bloggang.com mainmenu search

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม
โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

มติชนรายวัน 21 กันยายน 2557




ปลาส้มทอด, ตำลาว

เสือร้องไห้, ลาบเป็ดใส่เลือดสดๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาคอีสานไม่ว่าจังหวัดไหนๆ อาหารอีสานก็แซ่บคักๆ รสชาติออริจินอลดั้งเดิมทั้งนั้น ขอพามาที่ภาคอีสานตอนล่าง ใน จ.บุรีรัมย์ มีร้านดังประจำจังหวัดที่แซ่บอีหลีเสียจนกระทั่งกลายเป็นร้านในดวงใจของผมไปแล้ว ชื่อว่า "ร้านสองพี่น้อง" 

ร้านสองพี่น้องอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 8 กิโลเมตร ไปทาง "ถนนบุรีรัมย์-ประโคนชัย" วิ่งผ่านสนามกีฬาของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปไม่กี่ กม. ร้านจะอยู่ในซอยข้างโรงพยาบาลค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกทางซ้ายมือ "จุดสังเกตปากซอยมีหุ่นไดโนเสาร์" เลยเรียกกันว่าซอยไดโนเสาร์

คุณป้าประครองศรี ศรีวสุทธิ์ เป็นคนสว่างแดนดิน จ.สกลนคร ติดตามสามีมาอยู่ที่ค่ายทหาร ไปๆ มาๆ เลยเปิดร้านสองพี่น้องซะเลยเมื่อ พ.ศ.2540 ชื่อนี้มีที่มาจากที่ว่าคุณป้ามีลูกสาว 2 คนพี่น้อง เลยนำมาตั้งชื่อ กลายเป็นลูกๆ นำโชคไปแล้ว

ร้านสองพี่น้องเป็นเรือนโถงโล่งชั้นเดียวขนาดใหญ่มีหลังคาคลุม นับเป็นร้านดังประจำจังหวัดที่ใครๆ ก็รู้จัก รวมไปถึงซุปตาร์ที่มาเยือนบุรีรัมย์ก็ต้องแวะมาแซ่บกันที่นี่อยู่ตลอด

อยากกินอะไรให้ทำเครื่องหมายในเมนูแผ่นกระดาษขนาด A4 ใครอยากลองอาหารอีสานแท้ๆ สดๆ มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง มีเมนูพื้นบ้าน อย่าง "วัวน้อยนอนตม ซกเล็ก" และ "ซอยแซ่" ที่นำเนื้อซอยเป็นชิ้นๆ แช่น้ำดีกับขี้เพี้ยจนกรอบๆ แล้วปรุงสดๆ 

ส่วนพวกเราสั่ง "ลาบเป็ดใส่เลือด" สดๆ หวานๆ

 ใช้เนื้อหน้าอกเป็ดตัวใหญ่ (2-3 กิโล) เนื้อจึงจะแน่น เอามารวนพอสุก สับให้ละเอียด ส่วนเครื่องในกึ๋น ตับและหนังเป็ด นำมาต้มจนเปื่อย และเอาไปรวนกับกระเทียมและน้ำมันพืช แล้วนำมาปรุงกับลาบเป็ดจึงมีความหอมมัน โรยหน้าด้วยหอมเจียว นี่คือ "ลาบเป็ด" ปกติ ซึ่งถ้าใส่เลือดจะปรุงให้เข้มขึ้น ใส่เลือดแล้วรสจะแซ่บกำลังดี 

อีกอย่างที่กินกันสดๆ คือ "ก้อยขม" คือก้อยเนื้อดิบใส่ผ้าขี้ริ้วและปรุงด้วยขี้เพี้ยกับน้ำดีให้มีรสขมนิดๆ ปรุงด้วยใบมะกรูดซอย หอมแดง กระเทียม สะระแหน่ ต้นหอม ข้าวคั่ว พริก แซ่บอีหลีที่สุด ใครไม่กล้าลองก็ให้สั่ง "ก้อยคั่ว" จนสุกนะจ๊ะ

เมนูต้มๆ แซ่บๆ มีมากมาย 10 กว่าอย่าง ต้องลอง "ต้มเป็ด" ที่เนื้อเป็ดสับละเอียดและนุ่มมาก รสชาติเป็นต้มแซ่บเปรี้ยวเค็มหวาน ต้มเป็ดจะใช้เป็ดตัวเล็ก 5-8 ขีด เนื้อจึงจะไม่เหนียว

ถ้ากินเนื้อให้สั่ง "ต้มเนื้อเปื่อย" ใช้เนื้อดีส่วน 3 ชั้นจากเจ้าประจำ เอ็นแก้ว และขอบกระด้ง เปื่อยแซ่บสะใจ ที่จะนำเนื้อมาต้มน้ำร้อนหม้อใหญ่ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดและเกลือเสียก่อน จากนั้นจึงนำไปต้มแซ่บอีกที ต้มนานๆ จนเปื่อย

และมีแกงอีสาน "อ่อมเพลี้ย" ใส่เนื้อเปื่อย ม้าม เอ็น ไส้มัดเป็นขอดๆ ที่กรอบและอ่อนมาก ปรุงใส่ขี้เพี้ยและผักชีลาวกับผักอื่นๆ สารพัด ไส้มัดขอดนี้ต้องน้ำมาล้างรีดให้สะอาด มัดเป็นขอดๆ แล้วต้มทีนึง จากนั้นนำมาตัดเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปปรุงในแกงอ่อม

 




พวกส้มตำก็ยอดเยี่ยมเอามากๆ "ตำลาว" ใส่มะเขือสีดา ปลาร้าและเปลือกมะนาวฝานหอมนัวแซ่บ ตำปูปลาร้า ตำถั่วฝักยาวก็เด็ดทั้งนั้น ปลาร้าเจ้านี้ทำจากปลาหลายอย่างทั้งกระดี่ ตะเพียน ปลาหมอ นำมาต้มใหม่ปรุงจนรสได้ที่

"ปลาส้มทอด" จากอุบลฯก็ห้ามพลาด เนื้อเป็นก้อนๆ ไม่ซุยๆ เปรี้ยวกำลังดี ทอดมาทั้งตัว ส่วนของไม่เผ็ดให้สั่ง "หมูแดดเดียว" รสอมหวานนิดหน่อย "เสือร้องไห้ย่าง" ที่หมักตอนเช้า ย่างตอนเที่ยง นุ่มชุ่มฉ่ำหอมอร่อยจนต้องสั่งเพิ่มเป็น 4 จาน

ป้าบอกว่าถ้าวันไหนเนื้อเหนียวจะหมักให้นุ่มด้วยน้ำสับปะรด "ไส้เป็ดทอด" เล็กๆ เส้นยาวเหยียดทอดจนกรอบ ควรสั่งมากินคู่กับส้มตำ ทำจากไส้เป็ดผสมไส้ไก่ เอามาลวกน้ำร้อน แล้วต้มด้วยเกลือ พริกไทย ผงปรุงรส นำไปตากแดดจนแห้ง จึงจะนำไปทอด ได้ไส้ที่กรอบฟูถึงใจ

เชิญมาแซ่บที่ร้านสองพี่น้องได้ทุกวัน ตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงทุ่มครึ่ง หยุดทุกวันเสาร์ที่ 3 ของเดือนนะจ๊ะ 

ขอทิ้งท้ายว่ามาบุรีรัมย์ครั้งนี้ทำเอาติดใจเป็นอันมาก โรงแรมที่พักก็แสนจะสบายใหม่เอี่ยมชื่อ "ธาดาชาโตว์" แถมข้างหน้าโรงแรมมี "ร้านกาแฟ Cafe de Bu" ซึ่งมีเชฟไทยกลับมาจากออสเตรเลีย ทำ "สปาเกตตีโบโลเนสซอสเนื้อ" ได้อร่อย จนนึกว่าอยู่ร้านอิตาเลียนแท้ๆ 

เชิญบินไปลงบุรีรัมย์ นอนค้าง 1 คืน รับรองอิ่มอร่อยครบเครื่องทั้งอีสานและอิตาเลียนแน่นอน

ข้อมูลร้าน

สองพี่น้อง

โดย คุณป้าประครองศรี ศรีวสุทธิ์

ที่ตั้ง 142 ซอยไดโนเสาร์ ข้างโรงพยาบาลค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก

ถนนบุรีรัมย์-ประโคนชัย หมู่ 19 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000

โทร.08-1264-4862, 08-6258-8850, 0-4463-7175

เปิดบริการ 07.00-19.30 น. ทุกวัน

หยุด เสาร์ที่ 3 ของเดือน

แนะนำ ลาบเป็ดใส่เลือด ลาบเป็ดปกติ ก้อยขม ก้อยคั่ว ต้มเป็ด ต้มเนื้อเปื่อย อ่อมเพลี้ย ตำลาว ตำปูปลาร้า ตำถั่วฝักยาว ปลาส้มทอด หมูแดดเดียว เสือร้องไห้ย่าง ไส้เป็ดทอด

 


 

ขอบคุณ มติชนออนไลน์

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม
หม่อมปิ่นโตเถาเล็ก

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ

Create Date :22 กันยายน 2557 Last Update :22 กันยายน 2557 10:35:04 น. Counter : 2213 Pageviews. Comments :0