bloggang.com mainmenu search





อ่านเรื่องเกี่ยวกับอุบลราชธานี

แกรนด์แคนยอนสยาม 3000 โบก (ที่นี่)
รุ่งอรุณที่เขื่อนสิรินธร (ที่นี่)
เที่ยวตามเส้นทาง โขงเจียม - อุบล (ที่นี่)
ไหว้หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง (ที่นี่)
อุบล ปากเซ วัดพู (ที่นี่)




ทริปนี้หนีไปชายแดนลาว ที่โขงเจียม เมืองอุบลราชธานี ไปสัมผัสธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขง กลางป่าเขาลำเนาไพร ที่ใครๆเขาเล่าขาล.....จะสวยแค่ไหน ก็ลองตามไปดุละกันครับ....

เหตุที่เราต้องมาเมืองอุบลฯคราวนี้ก็เพราะเจ้าลูกชายสุดเลิฟ หนึ่งเดียวคนนั้น ได้ผ่านการคัดเลือก จากการแข่งขัน ฟิสิกส์-ดาราศาสตร์ โอลิปิก ระดับภูมิภาค เพื่อเข้าแข่งระดับชาติที่ ม.อุบลฯ ซึ่งปีนี้รับเป็นเจ้าภาพ เราจึงอยากมารับเขาที่นั่น และไปเที่ยวด้วยกัน.... ส่วนอีกอย่างคือ ได้ยินชื่อเสียงเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวเมืองนี้ ว่ามีหลายที่น่าไปยล .... เลยถือโอกาสขับมาเยี่ยมที่นี่ซะเลย

วันที่ 9 พฤษภาคม 2552 เราขับออกจากเมืองหมอแคนตอนประมาณ 1030 น. ออกเดินทางไปเรื่อย จุดหมายคือ "ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท" ซึ่งระยะทางจากขอนแก่นประมาณ เกือบ 400 กม. พอไปถึงอุบลเราใช้เส้นทาง อุบลฯ - พิบูลมังสาหาร และข้ามสะพานแม่น้ำมูลที่เมืองนี้ เพื่อเข้าเส้นทาง 2222 พิบูลฯ - โขงเจียม และมาถึงโขงเจียมเอาตอน สี่โมงเย็นเศษๆ ก่อนเข้าโขงเจียม เราแวะไหว้หลวงปู่ คำคะนิง จุลมณี ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ก่อน (จะนำมารีวิวให้ชมภายหลังครับ)....










พักกันที่อาคารนี้ ห้องริมสุดชั้นสาม ขวามือ







เราข้ามสะพานแม่น้ำมูลอีกครั้งตามป้ายบอกทางว่าไปช่องเม็ก พอข้ามสะพานได้ประมาณ 100 เมตร เราก็เลี้ยวซ้ายตามถนน และป้ายบอกทางว่าไป ทอแสงรีสอร์ท ขับไม่ไกลก็มาถึงตัวรีสอร์ที่อยู่ซ้ายมือ ท่ามกลางป่าเขา ที่มีอีกด้านหนึ่งติดริมโขง ที่กำลังเลี้ยวซ้ายเข้าประเทศลาว ถ้าเราเลยไปจะไปถึงเวินบึก









ทางเดินเข้าที่พัก ริมสระว่ายน้ำ








วันนั้นเราวอล์คอินเข้าไป คือเล่นเอาไปตายเอาดาบหน้าว่างั้นเถอะ.... เพราะคิดว่าช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ คงพอมีที่พักบ้างล่ะน่า แต่เราเกือบผิดแบบสุดๆ เพราะวันที่ไปเป็นช่วง Long Weekend ทัวร์ลงห้องขายเกือบหมด เหลืออยู่ห้องเดียว คือห้อง Deluxe ซึ่งอยู่ในช่วงโปรโมชั่น เราได้ราคาลด ประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์ จากปกติ ...... เราจึงได้ห้องนั้น

พนักงานต้อนรับอัธยาศัยดีมากทีเดียว ตอนเราไปถึงก็เสิรฟน้ำผลไม้อะไรซักอย่าง (จำไม่ได้) จนเรารู้สึกหายเหนื่อย.... ที่นี่เขารับบัตรเครดิตด้วย ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อไม่มีเงินสดแล้วจะพักไม่ได้








วิถีชีวิตกลางลำน้ำโขง







ห้องพักเราอยู่ชั้นบนสุดจากทั้งหมดสามชั้น อยู่ที่ห้อง บุณฑริก 2335 อาคารนี้เป็นแบบห้องพักเหมือนโรงแรม แต่มีระเบียงออกไปชมแม่น้ำโขงให้ทุกห้อง เราโชคดีหน่อย อยู่มุมสุดเลยได้กว้างหน่อย








ลำน้ำโขงมองจากระเบียงห้องพัก...ซ้ายมือจะเป็นปากน้ำมูล






มองออกไปทางตะวันตกจะเห็นเมืองโขงเจียมที่มี เจดีย์วัดถ้ำคูหาสวรรค์อยู่ด้านบนของเมือง (สูงขึ้นไปตามไหล่เขา) ตรงล่างสุดจะเป็นแม่น้ำสองสี คือแม่น้ำมูลที่สีใส มาบรรจบกับน้ำโขงสีขุ่น แต่วันนี้แม่น้ำทั้งสองแทบจะเป็นสีเดียวกัน เพราะเป็นหน้าแล้ง น้ำน้อย.... กลางลำโขงยังมองเห็นโขดหิน เป็นจุดๆ อยู่ทั่วไป....









อาทิตย์อัสดงที่แม่น้ำสองสี








ถ้าเรามองข้ามไปทางทิศเหนือ ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขง ก็จะเป็นประเทศลาว ซึ่งแม่น้ำโขงหลังจากนี้ไปก็จะจากประเทศไทยไปแล้ว โดยไหลเข้าไปที่เมืองปากเซในประเทศลาว และออกเขมรที่ด้านใต้ เลยน้ำตกคอนพะเพ็งไป

เราจัดแจงล้างหน้าล้างตา แล้วรีบออกมาข้านอกเพื่อถ่ายภาพพระอาทิตย์ที่กำลังอัสดง เสียดายว่าตอนไปถ่ายลืมเอาขาตั้งกล้องลงไปด้วย ภาพเลยไหวไปบ้าง ..... หลายชีวิตที่ออกหาปลากลางลำน้ำโขงบนเรือหางยาว ก็มีให้เห็นในค่ำนี้














ห้องพักตกแต่งแบบธรรมชาติ เรียบง่าย ใช้สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์ของชาวอีสานมาตกแต่ง ห้องที่พักก็กว้างพอประมาณ มีเครื่องใช้ครบเหมือนโรงแรมทั่วไป

ที่นี่มีห้องพักที่เป็นแบบ Superior ทั้งหมด 40 ห้อง และห้อง Deluxe มี 8 ห้อง Garden Villas มี 3 หลัง Mekhong Villas มี 3 หลัง และ Riverview Villa อีก 1 หลัง (ถ้าสนใจลองเข้าไปดุในเวบโรงแรมละกันครับ).









ห้องพัก









บนซ้าย: ระเบียง... บนขวา: โต๊ะนั่งที่ระเบียง
ล่างซ้าย: ทางเดินหน้าห้องพัก ล่างขวา: ในห้องพัก











ที่วางชุดกาแฟ เก๋ดี





















สระว่ายน้ำ ใกล้ฝั่งโขง








หลังจากที่ถ่ายภาพพระอาทิตย์อัสดงเสร็จ ก็กลับมาที่ห้องพักอีกครั้ง เพื่อจัดการอาบน้ำ อาบท่าให้หายเหนื่อย ก่อนที่เราจะเดินลงไปข้างล่าง เพื่อเดินชมสถานที่บริเวณรีสอร์ทในยามค่ำคืน จุดแรกที่เราไปคือสระว่ายน้ำ ที่อยู่หลังห้องประชาสัมพันธ์

ข้างๆสระจะจัดวางโต๊ะอาหารสำหรับแขกที่มาพัก และทานอาหารเย็นกันที่นี่ บรรยากาศยามเย็นริมโขง ที่มองออกไปทางโขงเจียมเริ่มมีแสงสีจากดวงไฟบ้างแล้ว และต่ำลงไปในลำน้ำโขง ที่ลานหินทางรีสอร์ท เขาจะจุดตะเกียงไว้ มองไกลๆคล้ายแสงสีเหลือง ระยิบระยับ















ตรงระเบียงทางเดินก็ประดับไฟสวยงาม ส่วนที่สระ พอมีแสงไฟตกกระทบก็จะขับสีเขียวของน้ำในสระให้สวยงามยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นบรรยากาศน่านั่งจิบเบียร์ หรือไวน์ ฟังเพลงเบาๆจากเสียงตามสายดีนัก...

เราเดินสำรวจซักพัก และเก็บภาพไว้บางส่วน ก่อนที่จะสั่งอาหารขึ้นไปทานที่ริมระเบียง ห้องพักชั้นสาม เพื่อรับลมเย็นๆ และดูละครเกาหลีไปด้วย...










ซุ้มเครื่องดื่มริมสระ และลานโต๊ะอาหารริมโขง









ทางเดินไปวิลล่า











ตกแต่งริมทางเดิน











เก็บหนังสือ โทรศัพท์ และอ่างดอกไม้











ตะเกียงที่จุดบนโขดหินในน้ำโขง











มื้อเย็นของเราวันนี้








มื้อเย็นวันนี้ มีกุ้งแม่น้ำขนาดกลาง ราดด้วยน้ำจิ้มที่ปรุงคล้ายกับใส่พล่ากุ้ง ตามด้วยปลาคังผัดฉ่า และต้มยำปลาเนื้ออ่อน ของขบเคี้ยวสำหรับแกล้มน้องไฮน์เย็นๆ ..... นั่งไปดริ้งไป ลืมวัน เวลา ได้เหมือนกันแฮะ








ที่ล้อบบี้









บรรยากาศในตอนเช้า

หลังจากที่เราได้ชมบรรยากาศตอนย่ำค่ำจนถึงตอนดึกของทอแสงโขงเจียมรีสอร์ทแล้ว เราลองมาดูบรรยากาสตอนเช้าที่นั่นบ้างครับ...










รุ่งอรุณที่แม่น้ำโขง









ยามเช้าที่ฝั่งลาวที่อยู่ด้านตรงกันข้าม








ตื่นเช้ามาเปิดหน้าต่างออกดู แล้วมองไปตามลำน้ำโขง เห็นแสงทองจับขอบฟ้าแล้ว รีบหยิบกล้อง เปิดหน้าต่างออกไปกดชัตเตอร์ซะตรงระเบียงนั่นแหละ.... เมือคืนมีฝนตกหนัก ทำให้เช้านี้อากาศดีเป็นพิเศษ กลิ่นไอฝนผสมกับธรรมชาติแถวๆนั้น ทำให้มีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ...



















กิ๊ฟช้อบ










สปากลางแจ้ง











อาหารเช้าใกล้ๆวิลล่า








ซุ้มอาหารเช้าทำไว้ไกล้ๆกับวิลล่า และลานหิน ท่ามกลางร่มไม้ แบบโอเพนแอร์.....เพราะสายฝนของเมื่อคืนที่ผ่านไป ทำให้ได้บรรยากาศที่ดีอีกแบบ

ที่ซุ้มอาหารเช้า มีทั้งกาแฟโบราณ อาหารพื้นเมือง รวมไปถึงอาหารเช้าแบบอเมริกัน ผลไม้เป็นผลไม้พื้นเมืองแถวนั้น.... เขาทำน่ารัก และมีให้เลือกหลายแบบดี









ลานหิน











ริเวอร์วิววิลล่า








ข้างวิลล่าหลังนี้จะมีทางเดินลงไปที่แม่น้ำโขง ที่เป็นลานหินที่เราเห็นเขาจุดไฟไว้เมื่อคืนนี้ ถ้าไปยืนตรงทางลง จะมองไปทางใต้เห็นเมืองโขงเจียมอยู่บนเชิงเขา ฝั่งตรงข้ามที่ยืน จะเป็นประเทศลาว ด้านตะวันออกเป็นสายน้ำโขงที่กำลังไหลเข้าไปในเมืองปากเซ ประเทศลาว...









ทางเดิน










สระว่ายน้ำยามเช้า










ลานอาหาร หรือคาเฟ่กลางแจ้ง








เราเดินสำรวจบริเวณอีกพักหนึ่ง เพื่อสำรวจว่ากลางวันบรรยากาศเป็นแบบไหน พื้นที่รอบๆบริเวณกำลังได้รับการจัดการให้พร้อมที่รับแขกที่มาใหม่ในบ่ายนี้ และร่มไม้ ชายคา ก็ทำให้บรรยากาศรอบๆบริเวณดูสดชื่นไปคนละแบบกับการประดับด้วยแสงสีท่ามกลางพงไพรเมื่อคืนนี้..... ริมโขงยังคงสงบเงียบ นานๆจะได้ยินเสียงเรือหางยาวแล่นออกไปทำการประมง หรือส่งของในเมือง กลางลำน้ำโขงด้านตะวันออกเราเห็นเรือหางยาวลอยลำอยู่หลายลำ เข้าใจว่าก็กำลังเก็บอุปกรณ์หาปลาในบริเวณนั้น....










เวทีกลางแจ้งริมฝั่งแม่น้ำโขง











แม่น้ำมูลที่เรียบสงบ จากสะพานข้ามไปฝั่งโขงเจียม








0900 น. เราก็ออกจากทอแสงรีสอร์ท กลับเมืองอุบลฯ เพื่อไปรับเจ้าลูกชายที่ ม.อุบลฯ เพื่อเดินทางไปชมสามพันโบกที่อำเภอโพธิ์ไทร ในตอนบ่าย.... ขับผ่านสะพานข้ามน้ำมูลอีกครั้ง แล้วจอดรถถ่ายภาพแม่น้ำมูลยามเช้าที่เงียบสงบ และผ่านโขงเจียมออกไปตามเส้นทางหมายเลข 2222 เพื่อไปเข้าทางสี่เลนหมายเลข 217 ที่ อ.พิบูลฯ ก่อนตรงเข้าเมืองอุบลราชธานี


ปล. บล๊อกนี้ได้หายไปตอนทำการเคลื่อนย้ายบล๊อกเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2554 และได้ re-entry ใหม่หมด แต่รักษาเนื้อหาไว้เหมือนเดิม....
Blog created 16 May 09





ขอบคุณที่ตามอ่านอ่านครับ





_______________ END ______________






Create Date :29 มกราคม 2554 Last Update :19 มิถุนายน 2557 22:26:28 น. Counter : Pageviews. Comments :6