1. คลองมะเดื่อ จังหวัดนครนายก

ความน่าสนใจ : คลองมะเดื่อ จังหวัดนครนายก แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุดอันซีนที่ซ่อนตัวอยู่หลังป่าเขาใหญ่ และค้นพบได้เพียงไม่นาน ธรรมชาติของคลองมะเดื่อจึงยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ยังคงไม่เข้ามารบกวนคลองมะเดื่อมากนัก ที่นี่ไม่มีทั้งไฟฟ้า น้ำประปา และสัญญาณโทรศัพท์ที่มีเพียงน้อยนิด โดยคลองมะเดื่อประกอบด้วยทั้งหมด 5 คลอง แต่สถานที่ให้นักท่องเที่ยวพักและกางเต็นท์ มีด้วยกันทั้งหมด 3 คลอง (ในส่วนของคลองที่ 4 และ 5 เป็นเขตหวงห้ามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : การมาเที่ยวคลองมะเดื่อ นอกจากจะได้เล่นน้ำชิล ๆ จากสายธารน้ำตกคลองมะเดื่อแล้ว เมื่อออกมานอกตัวคลองมะเดื่อยังมีที่เที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เช่น น้ำตกวังตะไคร้, น้ำตกนางรอง หรือเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นต้น ดูรายละเอียดที่พักเพิ่มเติมได้ที่ "5 ที่พักคลองมะเดื่อ พักผ่อนชิล ๆ ติดธารน้ำ บอกเลยไม่อยากให้พลาด"

ข้อแนะนำ : นักท่องเที่ยวไม่ควรประมาทสำหรับการเที่ยวคลองมะเดื่ออย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณคลอง 1 จะเป็นจุดที่น้ำแรง และมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ประมาท เมื่อน้ำขึ้นเยอะหรือน้ำแรง อย่าเพิ่งลงเล่น เพราะระดับน้ำขึ้นอยู่กับปริมาณฝนบนเขาใหญ่

2. น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี


ความน่าสนใจ : เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งบนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ถือเป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญที่เมื่อใครมาเที่ยวกาญจนบุรีต้องแวะมา ตัวน้ำตกมีขนาดใหญ่และสวยงาม ความสนุกของการมาเที่ยวน้ำตกเอราวัณอยู่ที่การเดินทางพิชิตชั้นน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น ถึงแม้ว่าระยะทางอาจไม่ไกลมาก แต่ความชันของเส้นทางก็อาจทำให้ใครหลายคนหอบแฮกอยู่เหมือนกัน

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์เพื่อนอนพักแรมในอุทยาน ด้วยเพราะระยะทางไปยังน้ำตกเอราวัณกับลานกางเต็นท์อยู่ห่างกันไม่เยอะ คุณจึงมีเวลาสำรวจความสวยงามของน้ำตกแต่ละชั้นได้เต็มที่ รุ่งขึ้นอีกวัน คุณยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น น้ำตกห้วยขมิ้น, เขื่อนศรีนครินทร์, ถ้ำพระธาตุ, สวนเวลารำลึก, อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์, อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หรือศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาน้ำพุ เป็นต้น (สอบถามเพิ่มเติมโทรศัพท์ 034 574 222, 034 574 234)

ข้อแนะนำ : นักท่องเที่ยวที่อยากพิชิตน้ำตกทั้ง 7 ชั้นของเอราวัณ ควรเริ่มต้นขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงเช้า เรื่อยไปจนถึงบ่าย และตั้งแต่เวลาสี่โมงเย็นเจ้าหน้าที่อุทยานจะทยอยให้นักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ ดังนั้นควรบริการจัดการเวลาให้ดี ๆ เพราะต้องเผื่อเวลาเดิน เวลาพัก และเวลาถ่ายรูปด้วย

3. เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา


ความน่าสนใจ : ชื่นชมธรรมชาติดินแดนแห่งผืนป่าดงพญาเย็นที่อุดมสมบูรณ์ ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศท่ามกลางขุนเขา และอากาศอันแสนบริสุทธิ์ เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งทางธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และเกษตรกรรม ซึ่งรวบรวมสถานที่กิน เที่ยว และช้อปไว้อย่างสมบูรณ์ แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคน

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : วันแรกของการเที่ยวเขาใหญ่ นักท่องเที่ยวอาจวางแผนการเที่ยวเขาใหญ่ด้วยโปรแกรมชิล ๆ อย่าง Sheep Land, ปาลิโอ และฟาร์มโชคชัย เป็นต้น (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 10 ที่เที่ยวเขาใหญ่ ไปสูดอากาศบริสุทธิ์กัน) หลังจากที่คุณนอนค้างสักคืน รุ่งเช้าเปลี่ยนบรรยากาศมาสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติใน "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" แวะชมทิวเขาสวย ๆ ที่ "จุดชมทิวทัศน์ กม.30" หรือจะชื่นชม "น้ำตกเหวสุวัต" น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของอุทยาน โดยนักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการท่องเที่ยว และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภายในอุทยาน

ข้อแนะนำ : ปกติแล้วสถานที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่มักจะมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรโทรศัพท์สอบถามค่าใช้จ่ายในการเข้าใช้บริการแต่ละที่ให้เรียบร้อย

4. หาดเตยงาม จังหวัดชลบุรี

ความน่าสนใจ : ตั้งอยู่ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (น.ย.) ใกล้ ๆ กับตลาดของเมืองสัตหีบ ที่นี่คุณจะเห็นหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวสุดสายตา และยังคงความงดงามสะอาดตา แลดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะการดูแลรักษาอย่างดีของกองบัญชาการนาวิกโยธิน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อนักท่องเที่ยว ได้แก่ ร้านอาหาร หรือห้องน้ำไว้คอยบริการอีกด้วย

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่หาดเตยงามส่วนใหญ่ มักต้องการบรรยากาศการท่องเที่ยวแบบชิล ๆ และสงบ นอกจากเล่นน้ำทะเลแล้ว บริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน, อนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน หรือศาลกรมหลวงชุมพรฯ เป็นต้น (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม นาวิกโยธิน โทรศัพท์ 038 308 126

ข้อแนะนำ : ปัจจุบันทางสำนักงานกิจการการท่องเที่ยวหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้จัดทำกิจกรรมอนุรักษ์ ด้วยการเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมกิจกรรมปลูกปะการัง รวมถึงร่วมกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่หาดเตยงาม

5. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี


ความน่าสนใจ : แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เงียบสงบ และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่าน้อยใหญ่นานาชนิด ด้วยเพราะระยะเวลาการเดินทางไม่นานจากกรุงเทพฯ จึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต สำหรับใครก็ตามที่อยากนอนเต็นท์ ปิกนิกชิล ๆ เพื่อสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : พลาดไม่ได้กับการนอนกางเต็นท์ตรงบริเวณอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน เพื่อเดินทางสำรวจธรรมชาติอันสมบูรณ์ภายในศูนย์ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น น้ำตกเจ็ดคต, เส้นทางศึกษาธรรมชาติ, เส้นทางปั่นจักรยาน หรือน้ำตกโกรกอีดก เป็นต้น (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวเจ็ดคด 2 วัน 1 คืน ทริปสั้น ๆ สวรรค์ของคนรักธรรมชาติ) ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089 237 8659, 085 968 3520 และ 080 019 2762

ข้อแนะนำ : ใครอยากสัมผัสธรรมชาติที่นี่ให้ถึงแก่น แนะนำว่าให้คุณลองกางเต็นท์นอนดูสักคืน เสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่ผิวน้ำที่สงบเรียบของอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน ที่สะท้อนเงาต้นไม้และภูเขาที่ล้อมรอบ เชื่อไหมว่ามีคนยืนมองภาพเหล่านั้นได้เป็นวัน ๆ

6. บ้านทุ่งเพล จังหวัดจันทบุรี


ความน่าสนใจ : หมู่บ้านหนึ่งในตำบลฉมัน ของอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและธรรมชาติได้อย่างน่าสนใจ นักท่องเที่ยวคนไหนที่ลองได้มาเที่ยวที่นี่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าธรรมชาติยังคงสวยงาม ด้วยเพราะสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเนินเขา มีลำธารไหลผ่าน อีกทั้งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังคงทำสวนผลไม้ มีทั้งทุเรียน ลองกอง และมะไฟ รวมถึงเก็บของป่ามาขาย โดยรวมแล้วธรรมชาติของทุ่งเพลยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มากเลยทีเดียว

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : วันแรกของการเที่ยวทุ่งเพล คุณอาจเลือกที่จะซึมซัมบรรยากาศการพักผ่อนชิล ๆ ที่โฮมสเตย์ริมน้ำ เรียนรู้วิถีเกษตรพื้นบ้าน ชิมผลไม้อร่อย ๆ ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะเดินขึ้นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ทุ่งเพล เช่น น้ำตกอ่างเบง, ทำบุญไหว้พระ ชมความงามของวัดเขาบรรจบ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวจันทบุรี นอนโฮมสเตย์ริมน้ำ ชิมผลไม้ที่ชุมชนทุ่งเพล)

ข้อแนะนำ : พลาดไม่ได้กับการดื่มด่ำธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ด้วยการนอนพักค้างคืนแบบโฮมสเตย์ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของชาวบ้าน และได้จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน "ทุ่งเพลโฮมสเตย์" โดยได้เปิดบ้านของชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพัก ซึ่งส่วนใหญ่จะรวมทั้งค่าที่พักและอาหารเอาไว้เรียบร้อย

7. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา


ความน่าสนใจ : วังน้ำเขียวในช่วงหน้าฝน ถือเป็นอีกหนึ่งความสวยงามของธรรมชาติที่ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องหลงรัก จนได้ถูกตั้งสมญานามให้เป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ว่ากันว่าหมอกหน้าฝนของที่นี่สวยงามไม่แพ้หมอกช่วงหน้าหนาว เพราะหน้าฝนธรรมชาติของที่นี่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ภูเขาเริ่มกลับมามีสีเขียว แถมยังมีที่พักให้เลือกหลายที่ หลากหลายวิว มีทั้งวิวขุนเขา วิวอ่างเก็บน้ำ หรือจะเป็นจุดชมวิวสวย ๆ ตรงบริเวณขุนเขาแห่งทับลาน ที่นักท่องเที่ยวจะมองเห็นวิวสวย ๆ ได้จากที่พักบริเวณดังกล่าว รวมทั้งอ่างเก็บน้ำทับลาน ที่ไปกี่ครั้งก็ประทับใจ

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : มาเที่ยววังน้ำเขียวช่วงหน้าฝนทั้งที ขอเน้นบรรยากาศการเที่ยวแบบชิล ๆ ที่ดีไม่น้อย เป็นต้นว่าช่วงเช้าแวะรับลมเย็นที่ "อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง" แวะจิบกาแฟชิล ๆ ที่ "A cup of love" ตกบ่ายแวะชมธรรมชาติที่ "เขาแผงม้า" ก่อนเข้าที่พัก ตื่นขึ้นมาเช้าอีกวัน เที่ยวบรรยากาศแบบโรงนาที่ "วิลเลจฟาร์ม" แล้วค่อยหาร้านกาแฟสักร้านจิบชิล ๆ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ข้อแนะนำ : จริง ๆ แล้ววังน้ำเขียวมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราได้วางแผนเที่ยวเยอะมาก (ดูเพิ่มเติมได้ที่ 20 ที่เที่ยววังน้ำเขียวห้ามพลาด ธรรมชาติสวยสมบูรณ์กับอากาศที่บริสุทธิ์) ยังไงลองเข้าไปดู และจัดทริปเที่ยววังน้ำเขียวกันได้เลยค่ะ


8. อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี


ความน่าสนใจ : ดินแดนแห่งขุนเขาของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป บรรยากาศที่นี่จะเย็นสบาย เพราะอิทธิพลจากไอฝนท่ามกลางป่าไม้ แถมยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับนักเดินทางที่หลงใหลในธรรมชาติ ความสงบเงียบ ป่าเขา น้ำตก ความงดงามของดวงอาทิตย์ยามเช้า ไอหมอก ความหนาวเย็น และวิถีชีวิตของชนชาวกะเหรี่ยง


2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวแบบนอนเต็นท์เพื่อซึมซับธรรมชาติแบบใกล้ชิด ซึ่งนอกจากจะได้ดื่มด่ำกับวิวทะเลหมอกแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่ไม่ไกลจากจุดกางเต็นท์ อย่าง "น้ำตกตะเพินคี่น้อย" "น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่" และ "วนอุทยานถ้ำเขาวง" ให้ได้ชื่นชม ทั้งนี้สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติพุเตย โทรศัพท์ 035 446 237

ข้อแนะนำ : พลาดไม่ได้กับการชื่นชมวิวบนยอดเขาเทวดา เพื่อชื่นชมทัศนียภาพของทิวเขาสูดลูกหูลูกตา ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ได้ยืนมองเห็นทะเลหมอกและไอหมอกที่ปกคลุมทั่วยอดเขา ซึ่งสำหรับการขึ้นยอดเขาเทวดานั้น สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทุกฤดูกาล

9. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี


ความน่าสนใจ : เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปี มีลักษณะเป็นแก่งหิน ตอนปลายสุดของแม่น้ำใสใหญ่ เกิดเกาะแก่งต่าง ๆ มากมาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายกับสายน้ำอันเชี่ยวกราก สำหรับการล่องแก่งนั้นจะผ่านแก่งหินต่าง ๆ ได้แก่ แก่งหินเพิง, แก่งวังหนามล้อม, แก่งวังบอน, แก่งลูกเสือ, แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาทำกิจกรรมที่ล่องแก่งหินเพิง มักซื้อเป็นแพ็กเกจทัวร์ ซึ่งแต่ละที่จะมีการวางแผนการเดินทางและการท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ เอาไว้เรียบร้อย (มีทั้งแบบราคาเป็นกรุ๊ปและราคาต่อคนให้เลือก)

ข้อแนะนำ : สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรมล่องแก่งหินเพิงสามารถติดต่อบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมในการล่องแก่งหินเพิง และสามารถนอนค้างแรมแบบแคมปิ้ง หรือจะพักที่พักรีสอร์ทในเขตอำเภอนาดีก็ได้อีกด้วย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมผู้ประกอบการล่องแก่งหินเพิง โทรศัพท์ 037 451 204 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก โทรศัพท์ 037 312 282, 037 312 284

10. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี


ความน่าสนใจ : เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกที่ได้รับความนิยมที่สุดที่หนึ่ง ด้วยเพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แต่สิ่งที่นอกเหนือจากนั้น เห็นจะเป็นหนทางการเดินทางที่ค่อนข้างสมบุกสมบัน และเป็นทริปที่อยู่ในความทรงจำของนักท่องเที่ยวไม่มีวันลืม บนจุดชมวิว นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ทั้งของไทยและพม่า ที่ล้อมรอบด้วยป่าไม้นานาชนิด ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : วันแรกของการเดินทางก่อนไปยังเขากระโจม นักท่องเที่ยวสามารถแวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของอำเภอสวนผึ้ง เช่น ชมเขาโป่งยุบ, เพลิดเพลินกับการเลี้ยงแกะ ถ่ายรูปทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ The Scenery vintage Farm (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 18 ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ) หลังจากชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขากระโจมแล้ว ระหว่างทางยังแวะชม "น้ำตกผาแดง" สายน้ำตกขนาดกลางที่ไหลผ่านหน้าผาหินสีแดง ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น

ข้อแนะนำ : สำหรับการขึ้นเขากระโจม นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น เพราะว่าเส้นทางค่อนข้างสมบุกสมบัน ซึ่งมีการจัดระเบียบเวลาการขึ้น-ลงเขากระโจม เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว อีกทั้งขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวงดส่งเสียงดังรบกวนนักท่องเที่ยวท่านอื่น ๆ และรบกวนสัตว์ป่า

11. ทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก


ความน่าสนใจ : ทุ่งแสลงหลวง หรือทุ่งสะวันนาแห่งผืนป่าไทย เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุ่งหญ้าและพรรณไม้ที่หาชมได้ยากอยู่หลายชนิด แล้วแวะชมความสวยงามของทุ่งหญ้าสะวันนากันต่อที่ "ทุ่งนางพญา" มีลักษณะเป็นป่าสนที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งในช่วงปลายฤดูฝนต่อถึงฤดูหนาว ภาพความสวยงามของแสงแดดที่พาดผ่านบริเวณต้นสน เหมาะแก่การนั่งรถชมวิวและนอนเต็นท์

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : พลาดไม่ได้กับการนอนกางเต็นท์ค้างคืนตรงบริเวณจุดกางเต็นท์ด้านหน้าทุ่งหญ้าสะวันนาริมป่าสน เดินถ่ายรูปเล่นชิล ๆ วันรุ่งขึ้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น "ทุ่งนางพญา" "สะพานแขวน" หรือ "แก่งวังน้ำเย็น" เป็นต้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โทรศัพท์ 055 268 019

ข้อแนะนำ : ช่วงหน้าฝน ความโรแมนติกของบรรยากาศและสถานที่ พร้อมทั้งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทำให้ทุ่งแสลงหลวงในช่วงนี้ เป็นป่าทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทยที่สวยที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถแวะจุดชมวิวริมระหว่างทาง เส้นทางระหว่างน้ำตกศรีดิษฐ์และทุ่งแสลงหลวง มีร้านกาแฟบรรยากาศดี ๆ และเป็นจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

12. พะเนินทุ่ง จังหวัดเพชรบุรี


ความน่าสนใจ : ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บริเวณโดยรอบเป็นป่าดิบเขา ทิวทัศน์สวยงาม ถ้ามองลงมาจากยอดเขา จะสามารถเห็นทะเลหมอกในช่วงฤดูฝนต่อฤดูหนาว โดยการเดินทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องเดินทางด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ และลัดเลาะไปตามเส้นทางที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติตลอดสองข้างทาง และถ้าโชคดีนักท่องเที่ยวอาจได้ยลโฉมสัตว์ป่าหลากหลายชนิดอีกด้วย

2 วัน 1 คืน ทำอะไรได้บ้าง : นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเพื่อพักค้างแรมที่เขาพะเนินทุ่ง โดยต้องติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อขอใบอนุญาตผ่านทาง นอนค้างที่พะเนินทุ่งสักคืน แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยไปเที่ยวชม "น้ำตกทอทิพย์" และ "น้ำตกธารทิพย์" ที่สวยงามอยู่บนยอดเขา หรือจะทำกิจกรรมการชมนกและชมผีเสื้อนานาชนิด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทรศัพท์ 032 772 311

ข้อแนะนำ : ในช่วงฤดูฝน การท่องเที่ยวและพักแรมบริเวณบ้านกร่าง-เขาพะเนินทุ่ง ไม่สะดวกอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวและก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติสูง จึงมีกำหนดปิดการท่องเที่ยวและพักแรม เฉพาะบริเวณบ้านกร่างและเขาพะเนินทุ่ง ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวและเปิดโอกาสให้ธรรมชาติได้มีโอกาสฟื้นตัว

         ทั้งหมดนี้เป็นเพียงทริปการเดินทางสำหรับที่เที่ยวหน้าฝนใกล้กรุงเทพฯ แบบ 2 วัน 1 คืน เอาใจนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนวันลาน้อย เพราะอย่างน้อยที่สุดหน้าฝนนี้คุณก็จะได้ไม่ต้องนอนเบื่ออยู่แต่ที่บ้าน ลองเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวช่วงหน้าฝนกับทริปที่เราเสนอไปดูนะคะ เรารับรองเลยว่าหน้าฝนจะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่คุณจะต้องชอบที่สุดอย่างแน่นอน ^ ^

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2560

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
park.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (Kaeng Krachan National Park), เฟซบุ๊ก นาวิกโยธิน, thai.tourismthailand.org, park.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก อบต.บางขุนไทร จ.เพชรบุรี, เฟซบุ๊ก ททท. สำนักงานนครนายก (นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว), เฟซบุ๊ก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก