งออกที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดใน ประเทศญี่ปุ่นก็ว่าได้ ทำให้รสชาติของปูที่ส่งออกมาจาก ฮอกไกโดจึงเป็นรสชาติที่ใครหลายคนควรลิ้มลอง

       และเนื่องจากต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ราคาที่เข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยจึงมีราคาค่อนข้างสูง และส่วนใหญ่ตามโรงแรมชั้นนำต่างๆจะนำปูทาราบะประกอบอาหาร ซึ่งสามารถสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าของอาหารระดับมาตราฐานโรงแรมได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ประเทศไทยนำเข้า โดยแพ็คแช่แข็งมาในสภาพที่ยังมีชีวิต สามารถเก็บในกล่องโดยที่ไม่ต้องแช่น้ำและอุณหภูมิที่ไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส สามารถคงสภาพปูทาราบะไว้ได้เป็นอาทิตย์

ในการกินปูทาราบะ จะกินให้อร่อยที่สุด ในช่วงฤดูหนาว โดยต้องเลือกดูที่น้ำหนักกำลังดี เนื้อปูต้องแน่นหนักเช็คได้ด้วยการกดมือลงตรงหน้าอกปูต้องไม่บุ๋มลงไป โดยน้ำหนักปูที่เหมาะสมที่จะนำมาปรุงอาหารคือขนาดน้ำหนัก 900 กรัมถึง 1,000 กรัม เนื่องจากขนาดกำลังดีซึ่งขนาดของปูทาราบะที่นำมาใช้ในโปรโมชั่นดังกล่าวมีทั้งไซส์ M และไซส์ L ราคาก็จะแตกต่างกันตามขนาด

ถ้าหากว่าใครอยากจะลิ้มรส “ปูทาราบะ” พากันมาได้ที่ห้องอาหารจีน ดิ เอมเพรส โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ ได้จัด “เทศกาลปูยักษ์ทาราบะ” ขึ้น โดยมีเมนูหลากหลาย ที่ทางเชฟสมจิตร เลิศฤทธิ์ เชฟใหญ่ของห้องอาหารจีนได้รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยที่ได้เลือกช่วงเวลานี้จัดทำโปรโมชั่นขึ้นว่า ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม เพราะช่วงฤดูหนาวปูทาราบะจะมีรสชาติหวานอร่อยมาก

และพิเศษสุดในปีนี้ที่ทางโรงแรมฯได้จัดโปรโมชั่น “ปูทาราบะ” เป็นปีแรก ซึ่งได้เลือกสรรบริษัทที่มีคุณภาพและสดใหม่ ส่งตรงจากเกาะฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ทางโรงแรมฯ จะคัดสรรบริษัทนำเข้าที่ได้มาตรฐานเรื่องคุณภาพ น้ำหนัก และความสดเป็นหัวใจสำคัญ ต้องเป็นปูที่ยังมีชีวิต

ซึ่งจะนำมาพักในพื้นที่ที่สะอาดและมีอุณหภูมิที่ ลบ18 องศา และไม่สั่งปูมาค้างไว้ทีละเยอะๆเพื่อให้คงคุณภาพความอร่อยของเนื้อปูไว้ รับประกันความสดสะอาดทุกจานที่เสิร์ฟให้แก่ลูกค้า และส่งผลให้ปูทาราบะมีสีแดงสดสวยงามน่ากิน เมื่อปรุงเสร็จแล้ว

และเนื่องจากเชฟสมจิตร มีความรู้ทางด้านการคัดสรรวัตถุดิบสดๆ เพื่อให้เหมาะสมในแต่ละช่วงฤดูการของวัตถุดิบนั้นๆ และมองเห็นว่าเนื้อปูทาราบะมีความเป็นเลิศอยู่แล้วในตัวเอง สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายสไตล์ สำหรับเมนูที่จัดทำโปรโมชั่นนั้นสามารถเลือกสรรได้เองว่าอยากให้ทำเป็นเมนูใด หรือ เมื่อนำมาผัดกับซอสต่างๆ ที่เป็นจุดเด่นและขายดีที่สุดของห้องอาหารจีน ดิเอมเพรส

โดยมีเมนูแนะนำ อาทิ ปูทาราบะผัดซอสจักรพรรดิ, ปูทาราบะผัดซอสฮ่องเต้, ปูทาราบะผัดซอสเอ็กซ์โอ, ปูทาราบะผัดซอสพริกไทยดำ, ปูทาราบะผัดซอสผงกระหรี่, ปูทาราบะผัดซอสพริกมะระดำ, ปูทาราบะผัดบะหมี่หรือก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่แกะเนื้อเรียบร้อยแล้ว และนำมาผัดกับวัตถุดิบต่างๆ หรือที่ยังไม่ได้แกะเนื้อออกทั้งหมด ราคาของแต่ละเมนูอยู่ที่ เมนูละ 800 บาท++

       ชวนกันมาอิ่มอร่อยกับเมนูปูทาราบะที่ชื่นชอบ ได้ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ตั้งแต่เดือน ต.ค. – ธ.ค. นี้ โทร. 0-2281-3088 ต่อ 147

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ