bloggang.com mainmenu search

 

 

ทะเลทรายอะทาคามาที่แห้งแล้งและอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 5,000 เมตร บางจุดไม่มีฝนตกมาเป็นเวลาร้อยๆ ปี (เครดิตภาพประกอบทั้งหมด Clara Moskowitz/SPACE.com)

 

       เมืองไทยที่แสนร้อน อาจร้อนไม่เท่าทะเลทรายแห่งนี้ที่บางแห่งไร้ฝนตกมาเป็นร้อยๆ ปี จนภูมิประเทศดูคล้ายดาวอังคารมากกว่าบนโลก แต่ก็เป็นที่ตั้งของกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดใหญ่
       
       “ริมฝีปากของฉันแห้งผากและผิวฉันก็แห้งและแตกเป็นขลุย ระหว่างที่ฉันยืนอยู่ท่ามกลางทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดในโลก ถึงกระนั้นสภาพอากาศก็สงบนิ่งอย่างอัศจรรย์ยิ่ง ด้วยสายลมเอื่อยๆ ขาดความชุ่มชื้นที่พัดมาเป็นระยะๆ” คลารา มอสโกวิทซ์ (Clara Moskowitz) นักเขียนอาวุโสของไลฟ์ไซน์ เขียนเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เยือนทะเลทรายอะคาคามา (Atacama Desert) ในชิลี 
       
       เธอไปเยือนทะเลทรายดังกล่าวเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมการเปิดตัวกล้องโทรทรรศน์วิทยุอัลมา (ALMA telescope) ซึ่งมีชื่อเต็มว่า อะทาคามาลาร์จมิลลิมิเตอร์/ซับมิลลิมิเตอร์อะเรย์ (Atacama Large Millimeter/submillimeter Array) และเป็นกล้องโทรทรรสน์ที่เกิดจากความร่วมมือระดับนานาชาติของชาติในยุโรป อเมริกาเหนือและเอเชียตะวันออกกับประเทศชิลี
       
       กล้องโทรทรรศน์ดังกล่าวมีเสารับสัญญาณเรียงกัน 66 แห่งบนพื้นที่ทะเลทรายที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 5,000 เมตร ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงยาโนเดชาฮ์นันตอร์ (Llano de Chajnantor) หรือชาฮ์นันตอร์พลาโต (Chajnantor Plateau) ซึ่งมอสโกวิทซ์ ไม่แน่ใจว่าอะไรทำให้เธอรู้สึกระทึกมากกว่ากัน ระหว่างหอดูดาวที่น่าตื่นตาหรือสิ่งแวดล้อมที่เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่ง
       
       มอสโกวิทซ์บรรยายว่าทะเลทรายอะตาคามานั้นแห้งแล้งมาก บางพื้นที่นั้นไม่ได้รับน้ำฝนมาเป็นร้อยๆ ปี บางจุดเป็นสีส้มและสีแดงชวนให้ถึงภูมิประเทศบนดาวอังคารมากกว่าบนโลก แต่บางพื้นที่ก็ได้รับน้ำฝนมากพอที่จะเกื้อหนุนไม้พุ่มเตี้ยๆ และพืชจำพวกตะบองเพชร
       
       “ณ เส้นขอบฟ้า เห็นภูเขาไฟที่ตั้งชันและเทือกเขาแอนดีส (Andes) ที่ปกคลุมด้วยหิมะตั้งตระหง่าน ภูเขาไฟหลายลูกยังคงปละทุและปล่อยควันออกจากปลายยอด ผลพลอยได้จากภูเขาไฟเหล่านี้คือเกลือที่ตกเกลื่อนกราดไปทั่วทะเลทราย ทำให้พื้นดินบริเวณกว้างถูกปกคลุมด้วยประกายสีขาว ด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้รวมกันทำให้ภูมิทัศน์เหล่านี้ไม่เหมือนสถานที่ใดๆ ที่ฉันเคยเห็นมาก่อน” มอสโกวิทซ์ถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้พบเห็น
       
       รายงานของมอสโกวิทซ์ยังอ้างคำอธิบายจากนักวิทยาศาสตร์ว่า หอดูดาวบนทะเลทรายแห่งนี้เป็นหอดูดาวที่ซับซ้อนและเป็นดครงการที่ต้องใช้ความพยายามอย่างยากยิ่งกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ เสารับสัญญาณแต่ละตัวนั้นเป็นจานรับสัญญาณวิทยุกว้าง 12 เมตร ซึ่งพื้นผิวของจานรับสัญญาณต้องราบเรียบและไม่ขรุขระเกิน 25 ไมครอนหรือความหนาประมาณเส้นผมมนุษย์
       
       ภาพที่ได้จากเสารับสัญญาณทั้งหมดของกล้องอัลมาจะสร้างภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ที่ให้รายละเอียดเทียบเท่ากล้องโทรทรรศน์ 1 ตัวที่มีอุปกรณ์รับแสงกว้าง 16 กิโลเมตร ซึ่งโครงการสรา้งกล้องดทรทรรศน์นี้ใช้เวลาวางแผน 30 ปี และก่อสร้างอีก 10 ปี

บางแห่งยังพอได้รับน้ำฝนให้พืชได้เจริญเติบโตบ้าง        

แล้งจัดขาดความชื้นจนเหมาะแก่การตั้งกล้องโทรทรรศน์ ที่มีระบบอันซับซ้อนและต้องใช้ความพยายามในการก่อสร้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างกล้องโทรทรรศน์วิทยุอัลมา        

กล้องโทรทรรศน์วิทยุนี้มีเสารับสัญญารวิทยุกว่า 66 เสา เป็นจานรับสัญญาณที่กว้างถึง 12 เมตร        

ผิวจานต้องรายเรียบและคลาดเคลื่อนได้ไม่เกิน 25 ไมครอน        

       

       

ฐานปฏิบัติการที่อยู่ต่ำลงไปจากที่ตั้งหอดูดาว


ขอบคุณ
ผู้จัดการออนไลน์
คุณ Clara Moskowitz/SPACE.com

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ

Create Date :17 เมษายน 2556 Last Update :17 เมษายน 2556 9:35:10 น. Counter : 983 Pageviews. Comments :0