bloggang.com mainmenu search







ฉากแท่นบูชาเบรรา หรือ พระแม่มารีเบรรา หรือ พระแม่มารีและพระบุตรกับนักบุญ (Holy Conversation; ภาษาอิตาลี: Pala di Brera หรือ Brera Madonna หรือ Brera Altarpiece หรือ Montefeltro Altarpiece)

เป็นฉากแท่นบูชาที่เขียนโดยเปียโร เดลลา ฟรานเชสกา จิตรกรสมัยสมัยเรอเนซองส์ชาวอิตาลี ที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เบรราที่เมืองมิลานในประเทศอิตาลี

“แท่นบูชาเบรรา” เป็นภาพที่เขียนระหว่างปี ค.ศ. 1472 ถึงปี ค.ศ. 1474 ที่เขียนให้เฟเดอริโกที่ 2 แห่งมอนเตเฟลโตร (Federico II da Montefeltro) ดยุคแห่งเออร์บิโน

เพื่อฉลองวันเกิดของลูกชาย กุยโดบาลโดแห่งมอนเตเฟลโตร บางหลักฐานกล่าวว่าเป็นการฉลองการได้รับชัยชนะต่อปราสาทในบริเวณมาเร็มมา

เบื้องหลัง

ภาพเขียนที่เขียนระหว่างปี ค.ศ. 1472 ถึงปี ค.ศ. 1474 ซึ่งบันทึกไว้ในสำนักสงฆ์ซานเบอร์นาร์ดิโน ที่เป็นที่ตั้งเดิมของภาพบ่งว่าเขียนโดยฟรา บาร์โตโลเมโอ คาร์นาวาเลแห่งเออร์บิโน

แต่ในปัจจุบันความเชื่อที่ว่าฟรา บาร์โตโลเมโอ คาร์นาวาเลเป็นผู้เขียนไม่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป โดยนักประวัติศาสตร์ศิลปะ

บางหลักฐานก็กล่าวว่าเป็นงานเขียนที่ได้รับจ้าง ในโอกาสการฉลองการเกิดของลูกชาย ของเฟเดอริโกแห่งมอนเตเฟลโตรเมื่อปี ค.ศ. 1472 ถ้าเชื่อตามทฤษฎีนี้

พระบุตรในภาพก็เป็นสัญลักษณ์ของกุยโดบาลโดขณะที่พระแม่มารีเป็นภาพเหมือนของ บัตติสตา ซโฟร์ซา (Battista Sforza) ภรรยาของเฟเดอริโกผู้เสียชีวิตในปีเดียวกันและถูกฝังไว้ที่สำนักสงฆ์ซานเบอร์นาร์ดิโน

คำบรรยายภาพ

ลักษณะการวาดเป็นแบบที่เรียกว่า “พระแม่มารีและพระบุตรกับนักบุญ” (sacra conversazione) ซึ่งเป็นลักษณะการวาดที่นิยมกันในอิตาลีโดยที่องค์ประกอบของภาพจะมีพระแม่มารี พระบุตรและ กลุ่มนักบุญ

ในภาพนี้พระแม่มารีนั่งบัลลังก์ โดยมีพระบุตรนอนหลับอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเทวดาและนักบุญ ทางด้านขวาล่างเป็นภาพของดยุคเฟเดอริโกแต่งเสื้อเกราะคุกเข่าชื่นชมเหตุการณ์อยู่ ฉากหลังเป็นภาพบริเวณพิธีของวัดที่วาดแบบเรอเนซองส์

พระบุตรสวมสร้อยคอประคำปะการังสีแดงเข้ม ซึ่งเป็นสีที่ทำให้คิดถึงเลือดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตและความตาย และความปลดเปลื้องจากการไถ่บาปจากพระเยซู นอกจากนั้นปะการังก็ยังเป็นสิ่งที่เด็กสมัยนั้นใช้อมหรือกัดเล่นหรือใส่เป็นสร้อย

นักบุญทางซ้ายของพระแม่มารีสันนิษฐานกันว่าเป็นนักบุญจอห์นแบ็พทิสต์ นักบุญเบอร์นาร์ดิโนแห่งเซียนนา และ นักบุญเจอโรม ทางด้านขวาเป็นนักบุญฟรานซิสแห่งอาซิซิ นักบุญปีเตอร์ผู้พลีชีพ (Peter Martyr) และ นักบุญแอนดรูว์ ริชชิ

นักประวัติอิตาลีกล่าวว่า คนสุดท้ายในรูปเป็นภาพเหมือนของลูคา ปาชิโอลิ (Luca Pacioli) นักคณิตศาสตร์ที่เกิดที่ซานเซพอลโครเช่นเดียวกับเปียโร นักบุญจอห์นแบ็พทิสต์ปรากฏในภาพเพราะเป็นนักบุญผู้พิทักษ์ของภรรยาของดยุคเฟเดอริโก

ขณะที่นักบุญเจอโรมเป็นผู้พิทักษ์มนุษยชน นักบุญฟรานซิสเดิมเชื่อกันว่าเป็นตัวแทนวัดฟรานซิสกันซานโดนาโต เดกลี ออสเซอร์วันติซึ่งเป็นวัดที่ฝังร่างของดยุคเฟเดอริโก

รายละเอียดเสื้อผ้า เสื้อเกราะของดยุค และรายละเอียดอื่นๆ วาดอย่างละเอียดที่ตามแบบการเขียนของสมัยภาพเขียนแบบเนเธอร์แลนด์ตอนต้น (Early Netherlandish painting)

มุขด้านหลังวัดที่มีหลังคาหอยครึ่งวงกลม และมีไข่นกกระจอกเทศห้อยลงมาตรงกลาง หอยเป็นสัญลักษณ์ของวีนัสใหม่ หรือพระแม่มารีและความงามอันชั่วนิรันดร์

แต่สิ่งที่พระแม่มารีต่างจากเทพีกรีก ก็ตรงที่ความงามของพระองค์เป็นความงามตลอดกาลในอาณาจักรของพระเจ้า อีกทฤษฎีหนี่งกล่าวว่าไข่นกกระจอกเทศ คือไข่มุก และหอยหมายถึงปาฏิหารย์ของ การกำเนิดบริสุทธิ์ (Immaculate conception) ของพระเยซู

เพราะมุกเกิดขึ้นโดยมิต้องมีเชื้อจากหอยตัวผู้ และไข่โดยทั่วไปถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างโลกของพระเจ้า หรือหมายถึงการกำเนิดของกุยโดบาลโด นอกจากนั้นนกกระจอกเทศก็ยังเป็นส่วนหนึ่ง ของตราประจำตระกูลของตระกูลมอนเตเฟลโตร


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ภุมวารสิริสวัสดิ์ โสมนัสพัฒนโชติค่ะ
Create Date :16 กุมภาพันธ์ 2553 Last Update :16 กุมภาพันธ์ 2553 23:58:06 น. Counter : Pageviews. Comments :0