bloggang.com mainmenu search


มะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharynx cancer) ภัยเงียบที่ควรระวัง เพราะเกิดขึ้นกับอวัยวะภายในยากแก่การมองเห็น แต่อย่างน้อยลองสำรวจอาการตัวเองในเบื้องต้นว่าเราเสี่ยงเป็นมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะคนที่คัดจมูกบ่อย มีน้ำมูกปนเลือด และคนชอบกินของหมักดอง 

          มะเร็งเป็นเนื้อร้ายที่ซอกซอนในร่างกายเราได้เกือบทุกอณู อย่างมะเร็งหลังโพรงจมูกที่เรากำลังจะเตือนกันวันนี้ ก็เป็นโรคมะเร็งชนิดที่ตรวจพบได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากเกิดในอวัยวะชั้นในของร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยไม่ค่อยรู้ตัวว่ากำลังเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกอยู่ และกว่าจะมาพบหมออาการมะเร็งก็ลุกลามขั้นลึก ๆ แล้ว ดังนั้นกระปุกดอทคอมจึงอยากให้คนที่ชอบกินของหมักดอง แหนม ปลาเค็ม ไส้กรอกอีสาน หรือบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง แล้วก็มีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกปนเลือด หรือเหมือนคนเป็นหวัดเรื้อรัง ลองมาเช็กอาการกันหน่อยค่ะ ว่าเราเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูกหรือเปล่า
มะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharynx cancer) เป็นมายังไง

โรคมะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharynx cancer) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเราด้วย โดยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกมักจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงประมาณ 2 เท่า ซึ่งผู้ป่วยส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มอายุ 2 ช่วงด้วยกัน คือ ช่วงอายุ 15-25 ปี และ 50-60 ปี

มะเร็งหลังโพรงจมูก

มะเร็งหลังโพรงจมูก สาเหตุคืออะไร

          สาเหตุของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกได้แก่

1. พันธุกรรม

          เนื่องจากโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกมีความชุกสูงเฉพาะในเขตภูมิศาสตร์ เช่น ประเทศจีนตอนใต้ และพื้นที่ที่มีชาวจีนอพยพไปอยู่ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน ทำให้มีการสันนิษฐานว่า พันธุกรรมอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกได้

2. อาหารการกิน

สารก่อมะเร็งไนโตรซามีน (Nitrosamine) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก โดยหากสูดดมสารนี้เข้าไปสัมผัสกับเยื่อบุหลังโพรงจมูก อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ DNA ของเซลล์เยื่อบุผิว จนเกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ได้ ซึ่งเราจะพบสารก่อมะเร็งชนิดนี้ปนเปื้อนอยู่ในอาหารหมักดอง เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม แหนม ไส้กรอกอีสาน หรือแม้แต่อาหารปิ้งย่างต่าง ๆ ก็มี

3. เชื้อไวรัส

          จากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกจะมีสารภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเอปสไตน์บาร์ (Epstein-Barr virus - EBV) ในปริมาณที่สูงกว่าประชากรทั่วไปที่มีสุขภาพดี จึงสันนิษฐานว่าเชื้อไวรัสตัวนี้เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกด้วย

4. สิ่งแวดล้อม

ปัจจัยทางแวดล้อม เช่น ฝุ่นละออง ควันไฟจากการเผาไม้หรือหญ้า สารเคมีต่าง ๆ รวมไปถึงควันจากมวนบุหรี่ อาจมีผลต่อการเกิดมะเร็งหลังโพรงจมูกได้เช่นกัน

5. สุขภาพช่องปากที่ไม่ดี และภาวะอักเสบเรื้อรังของโพรงจมูก

          สุขอนามัยทางช่องปากที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ควร รวมไปถึงการอักเสบเรื้อรังของโพรงที่อยู่หลังจมูก ก็เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกได้นะคะ

มะเร็งหลังโพรงจมูก

มะเร็งหลังโพรงจมูก อาการเป็นอย่างไร

          อาการแสดงของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่ม ดังนี้

1. อาการทางจมูก

          มีอาการระคายเคืองหลังโพรงจมูก มีน้ำมูกปนเลือด มีเลือดออกทางจมูกบ่อย ๆ แน่นจมูกหายใจไม่ค่อยสะดวก หรือคัดจมูกมีน้ำมูกไหลลงคอเรื้อรัง หรือเสียงเปลี่ยนไป ซึ่งอาการเหล่านี้อาจทำให้ผู้ป่วยหลายรายต้องเข้ารับการรักษาแบบเดียวกับโรคโพรงจมูกอักเสบ หรือไซนัสอักเสบเรื้อรังมาก่อน

2. อาการทางหู

          การได้ยินบกพร่อง มีเสียงดังในหู รู้สึกปวดหู หรือมีของเหลวไหลออกจากหู อันเนื่องมาจากการทำงานผิดปกติของท่อเชื่อมหูชั้นกลาง เพราะการลุกลามของมะเร็ง เป็นผลให้ความกดอากาศในหูชั้นกลางลดลง ก่อให้เกิดอาการหูอื้อ และอาการนี้จะมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

มะเร็งหลังโพรงจมูก

3. ก้อนที่คอ

          เป็นอาการที่สังเกตได้ค่อนข้างชัดของโรคนี้ โดยเฉพาะอาการของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกระยะที่ลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ ซึ่งจะตรวจพบก้อนที่คอเพียงก้อนเดียว หรือหลายก้อนแบบติดกัน ห่างกันก็ได้ ทว่าเคสที่พบบ่อยมักจะเจอก้อนที่คอเพียงก้อนเดียว มีลักษณะแข็ง ไม่เจ็บ และเคลื่อนไหวไป-มาได้

4. อาการทางระบบประสาท

          ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน ชาที่ใบหน้า เจ็บเสียวที่แก้มข้างเดียวกับตำแหน่งที่เป็นมะเร็ง และในรายที่อาการลุกลามมาก ผู้ป่วยอาจเป็นอัมพาตที่กล้ามเนื้อใบหน้า เวียนศีรษะ เสียงแหบ กลืนลำบาก หรือสำลักอาหาร รวมทั้งมีการรับกลิ่นและรสเปลี่ยนไปได้

5. อาการอื่น ๆ

          เช่น น้ำหนักลด เบื่ออาหาร มีไข้ต่ำ ๆ และอาจมีอาการอ้าปากไม่ขึ้น สำลักน้ำขึ้นจมูก เป็นต้น ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการลุกลามของเซลล์มะเร็งไปยังอวัยวะตำแหน่งอื่น

หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะคลำเจอก้อนที่คอ ร่วมกับรู้ตัวว่ามีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ก็ควรรีบเข้าไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและซักประวัติเพิ่มเติม ทั้งนี้ก็เพื่อการรักษาที่รวดเร็วในกรณีที่มีเซลล์มะเร็งซ่อนตัวอยู่นะคะ

มะเร็งหลังโพรงจมูก

มะเร็งหลังโพรงจมูก รักษาหายไหม

โรคมะเร็งหลังโพรงจมูกสามารถรักษาให้หายขาดได้ ในกรณีที่ตรวจพบรอยโรคในระยะเริ่มแรก นั่นหมายความว่า ยิ่งรู้ตัวว่าป่วยเร็วเท่าไร โอกาสในการรักษาโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกให้หายขาดก็ยิ่งมีความหวังมากเท่านั้น ซึ่งแนวทางการรักษาโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก มีดังนี้

1. การฉายรังสี

          เนื่องจากการบริเวณหลังโพรงจมูกเป็นตำแหน่งที่ยากต่อการผ่าตัด ดังนั้นการรักษาหลัก ๆ จึงเป็นการฉายรังสี โดยการฉายรังสีเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกระยะที่ 1 พบผลการรักษาที่น่าพอใจ เพราะช่วยควบคุมโรคเฉพาะที่ได้กว่า 90% นั่นหมายความว่ามีโอกาสตัดเซลล์มะเร็งทิ้งไปได้เกือบทั้งหมด

2. การฉายรังสีร่วมกับเคมีบำบัด

          สำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกในระยะที่ 2 ขึ้นไป แพทย์อาจต้องใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสีควบคู่กันเพื่อประสิทธิภาพการรักษาที่ดีขึ้น

3. การผ่าตัด

          ในกรณีที่สามารถควบคุมเซลล์มะเร็งหลังโพรงจมูกได้แล้ว แต่ยังคงมีก้อนที่คออยู่ หรือในเคสที่ผู้ป่วยมีมะเร็งเกิดซ้ำหรือหลงเหลือเซลล์มะเร็งในบริเวณที่จำกัด เคสแบบนี้จะสามารถใช้การผ่าตัดทำการรักษาได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยแต่ละบุคคล รวมไปถึงการวินิจฉัยจากแพทย์ด้วย

โดยส่วนมากแล้วผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์พร้อมอาการมะเร็งโพรงจมูกในระยะที่เริ่มลุกลาม ซึ่งเป็นระยะที่อาการของโรคจะปรากฏชัดเจนมากกว่าในระยะแรก ๆ แต่อย่างที่บอกไปค่ะว่า ไม่ว่าโรคใด ๆ ก็ตาม ตรวจพบได้ไวโอกาสในการรักษาให้หายก็ย่อมมากกว่า ดังนั้นหากมีความผิดปกติกับร่างกายขึ้นก็อย่าได้นิ่งนอนใจ รีบไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกันดีกว่า แล้วก็อย่าลืมหมั่นรักษาสุขภาพ กินอาหารมีประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอด้วยเนอะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
Create Date :30 พฤษภาคม 2560 Last Update :30 พฤษภาคม 2560 11:04:07 น. Counter : 2928 Pageviews. Comments :0