bloggang.com mainmenu search


ออกจากโอโฮริพาร์ค ได้นั่งรถเมล์จากพนักงานขับรถผู้หญิง








ได้เห็นรถบริการสำหรับคนนั่งรถเข็น








กำลังเดินไปตลาด เพราะหัวหน้าทัวร์อยากไปตลาดปลา

บ่ายสามเนี่ยนะ ปลาเขาลงเช้า ๆ ไม่ใช่เหรอ








นักเรียนหมวกเหลืองกลับบ้าน








คนเดินถนนติดไฟแดง








ระหว่างรอเพื่อน ทำให้เจอร้านบะหมี่ร้านหนึ่ง ลูกค้าเข้า ๆ ออก ๆ ... น่าสน

มีตู้หยอดตังอยู่หน้าร้าน ทำไงน้า ?

คนขายบะหมี่เห็นเราเซ่อซ่าเก้ ๆ กัง ๆ ก็ออกมาชวน

ชี้พร้อมทั้งบรรยายภาษาญี่ปุ่นว่า

ราเมน 450 เยน ถัดมาเพิ่มราเมน 100 เยน และเพิ่มหน้า 100 เยน

แถวล่างโบกมือ ทำนองว่าไม่ต้องสนใจ (มีคนบอกว่าเป็นเครื่องดื่มอัลกอฮอล)








แต่ที่ทำให้ตัดสินใจได้เมื่อหนุ่มสาวคู่นี้ลงจากแท็กซี่ หยอดตู้ และเดินเข้าร้านแบบตั้งใจมา








เมื่อสมาชิกข้ามถนนมาครบ ก็ช่วยกันหยอดตู้ซื้อบะหมี และเข้าไปชิมกัน

... น้องที่ไปชวนที่หน้าร้านยืนหน้าเคาน์เตอร์ ชามเตรียมไว้เยอะเลย

กาใหญ่ใส่น้ำชาฟรี กาเล็กใส่โชหยุ

เครื่องเคียงมีขิงดอง (สีแดง) งาขาวและพริกไทย ... โรยหน้าตามชอบ








ราเมน 450 และหน้าเพิ่ม 100เยน มาเป็นชุดแบบนี้

ราเมนแบบฟูกุโอกะจะเป็นซุปกระดูกหมูสีข้นเหมือนน้ำนม

ลูกค้าในร้านเห็นเราเข้ามาก็ยิ้มทักทายอย่างเป็นกันเอง และเสริมความมั่นใจว่าโออิชิ

เมื่อเขาทานบะหมี่หมด ก็ชูตั๋วเพิ่มราเมง

คนขายก็ลวกบะหมี่ใส่กระชอนเดินมาเติมให้ในถ้วยเดิมที่เขาทานอยู่

... โรยแค่งาเพิ่ม ก็โออิชิ ไม่เหลือแม้แต่น้ำ ...








ได้ชิมฟุกุโอกะราเมนบ้าน ๆ แทนราเมนร้านดังภายในสถานีรถไฟฮากาตะ ดูคิวซิ








ว่ากันว่าคนญี่ปุ่นจะชาตินิยม เบียร์เหล้าขายสู้ของที่ผลิตในญี่ปุ่นไม่ได้

ราคาไวน์ เหล้า เบียร์นอกจึงไม่แพงโดยเฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อ Yamaya ร้านนี้



ภาพจากกูเกิลสตรีทวิว





delicious food from the world 








คือสวรรค์บนดินของผู้นิยมของนอก ... มีหมดทั้งขนม ช็อคโกแล็ต เครื่องกระป๋อง








ชอบโลโก้








ร้านขายปลาสดข้างตลาดปลา สด ๆ ต้องไปทำเอง




















แผนที่ต่อจากโอโฮริ พาร์ค

สีฟ้าขึ้นรถเมล์ สีเหลืองเดินต่อตั้งใจจะไปตลาดปลา

แต่ก็มาเจอร้านราเมน และYamaya สวรรค์บนดินดังกล่าว

สีชมพูเป็นย่าน Nagahama Ramen&Yatai กลางวันจะโล่งไม่มีอะไร

ถึงเวลาขายจึงจะลากรถเข็นมาเปิดร้าน ... ต่างจากบ้านเรา








อยู่เมืองไทยไม่ทานปลาดิบ เพราะชิมดูแล้วไม่ถูกใจ

แต่ที่ญี่ปุ่นขอบอกว่าแตกต่างและอร่อย








เมนไทโกะ เป็นของฝากอันดับหนึ่งของฟุกุโอกะ 

มีต้นกำเนิดจากชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งเกิดในเกาหลี

เมื่อกลับมาญี่ปุ่นได้ใช้ไข่ปลาคอต ปลาคอตภาษาเกาหลีเรียกเมนไท

ซึ่งหาได้ง่ายที่ฟุกุโอกะ นำมาปรุงแบบกิมจิ ได้รสเค็ม-เผ็ด

เรียกว่า เมนไทโกะ ... โกะเป็นคำลงท้ายเด็กผู้หญิง  

เวิ้งไข่ปลาคอต ในบริเวณสถานีรถไปฮากาตะ

รสเค็ม ๆ กรุบ ๆ ... ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่








ไม่ค่อยเห็นอาหารญี่ปุ่นมีผัก สลัดจึงเป็นอาหารจำเป็น รวม ๆ ได้อาหารมาดังนี้








ทีแรกคิดว่าจะฝังตัวในห้องไม่ไปไหนแล้ว อีกทีมไปช็อปกันแถวเทนจิน

พนักงานกำลังเข้าทำความสะอาดห้องโรงแรม

ได้ยินเสียงขวดที่เขาเก็บกระทบกันกรุงกริ้ง เขินจัง

จึงชวนกันไปดินเล่นในห้างในสถานีรถไฟฮากาตะ








ร้านขายไข่และผลิตภัณฑ์จากไข่














ขนม ขนม ขนม มี PR จิ้มขนมให้ชิมตลอดถ้าคนชิมไม่เขินจะดีมาก






































ขนมนี้สวยจนสงสัยว่าอร่อยหรือเปล่า ด้านข้างของขนมที่ไม่สวยจะตัดทิ้ง

เศษข้าง ได้ซื้อมาชิมเพราะถูกมาก ๆ ที่พิพิธภัณฑ์นางาซากิ รสชาติเหมือนขนมไข่

สวย ๆ นี้จึงไม่ได้ซื้อมา








มีคนฝากเพื่อนซื้อร่ม ... ราคาไม่ถูกนะคะ








เสื้อฝนสวย ๆ ใจละลาย








รองเท้าก็สวยดี








ตรงข้ามแผนกขายร่ม








อยากทานหมดเลย


























จากเมื่อคราวที่ได้ไปทานเนื้อที่คุมาโมโต ติดใจ

ในซุปเปอร์มีเนื้อวากิวขาย

ร่วมกันตัดสินใจจะลองไหมเพราะมันแพง ในที่สุดไหน ๆ ก็ไหน ๆ และมีราคาลดอยู่

จากป้าย  100 gm ราคา 899 เยน (ขีดละ 270 บาท กิโกกรัมละ 2700 บาท )

ที่สไลด์ 147 gm  ราคา 1321 เยน ลดเหลือ 980 เยน ... 








แล้วทำไงกินล่ะ ... ลวก เพราะในห้องมีกาต้มน้ำร้อน แป๊บเดียวเดือด

แต่ถ้วยชาล้างนานมากกว่าจะหมดมัน








มีคนสงสัยและถามว่าทำไมลายเนื้อไม่เหมือนที่คุมาโมโต

ที่ลงไปว่าเนื้อวัวเพราะเห็นภาพวัวในทุ่งหญ้าอยู่หน้าร้าน








แล้วก็มีคนท้วงว่าเนื้อม้านะจ๊ะ

จากป้ายนี้ เราสั่งรายการที่เขียนสี้หลืองข้างล่าง ...คือเนื้อม้า








จึงได้ชิมเนื้อม้าย่างโดยไม่ตั้งใจ

... คล้ายเนื้อวัว และนิ่มมาก








เมื่อกำลังเขียนเรื่องยูฟูอินอยู่ มีเพื่อนเฟสบุคถูกดลใจให้ลงเรื่องซีรีย์เรื่องเรียวมะ 








ทำให้รู้ว่าภาพบุคคลที่เห็นที่พิพิธภัณฑ์เมืองนางาซากิคือ เรียวมะ Sakamoto Ryōma

เขาเกิดในปี พ.ศ. 2379 ขณะที่เขากำลังเรียนวิชาดาบอยู่ที่เอโดะ (โตเกียว)

ซึ่งอยู่ในยุคที่ใช้โยบายโดดเดี่ยวตนเอง

ถูกนายพลจัตวาแมทธิว เปอร์รี่ แห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา

นำเรือมาทอดสมอในอ่าวโตเกียว เพื่อบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศค้าขายกับชาวตะวันตก

เรียวมะได้ถูกชักจูงให้เกิดความรู้สึกรักชาติจากสำนักเรียนของซามูไร

โดยกลุ่ม ซนโนโอจิ ... ซนโน =เทิดทูนจักรพรรดิ โอจิ = ขับคนป่าเถื่อน

เมื่อเรียวมะเรียนจบได้เป็นโรนินคือซามูไรไร้นาย

จนไปได้รู้จักกับคะสึ ไคชู ขุนนางระดับสูงของรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ

เป็นผู้มีหัวคิดก้าวหน้าได้ช่วยจัดตั้งกองทัพเรือขึ้น

แต่โชกุนกลับดำเนินนโยบายการปกครองไปในทางที่แข็งกร้าวมากขึ้น

คะสึ ไคชู ถูกปลดจากตำแหน่งเจ้ากรมทหารเรือ และศูนย์ฝึกทหารเรือที่โกเบได้ถูกปิด

เรียวมะจึงย้ายไปอยู่ เมืองคาโงะชิมะ (ทางใต้ของเกาะคิวชู) 

เรียวมะได้เป็นตัวกลางในการเจรจาลับให้แคว้นซัตสึมะและแควันโจชู

ซึ่งเป็นศัตรูกัน ให้ร่วมมือกันต่อต้านโชกุนสำเร็จ

เขาได้ก่อตั้งกองเรือเอกชนและบริษัทการค้าชื่อ คะเมะยะมะชาจู ที่เมืองนาาซากิ 

ทำการบุกเบิกการค้าขายทางทะเลกับชาวต่างประเทศโดยคนญี่ปุ่นดำเนินการเอง

และทำตัวเป็นกลางไม่เข้ากับกลุ่มไหน ๆ

และเมื่อแคว้นโจชูโจมตีชนะกองกำลังของโชกุนบ่อย ๆ

เรียวมะได้มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการเจรจาหว่านล้อมผู้ใหญ่ในรัฐบาล

ให้เล็งเห็นถึงผลดีในการล้มเลิกการปกครองระบอบรัฐบาลทหารของโชกุน

และจัดตั้งสภาบริหารการปกครองโดยให้ไดเมียวจากแคว้นต่างๆ มีส่วนร่วม

นำไปสู่การยอมสละตำแหน่งของโชกุนโทะกุงะวะ โยะชิโนะบุ

และถวายคืนพระราชอำนาจแก่พระจักรพรรดิ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการปฎิรูปเมจีในระยะต่อมา








พิพิธภัณฑ์นางาซากิมีเเรื่องของเรียวมะเพราะ

เป็นพิพิธภัณฑ์มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการค้าขายติดต่อกับต่างประเทศ ในสมัยก่อน


Read more: //www.bloggang.com/mainblog.php?id=tuk-tukatkorat&month=&group=&gblog=#ixzz3eUyNVEIo








ที่สนามบิน














ไม่เคยเห็นที่สนามบินอื่น














และหลังจากลากเครื่องเราออกจากหลุมจอดเรียบร้อย เขาจะเข้าแถว โค้ง และโบกมือลา


ลาก่อนค่ะ






Create Date :30 มิถุนายน 2558 Last Update :30 มิถุนายน 2558 7:00:26 น. Counter : 5638 Pageviews. Comments :29