“ย่ากับหลานที่อาศัยอยู่ด้วยกันมานานด้วยความผูกพัน จนกระทั้งวันหนึ่งย่าเกิดได้รับอุบัติเหตุที่ดวงตาและไม่สามารถรักษาได้ ทำให้ดวงตาพร่ามัวจนมองไม่เห็น ด้วยความรักหลานมากย่าจึงเกิดน้อยใจในตัวเองที่ไม่สามารถดูแลหลานได้ดีอีกต่อไป ย่าจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย”

หนังสั้นเรื่อง “แสงสว่างในความมืด” ที่ถูกสร้างสรรค์โดยฝีมือของ ทีม XUNECON        

คว้ารางวัลชนะเลิศ จากโครงการประกวดหนังสั้น สร้างสรรค์สังคม ส่งเสริมภาพลักษณ์ ของศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ประจำปี 2556

 

       ส่วนหนึ่งของนวนิยายเรื่อง “ย่าและน้าสาวของฉัน” ที่เขียนขึ้นโดยคุณขจรฤทธิ์ รักษา ถูกนำมาใช้เป็นโครงเรื่องของหนังสั้นเรื่อง “แสงสว่างในความมืด” ที่ถูกสร้างสรรค์โดยฝีมือของ ทีม XUNECON ได้แก่ “เอิร์ท” นายสิทธินันท์ บุญเล็ก , “ดาว” นางสาวจิตตฤทัย บุญยะประสพ , นางสาวพัชรี ศักดิ์ศรีพรชัย นางสาวอารีนา อารยะกุล นางสาวปรมาพรรณ รวยสำราญ และนายเอกสิทธิ์ ธาตุปัญญา นักศึกษาทุนเพชรพระจอมเกล้าด้านศิลปวัฒนธรรม และ นักศึกษาจากภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

ผู้สร้างสรรค์ผลงานหนังสั้นเรื่องนี้จนสามารถเอาชนะใจคณะกรรมการคว้ารางวัลชนะเลิศ โครงการประกวดหนังสั้น สร้างสรรค์สังคม ส่งเสริมภาพลักษณ์ ของศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ประจำปี 2556รับโล่และเกียรติบัตรพร้อมทุนการศึกษา 50,000 บาท

 

       "ด้วยเรื่องของของครอบครัวหนึ่งมีย่า น้าสาว และหลานชายกำพร้าพ่อแม่ 2 คน ในทุกๆ วันย่าจะหุงหาอาหารให้ลูกหลานกินทุกวันจนกระทั่งวันหนึ่งสะเก็ดไฟจากเตากระเด็นเข้าตาย่า ทำให้ดวงตาพร่ามัว ย่าจึงแอบไปซื้อยาหยอดตามาใช้เองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่นับวันดวงตาของย่ายิ่งมองเห็นไม่ชัดจนกระทั่งลูกหลานรู้เข้าและพาย่าไปพบแพทย์ จึงได้รู้ความจริงว่ากระจกตาของย่าได้รับความเสียหายทั้งจากสะเก็ดไฟ และการใช้ยาหยอดตาโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ และอาการนี้สามารถรักษาได้ด้วยการเปลี่ยนกระจกตา”
       “เอิร์ท” ผู้รับหน้าที่เป็นผู้กำกับหนังสั้นเรื่องนี้ เล่าว่า โครงเรื่องย่าและน้าสาวของฉัน ในแบบฉบับของทีม XUNECON นั้นได้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นเรื่องที่สื่อสารออกมาในมุมมองด้านบวก รณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของดวงตา และชักชวนให้ร่วมบริจาคดวงตา

ช่วงเวลาการถ่ายทำหนังสั้น        
       

นอกจากนี้ บทสรุปหนังของพวกเค้าไม่เศร้าเหมือนในนวนิยาย เพราะในตอนจบทั้งน้าสาวและหลานชายทั้ง 2 ได้ให้สัญญากับย่าว่าจะไปบริจาคดวงตา ส่วนย่าก็อยู่รอรับการเปลี่ยนกระจกตากับทุกคนในครอบครัวอย่างมีความสุข หากพูดถึงเรื่องการทำงาน เอิร์ท บอกว่าได้ผ่านการทำหนังสั้นมาหลายเรื่องแต่ทุกครั้งที่ทำก็มักจะเจอข้อผิดพลาดที่ต้องนำไปปรับปรุงในครั้งต่อไปเสมอๆ
       
       “ดาว” สมาชิกภายในทีมอีกหนึ่งคนที่รักการทำหนัง เอ่ยทิ้งท้าย หนังสั้นเรื่องนี้ต้องสื่อประชาสัมพันธ์ที่ทำให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริจาคดวงตาต้องการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลความเชื่อ ค่านิยม ทัศนคติในการบริจาคดวงตาต่อไปในอนาคต และเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคกระจกตาพิการที่รอรับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาใช้เวลาการรอการรักษาดวงตาให้น้อยลงเนื่องจากมีผู้บริจาคดวงตามากขึ้น

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ