bloggang.com mainmenu search






"กระต่าย หูยาว ตาแป๋วแหวว"





กระต่าย จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในวงศ์ Leporidae มีลำตัวขนาดเล็ก ขนปุย หูยาว พบในหลายแห่งของโลก มีสัตว์ 7 สกุลจัดอยู่ในวงศ์ของกระต่าย ที่พบอาศัยตามป่าทั่วไป

ในประเทศไทยมีชนิดเดียว คือ กระต่ายป่า (Lepus peguensis) ซึ่งมีขนสีน้ำตาล ใต้หางสีขาว ขุดดินเป็นโพรงอาศัย ส่วนที่นำมาเลี้ยงตามบ้าน มีหลายชนิดและหลายสี แต่ที่พบมากจะเป็นสีอ่อนเช่นสีขาว เช่น ชนิด Oryctolagus cuniculus


พันธุ์ของกระต่าย

กระต่ายมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ โดยสามารถใช้ขนาดเป็นเกณฑ์ในการจำแนก ได้แก่ กระต่ายแคระ กระต่ายขนาดเล็ก กระต่ายขนาดกลาง และกระต่ายขนาดใหญ่

กระต่ายแคระ เช่น เนเธอร์แลนด์ดวอฟ โปลิช ดวอฟโอโท เป็นต้น
กระต่ายขนาดเล็ก ได้แก่ ฮอลแลนด์ลอป อเมริกันฟัซซี่ลอป มินิเร็กซ์ ดัทช์ เป็นต้น
กระต่ายขนาดกลาง เช่น ซาติน แคลิฟอร์เนียน นิวซีแลนด์ไวท์ เป็นต้น
กระต่ายขนาดใหญ่ ได้แก่ เฟลมมิชไจแอนท์ เฟร้นช์ลอป อิงลิชลอป เชคเกิร์ตไจแอนท์ เป็นต้น

กระต่ายจัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประเภทสัตว์เลือดอุ่น ในอันดับ Lagomorpha เดิมจัดกระต่ายไว้เป็นสัตว์ฟันแทะในอันดับ Rodentia ร่วมกับพวกหนูและกระรอก แต่เมื่อพบว่ากระต่ายมีลักษณะหลายอย่างเป็นของตนเอง ที่แตกต่างจากพวกหนูและกระรอกมาก

โดยเฉพาะกระต่ายจะมีฟันตัดสองคู่ทางด้านหน้าของขากรรไกรบนคู่ที่สอง มีลักษณะเป็นปุ่มเล็กซุกอยู่ภายในคู่หน้า ในขณะที่หนูและกระรอกมีฟันตัด เพียงคู่เดียว กระต่ายถือกำเนิดในโลกมาเมื่อประมาณ 50 ล้านปีมาแล้ว ในบริเวณทวีเอเชียและอเมริกาเหนือ

ทั่วโลกมีจำนวนชนิดของกระต่ายรวม 58 ชนิด ในจำนวนนี้ 44 ชนิด จัดอยู่ในวงศ์กระต่ายธรรมดา (Leporidae) และอีก 14 ชนิด อยู่ในวงศ์กระต่ายหูสั้น (Ochotonidae)

กระต่ายวงศ์แรกมีขาหลังที่ยาว ทำให้วิ่งได้รวดเร็ว ใบหูยาวและหมุนไปมาได้ และมีหางสั้น ขนฟูเป็นกระจุก ส่วนกระต่ายหูสั้นมีขาทั้งคู่หน้า และคู่หลังสั้นพอๆ กัน ใบหูสั้นเป็นมนกลม และไม่มีหางให้เห็นภายนอก

ในวงศ์กระต่ายธรรมดา ยังแบ่งออกได้เป็นกระต่ายเลี้ยง (rabbit) และกระต่ายป่า (hare) ซึ่งมีความแตกต่างกันมากในลักษณะของ กระโหลก ศีรษะ กระต่ายเลี้ยงออกลูกในโพรงใต้ดิน ไม่มีขน และไม่ลืมตาจนกว่าจะมีอายุได้ 10 วัน

ส่วนกระต่ายป่าออกลูกบนพื้นดินในพงหญ้ารก ลูกที่ออกมามีขนปกคลุมตัว และตาเปิดตั้งแต่วันแรกเกิด นอกจากนี้ กระต่ายป่ามีนิสัยชอบวิ่งหนีศัตรูมากกว่าจะซุกซ่อนในโพรงดังเช่นกระต่ายเลี้ยง ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ และกระต่ายป่าชอบอยู่โดดเดี่ยว

ในขณะที่กระต่ายเลี้ยงชอบอยู่เป็นฝูง กระต่ายเลี้ยง (European rabbit) มีเพียงชนิดเดียว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Orytolagus cuniculus มีถิ่นกำเนิดในคาบสมุทร ไอบีเรียและแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ

ต่อมามีการนำไปเลี้ยงทั่วโลก สำหรับกระต่ายป่านั้น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lepus peguensis มีเขตแพร่กระจายในประเทศพม่า ไทย อินโดจีน และเกาะไหหลำ

พบอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้า และบริเวณป่าดั้งเดิมที่สภาพถูกทำลายทั่วประเทศ ลงไปทางทิศใต้ จนถึงบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กับจังหวัดชุมพร

กระต่ายอาศัยอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมหลายแบบ ตั้งแต่บริเวณเขตหิมะในแถบอาร์กติก จนถึงทะเลทรายและป่าในเขตร้อน อาหารได้แก่ หญ้าและพืชล้มลุก รากไม้ เปลือกไม้ยืนต้น และไม้พุ่ม

กระต่ายมีนิสัยกินมูลของตัวเอง โดยในเวลากลางวันจะถ่ายออกมาเป็นมูลแข็งและ ในเวลากลางคืนจะถ่ายมูลอ่อนที่มีวุ้นเคลือบ ซึ่งกระต่ายจะกินในเวลาเช้า เชื้อบักเตรีในมูลอ่อนเมื่อมาถูกกับอากาศจะสร้างวิตามินบางชนิดขึ้น

วิตามินนี้จำเป็นมากต่อสุขภาพของกระต่าย หากไม่ได้กินมูลอ่อนกระต่ายจะตายภายในเวลา 3 วัน กระต่ายเลี้ยงในทวีปยุโรปภาคเหนือผสมพันธุ์ในเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนสิงหาคม หรือเดือนกันยายน

ผสมพันธุ์โดยการปฏิสนธิภายใน ออกลูกได้ 3-5 ครอก ครอกละ 5-6 ตัว สำหรับกระต่ายป่าในซีกโลกภาคเหนือ ออกลูก 2-4 ครอก ครอกละ 1-9 ตัว ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน

แต่ในเขตร้อนกระต่ายป่าผสมพันธุ์ได้ตลอดปี ในธรรมชาติปกติกระต่ายมีอายุประมาณ 10 ปี


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ ปรีดิ์มนัสสวัสดิ์สิริ
Create Date :20 พฤษภาคม 2553 Last Update :31 กรกฎาคม 2553 16:19:13 น. Counter : Pageviews. Comments :0