bloggang.com mainmenu search







อยากอ่านตอนที่แล้วคลิ๊ก ตอนที่ 8 แข่งความเร็วสนามเอเซียน่า พบกับซัยชนะที่เพียรพยายามตอน 1




การนำเอาความผิดพลาดจากประสบการณ์มาแก้ไขปรับปรุง เป็นเบื้องต้นที่จะนำไปสู่ความสำเร็จเสมอ





ที่จุดสตาร์ทต่อจากคราวที่แล้ว

พอกรรมการเขย่งเท้าขึ้นผมเร่งเครื่องยนต์ไว้ 2500รอบ/นาที พร้อมกับนับ หนึ่ง สองแล้วปล่อยคลัทช์ทันที ขณะที่ล้อก็หมุนอย่างเต็มที่ฟรีอยู่กับที่ด้วยความลื่นของกรวด (รถยังไม่เคลื่อน) จังหวะนั้นกรรมการจะตีธงลงมาพร้อมกับคนอืึน ๆเริ่มปล่อยคลัทช์ในขณะที่รถของผมจะเริ่มเคลื่อนตัวออกไปก่อนแล้ว


หลังออกสตาร์ทมาได้ก่อนจะถึงโค้งสุดทางตรงนั้นจะต้องมีการวัด่ใจกันก่อน คนที่เหยียบเบรคช้าที่สุดก็จะเข้าไปในโค้งได้ลึกกว่าคีอนำหน้านั่นเอง พอรถที่ตีคู่มาเบรคลดความเร็วปุ๊บ รถเราก็ขึ้นหน้าเราก็รีบเบรคทันทีปึ้ง หักเลี้ยวขวา
เข้าโค้งแล้วรีบตวัดพวงมาลัยกลับปล่อยให้ท้ายรถสไลด์นิด ๆเข้าโค้งแล้วเลี้ยงส่งคันเร่งเอาไว้ รถก็จะวิ่งเลี้ยวเข้าโค้งพร้อมความเร็วที่เพิ่มขึ้นทันทีและนั่นคือผมอยู่ในตำแหน่งที่สามหลังจากโค้งแรกไปแล้วนั่นเอง


รถที่เหลือสิบกว่าคันก็ขับดำฝุ่นตามกันเป็นพรวน คันไหนที่ไม่เร่งความเร็วให้เกาะติดรถคันหน้าในที่สุดก็จะมองไม่เห็นทางวิ่งและต้องชะลอจนทิ้งระยะห่างเป็นสิบสิบเมตร และสุดท้ายก็จะถูกยืดห่างออกไป ห่างออกไปเรื่อย ๆแยกเป็นกลุ่ม ๆหลายกลุ่มบี้กันเป็นชุด ๆ


กลุ่มแรกก็จะมีประมาณ 5คันรวมทั้งผมที่วิ่งอยู่อันดับที่ 3และผมก็จะเริ่มถูกรถคันหน้าสองคันทิ้งระยะห่างไปเล็กน้อยหลังจากโค้งรูปรองเท้าบู๊ช ซึ่งเคยบอกไปแล้วว่าเป็นจุดอ่อนของทั้งรถ และตัวผมเองในขณะนั้นที่ทำความเร็วในโค้งนี้ได้ไม่ดีเพราะอาการอันเดอร์สเตียร์ของรถขับเคลื่อนล้อหน้า ( เวลาเลี้ยวแล้วหน้าดื้อไม่ยอมเลี้ยวเข้าโค้ง ) โดยเฉพาะรถขนาดกลางแบบของผม และก็เลือกเข้าไลน์ไม่ถูกต้องนั่นเอง (หากเป็นรถเล็กที่ระยะฐานล้อหน้ากับล้อหลังใกล้กันจะมีปัญหานี้น้อยลงเช่นใน ซูบารุ เอฟเอฟวันที่คันเล็กกว่า )


แต่พอเลยโค้งที่ 2นี้ไปได้ก็ใส่เต็มที่ได้เลยเพราะเป็นทางโค้งกว้างมาก สามารถ
เร่งเครื่องยนต์ลากได้เกือบสุดเกียร์ 3 แล้วก็ต้องกระทืบเบรคปั้งเชนเกียร์ลงสองเข้าโค้ง 3 รูปตัวยู แล้วเร่งส่งเต็มที่ด้วยเกียร์ 3 มาชะลอความเร็วเล็กน้อยเข้าชีเคนตัวเอส 4(มีหลุมยักษ์อยู่ด้วยถึงต้องชะลอความเร็ว สามารถลากยาวด้วยเกียร์สอง หรือหากจะถนอมเครื่องโดยไม่มีใครมาบี้แซงละก็ไปด้วยต้นเกียร์ 3 แ้บบนิ่ม ๆได้เหมือนกัน )


ที่ชีเคน 4นี้ ถ้าวิ่งมาเดี่ยว ๆเลือกเข้าไลน์ได้ดีไม่มีใครมาเบียดก็จะส่งอยู่ที่กลางเกียร์ 3 ได้ ก่อนที่จะกระทืบเบรคชะลอความเร็วแล้วปล่อยเบรค พร้อมกับเชนลงเกียร์ 2 เพื่อเข้าโค้งที่ 5 หรือโค้ง IRCนั่นเอง และจะต้องเข้าไลน์วิ่งคร่อมกลางแทร็คไปด้านขวาเล็กน้อยสะบัดพวงมาลัยไปด้านซ้ายตามมุมเลี้ยวอย่างรวดเร็วขณะที่กำลังเชนเกียร์อยู่ ซึ่งในจังหวะเดียวกันนั้น รถจะส่ายท้ายโยนไปทางขวาอย่างแรงเหมือนจะหมุนขวาง เราต้องรีบคืนพวงมาลัยมาทางตรงข้ามคือหักขวา (ทั้ง ๆที่กำลังเข้าโค้งซ้าย ) พร้อมกับเหยียบคันเร่งส่งเต็มที่เพื่อให้ล้อหน้าตะกุยขับเคลื่อนไปตามแนวล้อที่เราบังคับอยู่ รถที่ทำท่าจะขวางลำก็จะกลับมาในทิศทางที่เราบังคับล่วงหน้าไว้


ทั้งหมดนี้ทำในเวลาไม่ถึงครึ่งวินาที เป็นปฏิกิริยาที่ต้องฝึกฝนจนชำนาญกลายเป็นอัตโนมัติไป และหากเลี้ยวมากหรือน้อยไปก็จะคุมได้ที่การเร่งรอบเครื่องยนต์ การปล่อยคลัทช์เพื่อส่งผ่านกำลังไปยังล้อให้พอดีกับความต้องการ และ
การบังคับควบคุมพวงมาลัย ซึ่งทั้ง 3 อย่างต้องทำในเวลาเดียวกันให้สัมพันธ์กันนั่นเอง นี่แหละครับเคล็ดลับของการสไลด์เข้าโค้งที่สุดแสนจะมันส์ สมัยนี้ก็เล่นหนักขึ้นไปกลายเป็น ดริฟท์ (Drift) ซึ่งต้องเพิ่มเทคนิคการควบคุมแรงดันน้ำมันในกระบอกเบรคแยกส่ีวนเบรคหน้าและหลังให้ปรับตั้งแรงดันได้ และควบคุมให้ทำงานเพิ่มอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เท่านั่นเองครับ



พอพ้นจากโค้ง IRCไปแล้วเราสามารถเพิ่มความเร็วไปจะเกือบสุดเกียร์สามเพื่อเข้าโค้งถัดไปโค้งที่ 6ซึงเป็นตัวยูด้วยปลายเกียร์ 2 และวิ่งทางตรงสั้น ๆจนเกือบสุดเกียร์ 3 แล้วจึงเบรค เชนเกียร์ลง 2 ปลาย ๆเพื่อเข้าโค้งที่ 7



ออกจากโค้ง 7 ไม่นานก็ลงเกียร์ 3 ลากยาวไปเข้าโค้งสุดท้ายโค้งที่ 8 ก่อนขึ้นทางตรง และที่โค้งสุดท้ายนี้ก็สามารถใช้เกียร์สามได้เต็ม ๆ เรียกว่าหลุดโค้งไปได้ไม่นานก็สามารถเปลี่ยนเป็นเกียร์ 4 ได้ก่อนถึงอัศจรรย์หน้าเส้นสตาร์ทนั่นเอง



เมื่อผ่านจุดสตาร์ทมาแล้วก่อนถึงโค้งแรกสัก 20 เมตรก็ต้องกระทืบเบรคอีกทีแล้วเชนเกียร์ลง 3 เพื่อชะลอความเร็วและเข้าโค้งแรก บางคนก็อาจจะเชนลงสองแต่ผมว่ามันได้ความเร็วน้อยไป จึงมักใช้เกียร์ 3 แต่ต้องเลี้ยงรอบเครื่องยนต์ให้สูงเข้าไว้ เพื่อให้มีแรงตะกุยพอเมื่อเข้าพ้นหัวโค้งไปแล้ว ไม่อย่างนั้นก็อาจจะหมุนได้ง่าย ๆที่โค้งนี้เช่นกัน (ยกเว้นบางรอบที่มีได้เสียกันอยู่ จะใช้เกียร์สองสั้น ๆเพื่อกระชากรอบเครื่องยนต์ให้สูงไว้แล้วสับเป็้นเกียร์ 3อีกครั้งที่กลางโค้งเพื่อให้ออกโค้งได้เร็วกว่าคู่แข่ง ) และทั้งหมดนี้ก็คือการขับแต่ละรอบในสนาม จะต่างกันบ้างก็หากมีใครมาแซงมาแทรกให้เสียจังหวะ หรือบางทีต่างคนต่างบี้กันไม่ยอมแพ้ก็ว่ากันไปตามสถานการณ์



ระิหว่างการแข่งขันนั้นจุดที่จะแซงกันมักเกิดจากความผิดพลาด เช่นหากเราจี้รถคันหน้าไปติด ๆเป็นเวลานาน เขาจะพะวงว่าเราจะแซงช่วงไหน ข้างซ้ายหรือขวา แล้วก็อาจมัวแต่กันท่าจนลืมไปว่าถ้าคุณขับตามไลน์ให้แรงที่สุดก็จะเร็วกว่า เลยกลายเป็นช้าไปและยังขาดสมาธิในทางด้านหน้ามัวแต่ระวังหลัง ผลสุดท้ายก็อาจผิดไลน์มากจนไม่สามารถรักษาตำแหน่งที่ดี อาจหมุนหรือเสียการควบคุมไปเสี้ยววินาทีและก็ถูกแซงได้ในที่สุด



อีกกรณีก็คือบางคนเก่งตอนขับเดี่ยว ๆช่วงจับเวลาควอลิฟายจะแม่นไลน์ แต่พอแข่งจริงขับแป๊กทุกทีก็มี และบางคนควอลิฟายไม่ได้ที่หนึ่งสักที แต่เป็นพวกนักสู้ถ้ามีคู่แข่งยิ่งขับยิ่งดีก็อีกแ้้บบ บังเอิญจขบ.เป็นแบบหลังนี่แหละ เพราะควอลิฟายทำเวลาต่อรอบ จะได้ดีที่สุ่ดก็ที่ 2 แต่พอแข่งจริงถ้าไม่มีปัญหาแล้วแข่งจนจบละก็มักได้ที่หนึ่งเสมอ



ระหว่างที่แข่งนั้นตำแหน่งก็ไม่มีการเปลี่ียนแปลงแต่อย่างใด แต่รถของจขบ.เองยิ่งขับก็ยิ่งพัฒนาเพราะเราต้องขับตามก้นคันแรงอยู่หลายรอบเลยลองไลน์ได้หลายไลน์ และจากความเร็วที่ต้องเร่งตามคันนำทำให้เรารู้ข้อบกพร่องของไลน์และการขับของคันหน้าได้ ทุกรอบ ทุกโค้งที่ผ่าน จขบ.ลองขับแบบต่าง ๆจนได้ที่และเริ่มติดท้ายและหาตำแหน่งแซงคันที่นำไปได้อีกคันไม่กี่รอบหลังจากนั้น กอปร์กับรถคันหลังก็เริ่มคล่องและจี้ติดมาเช่นกันก็เลยกลายเป็นการไล่ล่า 4คันติดกันเป็นพรวน



ประมาณอีก 5 รอบจะสิ้นสุดการแข่งขัน รถคันนำหน้าจขบ.ซึ่งเป็นซูบารุเช่นกันเกิดมีปัญหาเกี่ยวกับเกียร์จึงถูก จขบ.แซงนำหน้าขึ้นเป็นเป็นที่หนึ่งตามติดมาด้วยโคโรลล่า และซูบารุเอฟเอฟวัน แต่หลังจากนั้นไม่นานโคโรลล่าก็แพ้ภัยตัวเอง
พลิกหงายไปซะก่อนและสุดท้าย จขบ.ก็เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกดังที่เห็นในรูปหัวบล็อกด้านบนขณะรับถ้วยรางวัลครั้งแรกในชีวิตและก็เป็นอันดับหนึ่งเลยไม่ต้องไต่เต้าที่ละขั้น



ความประทับใจในชัยชนะวันนั้นทายกันอย่างไรก็ไม่มีวันถูกครับ เพราะไม่ใช่ถ้วยหรือการขึ้นไปรับรางวัลแต่อย่างใด เป็นเพียงก่อนการรับรางวัลทางสนามจะให้ผู้ชมสามารถลงมาเดินในสนามใกล้จุดรับรางวัลได้
และมีชายร่างสันทัดใส่เสื้อยีดสีขาวเดินยิ้มมาหา จขบ. บอกว่า "เอาจนได้นะหนุ่ม"
" ครับ ๆ" ผมตอบไป " พี่รู้จักผมด้วยเหรอครับ " จขบ. ถามไปแบบซื่อ ๆ
"ผมตามดูน้องแข่งมาตั้งแต่เริ่มสนามแล้วละ วันนี้ทำสำเร็จแล้วนะ" เขาตอบพร้อมรอยยิ้ม
" ขอบคุณมากครับพี่ " จขบ.ตอบพร้อมยกมือไหว้อย่างดีใจ (เรามีแฟนคลับด้วยอ่ะ)



หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาก็ตามธรรมดาที่ว่าต้องมีการวิจารณ์ของนิตยสารต่าง ๆและคนในวงการคุๆกัน ก็หลายเสียงหลายปากทั้งที่ว่าเราเก่งก็มี ดวงดีฟลุ๊กก็
เยอะ เป็นธรรมดาของโลกครับแต่ที่สุดแล้วความจริงก็เป็นความจริงที่หนีไม่พ้นหรอก เพราะในเดือนถัดไป จขบ.ลงแข่งรุ่นเดียวกันนี้ก็ได้ที่หนึ่งอีกติดกันเป็นครั้งที่สอง โดยที่อันดับที่สองเป็นนักแข่งรุ่นพี่ที่เรานับถือมากและเป็นแช้มป์ประเทศไทยในปีถัดไป ส่วนอันดับสามเป็นนักแข่งซูบารุทีมโรงงาน (มีรูปที่โ๋ชว์อยู่ในสโลแกนนั่นแีหละครับ แต่ไม่อยากโชว์ให้เห็นเพราะจะไม่ดีต่อรุ่นพี่ครับ) ซึ่งพอถึงจุดนี้แล้วคำว่าโชคดีหรือฟลุ๊คก็ตกไป และก็เริ่มมีคนมาสนับสนุนเราด้านแต่งเครื่องยนต์ จนกระทั่งเจ้าของอาคารแสดดำทีมซูบารุเรียกเข้าไปพบ แต่ในแวดวงแข่งรถนี้มันก็มีเส้นสายผลประโยชน์โยงกันมากมายครับ มีการกั๊กการกันอยู่มากมาย เรื่องในอดีตช่างมันเถอะแล้วไปแล้วผมไม่อยากไปคุ้ยหรอกเพราะแต่ละคนที่มีปัญหาก็ล้วนสูญหายตายจากกันไปเกือบหมดแล้ว



หลังจากนั้นรถของผมแรงขึ้นเรื่อย ๆหลังมีคนมาสนับสนุนแต่เงินก็ยังต้องใช้เงินตัวเอง พอเครื่องแรงมากช่วงล่างมันก็รับไม่ไหวเพราะเราขับโหดขึ้น โหดขึ้น ถ้าไม่ชนะก็พัง ก็แข่งประมาณเจ็ดหนได้ถ้วยที่หนึู่งมาี สามใบ ที่สามหนึ่งใบแล้วก็มาประสบอุบัตเหตุบนถนนช่วงตรุษจีนจนถือว่าตายไปแล้วเกิดใหม่ละครับ ก็เลยจบการแข่งไว้เพียงนั้น มีมาแข่งเล่นอีกครั้งก็สมัยสนามบิน บน.2ที่ลพบุรีกำลังเฟื่อง แล้วก็เลิกขาดไปเลยเพราะลงทุนหนักมากสู้เขาไม่ได้หรอกค รับ สู้มาอยู่เบื้องหลังดีกว่า



ก็ขอจบเรื่องราวการแข่งไว้เพียงเท่านี้ละครับ




เอื้อเฟื้อภาพประกอบโดยคุณพี่สิน yyswim find me pr





Create Date :09 ตุลาคม 2554 Last Update :12 ตุลาคม 2554 9:51:15 น. Counter : Pageviews. Comments :45